ตอนที่แล้วตอนที่ 57 : วิถีจอมโจร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 59 : ปราชญ์จอมโจร

ตอนที่ 58 : รอยมือเปื้อนเลือด


.

รูม่านตาพนักงานต้อนรับพลันหดตัว!

.

ตอนที่มีดสั้นของเฉินหลิงกำลังจะเชือดคอเขา แสงสีเทาก็แวบขึ้นมา ฝ่ามือของเฉินหลิงก็ว่างเปล่า

ลมจากฝ่ามือของเฉินหลิงขูดไปที่คอของพนักงานต้อนรับ ทำให้ฝ่ายหลังเหงื่อแตก เขาถอยหลังไปครึ่งก้าวแล้วแทงสวนเฉินหลิงกลับด้วยมีดสั้น!

เฉินหลิงมือเปล่าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหลบ ในช่องว่างสั้นๆ พนักงานต้อนรับแยกตัวออกจากเขา และแทบจะยืนไม่มั่นคงบนหลังคารถไฟ

"ความเร็วขนาดนี้...เป็นไปได้ไง?" พนักงานต้อนรับมองดูเฉินหลิงด้วยความประหลาดใจ "นายมีเส้นทางเทพเจ้างั้นเหรอ?"

ดูเหมือนเขาจะคิดอะไรบางอย่างได้ใบหน้าของเขาค่อยๆ เปลี่ยนไปทีละนิด

"ไม่ถูก นายไม่ใช่ผู้คุมกฎใหม่ธรรมดาๆ...นายเป็นใคร ผู้นับถือลัทธิเทวโลกสีชาด หรือสมาชิกของสมาคมสนธยา?"

เมื่อเห็นว่าตัวตนของตนเองถูกเปิดเผย เฉินหลิงจึงหยุดเสแสร้งอีกต่อไป เขาต้องกำจัดชายคนนี้โดยเร็วที่สุด...อีกฝ่ายรู้มากเกินไป

หากไม่มีอาวุธ เฉินหลิงก็ยังสามารถต่อสู้มือเปล่าด้วยความเร็วของตัวเองได้ ทักษะการฆ่าที่เขาเรียนรู้จากหานเหมิงไม่ใช่เรื่องตลก

เฉินหลิงเปลี่ยนจังหวะเข้าหาพนักงานต้อนรับด้วยความเร็วที่รวดเร็วเป็นอย่างมาก ฝ่ายหลังซึ่งประสบความสูญเสียครั้งหนึ่ง ดูเหมือนจะยิ่งระมัดระวังขึ้นเล็กน้อยเมื่อเข้าใกล้เฉินหลิง เขาใช้ปืนพกกับมีดสั้นเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างเขากับเฉินหลิง

ขณะที่เฉินหลิงค่อยๆ เดินเข้ามา พนักงานต้อนรับทำได้เพียงถอยออก และในไม่ช้าพวกเขาทั้งสองก็มาถึงจุดสิ้นสุดของส่วนท้ายขบวนรถไฟ แทบจะไม่มีทางให้ถอยได้อีก

เสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้มปลิวพลิ้วไหวบนรถไฟ ไอน้ำที่ผสมกับลมและหิมะค่อยๆ จมลงไปบนร่างคนทั้งสอง

ในเวลาเดียวกัน เส้นทางของรถไฟกำลังใกล้เข้าสู่อุโมงค์แคบๆ ด้วยความเร็วสูง!

ขนาดของอุโมงค์นี้แคบมาก ความสูงไม่ถึงศีรษะพวกเขา ซึ่งความสูงไม่มากกว่ารถไฟเท่าไร คนทั้งสองที่ต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อเห็นกำแพงกำลังจะพุ่งชนพวกเขาด้วยความเร็วสูงจากหางตา พวกเขาต่างตกใจ!

ขณะที่พวกเขากำลังจะชนอุโมงค์ เฉินหลิงเอื้อมมือไปจับคางของตนเองแล้วฉีกมันอย่างแรง!

ใบหน้าหนึ่งปลิวหายไปในอากาศ

.

วี๊ว—!

.

รถไฟแล่นผ่านอุโมงค์เหมือนกระสุนปืนใหญ่ เสียงบีบคั้นทำให้เกิดเสียงคำรามต่ำๆ

แสงและเงาที่สับสนแวบผ่าน สิบวินาทีต่อมา แสงก็ปกคลุมหลังคารถอีกครั้ง พนักงานต้อนรับปีนขึ้นมาด้วยความยากลำบาก...

