ตอนที่ 58 : รอยมือเปื้อนเลือด
.
รูม่านตาพนักงานต้อนรับพลันหดตัว!
.
ตอนที่มีดสั้นของเฉินหลิงกำลังจะเชือดคอเขา แสงสีเทาก็แวบขึ้นมา ฝ่ามือของเฉินหลิงก็ว่างเปล่า
ลมจากฝ่ามือของเฉินหลิงขูดไปที่คอของพนักงานต้อนรับ ทำให้ฝ่ายหลังเหงื่อแตก เขาถอยหลังไปครึ่งก้าวแล้วแทงสวนเฉินหลิงกลับด้วยมีดสั้น!
เฉินหลิงมือเปล่าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหลบ ในช่องว่างสั้นๆ พนักงานต้อนรับแยกตัวออกจากเขา และแทบจะยืนไม่มั่นคงบนหลังคารถไฟ
"ความเร็วขนาดนี้...เป็นไปได้ไง?" พนักงานต้อนรับมองดูเฉินหลิงด้วยความประหลาดใจ "นายมีเส้นทางเทพเจ้างั้นเหรอ?"
ดูเหมือนเขาจะคิดอะไรบางอย่างได้ใบหน้าของเขาค่อยๆ เปลี่ยนไปทีละนิด
"ไม่ถูก นายไม่ใช่ผู้คุมกฎใหม่ธรรมดาๆ...นายเป็นใคร ผู้นับถือลัทธิเทวโลกสีชาด หรือสมาชิกของสมาคมสนธยา?"
เมื่อเห็นว่าตัวตนของตนเองถูกเปิดเผย เฉินหลิงจึงหยุดเสแสร้งอีกต่อไป เขาต้องกำจัดชายคนนี้โดยเร็วที่สุด...อีกฝ่ายรู้มากเกินไป
หากไม่มีอาวุธ เฉินหลิงก็ยังสามารถต่อสู้มือเปล่าด้วยความเร็วของตัวเองได้ ทักษะการฆ่าที่เขาเรียนรู้จากหานเหมิงไม่ใช่เรื่องตลก
เฉินหลิงเปลี่ยนจังหวะเข้าหาพนักงานต้อนรับด้วยความเร็วที่รวดเร็วเป็นอย่างมาก ฝ่ายหลังซึ่งประสบความสูญเสียครั้งหนึ่ง ดูเหมือนจะยิ่งระมัดระวังขึ้นเล็กน้อยเมื่อเข้าใกล้เฉินหลิง เขาใช้ปืนพกกับมีดสั้นเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างเขากับเฉินหลิง
ขณะที่เฉินหลิงค่อยๆ เดินเข้ามา พนักงานต้อนรับทำได้เพียงถอยออก และในไม่ช้าพวกเขาทั้งสองก็มาถึงจุดสิ้นสุดของส่วนท้ายขบวนรถไฟ แทบจะไม่มีทางให้ถอยได้อีก
เสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้มปลิวพลิ้วไหวบนรถไฟ ไอน้ำที่ผสมกับลมและหิมะค่อยๆ จมลงไปบนร่างคนทั้งสอง
ในเวลาเดียวกัน เส้นทางของรถไฟกำลังใกล้เข้าสู่อุโมงค์แคบๆ ด้วยความเร็วสูง!
ขนาดของอุโมงค์นี้แคบมาก ความสูงไม่ถึงศีรษะพวกเขา ซึ่งความสูงไม่มากกว่ารถไฟเท่าไร คนทั้งสองที่ต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อเห็นกำแพงกำลังจะพุ่งชนพวกเขาด้วยความเร็วสูงจากหางตา พวกเขาต่างตกใจ!
ขณะที่พวกเขากำลังจะชนอุโมงค์ เฉินหลิงเอื้อมมือไปจับคางของตนเองแล้วฉีกมันอย่างแรง!
ใบหน้าหนึ่งปลิวหายไปในอากาศ
.
วี๊ว—!
.
รถไฟแล่นผ่านอุโมงค์เหมือนกระสุนปืนใหญ่ เสียงบีบคั้นทำให้เกิดเสียงคำรามต่ำๆ
แสงและเงาที่สับสนแวบผ่าน สิบวินาทีต่อมา แสงก็ปกคลุมหลังคารถอีกครั้ง พนักงานต้อนรับปีนขึ้นมาด้วยความยากลำบาก...
"เวรเอ๊ย! เกือบโดนชนแล้ว"
ตอนใกล้จะชนอุโมงค์เขาก็ใช้ทักษะ "ขโมย" ตะกอนดินทรายในตู้รถไฟทำให้ผ้าใบด้านล่างทรุดตัวกะทันหันเขาจึงหลบหนีไปได้และซ่อนตัวอยู่ในนั้น
เมื่อเห็นเสือชีตาห์เปื้อนเลือดตัวหนึ่งใกล้เข้ามาเขาก็อดลุกขึ้นยืนไม่ได้ มันคลานออกมาสองสามก้าว ดวงตาสีแดงสดคู่นั้นกำลังจ้องมองมาที่เขา
เสือชีตาห์?
