บทที่ 27 รางวัลรวมกว่าสิบล้านหินวิญญาณ ร้านขายเสื้อผ้าสตรี

เวลาล่วงเลยไปจนถึง 5 ทุ่ม หลังจากการไลฟ์สดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ชั่วโมง ในที่สุดหลิวหรวยหยานก็จบการไลฟ์สดลง

ทันทีที่เธอปิดไลฟ์สด หลินเย่ก็พาเหล่าศิษย์ของสำนักหญิงงามปรบมือให้เธอ

ในทันใดนั้น ห้องไลฟ์สดที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับหลิวหรวยหยานก็เต็มไปด้วยเสียงปรบมืออย่างอบอุ่น และหลิวหรวยหยานก็แสดงสีหน้าประจบประแจงออกมาหลังจากได้ยินเสียงปรบมือ

เสียงปรบมือดังต่อเนื่องนานนับนาทีก่อนจะค่อยๆ เงียบลง

"หรวยหยาน ขอบใจสำหรับความพยายามของเจ้า การไลฟ์สดของเจ้าประสบความสำเร็จอย่างมาก จากข้อมูลเบื้องหลัง มีผู้บ่มเพาะมากกว่า 400,000 คนที่รับชมการไลฟ์สดของเจ้าในคืนนี้ โดยมียอดผู้ชมสูงสุดถึง 150,000 คน"

"ยอดรวมของขวัญทั้งหมดคือหินวิญญาน 12 ล้านก้อน"

ว้าว...

เมื่อหลินเย่พูดตัวเลข 12 ล้านออกมา ไม่ว่าจะเป็นหลิวหรวยหยานเองหรือเหล่าศิษย์ของสำนักหญิงงามหลายร้อยคนที่อยู่ในที่นั้น ต่างก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา

ในฐานะศิษย์ของสำนักหญิงงาม เงินอุดหนุนรายเดือนของพวกเธอมีเพียง 600 ก้อนเท่านั้น ในอดีต พวกเธอไม่เคยแม้แต่จะคิดถึงตัวเลขอย่าง 12 ล้าน

และคำพูดต่อไปของหลินเย่ก็ทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมาก

"เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ ข้าตัดสินใจมอบหินวิญญาณทั้งหมด 12 ล้านก้อนนี้ให้กับหรวยหยานเป็นการส่วนตัว ในขณะเดียวกัน นับจากนี้ไป หรวยหยานจะกลายเป็นผู้บ่มเพาะฝึกหัดของสำนักหญิงงามอย่างเป็นทางการ"

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา หลิวหรวยหยานก็ตกตะลึง

แม้ว่าก่อนหน้านี้หลินเย่จะเคยบอกไว้แล้วว่าของขวัญทั้งหมดที่เธอได้รับระหว่างการไลฟ์สดจะเป็นของเธอ แต่เธอก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้รับของขวัญมากมายขนาดนี้

นี่ไม่ใช่หินวิญญาณ 1,200 ก้อน แต่มันคือหินวิญญาณ 12 ล้านก้อน รายได้ทั้งหมดของสำนักมารในหนึ่งเดือนก็ประมาณเท่านี้

แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือสถานะของนักบุญพรหมจรรย์

สำนักหญิงงามมีธรรมเนียมสืบทอดตำแหน่งเพียงสายเดียว ภายใต้ราชินีหยินคือนักบุญพรหมจรรย์ เมื่อราชินีหยินสละราชสมบัติ ผู้สืบทอดตำแหน่งจะต้องได้รับการคัดเลือกจากเหล่านักบุญ

นั่นหมายความว่า เธอ หลิวหรวยหยาน ได้เปลี่ยนจากศิษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่งกลายเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของสำนักหญิงงาม การเปลี่ยนแปลงสถานะอย่างกะทันหันนี้ทำให้สมองของเธอหยุดทำงานไปชั่วขณะ

เธอใช้เวลานานกว่าจะตั้งสติได้

ปัง!