"เวรเอ๊ย! เกือบโดนชนแล้ว"

ตอนใกล้จะชนอุโมงค์เขาก็ใช้ทักษะ "ขโมย" ตะกอนดินทรายในตู้รถไฟทำให้ผ้าใบด้านล่างทรุดตัวกะทันหันเขาจึงหลบหนีไปได้และซ่อนตัวอยู่ในนั้น

เมื่อเห็นเสือชีตาห์เปื้อนเลือดตัวหนึ่งใกล้เข้ามาเขาก็อดลุกขึ้นยืนไม่ได้ มันคลานออกมาสองสามก้าว ดวงตาสีแดงสดคู่นั้นกำลังจ้องมองมาที่เขา

เสือชีตาห์?

ทันทีที่เขาเห็นสิ่งนี้ ม่านตาของเขาพลันหดตัว

เขาไม่มีเวลามาตอบว่าทำไมเสือชีตาห์ตัวหนึ่งถึงโผล่ออกมาจากอากาศบนรถไฟได้ เขารีบยกปืนขึ้นแล้วยิงออกไป ทันใดนั้นภาพติดตาสีแดงแวบผ่านบนหลังคารถไฟราวกับสายฟ้า!

กรงเล็บอันแหลมคมกรีดที่ข้อมือเขาขาด ปืนในมือหล่นแล้วกลิ้งลงบนขบวนรถไฟ

หลังจากนั้น เสือชีตาห์ก็ฉีกทึ้งคอกับใบหน้าของเขาอย่างบ้าคลั่ง เสียงกรีดร้องดังก้องไปในสายลมและหิมะ ไม่นานก็ถูกเสียงรถไฟกลบอย่างรวดเร็ว

.

ฉึกชัก--ปู๊นนน-ฉึกชัก...

.

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดเสือชีตาห์ก็หยุดการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ...มันลุกขึ้นยืนและเปลี่ยนเป็นเงาของมนุษย์

เขายกมือขึ้นค่อยๆ เช็ดเลือดสีแดงสดออกจากแก้มเบาๆ หลังจากเช็ดเลือดเสร็จ เฉินหลิงนิ่งสงบอารมณ์พยายามกดความบ้าคลั่งบนใบหน้าตนเอง

เลือดหยดลงมาจากมุมปากของเขา เขาหยิบหิมะจำนวนหนึ่งขึ้นมาจากหลังคารถไฟแล้วยัดมันเข้าไปในปาก บ้วนปากสักพักแล้วคายออกมา

"ทักษะนี้...มีประโยชน์อย่างน่าเหลือเชื่อ" เขาพึมพำกับตนเอง

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ด้วยทักษะเส้นทางเทพเจ้า แม้ว่าเขาจะชนะในท้ายที่สุด แต่ความสามารถแปลกๆ ของคู่ต่อสู้ยังคงสร้างความประทับใจให้กับเขาอย่างลึกซึ้ง...อย่างไรก็ตาม เขาเดาว่าชายที่เผชิญหน้ากับเขามากที่สุดก็เป็นเพียงระดับสองเท่านั้น

ทักษะระดับแรกคือการขโมยสิ่งของ และทักษะระดับสองคือการขโมยใบหน้า...แต่พูดอย่างจริงจัง ทักษะทั้งสองนี้ก็ไม่ได้น่ารังเกียจ

โจรก็คือโจร ในแง่ของประสิทธิภาพการต่อสู้ตัวต่อตัว พวกเขายังด้อยกว่า "ทหาร"

เฉินหลิงมองไปยังศพซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เฉินหลิงก็ก้มลงถอดเสื้อผ้าของเขาออกทั้งหมด และเตะศพเปลือยเปล่าไปด้านล่างของรถไฟ ในไม่ช้าร่างนั้นก็ถูกล้อเหล็กบดจนแหลกเป็นชิ้นๆ

หลังจากนั้นเขาก็ม้วนเสื้อผ้าของพนักงานต้อนรับ แล้วโยนมันลงหน้าผาใกล้ๆ และมันก็หายไป

"ขอโทษด้วย รากฐานของวิถีทหาร...ไม่สามารถมอบให้พวกนายได้"

เป้าหมายของผู้ช่วงชิงเปลวไฟคือคลังโบราณวิถีทหาร แม้ว่าเขาจะอยู่แค่ระดับแรกและเหลือแค่ตัวคนเดียวเท่านั้น แต่เฉินหลิงไม่มีความคิดที่จะยอมแพ้...เขาวางแผนจะลองเสี่ยงสักครั้ง

ผู้ช่วงชิงเปลวไฟคือศัตรู แต่ตราบใดที่เขาใช้มันได้ดี พวกนั้นอาจกลายเป็นอาวุธของเขาก็ได้

เฉินหลิงเหลือบมองห้องโดยสาร แผนการหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ  ความบ้าคลั่งกลับมาปรากฏในดวงตาของเขาอีกครั้ง!

