186 น้องเขยคุ้มครองเจ้า!
186 น้องเขยคุ้มครองเจ้า!
เมื่อเสียงเพลงเงียบลง ฉินโม่กล่าวว่า "พระมารดา รีบหลับตาแล้วอธิษฐาน พออธิษฐานเสร็จก็เป่าเทียนให้ดับ!"
กงซุนฮองเฮายิ้มและพยักหน้า ประสานมือเข้าหากันแล้วหลับตา
บรรยากาศในห้องตำหนักหลี่เจิ้งเงียบสงัด ทุกคนต่างรอให้ฮองเฮาอธิษฐาน
ไม่นานนัก ฮองเฮาเปิดตาขึ้นแล้วเป่าเทียนให้ดับ
หลี่ซื่อหลงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เจ้าอธิษฐานอะไรไว้หรือ?”
“ฉินโม่บอกว่าถ้ากล่าวออกมา คำอธิษฐานจะไม่เป็นจริง!” กงซุนฮองเฮายิ้มกล่าว
หลี่ซื่อหลงหันไปมองฉินโม่ “ข้าบอกว่าเป็นจริงก็ต้องเป็นจริง!”
ฉินโม่ไม่อยากเถียงอะไรกับเขา จึงหยิบเครื่องใช้ที่เตรียมไว้ออกมา หนึ่งในนั้นคือมีดสำหรับตัดเค้ก ยื่นให้กงซุนฮองเฮา "พระมารดา ท่านเป็นเจ้าของวันเกิด ท่านต้องตัดเค้กแล้วแบ่งให้ทุกคน เพื่อแบ่งปันความโชคดีให้แก่พวกเขาด้วย!"
หลี่ซื่อหลงพยักหน้า เห็นว่าขั้นตอนนี้ดี มีความหมายคล้ายกับการแบ่งเนื้อในงานล่าสัตว์ฤดูหนาว
กงซุนฮองเฮาเริ่มตัดเค้กนุ่มละมุน "ชิ้นนี้ ให้กับกุ้ยเฟย ชิ้นนี้ ให้กับซูเฟย"
ฉินโม่และคนอื่นๆ รับเค้กตามที่ฮองเฮาบอกและวางไว้บนโต๊ะของพวกนาง
"ขอบพระทัยองค์ฮองเฮา!" ผู้ที่ได้รับเค้กต่างกล่าวขอบคุณทันที
ฮองเฮานั้นต้องจำชื่อทุกคนได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ฉินโม่สังเกตเห็นหลี่อวี้หลานตั้งนานแล้ว ในเวลานี้นางสวมชุดสีแดงคลุมใบหน้าด้วยผ้าคลุมบาง ทำให้นางสวยจนเกินบรรยาย
หลี่อวี้หลานก้มหน้าหลบสายตา ไม่กล้าสบตากับฉินโม่
แต่ไฉ่ซือเถียนกลับเข้าใจผิด คิดว่าฉินโม่กำลังมองนาง ทำให้นางทั้งรู้สึกอายและสับสน
นางคิดในใจ ตั้งแต่เมื่อไรที่นางรู้จักฉินโม่?
ระหว่างนั้น พี่รองของนางส่งเค้กมาให้พร้อมกับเลิกคิ้วให้นาง
ทำให้ไฉ่ซือเถียนยิ่งรู้สึกสับสนมากขึ้น
“พี่สะใภ้ ท่านเคยกินเค้กนี้ไหม? กลิ่นมันหอมเหลือเกิน ขนมเค้กด้านในสีทองอร่าม นุ่มฟูมาก ไม่รู้เลยว่าเขาทำออกมาได้อย่างไร!” ไฉ่ซือเถียนกล่าวพลางจ้องมองเค้กตรงหน้าอย่างสนใจ บอกตามตรง นางอยากลองชิมมันมาก
แต่เพราะฮองเฮายังแบ่งเค้กอยู่ ไม่มีใครกล้าแตะต้อง
เมื่อแบ่งจนถึงท้ายสุด ทุกคนก็ได้เค้กชิ้นใหญ่กันคนละชิ้น ส่วนลูกท้อบนยอดสุด กงซุนฮองเฮาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ใครก็ได้ นำลูกท้อไปส่งที่ตำหนักต้าหาน!”
เฟิงจิ่นรีบเข้ามารับลูกท้อไป ในที่สุดเค้กเก้าชั้นก็ถูกแบ่งจนหมดสิ้น!
แบ่งเค้กได้ถึงหนึ่งถึงสองร้อยชิ้น กงซุนฮองเฮาแม้จะรู้สึกเหนื่อยบ้าง แต่ก็เห็นว่ามันมีความหมายมาก "ฉินโม่ แม่ขอขอบใจเจ้า ที่ทำให้แม่ได้มีวันเกิดที่ดีที่สุด!"
ฉินโม่ยิ้มกว้าง "พระมารดา ไม่ใช่เพียงข้าคนเดียวที่ทำได้หรอก กลุ่มพี่น้องของข้าอย่างหยงเมิ่ง ต้าเป่า เสี่ยวเป่า หรูเจี้ยน เสี่ยยวโต้ว และเสี่ยวไฉ่ พวกเขาช่วยข้าเยอะมาก!"
ทั้งหกคนรีบคุกเข่าลงข้างหนึ่งพร้อมกล่าวว่า "ตราบใดที่ฮองเฮาพอพระทัย ต่อให้เหนื่อยแค่ไหนเราก็เต็มใจทำ!"
พวกเขาต่างรู้สึกยินดีอย่างมากที่มีฉินโม่เป็นพี่น้อง เพราะเขาแบ่งปันความดีความชอบให้ทุกคนอย่างเท่าเทียม!
กงซุนฮองเฮารู้สึกเบิกบานใจ "ดีๆๆ ทุกคนเป็นเด็กดี เรียกคนมาที มอบเสื้อคลุมขนสัตว์ที่ข้าตัดเย็บเองให้พวกเขาคนละตัว!"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งหกคนต่างตื่นเต้นดีใจ
เสื้อคลุมขนสัตว์ที่ตัดเย็บโดยฮองเฮานี่เป็นเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ ยิ่งกว่าการเลื่อนตำแหน่งเสียอีก
"ขอบพระทัยองค์ฮองเฮา!"
กงซุนฮองเฮายิ้มพลางกล่าวว่า “ทุกคนเชิญนั่งได้แล้ว งานเลี้ยงจะเริ่มได้!”
ฉินโม่คำนับพลางกล่าว “พระมารดา เขยได้เตรียมอาหารไว้สามสิบหกจาน และทุกจานล้วนเป็นฝีมือเขยเอง!”
“อยู่ที่ไหนหรือ?” ฮองเฮาถาม
“อยู่ด้านนอก!” ฉินโม่ตอบ
หลี่ซื่อหลงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย “ในอากาศเย็นขนาดนี้ อาหารคงจะเย็นหมดแล้ว?” เขาคิดในใจว่าฉินโม่ช่างแยกแยะคนอย่างชัดเจน เขาทำดีขนาดนี้กับฮองเฮา แต่ทำไมไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับตัวเก่าที่เป็นฮ่องเต้ คิดแล้วมันน่าน้อยใจนัก?
ฉินโม่มองหลี่ซื่อหลงด้วยสายตาราวกับมองคนโง่ จากนั้นเขาก็ปรบมือเรียกหยางหลิวเกินและคนอื่นๆ ที่กำลังเข็นตู้ขนาดใหญ่เข้ามา ตู้นั้นยังคงมีควันลอยตลกอบอวน เมื่อเปิดฝาตู้ออก ด้านในมีอาหารสามสิบหกจานที่ยังคงร้อนอยู่ “นี่คือเตาอบเคลื่อนที่ที่ตระกูลฉินได้ทำขึ้นเป็นพิเศษ สามารถทำให้อาหารอุ่นได้ตลอดสิบสองชั่วยาม!”
กงซุนฮองเฮารู้สึกประทับใจ “ช่างใส่ใจจริงๆ!”
ฉินโม่หัวเราะเบาๆ จากนั้นรีบเรียกให้หลี่หยงเมิ่งและคนอื่นๆ มาช่วยกันยกอาหาร
อาหารเหล่านี้ล้วนผ่านการตรวจสอบพิษแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถนำเข้ามาในห้องตำหนักหลี่เจิ้งได้
อาหารสามสิบหกจานนั้นหลากหลาย ทั้งยังมีรูปปั้นอายุยืนที่แกะสลักจากหัวไชเท้าขาว และปลาหลี่หวานเปรี้ยว พร้อมกับเนื้อหมูทอดในน้ำเกรวี่
หลี่ซื่อหลงถึงกับกลืนน้ำลายเมื่อมองดูอาหารเหล่านั้น!
“เอาล่ะ เริ่มงานเลี้ยงได้!”
เมื่อหลี่ซื่อหลงกล่าวเช่นนั้น ฉินโม่ก็นั่งลงในตำแหน่งข้างเตาผิงซึ่งเห็นได้ชัดว่ากงซุนฮองเฮาเลือกไว้ให้โดยเฉพาะ เบาะนั่งของเขาก็ยังหนากว่าคนอื่นถึงสองชั้น
หลี่หยงเมิ่งกล่าวขึ้นว่า “เจ้าได้รับการดูแลอย่างดีเกินไปแล้ว!”
ฉินโม่ยิ้มตอบ “เจ้าก็ลองทำให้พระมารดารักเจ้าเหมือนที่รักข้าดูสิ!”
หลี่หยงเมิ่งส่งเสียงเยาะเบาๆ ก่อนจะตักเค้กเข้าปากไปคำหนึ่ง ใบหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนไปทันที “อร่อยเกินไปแล้ว! ฉินโม่ เมื่อมีเวลา เจ้าต้องทำให้ข้ากินอีก!”
ไม่ใช่เพียงแค่หลี่หยงเมิ่งเท่านั้น แม้แต่หลี่ซื่อหลงก็อดไม่ได้ที่จะลองชิมเค้กทันที เมื่อเค้กเข้าสู่ปาก ความรู้สึกดื่มด่ำกับรสชาติทำให้เขาหยุดกินไม่ได้อีกต่อไป
กงซุนฮองเฮาก็เช่นกัน รู้สึกหวานล้ำในใจพลางกล่าวว่า “อร่อยมาก เค้กวันเกิดนี้ต้องเป็นของหวานอันดับหนึ่งในต้าเฉียน!”
ฉินโม่ยิ้มแย้มตอบกลับ “ขอบพระทัยที่พระมารดาชมเชย!”
ไฉ่ซือเถียนเองก็อดใจไม่ไหว รีบนำเค้กเข้าปากทันที ดวงตาของนางหรี่ลงด้วยความสุข “อร่อยมาก อร่อยเกินไปแล้ว พี่สะใภ้ ท่านลองชิมดูเถิด ทำไมถึงมีของอร่อยขนาดนี้ในโลกนี้?”
หลี่อวี้หลานลองชิมเค้กไปคำหนึ่ง รสชาติยังคงเหมือนครั้งก่อน รสชาตินี้ทำให้นางอารมณ์ดีขึ้นทันที
“พี่เจ็ด มันอร่อยมากจริงๆ!” หลี่ลี่หรงกล่าวพร้อมกับดวงตาเป็นประกายเหมือนดวงจันทร์เสี้ยว!
หลี่อวี้ซู่ในตอนแรกไม่เชื่อว่าเค้กนี้จะอร่อยจริง แต่หลังจากคำแรก นางเงียบไป
มันไม่ได้ไม่อร่อย แต่มันอร่อยเกินไปต่างหาก
เพียงแค่คำเดียวก็หยุดกินไม่ได้
แม้แต่ไท่จื่อเองเมื่อได้ชิมก็รู้สึกว่าเค้กนี้อร่อยเกินไป นั่นทำให้เขายิ่งรู้สึกหงุดหงิด
มันน่าหงุดหงิดเหลือเกิน ของขวัญที่เขาตั้งใจเตรียมมาอย่างยากลำบากนั้นยังเทียบไม่ได้กับตุ๊กตาที่แกะสลักโดยน้องสิบหก และยิ่งไปกว่านั้น เขายังแพ้ทั้งเค้กและอาหารที่ฉินโม่ทำอีก
แม้แต่โหวหยงที่เกลียดฉินโม่สุดใจยังต้องยอมรับในขณะนี้ว่าฝีมือทำอาหารของฉินโม่ไม่ธรรมดาจริงๆ สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นเทพกระยาหารแห่งต้าเฉียน!
หลี่จิ้งหยาปากเผยรอยยิ้ม “เจ้าคนซื่อบื้อกลับทำอาหารเก่งถึงเพียงนี้ ฮึฮึ ตอนวันเกิดของข้า ข้าก็จะให้เขาทำเค้กใหญ่ให้ข้าสักก้อน!”
ในขณะนั้นเอง ไฉ่หรงที่นั่งอยู่ข้างฉินโม่กล่าวเบาๆ ว่า “ฉินโม่ เจ้าเห็นนางหรือไม่?”
ฉินโม่พยักหน้า “เห็นแล้ว นางนั่นแหละ เสี่ยวไฉ่ ชีวิตที่มีความสุขของพี่ชายขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว เจ้าต้องช่วยกล่าวให้ข้านะ ข้าไม่ถือสาอดีตของนางเลย!”
ไฉ่หรงรู้สึกประทับใจอย่างมาก “วางใจเถิด ข้าจะพูดกับท่านพ่อให้เอง!”
ฉินโม่ตบไหล่ไฉ่หรงหนักๆ “น้องรัก เจ้าช่างเป็นพี่น้องที่ยอดเยี่ยม ข้าดูคนไม่ผิดจริงๆ เจ้าวางใจเถิด เมื่อน้องสาวเจ้าแต่งเข้ามา เราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกัน หลังจากนี้ในต้าเฉียน น้องเขยคนนี้จะคุ้มครองเจ้าเอง!”
ไฉ่หรงพยักหน้าแรงๆ เมื่อกลับไป เขาจะต้องช่วยกล่าวโน้มน้าวไฉ่ซือเถียนให้ได้!
……………
(เพิ่งทำงานอื่นเสร็จครับเดี๋ยวทยอยลงสิบตอน)