ทันทีที่เขาเห็นสิ่งนี้ ม่านตาของเขาพลันหดตัว
เขาไม่มีเวลามาตอบว่าทำไมเสือชีตาห์ตัวหนึ่งถึงโผล่ออกมาจากอากาศบนรถไฟได้ เขารีบยกปืนขึ้นแล้วยิงออกไป ทันใดนั้นภาพติดตาสีแดงแวบผ่านบนหลังคารถไฟราวกับสายฟ้า!
กรงเล็บอันแหลมคมกรีดที่ข้อมือเขาขาด ปืนในมือหล่นแล้วกลิ้งลงบนขบวนรถไฟ
หลังจากนั้น เสือชีตาห์ก็ฉีกทึ้งคอกับใบหน้าของเขาอย่างบ้าคลั่ง เสียงกรีดร้องดังก้องไปในสายลมและหิมะ ไม่นานก็ถูกเสียงรถไฟกลบอย่างรวดเร็ว
.
ฉึกชัก--ปู๊นนน-ฉึกชัก...
.
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดเสือชีตาห์ก็หยุดการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ...มันลุกขึ้นยืนและเปลี่ยนเป็นเงาของมนุษย์
เขายกมือขึ้นค่อยๆ เช็ดเลือดสีแดงสดออกจากแก้มเบาๆ หลังจากเช็ดเลือดเสร็จ เฉินหลิงนิ่งสงบอารมณ์พยายามกดความบ้าคลั่งบนใบหน้าตนเอง
เลือดหยดลงมาจากมุมปากของเขา เขาหยิบหิมะจำนวนหนึ่งขึ้นมาจากหลังคารถไฟแล้วยัดมันเข้าไปในปาก บ้วนปากสักพักแล้วคายออกมา
"ทักษะนี้...มีประโยชน์อย่างน่าเหลือเชื่อ" เขาพึมพำกับตนเอง
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ด้วยทักษะเส้นทางเทพเจ้า แม้ว่าเขาจะชนะในท้ายที่สุด แต่ความสามารถแปลกๆ ของคู่ต่อสู้ยังคงสร้างความประทับใจให้กับเขาอย่างลึกซึ้ง...อย่างไรก็ตาม เขาเดาว่าชายที่เผชิญหน้ากับเขามากที่สุดก็เป็นเพียงระดับสองเท่านั้น
ทักษะระดับแรกคือการขโมยสิ่งของ และทักษะระดับสองคือการขโมยใบหน้า...แต่พูดอย่างจริงจัง ทักษะทั้งสองนี้ก็ไม่ได้น่ารังเกียจ
โจรก็คือโจร ในแง่ของประสิทธิภาพการต่อสู้ตัวต่อตัว พวกเขายังด้อยกว่า "ทหาร"
เฉินหลิงมองไปยังศพซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เฉินหลิงก็ก้มลงถอดเสื้อผ้าของเขาออกทั้งหมด และเตะศพเปลือยเปล่าไปด้านล่างของรถไฟ ในไม่ช้าร่างนั้นก็ถูกล้อเหล็กบดจนแหลกเป็นชิ้นๆ
หลังจากนั้นเขาก็ม้วนเสื้อผ้าของพนักงานต้อนรับ แล้วโยนมันลงหน้าผาใกล้ๆ และมันก็หายไป
"ขอโทษด้วย รากฐานของวิถีทหาร...ไม่สามารถมอบให้พวกนายได้"
เป้าหมายของผู้ช่วงชิงเปลวไฟคือคลังโบราณวิถีทหาร แม้ว่าเขาจะอยู่แค่ระดับแรกและเหลือแค่ตัวคนเดียวเท่านั้น แต่เฉินหลิงไม่มีความคิดที่จะยอมแพ้...เขาวางแผนจะลองเสี่ยงสักครั้ง
ผู้ช่วงชิงเปลวไฟคือศัตรู แต่ตราบใดที่เขาใช้มันได้ดี พวกนั้นอาจกลายเป็นอาวุธของเขาก็ได้
เฉินหลิงเหลือบมองห้องโดยสาร แผนการหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ ความบ้าคลั่งกลับมาปรากฏในดวงตาของเขาอีกครั้ง!
ตอนนี้เฉินหลิงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเส้นทางเทพเจ้าที่บิดเบี้ยวของเขากำลังกระโดดโลดเต้นด้วยความปีติยินดี หน้าอกอันว่างเปล่ากำลังเต้นรัว ทุกเซลล์ภายในร่างกายล้วนกำลังเฝ้ารอให้เขาเต้นระบำท่ามกลางความเป็นความตาย
เขารู้ว่านี่คือเส้นทางเทพเจ้าที่บิดเบี้ยว มันเปลี่ยนนิสัยของเขา...
