บทที่ 130 ท่ากรรไกรพิฆาต
บทที่ 130 ท่ากรรไกรพิฆาต
โจวซิงซิง เดินเข้ามาในสถานีตำรวจด้วยท่าทีหมองคล้ำและเซื่องซึม
หัวหน้าทีมสืบสวน หวงปิ่งเย่า กำลังมองดูเขาและเฉาเต๋อฮว๋า ด้วยความโกรธเกรี้ยว ส่วนเฉาเต๋อฮว๋านั้นกลับทำหน้านิ่งเฉย เหมือนตายด้านต่อความผิดพลาด
“พวกนายเป็นบ้ากันหรือไง? ฉันให้ไปสืบเรื่องปืนหาย แต่กลับไปนั่งทำอะไรไร้สาระ” หวงปิ่งเย่าด่ากราด
โจวซิงซิงพยายามวางมือจากการบ้านที่ทำอยู่ แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เฉาเต๋อฮว๋าก็พูดขึ้นมาก่อน
“หัวหน้า สิงไจ๋ไม่ได้ส่งการบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วนะครับ เขาต้องโดนทำโทษทุกวัน ยืนตากแดดจนไม่ได้เข้าไปในห้องเรียน แล้วจะให้เขาทำงานยังไงได้” เฉาเต๋อฮว๋าพูดด้วยความไม่แยแส
“ต้องเข้าไปในห้องเรียนเท่านั้นเหรอถึงจะสืบได้?” หวงปิ่งเย่าตะคอกใส่ “ไม่ต้องเข้าห้องก็สืบได้เหมือนกัน!”
“ถ้าผมส่งการบ้านไม่ได้ ผมก็จะโดนไล่ออกจากโรงเรียน ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะไม่มีทางเข้าไปสืบได้อีกเลย” โจวซิงซิงพูดด้วยความเหนื่อยใจ
หวงปิ่งเย่าถอนหายใจแล้วลูบหัว “ให้เวลาพวกนายอีกหนึ่งอาทิตย์ ถ้ายังหาไม่เจอว่าปืนหายไปไหน พวกนายก็เตรียมไปเฝ้าถังน้ำกันได้เลย”
“ดีจัง! ขอบคุณครับ!” เฉาเต๋อฮว๋าพูดด้วยความดีใจ “เฝ้าถังน้ำสงบเงียบดี เหมาะกับผมมาก!”
โจวซิงซิงหันไปมองเฉาเต๋อฮว๋าอย่างหมดคำจะพูด
หวงปิ่งเย่ากำลังจะอัดทั้งสองด้วยฝ่ามือเหล็กของเขา
“หัวหน้า ตอนแรกที่คุณให้ผมทำคดีนี้ ท่าทีไม่เป็นแบบนี้นะ” โจวซิงซิงพูดสวนขึ้น
“นายจะให้ฉันทำท่ายังไง? ฉันก็เป็นแบบนี้ตลอด” หวงปิ่งเย่ายังไม่ทันตอบดี เฉาเต๋อฮว๋าก็พูดแทรกขึ้นมา
“เขาก็เป็นแบบนี้ตลอดแหละ คุณได้ยินแล้ว!” เฉาเต๋อฮว๋าพูดต่อ
หวงปิ่งเย่าชี้นิ้วไปที่หน้าโจวซิงซิงแล้วด่าออกมา “ถ้าไม่ใช้วิธีหลอกล่อ นายจะเข้ามาทำงานเหรอ? นึกว่าตัวเองเป็นยอดฝีมือจากหน่วยพิเศษเหรอ? ฉันต้องไปอ้อนวอนนายรึไง?”
“ใช่ครับๆ!” โจวซิงซิงพยักหน้าพร้อมหัวเราะฝืดๆ เขารู้สึกได้ว่าเรื่องนี้มันเกินจะหลีกเลี่ยงจริงๆ
“ถ้านายยังหาไม่เจอว่าปืนหายไปไหน ฉันจะใช้ท่ากรรไกรพิฆาตบีบหัวนายให้แตกเลย” หวงปิ่งเย่าขู่พร้อมชูสองนิ้วเป็นท่ากรรไกร
“หือ... ท่าอะไรนะ?” โจวซิงซิงถามอย่างงุนงง
“ท่ากรรไกรพิฆาตไง! กระโดดขึ้นกลางอากาศแล้วบีบหัวนายให้แตก!” หวงปิ่งเย่าโวยพลางชี้นิ้วมาที่โจวซิงซิง
“อ่อ... ผมกลัวมากเลย” โจวซิงซิงพูดกลั้นขำ แต่ในใจเขาแทบจะหัวเราะจนท้องแข็ง
หลังจากหวงปิ่งเย่าเดินออกไป โจวซิงซิงก็หันไปเก็บของ พลางหัวเราะเบาๆ “ท่ากรรไกรพิฆาต ฮ่าๆ นี่มันตลกชะมัด”
เฉาเต๋อฮว๋ากลับพูดเสียงเบา “เงียบหน่อย มันเรื่องจริงนะ เขาเก่งมากเมื่อก่อน เขาเคยสู้กับคนเป็นสิบ”
“ฮึ! ดูพุงเขาสิ ถ้าเป็นตอนนี้ เขาน่าจะสู้กับเครื่องบินมากกว่า” โจวซิงซิงเยาะเย้ย
ขณะที่พวกเขาเดินลงมาชั้นล่าง ก็เจอกับไป่อันหนีและครูฝึกหูที่เพิ่งกลับจากภารกิจ
“โจวซิงซิง ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่?” ไป่อันหนีถามด้วยความสงสัย
“โอ้ สวัสดี! พวกคุณย้ายมาอยู่ที่สถานีตำรวจจิมซาจุ่ยแล้วเหรอ?” โจวซิงซิงพูดอย่างตื่นเต้นที่ได้เจอเพื่อนร่วมงานที่สวยงามหลายคน“โจวซิงซิง ฉันมีเรื่องต้องบอกคุณ!” เหอหมิ่น พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“มีเรื่องอะไรเหรอครับ?” โจวซิงซิงยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินเข้าใกล้เหอหมิ่นอย่างมีความหวัง
“พวกจวงหนี กับจั่วจื้อ กำลังรีดไถเงินจากนักเรียนคนอื่นในโรงเรียน พวกเขาเก็บค่าคุ้มครองกันในโรงเรียน” เหอมิ่นกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
โจวซิงซิงได้ยินดังนั้นก็ประหลาดใจไปครู่หนึ่ง เขาไม่คาดคิดว่าโรงเรียนจะมีเรื่องแบบนี้อยู่จริงๆ และแอบลอบมองเหอหมิ่นด้วยความตื่นเต้น เขารู้ว่าคำเตือนของหลี่เอ้อร์ อาจเป็นความจริง
“จริงเหรอครับ? แล้วคุณได้แจ้งใครหรือยัง?” โจวซิงซิงถาม
“ฉันรายงานให้หัวหน้าครูรู้แล้ว แต่เขาไม่เชื่อฉันเลย แล้วยังตำหนิฉันอีกด้วย” เหอหมิ่นพูดด้วยความไม่พอใจ
“อย่างนี้เอง…” โจวซิงซิงพึมพำแล้วคิดในใจ นี่เป็นโอกาสที่เขาจะได้ทำงานจริงๆ เสียที
“คุณจะทำอะไรได้ไหม? ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ ฉันกลัวว่านักเรียนหลายคนจะเดือดร้อน” เหอหมิ่นขอร้องด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล
โจวซิงซิงพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจัดการเอง” เขาพูดอย่างหนักแน่น
เหอหมิ่น มองโจวซิงซิงด้วยสายตาแฝงความหวัง แม้ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะช่วยได้แค่ไหน แต่เธอรู้สึกว่าความตั้งใจของเขาเป็นสิ่งที่เธอต้องการ
“ขอบคุณมาก!” เหอหมิ่นกล่าวพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะเดินจากไป
โจวซิงซิง ยืนคิดในใจว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้พิสูจน์ฝีมือ และจัดการกับพวกนักเลงในโรงเรียนเหอหมิ่น มองโจวซิงซิง อย่างตกใจ หลังจากที่ได้ยินคำตอบ
“นี่เป็นเรื่องปกติเหรอ? พวกเขาไม่รีดไถ ก็จะมีนักเรียนคนอื่นมารีดไถแทนอย่างนั้นเหรอ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงไม่เชื่อ
โจวซิงซิง หน้าขึ้นสีเล็กน้อย “ผมก็แค่ตำรวจระดับล่างน่ะ จะไปทำอะไรได้มากมาย การจัดการเรื่องนี้ต้องให้ หลี่เอ้อร์ เขาเป็นคนดูแล เขาอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจมากกว่า”
“งั้นก็หมายความว่าพวกคุณรู้เรื่องการรีดไถในโรงเรียนนี้อยู่แล้วใช่ไหม?” เหอมิ่น พูดด้วยความตะลึง
โจวซิงซิงยักไหล่แล้วยิ้มเจื่อนๆ “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ พวกจวงหนี กับจั่วจื้อ นั่นแค่รีดไถเงินไม่กี่บาท ซื้อบุหรี่ ไม่ได้เป็นอันตรายมากมายอะไรนักหรอก แต่ถ้าพวกเขาลองทำเรื่องแบบนี้ข้างนอกโรงเรียนเมื่อไหร่ เราจะสอนพวกเขาให้รู้ว่าโลกจริงมันเป็นยังไงแน่ๆ”
เหอหมิ่นฟังแล้วได้แต่เงียบ เธอเดินจากไปพร้อมกับความคิดในใจที่สับสน