บทที่ 47 ความสงบนิ่งของ "ผู้เชี่ยวชาญ"
บทที่ 47 ความสงบนิ่งของ "ผู้เชี่ยวชาญ"
เมื่อได้ยินเสียงของหลี่จิ้ง ชายวัยกลางคนสีหน้าบึ้งตึง
"ยังมีอีกไหม?"
"นี่มัน..."
"ดูถูกฉันเหรอ!?"
"คิดว่าฉันไม่มีฝีมืออะไรงั้นรึ?"
ความโกรธพลุ่งพล่านในใจเขา
แต่ในตอนนี้ เขาไม่กล้าเคลื่อนไหวอย่างประมาท
สำคัญที่สุดคือ ตอนนี้เขาไม่แน่ใจว่าหลี่จิ้งอยู่ในระดับไหนกันแน่
ชายวัยกลางคนจ้องมองชุดแผนกผู้ช่วยตรวจการใหม่เอี่ยมของหลี่จิ้ง แล้วประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็ว
ปล่อยปราณวิญญาณออกมาได้เป็นร้อยๆ ครั้งในคราวเดียว และความเข้มข้นของพลังยังทำให้เขารู้สึกถึงภัยคุกคาม แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ระดับสองขั้นต้น!
เมื่อมองดูสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวังของหลี่จิ้ง ราวกับว่าอยากให้เขาแสดงฝีมืออะไรบางอย่างเพื่อให้ตัวเองสนุก ชายวัยกลางคนก็ตัดสินใจทันที
ชายหนุ่มตรงหน้านี้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่แฝงตัวอยู่ในแผนกผู้ช่วยตรวจการ!
ว่าจะเก่งแค่ไหน ยังบอกไม่ได้
ดูจากท่าทางสงบนิ่งของเขา อย่างน้อยก็ต้องมีฝีมือระดับสี่
เช่นนี้จึงอธิบายได้
เพียงแค่ผู้ช่วยตรวจการธรรมดา แต่มีสาวสวยระดับสองของสำนักตรวจการคอยอยู่เคียงข้าง ยังไม่นับรวมว่ามีปีศาจร่างมนุษย์ที่ว่านอนสอนง่ายเป็นเพื่อน เรื่องนี้มันไม่สมเหตุสมผลเลย!
คนธรรมดาจะมีบุญวาสนาขนาดนี้ได้อย่างไร?
ยิ่งคิด ชายวัยกลางคนก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ประมาทเสียแล้ว! ดีที่ตอนนี้รู้ตัวทัน ยังไม่สายเกินไป!
เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วถอยหลังครึ่งก้าว
"คราวนี้ ฉันเซี่ยกว่างคุนมองพลาดไป ไม่คิดว่าในแผนกผู้ช่วยตรวจการจะมีผู้เชี่ยวชาญอย่างแก"
?
หลี่จิ้ง
เขากำลังหวังว่าเซี่ยกว่างคุนจะเรียกปีศาจหนูมาอีกกลุ่ม แต่อีกฝ่ายกลับพูดแบบนี้ออกมา ทำให้เขางุนงงอย่างมาก
"วันนี้ฉันพลาดท่า แต่ถ้าแกคิดจะจับฉัน คงไม่ง่ายอย่างที่คิด"
เซี่ยกว่างคุนพูดต่อไปโดยไม่สนใจคนอื่น
"การเหาะในระบบระบายน้ำใต้ดินมีข้อจำกัด คาถาพลังทำลายล้างสูงก็ไม่สามารถใช้งานได้ ถึงแกจะอยู่ในระดับสี่ ก็ไม่อาจแสดงพลังได้เต็มที่"
ขณะพูด เขาก็ระมัดระวังยกดาบยาวขวางไว้หน้าอก
"ฉันขอเตือนแกว่าอย่ามากดดันนัก หากจนตรอก อย่างมากฉันก็จุดระเบิดแก๊ส ลากพวกแกไปตายด้วยกัน บางทีด้วยพลังระดับที่สี่ของแกอาจไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่สาวน้อยจากสำนักตรวจการและปีศาจแมวตัวนั้นที่อยู่ข้างหลังแก อาจไม่รอด"
"..."