หลิวหรวยหยานคุกเข่าลงต่อหน้าทุกคนที่อยู่ในที่นั้น

"ขอบพระคุณท่านเจ้าสำนัก ขอบพระคุณท่านเจ้าสำนัก"

"หรวยหยานไม่กล้ารับความดีความชอบนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียว การไลฟ์สดครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้ก็เพราะคำแนะนำของท่านเจ้าสำนัก"

"ดังนั้น หรวยหยานจึงขอให้มอบหินวิญญาณ 12 ล้านก้อนนี้ให้กับสำนัก"

เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวหรวยหยาน หลินเย่ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความชื่นชมออกมาในแววตา

"ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เพียงแต่มีรูปลักษณ์และไอคิวที่ดีเท่านั้น แต่เธอยังมีอีคิวที่สูงส่งมากอีกด้วย"

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลินเย่ก็ทำสีหน้าจริงจังทันที

"นี่เป็นสิ่งที่ข้ามอบให้กับเจ้า ไม่มีเหตุผลอะไรที่ข้าจะต้องเอากลับคืนมา หินวิญญาณเหล่านี้เป็นของเจ้า"

"ไม่ใช่แค่หรวยหยานเท่านั้น แต่ของขวัญที่พวกเจ้าจะได้รับระหว่างการไลฟ์สดในอนาคตก็เช่นกัน พวกเจ้าจะเป็นคนควบคุมมันทั้งหมด"

เมื่อหลินเย่พูดคำเหล่านี้ออกมาพร้อมกับโบกมือ เหล่าศิษย์ของสำนักหญิงงามที่อยู่ในที่นั้นต่างก็ดีใจกันยกใหญ่

พวกเธอบอกว่าไม่ได้อิจฉาตอนที่เห็นหลิวหรวยหยานได้รับของขวัญจากการไลฟ์สด แต่นั่นเป็นเรื่องโกหก ท้ายที่สุดแล้ว ในโลกแห่งเซียนแห่งนี้ หินวิญญาณคือทุกสิ่งทุกอย่าง

ตอนนี้พวกเธอได้ยินว่าพวกเธอสามารถรับของขวัญจากการไลฟ์สดได้เหมือนกับหลิวหรวยหยานในอนาคต และรายได้ทั้งหมดจากของขวัญจะเป็นของพวกเธอ พวกเธอจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร

"แต่ข้าขอพูดอะไรบางอย่างก่อน ไม่ว่าแฟนๆ ของพวกเจ้าจะมอบของขวัญให้พวกเจ้ามากแค่ไหน หรือแสดงความรู้สึกที่จริงใจต่อพวกเจ้ามากแค่ไหน พวกเจ้าก็ไม่สามารถไปพบพวกเขาเป็นการส่วนตัวได้ และยิ่งห้ามมีความรู้สึกที่แท้จริงต่อพวกเขา"

"นี่เป็นข้อห้ามสำหรับสตรีมเมอร์ มีเพียงการรักษาเส้นแบ่งนี้ไว้ พวกเจ้าถึงจะก้าวไปได้ไกลกว่านี้"

"นอกจากนี้ ข้ายังมีคาถาอยู่สองสามบทให้พวกเจ้าจำไว้ด้วย: อย่ารุก อย่าปฏิเสธ อย่าให้สัญญา และอย่ารับผิดชอบ"

ทันทีที่หลินเย่พูดจบ เหล่าสตรีที่อยู่ในที่นั้นต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย และในขณะเดียวกัน พวกเธอก็ครุ่นคิดถึงความหมายของคาถาเหล่านี้

ส่วนหลิวหรวยหยาน ผู้ที่เกิดมาพร้อมกับร่างศักดิ์สิทธิ์ หลังจากทวนซ้ำหลายครั้ง ใบหน้าของเธอก็แสดงออกถึงความเข้าใจ

หลังจากให้คำแนะนำกับเหล่าผู้บ่มเพาะหญิงที่อยู่ในที่นั้นแล้ว หลินเย่ก็มองไปที่ไป๋ชิงเซวียนที่ยืนอยู่ข้างๆ

ในขณะนั้น ไป๋ชิงเซวียนกำลังถือถ่านอยู่ในมือข้างหนึ่ง และถือสมุดบันทึกอยู่ในมืออีกข้างหนึ่ง เธอกำลังเขียนและวาดอะไรบางอย่างลงไป รูปลักษณ์ที่ดูเป็นผู้ใหญ่และชาญฉลาดของเธอบวกกับท่าทางจริงจังของเธอทำให้เธอดูมีเสน่ห์เป็นพิเศษ

หลังจากเหม่อลอยไปชั่วขณะ หลินเย่ก็เดินเข้าไปหาเธอ

เมื่อมองแวบแรก เขาก็พบว่าสิ่งที่ไป๋ชิงเซวียนวาดลงในสมุดบันทึกนั้นคือแบบร่างเสื้อผ้าสตรี ชุดเสื้อผ้าสตรีชุดนี้ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัย โชว์สัดส่วนของผู้หญิงอย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันก็ยังคงความสง่างามไว้

"น้องหญิง เจ้าเกิดมาเพื่อเป็นนักออกแบบแฟชั่นจริงๆ"

เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเย่ ไป๋ชิงเซวียนที่กำลังครุ่นคิดอย่างจริงจังก็ยิ้มออกมา

"คิคิ หลงเสน่ห์น้องหญิงแล้วหรือคะท่านพี่? ท่านพี่คิดว่าชุดที่ข้าออกแบบนี้ดูดีไหม"

"ดูดีทีเดียว แต่ข้าคิดว่าเราสามารถเพิ่มการออกแบบลูกไม้ที่คอเสื้อได้อีกหน่อย"

"ลูกไม้? ลูกไม้คืออะไรคะ?"

"แบบนี้"

ขณะที่เขาพูด หลินเย่ก็จับมือเล็กๆ อันนุ่มนวลของไป๋ชิงเซวียนและร่างแบบลงบนกระดาษด้วยถ่าน ไป๋ชิงเซวียนที่บ่มเพาะมาหลายพันปีถึงกับมึนงง

เธอไม่ได้สติจนกระทั่งหลินเย่วาดรูปเสร็จ

"โอเค แบบนี้แหละ การออกแบบนี้สามารถนำไปใช้กับเสื้อผ้าสตรีได้หลายแบบ ในอนาคตเจ้าลองทำดูอีกนะ"

หลังจากพูดจบ หลินเย่ก็หันไปพูดถึงเรื่องอื่น

"ข้าเพิ่งไปดูข้อมูลมา ผู้ชมในห้องไลฟ์สดไม่เพียงแต่มีผู้บ่มเพาะชายเท่านั้น แต่ยังมีผู้บ่มเพาะหญิงจำนวนมากด้วย ดังนั้นข้าคิดว่าเจ้าควรให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าสตรีด้วย กำลังซื้อของผู้บ่มเพาะหญิงอาจจะสูงกว่าผู้บ่มเพาะชาย"

เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเย่ ไป๋ชิงเซวียนที่ได้สติกลับมาก็พยักหน้าทันที

"เจ้าค่ะ ท่านพี่ ข้าจะจัดการให้!"

"เจ้าต้องจำไว้ว่า ทุกๆ ครั้งที่เราได้รับหินวิญญาณจากผู้บ่มเพาะฝ่ายธรรมะมากขึ้น ก็จะมีเครื่องรางของขลังน้อยลงหนึ่งชิ้นที่จะโจมตีเราเมื่อถึงเวลาต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม"

"เอาล่ะ วันนี้ดึกแล้ว ข้ากลับก่อนนะ เจ้าลองทบทวนการไลฟ์สดของหรวยหยานดูอีกครั้ง และเรียนรู้จากประสบการณ์ของเธอ"

หลังจากพูดจบ หลินเย่ก็หายตัวไปจากสำนักหญิงงาม ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของไป๋ชิงเซวียน

ทันทีที่เขาจากไป ไป๋ชิงเซวียนก็กลับมาทำสีหน้าเย็นชาและจริงจังอีกครั้ง

"ได้ยินที่ท่านเจ้าสำนักพูดไหม พวกเจ้าต้องเรียนรู้ที่จะสรุปทุกอย่าง เมื่อกลับไปแล้ว ให้ดูการไลฟ์สดของหรวยหยานซ้ำแล้วซ้ำเล่า"

"แล้วก็ หลัวลี่ เหยียนซี พวกเจ้า รีบไปทำเสื้อผ้าสตรีซะ"

"เจ้าค่ะ! ท่านราชินีหยิน!"

"คนอื่นๆ ก็ลองคิดดูว่าอยากจะสร้างบุคลิกแบบไหนให้กับตัวเอง และจะจัดห้องไลฟ์สดอย่างไร"

"ลงมือกันได้แล้ว!"

หลังจากคำสั่งของไป๋ชิงเซวียน สำนักหญิงงามที่ตกอยู่ในความมืดมิดก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ในขณะเดียวกัน หลินเย่ที่เพิ่งกลับมาถึงห้องก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เช่นกัน

การไลฟ์สดของหลิวหรวยหยานประสบความสำเร็จอย่างไม่ต้องสงสัย

ดังนั้นเขาจะใช้ความสำเร็จของหลิวหรวยหยานในการชักชวนให้ผู้คนเข้าร่วมการไลฟ์สดมากขึ้น

และทำให้ผู้บ่มเพาะจำนวนมากรู้ว่า ไม่ใช่แค่การฝึกฝนอย่างหนักเท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของพวกเขาได้

พวกเขายังสามารถเล่นติ๊กต๊อกและไลฟ์สดได้อีกด้วย

หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ออกมาและลงทะเบียนบัญชีใหม่

ชื่อบัญชีคือ ติ๊กต๊อกไป๋เซียวเซิง