แต่ความรู้สึกนี้ก็ไม่เลวจริงๆ!
.
.
[ค่าความคาดหวังของผู้ชม +12]
.
[ค่าความคาดหวังปัจจุบัน: 61]
.
......
.
.
"พวกนายว่า หมายเลข 13 กับหมายเลข 8 ใครจะกลับมาก่อนกัน?"
.
ในห้องโดยสาร จงเหยากวงและเพื่อนร่วมงานอีกคนนั่งอยู่ด้านข้าง เขาพูดขึ้นขณะกินเมล็ดแตงโม
"น่าจะเป็นหมายเลข 13 ยังไงซะ ผู้คุมกฎที่นำทีมเขตสามเขาวิ่งหนีได้เร็วมาก"
"ฉันคิดว่าฉันได้ยินเสียงปืนเมื่อกี้ตรงท้ายรถไฟ น่าจะมีคนถูกจัดการแล้ว..." .
"ฉันรู้สึกว่าน่าจะเป็นหมายเลข 8 เพราะยังไงหมายเลข 8 ก็อยู่ในระดับสาม ถ้าเขามีทักษะนั้นการฆ่าคนก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา"
"นั่นก็สมเหตุสมผลดี..."
"ทุกคนกำลังพูดคุยกัน คนคนหนึ่งในเสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้มโรยตัวลงมาช้าๆ ข้างประตูรถไฟ เขาก้าวเข้ามาพร้อมกับหิมะกระจายเต็มตัว
"คาดไม่ถึงว่าจะเป็นหมายเลข13 ที่กลับมาก่อน" จงเหยากวงพูดด้วยรอยยิ้ม "ทำไมนายถึงใช้เวลานานขนาดนั้น?"
"เด็กคนนี้แกล้งทำเป็นหนีไปแล้ว แต่จริงๆ เขาซ่อนตัวอยู่บนหลังคารถไฟ ทำให้ฉันวิ่งหาเขาไปทั่ว เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว" เฉินหลิงด่าสาปแช่งขณะเดินไปนั่งที่ที่นั่งของตนเองอย่างจงใจ
"ฉลาดมาก..."
"ฉันเห็นว่า เขาเป็นคนแรกที่ค้นพบเรา" ผู้คุมกฎอีกคนตอบ
"นี่ กินเมล็ดแตงโมสักหน่อยสิ"
เฉินหลิงหยิบเมล็ดแตงโมขึ้นมาสองเมล็ด สายตามองเข้าไปในขบวนรถไฟขณะกิน
"คนอื่นยังจับตัวมาไม่ได้อีกเหรอ?" เขาถามอย่างสบายๆ
เจียงฉินวิ่งหนีไปพร้อมเขา ถ้าเขาเลือกเส้นทางที่ถูกต้องก็ยังมีความหวังที่จะหลบหนีได้...
เฉินหลิงไม่สนใจว่าคนอื่นจะตายไหม แต่เขาหวังว่าเจียงฉินจะรอดมาได้
เฉินหลิงมองดูเสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้มหนาๆ บนตัวของเขาแล้วรู้สึกกังวลเล็กน้อย
"ไม่อะ ฉันไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไง"
"...ช่างเถอะ ฉันจะไปดูเอง" แสงวิบวับแวบขึ้นมาในดวงตาของเฉินหลิง แล้วเขาก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูรถไฟ
"ไม่จำเป็น"
ในขณะนี้ มีร่างหนึ่งเดินเข้าไปในรถไฟ อีกฝ่ายค่อยๆ เดินมาทางเขา...
ทันทีที่เห็นคนคนนั้น ม่านตาของเฉินหลิงก็หดตัวลงเล็กน้อย
เขาเห็น "เจียงฉิน" ซึ่งเต็มไปด้วยเลือด กำลังลากศพเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฉินหลิง...ศพในมือของเขาคือเจียงฉินอีกคนหนึ่ง
"เจียงฉิน" ยกฝ่ามือที่เปื้อนเลือดแล้วตบลงบนไหล่เฉินหลิง
"ทุกคนขโมยได้สำเร็จ ทำได้ดีมาก"
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็เดินผ่านเฉินหลิงไป
เฉินหลิงตกตะลึงเป็นเวลานาน เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อย
บนเสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้มของเขามีรอยมือเปื้อนเลือดสีแดงสด ซึ่งทำให้คนตกใจ
.
.
.
ขอเปลี่ยนชื่อจากลัทธิเจียงเทียน เป็นลัทธิเทวโลกสีชาด^^