หลี่จิ้ง
แม้จะงุนงง แต่ฟังเซี่ยกว่างคุนพูดมามากมาย เขาก็รู้ตัวแล้วว่าอีกฝ่ายคงเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง
เขาสลายพลังวิญญาณที่เหลืออยู่ข้างหลัง แล้วเอามือไพล่หลัง ทำท่าทางเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างกลมกลืน
"ฉันให้เวลาแกสิบวินาที รีบไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้"
"นับว่าแกรู้จักประมาณตน!"
เซี่ยกว่างคุนยิ้มเยาะ
แม้ปากจะไม่ยอมอ่อนข้อ แต่เท้ากลับไม่ลังเลแม้แต่น้อย
เห็นเพียงเท้าของเขาขยับ ร่างกายก็กลายเป็นสายลมดำมืดหายวับไป
หลี่จิ้งเห็นดังนั้นก็หันหลังกลับ ไม่ได้ไล่ตามไป
สำคัญที่สุดคือ ถ้าไล่ตามทัน เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรได้
หากจะเกาะติดไปเรื่อยๆ อาจจะทำให้เซี่ยกว่างคุนหมดหนทางแล้วโต้กลับ
เรื่องนี้ เล่นไม่ได้
เฉินอวี่หรานเห็นเซี่ยกว่างคุนหนีไปอย่างอเนจอนาถ สีหน้าก็บอกไม่ถูกว่าแปลกประหลาดเพียงใด
เมื่อครู่นี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นวิกฤตใหญ่
หากพลาดพลั้งนิดเดียว ทั้งคนทั้งแมวก็ต้องพลอยเสียไปด้วย
ไม่คิดว่าหลี่จิ้งจะทำให้เซี่ยกว่างคุนตกใจได้ ถึงขั้นทำให้เขาตกใจจนหนีไป
พูดตามตรง เธอไม่ได้หวังว่าหลี่จิ้งจะทำอะไรเซี่ยกว่างคุนได้
หลี่จิ้งก็แค่อยู่ในระดับสองเท่านั้น
เขาจะมีความสามารถอะไร ก็ไม่อาจข้ามช่องว่างของระดับพลังที่ใหญ่โตได้
เมื่อเผชิญหน้ากับเซี่ยกว่างคุน หลี่จิ้งอาจจะประวิงเวลาได้ แต่โอกาสชนะนั้นต่ำมาก
แต่พูดอีกอย่าง
หลี่จิ้งปล่อยพลังวิญญาณออกมาเป็นร้อยๆ ครั้งในคราวเดียว ก็น่าตกใจมากพอแล้ว
ไม่เพียงแต่เซี่ยกว่างคุนจะตกใจ แม้แต่เธอเองก็ตกใจเช่นกัน
สำหรับเรื่องนี้ เฉินอวี่หรานก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรแปลก
พลังวิญญาณของหลี่จิ้งสามารถทำให้ไต้หงสนใจได้ แน่นอนว่าต้องมีจุดพิเศษ เธอคาดการณ์ไว้แล้ว
เพียงแต่เธอไม่คิดว่า เขาจะสามารถทำได้ถึงขั้นนี้
นึกถึงเมื่อคืนที่เธอยังพูดกับหลี่จิ้งว่า ทางของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ให้เขาอย่าไปเลียนแบบไต้หง เฉินอวี่หรานก็รู้สึกว่าถูกตบหน้า
ทางของไต้หง หลี่จิ้งอาจไม่เหมาะสมจริงๆ...
