บทที่ 5 หมาป่าสีขาว เกรอลท์
ชีวิตในปราสาทเคียร์มอร์เฮนเรียบง่ายและสงบสุข ด้วยแรงจูงใจจากระบบรางวัลทำให้เวย์นทุ่มเทฝึกฝนวิชานักล่าปีศาจทุกวันอย่างตั้งใจ
การที่ได้เห็นพลังของตนเองเพิ่มขึ้นทีละน้อยจากความพยายาม ทำให้เวย์นแทบจะลืมความเหน็ดเหนื่อยและหิวโหย
ชีวิตที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความหมายนี้ทำให้เวลาเดินไปอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาฤดูร้อนก็ผ่านไปและฤดูหนาวมาเยือน
นับเวลาแล้ว เขาใช้ชีวิตในโลกนี้มาสี่เดือนแล้ว
สี่เดือนนี้ เวย์นไม่ได้ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า นอกจากพัฒนาทักษะต่าง ๆ อย่างชัดเจนแล้ว ทุกวันเขายังปฏิบัติภารกิจฝึกฝนระดับธรรมดาจากอาจารย์เวเซอร์เมียร์
ข้อมูลปัจจุบันของเวย์น (14 ปี)
จากความพยายามสี่เดือน นอกจากจะทำให้เวย์นเชี่ยวชาญในการต่อสู้อย่างนักล่าปีศาจแล้ว อาชีพนักล่าปีศาจของเขายังเพิ่มขึ้นสองระดับ
นอกจากนี้ยังได้รับค่าความสามารถอันล้ำค่าอีกสองหน่วย ซึ่งสามารถใช้เพิ่มค่าสถานะร่างกายหรือพัฒนาทักษะได้
ระบบระบุว่าเมื่อทักษะใด ๆ ถึงระดับ 5, 10, 15 สามารถปลดล็อกความชำนาญพิเศษโดยใช้ค่าความสามารถ
เวย์นจึงเลือกเก็บค่าความสามารถไว้สำหรับใช้ในอนาคต
ยามเย็นวันนี้ หลังจากเสร็จสิ้นการฝึก เวย์นออกจากปราสาทเคียร์มอร์เฮนพร้อมความสุข
ในฐานะที่เขาเป็นนักล่าปีศาจผู้รักการกิน สิ่งที่เขาชื่นชอบนอกเหนือจากการฝึก คือการหาอาหารรอบปราสาทเพื่อเพิ่มสีสันให้มื้ออาหาร
ลำธารที่อยู่ห่างจากปราสาทประมาณ 300 เมตร เป็นแหล่งทรัพยากรที่ดีเยี่ยม
ที่นี่ เวย์นวางกับดักปลาไว้มากมาย ได้ทั้งปลาเล็กปลาน้อย และเขายังปลูกผักไว้ในแปลงดินใกล้ลำธาร
ความสามารถในการทำสวนของเขา แม้ไม่ใช่มืออาชีพ แต่ก็ดูเป็นระเบียบ
เวเซอร์เมียร์ถึงกับแปลกใจและเย้าแหย่เขาว่าเป็นนักล่าปีศาจคนแรกในรอบพันปีที่สนใจการทำสวน
เวย์นไม่ใส่ใจนัก เพราะชีวิตในยุคกลางนั้นลำบาก หากไม่มีสีสันชีวิตก็คงน่าเบื่อ
ขณะเขาถือปลาสดและผักตรงกลับปราสาท เขาได้ยินเสียงฝีเท้าหนักที่ใกล้เข้ามา
เวย์นคิดว่าอาจเป็นปีศาจน้ำจากลำธารจึงวางของลงและชักดาบเหล็กเตรียมพร้อม
แต่ที่ปรากฏตรงหน้าเขาคือชายในชุดเกราะเบาสีดำของสำนักหมาป่า
ชายผมขาวดวงตาสีทองเหมือนสัตว์ป่า เขายิ้มอย่างเก้กังและกล่าวด้วยเสียงทุ้มว่า
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เวย์น”
เมื่อเห็นดวงตาของเวย์น เขายิ้มกว้างขึ้น
“ดูเหมือนเราจะมีนักล่าปีศาจหน้าใหม่เพิ่มอีกคน”
ชายผู้นี้คือเกรอลท์ นักล่าปีศาจในตำนานแห่งสำนักหมาป่า
เวย์นจดจำได้ว่าเกรอลท์เคยเป็นศิษย์ของเวเซอร์เมียร์เช่นกัน
เมื่อถูกถามถึงเด็กคนอื่น ๆ เวย์นตอบด้วยความเศร้าว่า
“พวกเขาไม่รอดจากการทดลองสุดท้าย มีเพียงข้าที่รอดชีวิต”
เกรอลท์พยักหน้า เข้าใจว่าเป็นโชคชะตาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
“คืนนี้มาฉลองกันเถอะ ข้าพกเสบียงมามากมาย”
เวย์นยิ้มพร้อมถือผักและปลาที่เขาหามาได้ขึ้นมาโชว์
“พอดีเลย ข้าจะทำอาหารให้เจ้าลองชิมฝีมือ”
คืนที่ปราสาทเคียร์มอร์เฮน
ในห้องโถงใหญ่ของปราสาทเคียร์มอร์เฮน
เวย์น เวเซอร์เมียร์ และเกรอลท์ นั่งล้อมรอบโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น
บนโต๊ะมีเมนูอาหารอันหลากหลาย ทั้งไก่ตุ๋นซีอิ๊ว ปลาย่างรมควัน เนื้อวัวต้มไวน์แดงกับมันฝรั่ง และผักสดนานาชนิด อาหารเรียงรายจนเต็มโต๊ะ เป็นมื้ออาหารที่หรูหราและสมบูรณ์แบบ
เกรอลท์ผู้ผ่านการเดินทางไกลตลอดหลายวัน กลืนอาหารคำโตลงคอ ใบหน้าที่ดูเฉยชาเผยรอยยิ้มอ่อน ๆ แสดงถึงความพึงพอใจอย่างไม่รู้ตัว เขาเอ่ยชมว่า
"นี่เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดเท่าที่ข้าเคยกินมาเลยทีเดียว"
"เมื่อเทียบกับเจ้าพ่อครัวเคราเฟิ้มทั้งหลายในโรงเตี๊ยมแล้ว อาหารของพวกนั้นเหมือนกับขยะไปเลย"
เวเซอร์เมียร์จิบเบียร์เย็นที่เกรอลท์นำกลับมาอย่างสบายใจ เขากล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า
"ใช่แล้ว เกรอลท์"
"เวย์นเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบมา"
"ไม่ใช่แค่ฝีมือทำอาหาร หลังจากการทดลองหญ้าเขียว เขาเติบโตอย่างน่าทึ่งในทั้งเวทอักขระและการต่อสู้ด้วยดาบ"
"ข้าว่าอีกไม่กี่ปี เขาอาจกลายเป็นนักล่าปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดในพวกเรา"
เกรอลท์ได้ฟังคำพูดนั้นถึงกับแสดงความแปลกใจ เพราะเขารู้ดีว่าเวเซอร์เมียร์เป็นคนเคร่งขรึมและยึดมั่นในความจริงเสมอ หากไม่ได้เห็นเอง เขาคงไม่พูดชมใครเช่นนี้
สิ่งที่น่าทึ่งคือ เวเซอร์เมียร์ในฐานะปรมาจารย์ของสำนักหมาป่า กลับมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของเวย์นอย่างมาก
(จบบท)###