บทที่ 19 ผู้สืบสายเทพ รางวัลของระบบ
บทที่ 19 ผู้สืบสายเทพ รางวัลของระบบ
จ้าวแห่งหมอกมัวมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสีหน้าตกตะลึง
สำเร็จ... สำเร็จงั้นเหรอ? นี่มันเป็นไปได้ยังไง?
จ้าวแห่งหมอกมัวหรี่ตาลง เธอกำลังสังเกตการณ์อย่างระมัดระวัง
ในฐานะปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำ เธอสามารถสัมผัสได้ถึงออร่าที่หนาแน่นขึ้นของเย่เหริน
ระดับพลังนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้มีพลังระดับทองขั้นปลายเลย
ทุกสิ่งล้วนมีสองด้าน
การก้าวข้ามขีดจำกัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้การฝึกฝนนั้นล้มเหลว
แต่การฝึกฝน ฝืนทำลายขีดจำกัดนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันสามารถเสริมสร้างรากฐานให้กับผู้ฝึกฝนได้
ตอนนี้เย่เหรินก็เหมือนกับหน่อไม้ รากงอกงามมานานนับสิบปี แต่สามารถเติบโตได้สามฟุตในหนึ่งวัน
ถึงแม้ว่าจะมีพลังแค่ระดับทองขั้นต้น
แต่รากฐานและคุณภาพที่เขามีกลับไม่ด้อยไปกว่าผู้มีพลังระดับทองขั้นปลายเลย
เย่เหรินเก็บงำออร่าของเขาหลังจากที่ก้าวข้ามขีดจำกัดได้
จ้าวแห่งหมอกมัวไม่ได้สังเกตเห็น
พลังมังกรหมึกในร่างกายของเย่เหริน มันกำลังเปล่งประกายสีทองจางๆ ออกมา...
เย่เหรินที่ทำลายขีดจำกัดสำเร็จ ใบหน้าของเขากลับไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา มันดูราวกับว่าเขาเพิ่งจะทำเรื่องธรรมดาๆ สำเร็จ
จ้าวแห่งหมอกมัวมองเย่เหริน
เธอกำลังสงสัยว่า เด็กคนนี้จงใจทำให้ตัวเองลำบากก็เพื่อให้กับตัวเองสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งหรือเปล่า
หลังจากที่พยายามก้าวข้ามขีดจำกัดหลายครั้งแต่ก็ล้มเหลว แต่สุดท้ายเขาก็ทำได้สำเร็จจนได้ คนธรรมดาทั่วไปคงจะดีใจจนเก็บไม่อยู่แน่
แต่เด็กหนุ่มตรงหน้าเขากลับสงบนิ่งเหมือนอย่างเคย
เย่เหรินไม่แสดงความยินดีหรือความเศร้าออกมา มันดูราวกับว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นได้...
บุคลิกแบบนี้ จิตใจที่แน่วแน่แบบนี้
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ดูเหมือนว่าตระกูลเย่จะต้องมีอัจฉริยะอีกคนปรากฎตัวขึ้นแน่...
เจียงเสี่ยวหรูวิ่งเข้าหาเย่เหรินอย่างตื่นเต้น “ครูเย่ หนูทำได้แล้ว!!!”
ความดีใจและความรู้สึกขอบคุณมีมากมากมายมหาศาล ทำให้เจียงเสี่ยวหรูอดไม่ได้ที่จะกอดเย่เหริน
“ครูเย่คะ ดูสิคะ! รูปปั้นมอบสิ่งนี้ให้หนู หลังจากที่หนูสืบทอดมรดกสำเร็จ!!”
เจียงเสี่ยวหรูทำท่าทางเหมือนกับนักเรียนที่กำลังอวดความสำเร็จ
ไม้เท้าสีดำปรากฏขึ้นในมือของเธอ
ไม้เท้านี้ดูมืดมิดมาก มีลวดลายซับซ้อนสลักอยู่บนนั้น เพียงแค่ได้มองมัน ก็ให้ความรู้สึกราวกับว่าวิญญาณของผู้ที่ได้มองกำลังถูกดูดเข้าไป
แปลก ลึกลับ และทรงพลัง...
“เสี่ยวหรู เธอรู้สึกไม่สบายตรงไหนรึเปล่า?”
เจียงเสี่ยวหรูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหัว
“หนูไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ แต่หนูรู้สึกว่าไม้เท้านี้เชื่อมต่อกับสายเลือดของหนู เมื่อหนูใช้มัน มันให้ความรู้สึกราวกับว่าหนูกำลังควบคุมแขนของตัวเองอยู่เลยค่ะ”
ในขณะที่อาจารย์และลูกศิษย์กำลังศึกษาไม้เท้า
เสียงของจ้าวแห่งหมอกมัวก็ดังขึ้น
แต่เสียงของปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำกลับสั่นเทา
“เด็กน้อย ให้ข้าดูไม้เท้าหน่อยได้รึเปล่า...”
เจียงเสี่ยวหรูได้ยินคำขอของจ้าวแห่งหมอกมัว
คราวนี้เธอไม่ได้ส่งไม้เท้าให้จ้าวแห่งหมอกมัว เหมือนกับที่เคยทำกับฮั่นฉุน
เธอกลับหันไปมองเย่เหริน “ครูเย่คะ ให้เธอ..ดูได้รึเปล่าคะ?”
ราวกับว่าหากไม่ได้รับอนุญาตจากเย่เหริน แม้แต่ปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำก็ไม่สามารถสั่งเธอได้
ปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำงั้นเหรอ?
ตอนนี้ในใจของเจียงเสี่ยวหรู ไม่มีใครเทียบได้กับครูเย่
เย่เหรินที่เห็นแบบนั้น เขารู้สึกอบอุ่นใจ เขาลูบหัวเจียงเสี่ยวหรูและยิ้มออกมา
“เอาไปให้ท่านผู้อาวุโสดูเถอะ”
จ้าวแห่งหมอกมัวคือหนึ่งในปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำทั้งสามของโรงเตี๊ยมอิสระ เธอรู้เรื่องราวเกี่ยวกับมรดกของโรงเตี๊ยมอิสระมากกว่าเย่เหรินมาก การได้รู้อะไรมากขึ้นก็จะเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการของเจียงเสี่ยวหรู
เจียงเสี่ยวหรูได้ยินคำพูดของเย่เหริน เธอก็ส่งไม้เท้าให้กับจ้าวแห่งหมอกมัว
จ้าวแห่งหมอกมัวที่เห็นแบบนั้น
หมอกสีเทารอบตัวเธอก็สั่นไหวเล็กน้อย เธอพึมพำกับตัวเอง
“เฉพาะตัว...นี่มันของเฉพาะตัว!!!”
เย่เหรินเห็นจ้าวแห่งหมอกมัวเสียความสงบ เขาอดไม่ได้ที่จะถามออกมา
“ท่านผู้อาวุโส การสืบทอดของเสี่ยวหรูมีปัญหารึเปล่า?”
ทุกคนต่างก็เห็นเสาพลังงานที่ทำลายอาณาเขตของจ้าวแห่งหมอกมัว เย่เหรินกังวลว่าการสืบทอดของเจียงเสี่ยวหรูจะเกิดปัญหา
จ้าวแห่งหมอกมัวตั้งสติได้
เธอนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา
“นายน่ะไม่ใช่คนของสำนักพรรคอะไร ไม่แปลกที่นายจะจึงไม่รู้จักการสืบทอด มรดกของสำนักพรรคต่างๆ มีมานานนับล้านปี ต้นกำเนิดของพลังทั้งหมดล้วนแล้วมาจากโทเค็นที่มีพลังลึกลับ”
“บางองค์กรเรียกมันว่ารูปบูชา บางคนเรียกว่าผู้สืบสาย บางคนเรียกมันว่าผู้วิเศษ แต่ทุกคนต่างก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน
หากพวกเราที่เหมาะสมและเข้ากันได้กับโทเค็น คนคนนั้นจะได้รับผลประโยชน์ที่แตกต่างกันไปตามระดับความเหมาะสม ทุกอย่างล้วนแล้วขึ้นอยู่กับระดับศักยภาพในการพัฒนา”
“แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถได้รับโทเค็นแบบ ‘เฉพาะตัว’ เพราะพวกเขานั้นเหมาะสมกับมันมากที่สุด โทเค็นหนึ่งสามารถแปลงร่างให้กับคนมากมายนับไม่ถ้วนได้ แต่มันจะมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่จะได้มันมาแบบเฉพาะตัว...”
จ้าวแห่งหมอกมัวหยุดพูดไปครู่หนึ่ง ความตกใจในดวงตาของเธอยังคงอยู่
“พวกเธออาจจะยังไม่รู้ว่า ‘เฉพาะตัว’ มันหมายถึงอะไร แต่ฉันบอกได้เลยว่า หอกนิรันดร์ ค้อนแห่งธอร์ และดาบเทวทูติที่ปรากฏขึ้นมาในประวัติศาสตร์ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ได้มาแบบเฉพาะตัว...”
เย่เหรินที่ได้ยินแบบนั้น เขาถึงกับสูดหายใจเข้าลึกๆ
สิ่งที่จ้าวแห่งหมอกมัวพูดออกมานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นอาวุธของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้น...
ทุกชิ้นต่างก็ถูกบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์อันยาวนาน
“ตอนนี้พวกเธอคงจะรู้แล้วนะ ว่า ‘เฉพาะตัว’ มันหมายถึงอะไร...” จ้าวแห่งหมอกมัวพูดจบ เธอก็มองไปที่เจียงเสี่ยวหรู ดวงตาของเธอเป็นประกาย “มีคนเคยว่าไว้ว่า การที่คนคนหนึ่งได้ครอบครองโทเค็นเป็นของตัวเอง”
“ระดับความเหมาะสมในการสืบทอดมรดกของคนคนนั้นจะต้องมีอย่างน้อย 90%...”
จ้าวแห่งหมอกมัวหยุดพูด ดวงตาของเธอจ้องมองไปที่เจียงเสี่ยวหรู
“พูดอีกอย่างก็คือ เธอก็คือผู้สืบสายเทพ...”
ทันทีที่จ้าวแห่งหมอกมัวพูดจบ
เย่เหรินก็ได้ยินเสียงของระบบดังขึ้น
[ติ้ง ตรวจพบว่าโฮสต์ได้ทำภารกิจความสำเร็จ: แนะนำนักเรียนจนได้รับมรดกสมบูรณ์แบบ (1/1) ตั๋วลอตเตอรีนี้จะเริ่มต้นการอัพเกรดพิเศษ]
[ติ้ง การอัพเกรดพิเศษของตั๋วลอตเตอรีนี้คือตั๋วลอตเตอรีหลากสี คุณสามารถสุ่มกล่องสมบัติหลากสีพิเศษได้ คุณต้องการเปิดมันหรือไม่?]