เฉินอวี่หรานส่ายหน้า แล้วเก็บหินกั้นอาณาเขตกลับ
เซี่ยกว่างคุนถูกขู่จนหนีไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาใช้มันอีก
เธอเดินไปหาหลี่จิ้งที่ "ชนะศึก" กลับมา แล้วเอ่ยปาก
"จี้ซิ่วหมิ่นยังมีพรรคพวกอื่นอีก ฉันต้องติดต่อกับหัวหน้าไต้เพื่อชี้แจงสถานการณ์"
"เรื่องอื่นๆ ค่อยว่ากัน แต่เซี่ยกว่างคุนเราต้องจัดการเอง"
หลี่จิ้งตอบ
"เขารู้แล้วว่าจีชิงเป็นปีศาจร่างมนุษย์ไม่กลัวเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่กลัวเรื่องที่ไม่คาดคิด พอความลับแตกออกมาจะยุ่งยากแน่นอน”
"อืม"
เฉินอวี่หรานรับคำ แล้วลอยตัวไปที่ทางเข้าอุโมงค์ที่เซี่ยกว่างคุนหนีไป ยืนเฝ้าอยู่ที่ทางเข้าแล้วกดหูฟังสื่อสาร
หลี่จิ้งเห็นดังนั้นก็หันกลับไปมองจีชิง
"กลิ่นของเซี่ยกว่างคุน เธอจำได้แล้วใช่ไหม?"
"จำได้แล้ว"
จีชิงตอบอย่างว่าง่าย
"เขาเพิ่งจะจากไป กลิ่นที่ทิ้งไว้ตามทางยังชัดเจนมาก พวกเราสามารถตามหาเขาได้ง่ายๆ"
ขณะพูด เธอก็ค่อยๆ มองดูหลี่จิ้งอย่างระมัดระวัง
เรื่องพลังวิญญาณอะไรนั่น เธอไม่ได้สนใจ
สิ่งที่เธอสนใจคือ...
บางคนเมื่อเห็นปีศาจหนูปรากฏตัว ก็เปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคนทันที
ความตื่นเต้นนั้น
ความปรารถนานั้น
ไม่เหมือนกับหลี่จิ้งที่ปกติดูสบายๆ ไม่ใส่ใจอะไรเลย!
ตั้งแต่คืนแรกที่พบกัน จีชิงก็มีความสงสัย ตอนนี้เธอแน่ใจแล้ว
หลี่จิ้งที่ดูเหมือนจะเคารพชีวิตของปีศาจ แท้จริงแล้วเป็นนักฆ่าปีศาจที่ฆ่าโดยไม่กะพริบตา!
สิ่งที่ทำให้จีชิงรู้สึกโล่งใจก็คือ
ในชีวิตประจำวัน นอกจากบางครั้งที่สายตาของหลี่จิ้งที่มองเธอจะดูแปลกๆ ไปบ้าง เขาก็ดีกับเธอมาก อยากกินอะไรก็ทำให้ อยู่ว่างๆ ก็มักจะชวนเธอเล่นเกม “ROV” ด้วยกันบ่อยๆ
ถึงหลี่จิ้งจะเกลียดปีศาจเพียงใด ก็คงไม่ถึงขั้นทำร้ายเธอ
เห็นจีชิงคอยแอบมองตัวเองขณะที่กำลังทำลายกับดัก ท่าทางของแมวทั้งตัวดูขลาดกลัว หลี่จิ้งก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย
ความระแวดระวังที่ควรมี เขาก็มีอยู่แล้ว
ปัญหาคือเขาไม่รู้ว่าในหัวของจีชิงคิดอย่างไรกับเขากันแน่
อย่างน้อยในความคิดของเขา
หลังจากอยู่ด้วยกันมาเกือบสัปดาห์ ความสัมพันธ์ของเขากับจีชิงก็สนิทสนมกันพอสมควรแล้ว ไม่เหมือนตอนที่เพิ่งรู้จักกันเลย
หลี่จิ้งมองดูจีชิงอย่างงุนงง แต่ไม่ได้รบกวนการทำลายกับดักของเธอ เขาเรียกหน้าต่างสถานะขึ้นมา
เจ้าของ: หลี่จิ้ง
แต้มประสบการณ์: 709/1843
ระดับ: 13
แต้มทักษะ: 6
พลังวิญญาณ: 182
อุปกรณ์: ดาบเหล็กมาตรฐาน (ธรรมดาระดับ 4 50%)
ทักษะติดตัว: ห้วงฉับพลัน, ชุดวิญญาณคุ้มกาย (5/5), หลีกนภา (5/5)
ทักษะใช้งาน: ฝ่ามือสายฟ้า (5/5), จู่โจมวิญญาณ (5/5)
