ตอนที่แล้วบทที่ 94 ห้องที่แปด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 96 นั่งรถร่วมกับปีศาจ

บทที่ 95 หนีไม่พ้น


บทที่ 95 หนีไม่พ้น

อู๋เซี่ยนส่ายหัวเล็กน้อย

เขานึกถึงความรักที่ล้มเหลวในอดีต

“เฮ้อ ทำไมนะ คนพวกนี้ที่แย่ๆ กลับมีคู่ได้ง่ายกว่าคนดีๆ ฉันก็แค่ทำอาหารให้เธอด้วยตัวเอง เธอกลับอยากเลิกกับฉันซะอย่างนั้น”

“ผู้หญิง… เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เธอชื่ออะไรอีกล่ะ? เอาเถอะ ไม่สำคัญหรอก”

คนสุดท้ายที่แนะนำตัวคือเหลียงฟาง

“นี่เป็นถ้ำสวรรค์ครั้งที่สามของฉัน ฉันก็ไม่ได้เก่งอะไรนัก ในถ้ำสวรรค์ที่ผ่านมา ฉันก็แค่ดิ้นรนเอาชีวิตรอดมาได้อย่างยากลำบาก...”

พูดถึงตรงนี้ เธอก็หัวเราะขึ้นมา

“แต่วันนี้ฉันได้ทำเรื่องดีอย่างหนึ่ง ฉันรู้ว่าถ้ำสวรรค์ครั้งนี้จะเกิดขึ้นที่บริษัทท่องเที่ยว ฉันจึงไล่พวกนักท่องเที่ยวออกไป ถ้าฉันสามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้ แม้ว่าฉันจะต้องเสียงานนี้ไปก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว”

เว่ยเตียนหัวเราะออกมาเสียงดัง

เหลียงฟางตะโกนใส่เขาด้วยความโกรธ “แกหัวเราะอะไร?”

เว่ยเตียนส่ายหัว “โถ ใจดีจริงๆ นะ แต่เธอคงจะประเมินถ้ำสวรรค์ต่ำไปหน่อยแล้วล่ะ”

เหลียงฟางรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เธอพึ่งรู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองทำไป แต่หมอนี่กลับมาปฏิเสธความดีของเธอ มันน่าหงุดหงิดจริงๆ

ดังนั้นเธอจึงสรุปสั้นๆ

“ถ้ำสวรรค์ครั้งนี้เกิดขึ้นบนรถบัสคันนี้ ที่นี่เป็นถิ่นของฉัน ฉันเชื่อว่าจะช่วยทุกคนได้”

การแนะนำตัวของทุกคนจบลง

ผู้เลื่อมใสมีทั้งหมด 7 คน ได้แก่ อู๋เซี่ยน, เหลียงฟาง, ตู้เอ๋อ, หูหยุนควน, เว่ยเตียน, พี่ชิ่ง และสวีเฟิงหลัน

ส่วนคนธรรมดามี 3 คน ได้แก่ คนขับรถบัสอาจ้าว, ฮั่วกาย และซาเซี่ยวเหวิน

ระหว่างที่ทุกคนกำลังแนะนำตัวกันนั้น

เวลาผ่านไปจนถึงสองทุ่มสิบห้านาที

อาจ้าวได้รับข้อความจากเจ้าของบริษัทท่องเที่ยว เตือนว่าถึงเวลาออกเดินทางแล้ว และไฟถนนที่อยู่ข้างหน้ารถบัสก็สว่างขึ้น เหมือนจะบอกให้พวกเขาเริ่มเดินทาง

เอาจ้าวไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากสตาร์ทรถบัสและเริ่มออกเดินทางตามเส้นทางที่กำหนดไว้

โครม!

ทันทีที่ล้อรถหมุน รถบัสก็สั่นอย่างรุนแรง เหลียงฟางที่ยืนอยู่ข้างหน้าก็หน้าซีดทันที ริมฝีปากของเธอเริ่มสั่นระริก

เพราะในขณะที่รถเริ่มเคลื่อนออกไป

จู่ๆ ก็มีคนเพิ่มขึ้นในรถบัสอีกหลายสิบคน!

พวกเขามีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ชาย หญิง บางคนใส่ชุดนอน บางคนถือทัพพีเงาวับอยู่ บางคนก็ด่ากราดเสียงดังลั่น บางคนลุกขึ้นกางเกงหลุด ส่วนด้านหลังของอู๋เซี่ยน มีชายคนหนึ่งที่ใส่เสื้อกันฝนและหมวกฮู้ดกำลังยิ้มเยาะเช็ดเลือดออกจากใบหน้าของเขา

รถบัสที่เมื่อครู่นี้ยังว่างอยู่ ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและกลิ่นสารพัด

นักท่องเที่ยวที่เหลียงฟางไล่ออกไปจากบริษัทท่องเที่ยวในตอนกลางวัน ตอนนี้พวกเขากลับมาโผล่อยู่ในรถบัสคันนี้แทน

ภายในรถบัสเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ เสียงด่า บางคนถึงกับพยายามจะใช้กำลัง

รอยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าของชายในชุดกันฝนก็กลายเป็นความตื่นตระหนก เขาใช้มือข้างหนึ่งปิดหน้าและมืออีกข้างหนึ่งเช็ดเลือดออกจากหน้าอย่างรวดเร็ว แรงเช็ดนั้นมากจนผิวหน้าแทบจะหลุดออกมา อู๋เซี่ยนได้ยินเสียงสะอื้นเล็กๆ จากเขา

เหลียงฟางยึดเก้าอี้เอาไว้เพื่อพยายามยืนตรง “ฉัน...ฉันไล่พวกเขาไปแล้วนี่นา!”

คนเหล่านี้ล้วนเป็นนักท่องเที่ยวที่เธอไล่ออกไปในตอนกลางวัน!

เธอไม่ได้ช่วยชีวิตใครเลย แถมยังทำให้พวกเขาตกอยู่ในถ้ำสวรรค์โดยที่ไม่ทันตั้งตัวอีกด้วย!

อู๋เซี่ยนเอนตัวไปด้านหลังและหรี่ตาลงครุ่นคิด

แม้เจตนาดีของเหลียงฟางจะไม่ได้ผล แต่เรื่องนี้ก็ทำให้อู๋เซี่ยนได้รับข้อมูลหลายอย่าง

“ดูเหมือนว่า ในขณะที่ข้อมูลของถ้ำสวรรค์ถูกสร้างขึ้น ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่จะถูกล็อกเป้าหมายทันที แม้จะพยายามไล่พวกเขาออกไป พวกเขาก็ยังจะถูกดึงเข้ามาในถ้ำสวรรค์อยู่ดี”

“สำหรับผู้เลื่อมใส ดูเหมือนว่าจะถูกล็อกทันทีที่ก้าวเข้าสู่พื้นที่ แม้ว่าจะออกมาก่อนเวลาปิด ก็จะถูกดึงเข้ามาที่นี่ในที่สุด”

“อีกอย่างที่สังเกตได้คือ ของที่ผู้คนพกติดตัวมาตอนเข้าถ้ำสวรรค์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกเขา แต่ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งและวิธีที่พวกเขาเข้ามาในถ้ำสวรรค์ แม้แต่ของอย่างทัพพีเหล็กก็ยังเข้ามาได้...”

อู๋เซี่ยนลองนับดู มีนักท่องเที่ยวใหม่เพิ่มเข้ามาทั้งหมด 12 คน นั่นหมายความว่าตอนนี้มีคนในรถบัสทั้งหมด 22 คน ซึ่งมากกว่าครั้งแรกที่เขาเจอถ้ำสวรรค์

บรรยากาศในรถบัสเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ทุกคนตื่นตระหนก บางคนถึงกับพยายามจะไปบังคับให้คนขับหยุดรถ

“ใครก็อย่าคิดจะทำอะไรทั้งนั้น! เงียบกันให้หมด!”

หูหยุนควนลุกขึ้นตะโกนเสียงดัง ทำให้ทุกคนหยุดชะงักด้วยความกลัว

“พวกคุณจะวุ่นวายไปถึงไหน? ถ้าเรายังวุ่นวายกันอยู่แบบนี้ ทุกคนจะจบแบบไม่เหลือซาก ตอนนี้หนทางเดียวที่จะรอดไปได้คือต้องสงบสติอารมณ์และช่วยกันฝ่าฟันวิกฤตนี้ไป”

เมื่อสถานการณ์สงบลง

หูหยุนควนเริ่มอธิบายเกี่ยวกับถ้ำสวรรค์ให้ทุกคนฟัง

สิ่งที่เขาพูดคล้ายกับที่ฉีจื้อหย่งเคยบอก แต่เขาไม่ได้ปิดบังเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้าหรือกลิ่นธูป นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจพอสมควร

แม้บางจุดจะดูคลุมเครือไปบ้างเมื่อเทียบกับฉีจื้อหย่ง ซึ่งอาจเป็นเพราะหูหยุนควนยังรู้สึกตื่นเต้นหรือประหม่า

ระหว่างที่เขาอธิบาย มีบางคนขัดจังหวะ แต่ทุกครั้งก็ถูกหูหยุนควนตวาดให้เงียบไป และเมื่อพูดไปนานๆ น้ำเสียงของเขาก็มั่นใจมากขึ้น ท่าทางของเขาเริ่มกลับมาควบคุมสถานการณ์ได้ ทุกคนอย่างน้อยก็สงบลงชั่วคราว

...

ในความมืดที่เงียบสงบ

มีเพียงแสงไฟของรถบัสที่เคลื่อนตัวไปข้างหน้า คนในรถบัสส่วนใหญ่เริ่มยอมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับ เพราะการที่จู่ๆ ก็ถูกดึงมาจากที่อื่นมายังรถบัสนี้ แสดงให้เห็นหลายอย่างแล้ว

นักท่องเที่ยวที่เพิ่งเข้ามาใหม่ก็แนะนำตัวเช่นกัน

พวกเขาส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดาจริงๆ มีทั้งแม่บ้าน ครูสอนฟิตเนส คุณปู่เกษียณ นักศึกษาที่กำลังอยู่ในช่วงปิดเทอม และคุณป้าที่ยังไม่ชินกับการเกษียณ ความหวาดกลัวและความสับสนปรากฏชัดเจนบนใบหน้าของพวกเขา

มีเพียงสามคนที่อู๋เซี่ยนสนใจเป็นพิเศษ

คนแรกคือชายที่นั่งอยู่ด้านหลังอู๋เซี่ยน หลังจากเช็ดเลือดออกจากหน้า เขาแนะนำตัวเองว่าชื่อ กวนเต้าหรง เป็นครูสอนมวย เขาบอกว่าเลือดบนหน้าเป็นเพราะการฝึกซ้อมกับคนอื่น

แต่ไม่มีใครเชื่อเรื่องนี้

ชายคนนี้น่าจะเป็นคนอันตราย!

อีกคนคือชายหัวโล้นตัวใหญ่ถือทัพพีเหล็ก หน้าตาดูดุดัน เขาชื่อ ฉีเพ่ยเหย่ เป็นหัวหน้าพ่อครัวของร้านอาหารฉีเพ่ย ดูจากกล้ามเนื้อของเขา ก็พอจะเห็นว่าเขาแข็งแรงมาก

พ่อครัวเป็นอาชีพที่มีความสำคัญมากในถ้ำสวรรค์ ในถ้ำสวรรค์ครั้งแรก สือจี๋เคยช่วยทำอาหารให้ทุกคน ถ้าไม่ได้เขา พวกเขาคงต้องกินอาหารเย็นๆ ซึ่งจะทำให้สภาพร่างกายแย่ลงมาก

คนสุดท้ายคือชายตัวใหญ่ใจดีชื่อ ซูหมี่ ใส่กางเกงขาสั้นและเสื้อกล้าม กล้ามเนื้อของเขาทำให้อู๋เซี่ยนรู้สึกอิจฉา เขาเป็นครูสอนฟิตเนสและแม้จะไม่ใช่ผู้เลื่อมใส แต่ก็น่าจะเป็นคนที่พึ่งพาได้มาก

หลังจากที่ทุกคนเข้าใจสถานการณ์แล้ว

บรรยากาศในรถก็เริ่มวุ่นวายเหมือนตลาดสด มีผู้เข้ามาใหม่ 15 คนที่เพิ่งเจอเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ ย่อมไม่มีทางสงบสติอารมณ์ได้ในทันที พวกเขาต้องการคุยกับคนอื่นๆ เพื่อบรรเทาความกลัวและความสับสน หูหยุนควนจึงไม่ได้หยุดพวกเขา

อู๋เซี่ยนเองก็ไม่ได้เข้าร่วมในการพูดคุย

เขาแค่สังเกตทุกคนเงียบๆ และจดบันทึกพฤติกรรมของพวกเขาไว้ในใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด