บทที่ 20 ตัวตนที่แท้จริงของจ้าวแห่งหมอกมัว
บทที่ 20 ตัวตนที่แท้จริงของจ้าวแห่งหมอกมัว
เย่เหรินเลือกที่จะเปิดมัน
[ติ้ง กำลังเปิดกล่องสมบัติหลากสีพิเศษ]
[ติ้ง ยินดีด้วยกับโฮสต์ที่ได้รับโทเค็นพรรค คุณต้องการผูกมัดมันหรือไม่?]
โทเค็นพรรคงั้นเหรอ? เย่เหรินรู้สึกสับสน
ระบบให้คำตอบทันที
[โทเค็นพรรค: ไอเทมกฎสำหรับการก่อตั้งพรรค]
[ผู้ที่ใช้โทเค็นจะเป็นผู้นำพรรค และสามารถรับศิษย์สายตรงเข้าสู่พรรคได้]
[พิธีไหว้ครู: เมื่อเข้าร่วมพรรค ผู้นำพรรคสามารถสุ่มคัดลอกพรสวรรค์ ทักษะ อาวุธ ฯลฯ ของศิษย์สายตรงได้]
[แรงบันดาลใจ: ผู้นำพรรคสามารถปรับปรุงคุณลักษณะรอบด้านของศิษย์ทั้งหมดได้ชั่วคราว อัตราการปรับปรุงคุณลักษณะในปัจจุบันคือ 100% จำกัดเวลา 10 นาที (3/3)]
[โบนัสติดตัวของพรรคในปัจจุบัน: 1. เพิ่มความเร็วในการฝึกฝน 10% 2. เพิ่มพลังโจมตี 10% 3. ความเสียหายจากการโจมตีร่วมกันของศิษย์พรรคเพิ่มขึ้น 10%]
นี่มันโกงกันชัดๆ
นั่นหมายความว่าเขาจะสามารถสุ่มได้รับคุณสมบัติจากศิษย์สายตรงทั้งหมดของเขา
ในขณะเดียวกันเขาก็สามารถมอบบัฟให้กับศิษย์ของเขาทุกคนได้สามครั้งต่อวัน มันจะทำให้พลังต่อสู้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า...
ไม่เพียงเท่านั้น สมาชิกพรรคทุกคนยังสามารถได้รับโบนัสความเร็วในการฝึกฝน พลังโจมตี และความเสียหายจากการโจมตีแบบร่วมกัน
ดูเหมือนว่ายิ่งระดับของพรรคสูงขึ้น โบนัสที่ได้รับก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น...
เย่เหรินไม่รอช้า
เขาเลือกที่จะสร้างพรรคทันที
[ติ้ง ตรวจพบว่าโฮสต์กำลังสร้างพรรค กรุณาตั้งชื่อพรรค]
เย่เหรินครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง สุดท้ายแล้วคำสองคำก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
สรวงสวรรค์
[ติ้ง ยินดีด้วยกับโฮสต์ สร้างพรรคสรวงสวรรค์สำเร็จ กรุณารับศิษย์เข้าสู่พรรคโดยเร็ว]
เย่เหรินดึงหวังดาชุนและเจียงเสี่ยวหรูเข้าสู่พรรคของเขาทันที
[ยินดีด้วยกับโฮสต์ที่รับศิษย์สำเร็จ: หวังดาชุน กำลังทำการสุ่มคัดลอก...]
[ยินดีด้วยกับโฮสต์ คัดลอกพรสวรรค์สำเร็จ: พละกำลังยักษ์ โบนัสพละกำลังของโฮสต์เพิ่มขึ้น 30%]
เย่เหรินรู้สึกว่ากล้ามเนื้อของเขาแข็งแกร่งขึ้น พละกำลังของเขาดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมาก
เย่เหรินเห็นผลลัพธ์ที่ได้จากหวังดาชุน เขาเบะปากออกมา
สมกับเป็นนายจริงๆ หวังดาชุน
พรสวรรค์ที่สกัดออกมาได้ ถือว่าดีกว่าไม่ได้อะไรเลย...
[ยินดีด้วยกับโฮสต์ที่รับศิษย์สำเร็จ: เจียงเสี่ยวหรู กำลังทำการสุ่มคัดลอก...]
[ยินดีด้วยกับโฮสต์ คัดลอกอาวุธสำเร็จ: คทาแห่งชีวิตและจุดจบ (ไอเทมเฉพาะ) ผลผลิตจากการผสานกันของกฎแห่งชีวิตและความตาย เป็นอาวุธสังหารของผู้เมตตา]
[คทาแห่งชีวิตและจุดจบ: ผู้ใช้สามารถสลับเอฟเฟกต์โจมตีและการรักษาได้ตามต้องการ และผลของมันจะเพิ่มขึ้น 300%]
[ทักษะที่มี: ของขวัญจากเทพีแห่งชีวิต: รักษาชีวิตใดๆ (1/1) สายตาแห่งเทพีแห่งความตาย: สาปแช่งชีวิตใดๆ (1/1) ผลของมันจะลดลงตามความแข็งแกร่งของผู้ใช้และเป้าหมายของคาถา]
เยี่ยมไปเลย
เมื่อเห็นคำอธิบายของคทาแห่งชีวิตและความตาย ดวงตาของเย่เหรินก็เป็นประกาย ครั้งนี้เขาได้ของดีมาจริงๆ!!
ไม่ต้องพูดถึงโบนัสสามเท่า เพียงแค่ทักษะสองอย่างนี้ก็โกงมากพอแล้ว
ชุบชีวิตได้ สาปแช่งเป้าหมายได้
นี่มันไม่ต่างอะไรกับการโกง...
การพาเจียงเสี่ยวหรูมาสืบทอดมรดกในครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าจริงๆ!!!
ในขณะที่เย่เหรินกำลังศึกษารางวัลจากระบบ
จ้าวแห่งหมอกมัวก็พูดขึ้น
“เย่เหริน พวกเรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อย”
คราวนี้จ้าวแห่งหมอกมัวไม่ได้เรียกเย่เหรินห้วนๆ แต่เธอกลับเลือกที่จะคุยกับเขาเหมือนกับเป็นการปรึกษาหารือ
หากเป็นคนอื่นๆ พวกเขาก็คงจะดีใจมาก
แต่เย่เหรินยังคงดูสงบนิ่ง เขาไม่ได้แสดงท่าทางที่อ่อนน้อมหรือหยิ่งผยองออกมา
“ท่านผู้อาวุโส เชิญพูดได้เลยครับ”
จ้าวแห่งหมอกมัวพูดต่อ “อย่างแรก ฉันอยากจะขอบคุณนาย ที่พาผู้สืบทอดที่สมบูรณ์แบบมาให้โรงเตี๊ยมอิสระ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายก็คือเพื่อนของโรงเตี๊ยมอิสระ นายสามารถใช้โทเค็นนี้ไปยังสาขาอื่นของพวกเราได้ตลอดเวลา และจะสามารถขอความช่วยเหลือก็ย่อมได้”
หมอกสีเทาพวยพุ่งขึ้นมา
ทันใดนั้นก็มีโทเค็นปรากฏขึ้นในมือของเย่เหริน โทเค็นนั้นมีออร่าลึกลับเหมือนกับจ้าวแห่งหมอกมัว
“ผมเองก็ชื่นชอบโรงเตี๊ยมอิสระมาก ถ้าหากท่านต้องการความช่วยเหลืออะไร ก็เรียกผมได้เลย” เย่เหรินตอบกลับจ้าวแห่งหมอกมัว
เขาแสดงความขอบคุณให้กับโรงเตี๊ยมอิสระ
เย่เหรินวางตัวเสมอกับโรงเตี๊ยมอิสระ
มันไม่ได้ดูเหมือนกับการสนทนาระหว่างปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำกับคนธรรมดาทั่วๆไป แต่มันดูเหมือนกับว่าสองมหาอำนาจกำลังสร้างความสัมพันธ์ทางการทูต
จ้าวแห่งหมอกมัวมองไปที่เย่เหริน เธอนิ่งเงียบไปนาน
ถึงแม้เย่เหรินจะดูหยิ่งผยอง แต่เธอกลับไม่รู้สึกว่ามันแปลกอะไร
ความรู้สึกแปลกๆ นี้ ทำให้จ้าวแห่งหมอกมัวรู้สึกซับซ้อน
“พูดตามตรง ฉันมองนายไม่ออกเลย...” จ้าวแห่งหมอกมัวพูดความในใจออกมา “แต่ไม่เป็นไร โรงเตี๊ยมอิสระแตกต่างจากพวกตระกูลที่ชอบทำตัวเป็นคนดี พวกเราไม่เคยสอดรู้สอดเห็นเรื่องส่วนตัวของเพื่อนหรอก”
จ้าวแห่งหมอกมัวหยุดพูดชั่วครู่ เธอก็พูดต่อ “ส่วนเรื่องที่สอง ฉันหวังว่าเจียงเสี่ยวหรูจะอยู่กับฉัน เธอเพิ่งจะได้รับมรดก เธอต้องการความช่วยเหลือจากฉัน”
“ท่านผู้อาวุโส สำหรับเรื่องแบบนี้ ท่านคงต้องถามความสมัครใจของเจียงเสี่ยวหรูก่อน”
เย่เหรินหันไปมองเจียงเสี่ยวหรู
“เธออยากอยู่รึเปล่าล่ะ?”
เจียงเสี่ยวหรูมองเย่เหริน จากนั้นเธอก็มองจ้าวแห่งหมอกมัว สุดท้ายแล้วเธอก็พูดกับเย่เหรินอย่างจริงจัง
“ครูเย่ หนูไม่อยากกลับไปโรงเรียน หนูอยากอยู่ที่นี่”
เย่เหรินตกตะลึงเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าเจียงเสี่ยวหรูที่เชื่อฟังและขี้ขลาด จะตัดสินใจแบบนี้
แต่เขาก็พยักหน้า “ทำตามที่เธอเลือกเถอะ”
เจียงเสี่ยวหรูกลัวว่าเย่เหรินจะเข้าใจผิด เธอจึงรีบอธิบาย “ครูเย่คะ การอยู่ที่นี่จะช่วยให้หนูเก่งขึ้นได้เร็วที่สุดค่ะ เพราะ...”
เจียงเสี่ยวหรูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะรวบรวมความกล้า “เพราะหนูไม่อยากให้ครูเย่ผิดสัญญา หนูอยากทำให้สิ่งที่ครูพูดบนแท่นบรรยายเป็นจริง หนูอยากจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด หนูอยากให้โรงเรียนรู้ว่าครูเย่คือครูที่ดีที่สุด!!”
เย่เหรินตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของเจียงเสี่ยวหรู
เขาไม่คิดเลยว่าเจียงเสี่ยวหรูจะจำทุกคำที่เขาพูดบนแท่นบรรยายได้
เด็กผู้หญิงขี้อายคงต้องรวบรวมความกล้ามากมายเพื่อที่จะพูดแบบนี้ออกมาได้
เย่เหรินลูบหัวเจียงเสี่ยวหรู เขายิ้มออกมาอย่างมีความสุข “ดูเหมือนว่าเด็กน้อยของเราจะเติบโตขึ้นแล้วสินะ”
เจียงเสี่ยวหรูเงยหน้าขึ้นมองเย่เหริน
ทั้งสองมองตากันและยิ้มออกมา ในเวลานั้นเองอาจารย์และศิษย์ต่างก็รู้สึกเข้าใจกัน
จากนั้นเจียงเสี่ยวหรูเงยหน้าขึ้นมองจ้าวแห่งหมอกมัว เธอพูดอย่างจริงจัง
“ท่านผู้อาวุโส หนูจะอยู่ที่นี่ค่ะ แต่หนูต้องสอบปลายภาค หนูหวังว่าก่อนหน้านั้น หนูจะกลายเป็นนักเรียนใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดในสถาบันเกาอู่แห่งมหานครเวทมนตร์!!”
น้ำเสียงของเจียงเสี่ยวหรูมั่นคง มันไม่มีความขี้ขลาดเหมือนอย่างเคย
ถึงแม้ว่าจ้าวแห่งหมอกมัวจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
แต่เธอก็หัวเราะออกมา
“เธอน่ะกำลังดูถูกพรสวรรค์ของตัวเองมากเกินไป ไม่ต้องกังวลไป ถ้าเธอได้ที่สอง พวกเราจะยอมยุบโรงเตี๊ยมอิสระซะ!! ฉันล่ะอยากเห็นหน้าตาของชายชราหนวดเคราสีขาวจริงๆ”
ฟังดูแล้ว จ้าวแห่งหมอกมัวกับอธิการบดีคงจะมีเรื่องบาดหมางกัน...
เย่เหรินเปิดปากพูดกับจ้าวแห่งหมอกมัว
“เรื่องที่คุยกันก็จบลงแล้ว งั้นคุยเรื่องอื่นๆ กันเถอะ”
“มีอะไรก็พูดมาเลย ถ้าหากอยากให้ฉันฆ่าใครให้ ก็พูดมาได้เลย” เห็นได้ชัดว่าตอนนี้จ้าวแห่งหมอกมัวอารมณ์ดีมาก
เย่เหรินมองจ้าวแห่งหมอกมัว เขาพูดอย่างจริงจัง
“เลอวั่นอี้ยืนอยู่ข้างนอก เธอน่ะคิดถึงท่านมาก อย่างน้อยก็ออกไปเจอเธอหน่อยเถอะ”