ตอนนี้เฉินหลิงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเส้นทางเทพเจ้าที่บิดเบี้ยวของเขากำลังกระโดดโลดเต้นด้วยความปีติยินดี หน้าอกอันว่างเปล่ากำลังเต้นรัว ทุกเซลล์ภายในร่างกายล้วนกำลังเฝ้ารอให้เขาเต้นระบำท่ามกลางความเป็นความตาย

เขารู้ว่านี่คือเส้นทางเทพเจ้าที่บิดเบี้ยว มันเปลี่ยนนิสัยของเขา...

แต่ความรู้สึกนี้ก็ไม่เลวจริงๆ!

.

.

[ค่าความคาดหวังของผู้ชม +12]

.

[ค่าความคาดหวังปัจจุบัน: 61]

.

......

.

.

"พวกนายว่า หมายเลข 13 กับหมายเลข 8 ใครจะกลับมาก่อนกัน?"

.

ในห้องโดยสาร จงเหยากวงและเพื่อนร่วมงานอีกคนนั่งอยู่ด้านข้าง เขาพูดขึ้นขณะกินเมล็ดแตงโม

"น่าจะเป็นหมายเลข 13 ยังไงซะ ผู้คุมกฎที่นำทีมเขตสามเขาวิ่งหนีได้เร็วมาก"

"ฉันคิดว่าฉันได้ยินเสียงปืนเมื่อกี้ตรงท้ายรถไฟ น่าจะมีคนถูกจัดการแล้ว..." .

"ฉันรู้สึกว่าน่าจะเป็นหมายเลข 8 เพราะยังไงหมายเลข 8 ก็อยู่ในระดับสาม ถ้าเขามีทักษะนั้นการฆ่าคนก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา"

"นั่นก็สมเหตุสมผลดี..."

"ทุกคนกำลังพูดคุยกัน คนคนหนึ่งในเสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้มโรยตัวลงมาช้าๆ ข้างประตูรถไฟ เขาก้าวเข้ามาพร้อมกับหิมะกระจายเต็มตัว

"คาดไม่ถึงว่าจะเป็นหมายเลข13 ที่กลับมาก่อน" จงเหยากวงพูดด้วยรอยยิ้ม "ทำไมนายถึงใช้เวลานานขนาดนั้น?"

"เด็กคนนี้แกล้งทำเป็นหนีไปแล้ว แต่จริงๆ เขาซ่อนตัวอยู่บนหลังคารถไฟ ทำให้ฉันวิ่งหาเขาไปทั่ว เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว" เฉินหลิงด่าสาปแช่งขณะเดินไปนั่งที่ที่นั่งของตนเองอย่างจงใจ

"ฉลาดมาก..."

"ฉันเห็นว่า เขาเป็นคนแรกที่ค้นพบเรา" ผู้คุมกฎอีกคนตอบ

"นี่ กินเมล็ดแตงโมสักหน่อยสิ"

เฉินหลิงหยิบเมล็ดแตงโมขึ้นมาสองเมล็ด สายตามองเข้าไปในขบวนรถไฟขณะกิน

"คนอื่นยังจับตัวมาไม่ได้อีกเหรอ?" เขาถามอย่างสบายๆ

เจียงฉินวิ่งหนีไปพร้อมเขา ถ้าเขาเลือกเส้นทางที่ถูกต้องก็ยังมีความหวังที่จะหลบหนีได้...

เฉินหลิงไม่สนใจว่าคนอื่นจะตายไหม แต่เขาหวังว่าเจียงฉินจะรอดมาได้

เฉินหลิงมองดูเสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้มหนาๆ บนตัวของเขาแล้วรู้สึกกังวลเล็กน้อย

"ไม่อะ ฉันไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไง"

"...ช่างเถอะ ฉันจะไปดูเอง" แสงวิบวับแวบขึ้นมาในดวงตาของเฉินหลิง แล้วเขาก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูรถไฟ

"ไม่จำเป็น"

ในขณะนี้ มีร่างหนึ่งเดินเข้าไปในรถไฟ อีกฝ่ายค่อยๆ เดินมาทางเขา...

ทันทีที่เห็นคนคนนั้น ม่านตาของเฉินหลิงก็หดตัวลงเล็กน้อย

เขาเห็น "เจียงฉิน" ซึ่งเต็มไปด้วยเลือด กำลังลากศพเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฉินหลิง...ศพในมือของเขาคือเจียงฉินอีกคนหนึ่ง

"เจียงฉิน" ยกฝ่ามือที่เปื้อนเลือดแล้วตบลงบนไหล่เฉินหลิง

"ทุกคนขโมยได้สำเร็จ ทำได้ดีมาก"

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็เดินผ่านเฉินหลิงไป

เฉินหลิงตกตะลึงเป็นเวลานาน เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อย

บนเสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้มของเขามีรอยมือเปื้อนเลือดสีแดงสด ซึ่งทำให้คนตกใจ

.

.

.

ขอเปลี่ยนชื่อจากลัทธิเจียงเทียน เป็นลัทธิเทวโลกสีชาด^^

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด