บทที่ 65 การทำลายกฎเกณฑ์ทั้งปวง (อ่านฟรี)
"อ้อ นี่โรงเรียนจะหยุดหนึ่งสัปดาห์ใช่ไหม เธอวางแผนจะทำอะไรที่บ้านล่ะ?" นันกง นาซึกิถามขึ้นลอยๆ
โร่ยุนชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบอย่างหนักแน่นว่า "การเรียนทำให้ผมมีความสุขครับ"
แม้แต่นาซึกิเองก็ดูเหมือนจะไม่คาดคิดว่าโร่ยุนจะพูดแบบนี้ เธอส่ายหัวพลางหัวเราะเบาๆ "พอเถอะ ไม่ต้องมาแกล้งทำท่าหรอก ฉันรู้นะว่าเธอคิดอะไรอยู่ ก็แค่อยู่บ้านเล่นเกม แล้วก็ขี้เกียจไปตลอดสัปดาห์ใช่ไหมล่ะ?"
"เอ่อ..."
โร่ยุนพูดอะไรไม่ออก
เขาก็วางแผนไว้แบบนั้นจริงๆ นั่นแหละ เพราะช่วงวันหยุดที่ผ่านมา เขาก็ทำแบบนี้ตลอด
อย่างมากก็แค่ออกไปเดินเล่นตามคำชวนของอาโอบะ อาซากิเท่านั้น
"เป็นคนหนุ่มสาวแท้ๆ อยู่แต่ในบ้านแบบนี้สมองก็ขึ้นสนิมหรอก แล้วถ้าฉันเดาไม่ผิด เดี๋ยวเธอก็ต้องได้รับโทรศัพท์จากยัยอาซากินั่นแหละ" นาซึกิพูดอย่างเอาจริงเอาจัง
พอพูดถึงตรงนี้ ภาพของอาโอบะ อาซากิที่ยิ้มแย้มก็ผุดขึ้นในความคิดของโร่ยุน
"...อาจจะ"
หลังจากกินข้าวเสร็จและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แล้ว เสียงโทรศัพท์ของโร่ยุนก็ดังขึ้น
เป็นไปตามที่นาซึกิพูดไว้ไม่มีผิด บนหน้าจอแสดงสายเรียกเข้าจากอาโอบะ อาซากิ
"หยุดตั้งหนึ่งสัปดาห์แบบนี้ ถ้ายัยนั่นไม่โทรหาเธอก็แปลกแล้วละ"
นาซึกิพูดพลางจ้องมองใบหน้าของโร่ยุน
เธอมองมาหลายปีแล้วก็ยังไม่เข้าใจ ทำไมเขาถึงได้เป็นที่นิยมในหมู่เด็กสาวขนาดนี้นะ
"เฮ้ เรียกนักเรียนของตัวเองว่า 'ยัยนั่น' มันไม่เหมาะสมนะครับ" โร่ยุนพูดอย่างจนปัญญา
"มีปัญหาอะไรล่ะ? เป็นนักเรียนแท้ๆ แต่แต่งตัวเหมือนสาวแก่แดดในย่านชิบูยะ ก็เพราะแบบนี้นี่แหละ ไอ้หมาโง่นั่นถึงได้ล้อเลียนฉันว่าควบคุมนักเรียนไม่ได้ตลอด"
นาซึกิยังคงพูดจาแสบๆ คันๆ เหมือนเคย ส่วนคนที่เธอเรียกว่า 'หมาโง่' นั้น คือเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยสมัยก่อนของนาซึกิ ปัจจุบันเป็นครูพละที่โรงเรียนมัธยมต้นไซไคกาคุเอน
แน่นอนว่าเขายังมีอีกตำแหน่งหนึ่งคือเจ้าหน้าที่ปราบปีศาจประจำการ ที่ได้รับฉายาว่า "สี่หมัดเซียน" ว่ากันว่าสามารถปล่อยคลื่นแสงจากฝ่ามือ ทำให้พื้นดินแตกได้
เมื่อเสียงกริ่งดังขึ้นเป็นครั้งที่สี่ โร่ยุนก็เดินเข้าไปในห้องนอนและรับสาย
"ฮัลโหล ตื่นแล้วเหรอ?" เสียงร่าเริงของอาโอบะ อาซากิดังมา
"ถ้าไม่ตื่นก็คงไม่ได้รับสายเธอหรอก"
"ไม่รับสายผู้หญิงนะ เดี๋ยวโดนวัวเตะหรอก อ้อ นายรู้เรื่องที่โรงเรียนหยุดวันนี้แล้วใช่ไหม? งั้น...มีเวลาไหม?"
"มีอะไรเหรอ?" โร่ยุนถาม
"ก็...อยากชวนนายไปกินข้าวน่ะ ก็เรื่องงานกีฬาสีของโรงเรียนฉันลากนายลงน้ำด้วยนี่นา ฉันไม่เก่งกีฬาเลยทำให้ถ่วงทีม ก็เลยคิดว่าจะชดเชยให้นายยังไงดี"
"อ้อ งั้นเหรอ..."
แม้โร่ยุนจะไม่ได้เห็นอาโอบะ อาซากิตอนนี้ แต่ก็พอจะนึกภาพออกว่าสาวน้อยคงกำลังรอสายอยู่อย่างกระวนกระวายใจ
และอาโอบะ อาซากิตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
สาวน้อยผมทองนั่งบิดตัวอย่างประหม่าอยู่ที่ขอบเตียง หัวใจเต้นแรงขึ้นไม่น้อย เห็นได้ชัดว่ากำลังกังวลว่าจะถูกปฏิเสธ
เพราะการชวนของเธอนั้นกะทันหันเกินไป
แต่เมื่อได้ยินโร่ยุนตอบตกลงนัดกินข้าว เธอก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ
รีบวางสายแล้วจัดแจงแต่งตัวหน้ากระจก
ไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจออกไปกินข้าวกับโร่ยุนในชุดนักเรียนได้
อีกด้านหนึ่ง หลังจากวางสาย โร่ยุนก็ไม่มีอะไรต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษ
"จริงสิ เมื่อคืนที่แก้ไขเหตุการณ์ซานซุกาวะต่อหน้าคันยามะ โยโมะ น่าจะได้รับรางวัลสักครั้งนะ"
เมื่อคืนหลังจากไปส่งคัตสึระ โคโตโนฮะกลับบ้านแล้วก็อาบน้ำแล้วล้มตัวนอนเลย ไม่มีเวลาตรวจสอบระบบกำหนดชะตากรรม จนกระทั่งตอนนี้ถึงนึกขึ้นได้
จากนั้นโร่ยุนก็นอนลงบนเตียง หลับตาแล้วเรียกระบบขึ้นมา จากนั้นก็กดเปิดโอกาสกำหนดชะตากรรมครั้งนั้น
วงแหวนแสงสีฟ้าอมเขียวค่อยๆ หมุน ส่องสว่างบนผนังสีขาว
จากนั้นตรงกลางวงแหวนที่หมุนอยู่ก็ปรากฏมีดสั้นรูปทรงแปลกตาอันหนึ่ง
"ได้รับ 'การทำลายกฎเกณฑ์ทั้งปวง'"
"เป็นอาวุธต่อต้านเวทมนตร์"
"เป็นอาวุธวิเศษจากโลกของไทป์มูนเหรอเนี่ย?" โร่ยุนอดขำไม่ได้
ไม่รู้ว่าโลกนี้จะมีเมืองชื่อฟุยุกิไหมนะ
"การทำลายกฎเกณฑ์ทั้งปวง: ประสิทธิภาพในฐานะอาวุธเท่ากับศูนย์ แต่สามารถทำลายกฎเกณฑ์ 'เวทมนตร์' ของสิ่งที่ถูกแทงด้วยใบมีดได้ สิ่งที่สามารถทำลายกฎเกณฑ์ได้คือวัตถุที่ถูกเสริมพลังด้วยพลังเวท สัญญาที่อิงกับพลังเวท หรือสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการใช้พลังเวท"
"สามารถรีเซ็ตสิ่งเหล่านั้นให้กลับไปอยู่ในสภาพก่อนใช้พลังเวท กล่าวคือสัญญาที่อิงกับพลังเวทจะกลายเป็นกระดาษเปล่า สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากพลังเวทจะถูกทำลายในทันที"
"พลังเวทและสัญญาที่มีความเข้มข้นสูงเกินไปอาจไม่สามารถทำลายได้ โปรดระวังในการใช้งาน"
พออ่านถึงประโยคสุดท้าย โร่ยุนก็รู้สึกว่าประสิทธิภาพของอาวุธวิเศษนี้ก็ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คิด
การรีเซ็ตเป้าหมายเวทมนตร์ให้กลับไปอยู่ในสภาพก่อนใช้พลังเวทนั้น ก็ไม่ต่างจาก "การย้อนเหตุและผล" ของพลังเซนโรบันโชของเขาเท่าไหร่ แถมยังมีข้อจำกัดเรื่องเวทมนตร์ด้วย
อย่างมากก็แค่ประหยัดแรงในการจัดการกับศัตรูที่มีพลังเวทได้บ้างเท่านั้น
แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลยละนะ