ตอนที่ 58 ฉันขอแนะนำให้ไปเชิญผู้ฝึกฝนอมตะมาช่วยจัดการ
ตอนที่ 58 ฉันขอแนะนำให้ไปเชิญผู้ฝึกฝนอมตะมาช่วยจัดการ
ในเวลาเดียวกันกองทัพหลินเจียงก็เข้ามายังฐานประจำการชั่วคราว
ฐานแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับบริษัทรักษาความปลอดภัยเฮยเฟิง
แต่เมื่อเทียบกับอาคารเล็กๆ ไม่กี่แห่งของบริษัทรักษาความปลอดภัยที่อยู่ข้างๆ ขนาดของฐานชั่วคราวนั้นใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งไปกว่านั้น ความสามารถและความแข็งแกร่งของกองทหารประจำการยังปรากฏให้เห็นทุกที่
ในเวลานี้ ณ อาคารเล็กๆ กลางฐานชั่วคราว
คนทั้งเจ็ดได้มารวมตัวกันที่โต๊ะกลมและกำลังปรึกษาหารือกันอยู่ ซึ่งสามในเจ็ดคนนี้สวมเครื่องแบบทหารของกองทัพหลินเจียง และนั่งอยู่ด้านบนสุด ซึ่งชายที่เป็นผู้นำดูเป็นคนภูมิฐานและหัวล้าน ด้านซ้ายของเขาเป็นผู้หญิงร่างเพรียวบาง ส่วนคนที่อยู่ด้านขวามือเป็นชายร่างผอม พวกเขาคือผู้บัญชาการสามคนของกองทัพหลินเจียง ชื่อเซี่ยงซิง,หลินเฉียว และหลี่เตี่ยมู่ ตามลำดับ
ส่วนอีกสี่คนสวมชุดลำลองและนั่งอยู่ทั้งสองด้าน
ซึ่งคนสี่คนนี้คือผู้อยู่เหนือธรรมชาติที่มาจากบริษัทรักษาความปลอดภัยเฮยเฟิง
ชายที่ตัดผมทรงสกีนเฮดคือหวังกังเจี้ยน ส่วนชายวัยกลางคนร่างผอมบางคือหวังหยง ลูกพี่ลูกน้องของหวังกังเจี้ยน ชายร่างอ้วนคือถังจินชวน และชายวัยกลางคนติดอาวุธข้างเดียวคือซ่งต้ายี่
"...ฉันยังคงคิดว่าด้วยจำนวนบุคลากรของเรา เราไม่สามารถหยุดงูเหลือมสองหัวไม่ให้เข้าสู่บริเวณตอนล่างของแม่น้ำหลงเจียงได้ เราต้องขอความช่วยเหลือจากสำนักงานใหญ่"
หลี่เตี่ยมู่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง
“อย่าลืมว่างูเหลือมสองหัวทะลุการปิดล้อมของพวกเราทั้งห้าคนและทหารหลินเจียงมากกว่า 300 นายไปได้ในครั้งนั้น!”
หลินเฉียวส่ายหัวทันที “งูเหลือมสองหัวได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว เมื่อมันทะลุผ่านการปิดล้อมของเราไปได้ มันยังได้ต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่เราไม่รู้จักและได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง ตอนนี้มันคงไปพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บในทะเลสาบตะวันออก”
"เมื่อทีมสนับสนุนจากสำนักงานใหญ่มาถึง อาการบาดเจ็บของมันคงจะหายเป็นปกติแล้ว!"
“ฉันคิดว่าถึงเวลาที่ต้องเตรียมการโดยเร็วที่สุดเพื่อสกัดกั้นงูเหลือมสองหัว และอย่าปล่อยให้มันเข้าสู่บริเวณตอนล่างของแม่น้ำหลงเจียงได้เป็นอันขาด”
“นั่นไม่ใช่อาณาเขตของเรา”
เซี่ยงซิงลูบขมับของเขาและมองไปที่ชายทั้งสี่ที่นั่งเงียบอยู่ตรงนั้น
เขาถามว่า "เมืองตงหูแห่งนี้เป็นอาณาเขตของคุณ หวังกังเจี้ยน คุณคิดเห็นอย่างไร"
หวังกังเจี้ยนยิ้มอย่างเชื่องช้า "ผมไม่ขอออกความเห็นอะไรก็แล้วกัน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพวกคุณเลย "
เขาเป็นเพียงทหารผ่านศึกที่ถูกปลดประจำการออกมาแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะการสนับสนุนของกองทัพหลินเจียง และได้โอกาสในการปลุกความสามารถขึ้นมา เขาจะก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยเฮยเฟิงและยึดครองดินแดนของเมืองตงหูแห่งนี้ได้อย่างไร เขาเข้าใจความจริงของเรื่องนี้ดี
แม้ว่าหวังกังเจี้ยนจะไม่มีความคิดเห็นอะไร แต่ถังจินชวนมี "ฉันขอแนะนำให้พวกคุณทั้งสามไปเชิญผู้ฝึกฝนอมตะที่อาศัยอยู่ในโรงแรมห่าวไท่มาปราบมันจะดีกว่า ด้วยความช่วยเหลือของเขา การฆ่างูเหลือมสองหัวคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการสกัดกั้นมันเลย!"
เซี่ยงซิง, หลินเฉียวและหลี่เตี่ยมู่ต่างก็ขมวดคิ้ว
หวังกังเจี้ยนและหวังหยงก็ได้แต่บ่นอย่างลับๆ
หลังจากนั้นทหารของกองทัพหลินเจียงสามคนก็ได้เข้ามาในเมืองตงหู พวกเขาได้รับคำสั่งให้ไปที่โรงแรมห่าวไท่ในตอนเช้า โดยหวังว่าจะติดต่อกับผู้ฝึกฝนอมตะลึกลับคนนั้น
อย่างไรก็ตามไม่ว่าพวกเขาจะตะโกนออกไปเสียงดังแค่ไหน ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับออกมาจากโรงแรมเลย หากพยายามฝืนเข้าไปก็จะเหมือนเดินเข้าไปในหมอก จะรู้สึกวิงเวียนศีรษะทันทีเมื่อเดินเข้าไปเพียงไม่กี่ก้าว จากนั้น 2-3 ชั่วโมงต่อมา ก็จะพบว่าตนเองยังอยู่ที่เดิม เห็นได้ชัดว่าผู้ฝึกฝนอมตะลึกลับคนนี้ไม่คิดจะเปิดโอกาสให้คนนอกเข้าไปในฐานที่มั่นของเขา
ในฐานะผู้บัญชาการกองทัพหลินเจียง พวกเขาเป็นเหมือนกระดูกสันหลังของกองกำลังที่ทรงพลังที่สุดในมณฑลหลินเจียง จะให้พวกเขาแบกหน้าร้อน ๆ มาเกาะบั้นท้ายเย็น ๆ ของคนอื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ได้อย่างไร? เซี่ยงซิงจึงพูดเบา ๆ ออกมาว่า “คนๆ นั้นไม่ต้องการเจอเรา ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก”
ถังจินชวนต้องการพูดต่อ แต่เขาถูกซ่งต้ายี่เข้ามาห้ามไว้ ก่อนจะบอกให้เขานั่งลง
แต่เนื่องจากถังจินชวนได้เห็นด้วยตาของตนเองถึงพลังของผู้ฝึกฝนอมตะคนนั้น
ขนาดแม่แมงมุมที่ทรงพลัง ยังถูกผู้ฝึกฝนอมตะฆ่าตายอย่างง่ายดาย
ตั้งแต่นั้นมา เขาก็รู้ว่าพลังของผู้อยู่เหนือธรรมชาติอย่างพวกเขา ไม่สามารถเทียบได้กับผู้ฝึกฝนอมตะได้นั้นอย่างแน่นอน
และเกรงว่าแม้แต่เย่หนานเทียน แม่ทัพของกองทัพหลินเจียง ซึ่งได้รับการเลื่อนขั้นให้เป็นผู้อยู่เหนือธรรมชาติขั้นที่ 4 ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ก็ไม่สามารถต่อกรกับผู้ฝึกฝนอมตะคนนั้นได้
น่าเสียดายที่ผู้บังคับบัญชาทั้งสามคนนี้มีความเย่อหยิงเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงไปที่โรงแรมห่าวไท่เพียงสองครั้ง แล้วหยุดไป เพราะไม่อย่างนั้น มันจะทำให้พวกเขาเสียหน้ามากเกินไป
คิดแล้วก็น่าเศร้าใจจริงๆ
ถังจินชวนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างลับๆ
หลังจากนั้นไม่นาน เซี่ยงซิงก็ตัดสินใจในที่สุด
"...ถ้าอย่างนั้นก็ปิดกั้นแม่น้ำหลงเจียงที่ไหลเข้าสู่มณฑลฮั่นไห่ทันที ภายในหนึ่งสัปดาห์ งูเหลือมสองหัวที่นำปัญหามาสู่มณฑลหลินเจียงจะต้องถูกฆ่าตายให้ได้!"
ทุกคนตอบกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ !
เนื่องจากทางทิศใต้ของมณฑลหลินเจียงคือมณฑลฮั่นไห่ แม่น้ำหลงเจียงนั้นจะไหลผ่านมณฑลหลินเจียง และเข้าสู่มณฑลฮั่นไห่ ซึ่งผู้ที่ปกครองมณฑลฮั่นไห่ในตอนนี้คือ "แก๊งฉวนปัง"
คนเหล่านั้นไม่ค่อยเป็นมิตรกับกองทัพหลินเจียงมากนักมีเพียงการแลกเปลี่ยนทางการค้าเล็กๆน้อยๆระหว่างทั้งสองฝ่ายเท่านั้น
และถ้าหากงูเหลือมสองหัวสามารถหลบหนีไปยังมณฑลฮั่นไห่ได้สำเร็จ ไม่ว่ากองทัพหลินเจียงจะอยากตามไปจัดการเพียงใด พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ท้ายที่สุดมันก็เป็นอาณาเขตของคนอื่นไปแล้ว
ใครบ้างจะไม่ต้องการแก่นวิญญาณของสิ่งมีชีวิตพิเศษอย่างงูเหลือมสองหัวกัน?
ถึงตอนนั้นก็จะมีอุปสรรคมากมายตามมา
...
"หือ?" ฉู่เสวียนทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าบนดาบบังเหินเทียนกัง เมื่อมองลงไปที่พื้นโลกเขาก็พบกับขบวนรถที่มุ่งหน้าลงใต้ไป ตรงไปที่แม่น้ำหลงเจียง
พวกเขาได้ปิดกั้นแม่น้ำหลงเจียง ก่อนที่จะไหลเข้าสู่มณฑลฮั่นไห่ โดยการวางตาข่ายลวดเหล็กที่เต็มไปด้วยหนามปิดกั้นทางน้ำไว้ แม้แต่ปลาที่ว่ายผ่านไปมาก็มาติดเต็มตาข่ายลวดเหล็กนี้
ซึ่งกับดักเหล่านี้ก็ถูกติดตั้งไว้อย่างดี แน่นอนว่ามีเพียงกองทัพหลินเจียงที่มีความแข็งแกร่งเท่านั้น ถึงจะสามารถผลิตมันได้
ฉู่เสวียนมองลงไปด้วยความสนใจ
ดูเหมือนว่ากองทัพหลินเจียง กำลังเตรียมสกัดกั้นงูเหลือมสองหัวอยู่
บังเอิญว่าเขาเองก็อยากดูว่างูเหลือมสองหัวนี้มีคุณสมบัติที่จะทำหน้าที่เป็นวิญญาณหลักของค่ายกลของเขาหรือไม่
หากว่ามันไม่สามารถข้ามการปิดกั้นนี้ไปได้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอีกต่อไป และเขาก็สามารถทิ้งทุกอย่างไว้ให้กับทหารของกองทัพหลินเจียงจัดการแทน
ในเวลานี้ ก็ได้ยินสียงระเบิดดังมาจากทะเลสาบตะวันออก
เห็นได้ชัดว่ามีกลุ่มทหารจากกองทัพหลินเจียงกำลังทำการโจมตีบางอย่างอยู่
“ดูเหมือนว่าสถานที่ที่มันซ่อนตัวเพื่อพักฟื้นนั้นถูกกองทัพหลินเจียงค้นพบแล้วสินะ” ฉู่เสวียนยิ้มเบา ๆ
การต่อสู้ที่รุนแรงเกิดขึ้นรอบๆ ทะเลสาบตะวันออกทันที หางของงูตัวใหญ่ถูกโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง ทุกครั้งที่หางของมันฟาดไปมา ก็จะเกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ต้นไม้บนฝั่งก็จะถูกฟาดจนมันล้มระเนระนาดเช่นกัน
ทหารหลินเจียงจำนวนมากแม้แต่ทหารที่เป็นผู้เหนือธรรมชาติขั้นที่ 1 ก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีอันทรงพลังและหนักหน่วงจากหางงูได้ พวกเขาถูกหางของมันฟาดจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที
ฉู่เสวียนดูการต่อสู้ของพวกเขาด้วยความสนใจ เห็นได้ชัดว่าการต่อสู้ระหว่างผู้อยู่เหนือธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตพิเศษนั้นจะแตกต่างจากการต่อสู้ระหว่างผู้บ่มเพาะเป็นอย่างมาก
ระบบการฝึกฝนของผู้บ่มเพาะนั้นได้รับการสืบทอดมานับไม่ถ้วน จนพวกเขาคุ้นชินกับมันแล้ว แต่ผู้อยู่เหนือธรรมชาติที่เพิ่งได้รับพลังวิญญาณมาเมื่อห้าปีที่แล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับมือใหม่ ที่ยังไม่สามารถใช้ทักษะออกมาได้อย่างเชี่ยวชาญ ทุกอย่างต้องได้รับการปรับตัวตั้งแต่ต้น ดังนั้นท่าทางการต่อสู้ของพวกเขาจึงแปลกมาก
บางครั้งพวกเขาก็ใช้พลังวิญญาณในร่างกายของเขา และบางครั้งพวกเขาก็โจมตีด้วยอาวุธขนาดเล็กเช่นปืน
ในสายตาของเสวียน เขารู้สึกเหมือนกำลังมองดูเด็กทะเลาะกันอยู่
เมื่อเขาเข้าสู่ช่วงสร้างรากฐาน เขาก็ไม่กลัวปืนธรรมดาอีกต่อไป
อาวุธสมัยใหม่ของดาวเคราะห์แห่งนี้ ไม่สามารถทำร้ายเขาได้อีกต่อไป เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นขีปนาวุธหรือระเบิดปรมาณูที่ก้าวหน้ากว่านี้
"หือ เจ็บอย่างงั้นหรือ?" ในเวลานี้ฉู่เสวียนก็ได้สังเกตเห็นว่างูเหลือมสองหัวกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดหลายครั้ง ก่อนจะดำดิ่งลงไปใต้น้ำทันที
เมื่อพิจารณาจากน้ำที่สาดกระเซ็นขึ้นมา เห็นได้ชัดว่ามันได้ว่ายเข้าสู่แม่น้ำหลงเจียงแล้ว และกำลังล่องไปตามกระแสน้ำอย่างรวดเร็ว
“จนถึงตอนนี้ ข้าก็ยังไม่เห็นอะไรแปลก ๆเลย มารอดูกันดีกว่า” ฉู่เสวียนส่ายหัว งูเหลือมตัวนี้อาจจะทำให้เขาผิดหวังเสียแล้ว