หลี่จิ้งมองดูข้อมูลสถานะ แล้วรู้สึกถึงพลังวิญญาณภายในร่างกายอย่างเงียบๆ
ทุกครั้งที่ขึ้นระดับ ความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตามระดับที่สูงขึ้น
ยิ่งระดับสูง อัตราการเพิ่มขึ้นก็ยิ่งมาก
ตอนนี้ความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณของเขาแตกต่างจากเดิมมาก ขึ้นไปถึง 182 แล้ว
ถ้าเทียบกับตอนที่อยู่ระดับ 5 แล้ว แทบจะเรียกได้ว่าคนละเรื่องกันเลย
เนื่องจากความแข็งแกร่งของพลังวิญญาณเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพในการบ่มเพาะอุปกรณ์ในช่องเก็บของก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นด้วย
หลี่จิ้งไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวเองอยู่ในระดับสองขั้นกลางหรือขั้นปลายกันแน่
เรื่องนี้ พูดตามตรงแล้วค่อนข้างน่ารำคาญ
จะก้าวเข้าสู่ระดับสามได้อย่างไร ก็พอจะเดาได้
เขาได้เรียนรู้ทักษะห้วงฉับพลันที่สามารถเติบโตได้ด้วยตัวเอง
เมื่อใดที่ห้วงฉับพลันขยายตัว ก็หมายความว่าเขาก้าวเข้าสู่ระดับสามได้สำเร็จแล้ว
แต่ถ้าจะรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในระดับย่อยไหน เขาต้องหาเครื่องวัดพลังวิญญาณมาทดสอบ
......
ไม่นานนัก เฉินอวี่หรานก็เดินกลับมา
"ฉันได้รายงานสถานการณ์ให้หัวหน้าไต้ทราบแล้ว เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน เขาได้นำคนอื่นๆ ขึ้นไปบนพื้นดินแล้ว ส่วนใต้ดินตอนนี้ให้พวกเราสองคนดูแล รอให้หยางหย่งอันถูกส่งตัวไปที่ศาลและตัดสินโทษ เขาจะนำกำลังเสริมลง
มาค้นหาทั่วทั้งระบบระบายน้ำ"
พูดจบ เธอก็ถอนหายใจยาว
"แต่ตามความเห็นของฉัน จี้ซิ่วหมิ่นและพรรคพวกของเธออาจจะไม่โผล่หน้ามาอีกแล้ว แผนการของพวกเขาละเอียดรอบคอบมาก ขาดไปหนึ่งขั้นตอนก็ลดโอกาสสำเร็จไปหนึ่งส่วน กับดักระเบิดที่นี่ถือเป็นขั้นตอนสำคัญ การที่กับดัก
ไม่ถูกกระตุ้นส่งผลกระทบอย่างมาก"
หลี่จิ้งพยักหน้าเงียบๆ แสดงความเห็นด้วย
เมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้ โอกาสที่จี้ซิ่วหมิ่นและพรรคพวกจะลงมือก็น้อยลงจริงๆ
พวกนี้เจ้าเล่ห์มาก
เมื่อเซี่ยกว่างคุนทำงานไม่สำเร็จ พวกเขาคงไม่ลงมือแล้ว
อันที่จริงตอนนี้ พวกเขาอาจจะอยู่บนเส้นทางหนีออกจากเมืองเจียงไห่แล้วก็ได้
"ข่าวเรื่องความลับแตกได้ถูกเซี่ยกวงคุนส่งไปถึงพวกพ้องก่อนแล้ว พวกเขาคงไม่กล้าอยู่ที่เจียงไห่นานนัก"
ไม่คิดอะไรมาก หลี่จิ้งหันไปมองจีชิง
"รีบหน่อย ช้าไปอีกก้าว เซี่ยกว่างคุนอาจจะหนีไปกับผู้ฝึกตนนอกรีตคนอื่นๆ แล้ว"
"สักครู่ ขออีกสองนาที"
จีชิงจดจ่ออยู่จิตใจอย่างเต็ม ควบคุมพลังปีศาจของตัวเองทำลายสัญลักษณ์คาถาในกับดัก
......