ตอนที่แล้วตอนที่ 59 ปิดล้อมและสังหารงูเหลือมสองหัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 61 หากนี่ไม่เรียกว่าเทพพระเจ้า แล้วจะเรียกว่าอะไรได้อีก?

ตอนที่ 60 บังอาจขโมยปราณปีศาจของข้าไป เจ้าต้องตาย


ตอนที่ 60 บังอาจขโมยปราณปีศาจของข้าไป เจ้าต้องตาย

บูม บูม บูม!

งูเหลือมสองหัวถูกโจมตีด้วยวิธีต่างๆอย่างต่อเนื่อง จนเกล็ดของมันเปิดออก  และมีแผลทั่วทั้งตัว เห็นได้ชัดว่าการยั่วยุของมันใช้ไม่ได้ผล

ตอนแรกมันต้องการทำให้มนุษย์เหล่านี้โกรธ และล่อพวกเขาลงไปในแม่น้ำ จากนั้นก็ใช้ความได้เปรียบของมันกำจัดมนุษย์เหล่านี้ให้ตายลงไปทีละคน แต่มันก็ทำไม่สำเร็จ

เลือดจำนวนมากพุ่งออกมาจากลำตัวของงูเหลือมสองหัว จนแม่น้ำกลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว

ทุกครั้งที่มันพยายามสบัดหางยักษ์ของมันออกมา เซี่ยงซิงผู้ที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้กับมันมาแล้วก็จะดูออกและสั่งการทันที

ในเวลานี้ฝ่ายหลังก็จะขว้างหอกเหล็กที่แหลมคมและเคลือบไปด้วยยาพิษออกมาโจมตีงูเหลือมสองหัว โดยที่ไม่ปล่อยโอกาสให้มันได้โจมตีพวกเขา และอาวุธเหล่านี้เซียงซิงก็ได้สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อเอาไว้จัดการกับงูเหลือตัวนี้โดยเฉพาะ

หอกเหล็กอับยาพิษที่รุนแรงเหล่านี้บังคับให้งูเหลือมสองหัวต้องยกหางขนาดยักษ์ของมันขึ้นมาเพื่อป้องกันการโจมตี ซึ่งหลังจากการโจมตีอย่างต่อเนื่องของกองทัพหลินเจียง ร่างกายของงูเหลือมสองหัวก็เต็มไปด้วยรอยแผลจนเกล็ดบนตัวของมันหลุดออกไปมากกว่า30%

แต่ในด้านของมนุษย์ มีทหารหลินเจียงเพียงสามคนและสมาชิกของบริษัทรักษาความปลอดภัยอีกหกคนเท่านั้นที่ถูกสังหาร

งูเหลือมสองหัวกรีดร้องออกมาซ้ำแล้วซ้ำอีกภายใต้การโจมตีอันดุเดือด และดูเหมือนว่าตอนนี้มันแทบจะไม่เหลือพลังที่จะตอบโต้เลย

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็จะถือว่ามนุษย์ได้เปรียบโดยสมบูรณ์

เซี่ยงซิงและหลี่เตี่ยมู่ต่างก็มีสายตาที่เย็นชา

พวกเขาต้องการล้างแค้นแทนเพื่อนร่วมทีมที่เสียชีวิตลงไป!

บนก้อนเมฆ....

ฉู่เสวียนกำลังนั่งหาวด้วยความเบื่อหน่าย

เพราะจนถึงขณะนี้งูเหลือมสองหัวยังไม่ได้แสดงคุณสมบัติพิเศษอะไรที่ทำให้เขายอมรับมันได้ ออกมาเลย

มีเพียงความเจ้าเล่ห์ของมันที่กระตุ้นความสนใจในตัวเขาเล็กน้อย

ทว่าในตอนนั้นฉู่เสวียนก็ได้รู้สึกถึงพลังที่คุ้นเคยแผ่ออกจากงูเหลือมสองหัวตัวนี้

“นี่คือปราณปีศาจ?” ฉู่เสวียนรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที

ครู่ต่อมา งูเหลือมสองหัวก็เงยหน้าขึ้นและพ่นก๊าซสีม่วงดำออกมาจากปากของมัน

ก๊าซที่แผ่ออกมานั้นเย็นและชั่วร้าย มีเสียงร้องโหยหวนของวิญญาณดังออกมา

หากตั้งใจฟังดีๆ จิตวิญญาณของผู้ฟังก็จะถูกแช่แข็ง!

ฝูงชนรู้สึกได้ถึงสถานการณ์ที่เป็นลางไม่ดีโดยสัญชาตญาณ  และแยกย้ายกันออกไปราวกับมดแตกรัง

แต่บางคนที่หนีไม่ทัน ก็ถูกก๊าซสีดำห่อหุ้มร่างก่อนที่จะเกิดปฏิกิริยา

เมื่อก๊าซนั้นกระจายเข้าไปตามร่างกาย สีหน้าของมนุษย์คนนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นดุร้าย  อุณหภูมิในร่างกายต่ำลงทันที แม้แต่ผู้เหนือธรรมชาติขั้นที่ 1 ก็สามารถป้องกันก๊าซสีม่วงดำนั้นได้เพียงไม่กี่วินาที ก่อนที่ร่างของพวกเขาจะกลายเป็นเหมือนซอมบี้ที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

เมื่อหวังกังเจี้ยนเห็นฉากนี้ คิ้วของเขาก็เลิกขึ้นอย่างดุเดือด

เขาจำก๊าซนี้ได้

มันเป็นก๊าซแบบเดียวกับกลุ่มหมอกที่เขาเห็นในบริเวณใกล้กับโรงแรมห่าวไท่ที่ดึงดูดคลื่นซ้อมบี้เข้าไปในนั้น!

"วิ่ง! วิ่ง!"

หวังกังเจี้ยนไม่คิดมาก เขารีบคว้าหวังหยงที่อยู่ข้างๆมาแล้ววิ่งหนีออกไป

ในวันนั้น ซอมบี้นับหมื่นตัวและสิ่งมีชีวิตพิเศษจำนวนมากได้พุ่งเข้ามาในพื้นที่หมอก

ซึ่งไม่ว่าจะเป็นซอมบี้หรือว่าสิ่งมีชีวิตพิเศษ ต่างก็เสียชีวิตลงไปทั้งหมด!

เมื่อเทียบกับซอมบี้พวกนั้นแล้ว มนุษย์อย่างพวกเขายังไม่สามารถเทียบได้ ! แล้วจะไปต่อต้านก๊าซนี้ได้อย่างไร!

ถังจินชวนและซ่งต้ายี่ก็ไม่รู้ว่าทำไม  แต่พวกเขายังคงวิ่งตามทั้งสองไปอย่างใกล้ชิด

ในด้านของเซียงซิงและหลี่เตี่ยมู่ก็ถูกก๊าซสีดำนั้นห่อหุ้มร่างกายของพวกเขาแล้วในเวลานี้

แต่ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาเป็นผู้อยู่เหนือธรรมชาติขั้นที่ 2 ที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้มาเป็นเวลานาน

นอกจากนี้ วิญญาณชั่วร้ายที่พ่นออกมาจากปากของงูเหลือมสองหัวก็เจือจางลงไปบ้างแล้ว

หากเปรียบเทียบกับปราณปีศาจในค่ายกลยึดวิญญาณปีศาจหยินแล้ว พลังของก๊าซนี้มีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

แต่ถึงอย่างนั้นเซียงซิงและหลี่เตี่ยมู่ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

พวกเขารู้สึกราวกับว่าฝูงสัตว์ประหลาดกำลังวิ่งเข้ามาในหัวของพวกเขา สัตว์ประหลาดเหล่านี้ทำงานอย่างหนักเพื่อแยกวิญญาณและร่างกายของมนุษย์ออกจากกัน

ส่งผลให้พวกเขาไม่มีความสามารถในการต้านทานเลย และทำได้เพียงรอให้ร่างกายถูกฉีกเป็นชิ้นๆ

ทว่าความรู้สึกนี้ก็หายวับไป ในขณะนี้ เสียงที่ฟังดูสงบก็ดังขึ้นบนท้องฟ้า “เจ้าสมควรตายเพราะขโมยปราณปีศาจของข้าไป”

เสียงนี้เปรียบเสมือนเสียงศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์

ทันใดนั้น เสียงร้องโหยหวนของภูตผีปีศาจที่ดังออกมาจากก๊าซสีดำอันน่าสะพรึงกลัวก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง

เมื่อเซียงซิงและหลี่เตี่ยมู่รู้สึกตัว พวกเขาก็พบว่าร่างกายของพวกเขาแข็งทื่อไปแล้ว  อวัยวะหลายส่วนบนร่างกายของเขากลายเป็นสีซีด หากว่ายังถูกกลื่นกินอยู่แบบนี้ต่อไป ร่างกายของพวกเขาก็จะตาย!

พวกเขาทั้งหมดมองขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกัน  ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็เหยียบดาบบินแล้วมองลงไปที่ผู้คนด้านล่าง  เสื้อผ้าของร่างนั้นกระพือไปตามลมและมองลงมาด้วยดวงตาที่ไม่แยแส

มันเหมือนกับผู้ฝึกฝนอมตะสูงสุดของลัทธิเต๋าในตำนาน  ที่ปราศจากอารมณ์และไม่มีความปรารถนาใด ๆ อีกต่อไป

เมื่อหวังกังเจี้ยน, หวังหยงและคนอื่น ๆที่กำลังวิ่งหนีออกไปได้ยินเสียงนี้ พวกเขาก็หยุดกะทันหันและมองไปบนท้องฟ้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เขาปรากฏตัวแล้ว!

ผู้ฝึกฝนอมตะลึกลับคนนั้น เขาปรากฏตัวแล้ว!

ถังจินชวนดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

ในบรรดาผู้คนทั้งหมดเขาเป็นหนึ่งในคนที่ได้เห็นฉู่เสวียนด้วยตาของเขาเอง

เขาพบว่าเขาได้กลายเป็นผู้ชื่นชมฉู่เสวียนโดยไม่รู้ตัว

ผู้ฝึกฝนลึกลับคนนี้มักจะปรากฏตัวขึ้นมาในช่วงเวลาวิกฤติเสมอ!

งูเหลือมสองหัวก็จ้องไปที่ฉู่เสวียนด้วย

ดวงตาทั้งสี่ดวงของงูเหลือมเต็มไปด้วยความกระหายเลือด ความโหดร้าย ความหวาดกลัว และความโกรธ

มันสามารถมองออกได้อย่างรวดเร็วว่าฉู่เสวียนคนนี้ไม่ธรรมดา

นับตั้งแต่ที่มันได้รับพลังวิญญาณและกลายเป็นสิ่งมีชีวิตพิเศษ มันก็ไม่เคยเห็นมนุษย์ที่สามารถบินได้แบบนี้มาก่อน

คนนี้คือคนแรก!

ยิ่งไปกว่านั้น ปราณปีศาจที่มันพ่นออกมาและถือว่าเป็นไพ่ตายของมันนั้น  มนุษย์คนนี้กลับสามารถจัดการได้ในทันที

คำตอบจึงมีเพียงประโยคเดียว!

นั่นก็คืองูเหลือมสองหัวกลัวฉู่เสวียนมากกว่าศัตรูที่มันเคยพบมาก่อน

ฉู่เสวียนเองก็มองไปที่งูเหลือมสองหัวด้วยสีหน้าหมองคล้ำ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่างูเหลือมสองหัวพ้นปราณปีศาจออกมาได้จริงๆ

คงจะเป็นตอนที่มันเข้าไปในค่ายกลการยึดวิญญาณหยิน และเผลอดูดซับปราณปีศาจเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

ดังนั้นจะต้องมีอะไรพิเศษเกี่ยวกับร่างกายของมัน  ไม่เช่นนั้นมันคงตายในค่ายกลของเขาไปนานแล้ว และคงจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะกักเก็บปราณปีศาจไว้ได้ และยังใช้เป็นไพ่ตายในการโจมตีศัตรูอีก

"ฟ่อ!"งูเหลือมสองหัวตกใจจนมันส่งเสียขู่ออกมา

ฉู่เสวียนรู้ได้ทันทีว่ามันส่งเสียงขู่ออกมาเพราะความกลัว

เกล็ดทั่วร่างกายของมันตั้งตรง ในตอนนั้นหัวทั้งสองของมันก็ได้พุ่งไปที่ฉู่เสวียนทันที!

“เสี่ยวหู่ เสี่ยวเป้า  ข้าฝากพวกเจ้าจัดการก็แล้วกัน” ฉู่เสวียนยื่นมือซ้ายขึ้นมาเปิดหอเลี้ยงศพแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจมากนัก

“โฮ่ โฮ!” ในตอนนั้นร่างกำยำที่สูงเกือบสามเมตรก็ได้ปรากฏตัวออกมาจากที่ไหนสักแห่ง หมัดของทั้งคู่กระแทกไปที่หัวของงู

แม้ว่าร่างนี้จะสูงใหญ่ แต่ก็มีขนาดใหญ่กว่าคนธรรมดาไม่มาก ดังนั้นในสายตาของหวังกังเจี้ยนและคนอื่น ๆ แล้ว ร่างนั้นสู้ของงูเหลือมสองหัวไม่ได้เลย

ในสายตาของพวกเขาแล้วมันยังดูอ่อนแอไม่ต่างจากลูกแกะ

ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจของทุกคน: การชกหมัดเล็กๆใส่สัตว์ประหลาดยักษ์เช่นนี้ ก็ไม่ต่างกับรนหาที่ตายเลย ไม่ต่างไปจากตั๊กแตนตำข้าวที่ใช้แขนเป็นราชรถหรือหนอนเขย่าต้นไม้!

ในตอนที่สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ฉากนั้น ไม่นานก็ได้ยินเสียงดังปังขึ้นมาทันที

หัวของงูเหลือมที่ถูกหมัดกระแทกเข้ามาได้ระเบิดออก  ลูกตา ฟัน เกล็ด เลือดเนื้อ กระดูก...ได้ปลิวว่อนไปทั่ว

พลังของหมัดนี้สามารถเทียบเท่าได้กับขีปนาวุธลูกหนึ่งเลยก็ว่าได้

มันสามารถทะลุทะลวงทุกสิ่งที่ขวางหน้าได้

ส่งผลให้ผู้คนที่เฝ้าดูความสนุกอยู่ข้างล่างถูกชิ้นส่วนอวัยวะของงูที่ระเบิกออกปลิวไปแทงอวัยวะต่างๆตามร่างกาย  บางคนก็แขนขาขาดวิ่น  บางคนก็ถูกเศษกระดูกเจาะคอ หัวใจ หลอดเลือดแดง และส่วนอื่นๆ จนตายลงไป

ดวงตาของทุกคนเบิกกว้าง แม้แต่เซียงซิงและหลี่เตี่ยมู่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่างูเหลือมสองหัวตัวยักษ์ที่มีพลังมหาศาลนี้จะตายลงด้วยหมัดเพียงหมัดเดียว!

นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้อยู่เหนือธรรมชาติเช่นพวกเขาจะสามารถทำได้

แม้แต่เย่หนานเทียนก็ทำไม่ได้เช่นกัน!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด