บทที่ 18 ผู้มีพลังวิเศษสำรอง
บทที่ 18 ผู้มีพลังวิเศษสำรอง
ราวกับรู้สึกได้ถึงจิตสังหารของจ้าวแห่งหมอกมัวที่จ้องมองมา เย่เหรินรีบหัวเราะออกมา
“ท่านจ้าวแห่งหมอกมัว ด้วยผลงานของเจียงเสี่ยวหรูแบบนี้ มรดกจะสมบูรณ์ได้กี่เปอร์เซ็นต์เหรอครับ?”
ความสมบูรณ์ของมรดกจะเป็นตัวตัดสินศักยภาพในอนาคตของเจียงเสี่ยวหรู
ในฐานะนักเยียวยาแห่งรัตติกาล
หากความสมบูรณ์ของมรดกถึง 50% ในอนาคตเจียงเสี่ยวหรูจะต้องกลายเป็นผู้มีพลังระดับเพชรอย่างแน่นอน
และหากความสมบูรณ์เกิน 60% ... ในอนาคตเจียงเสี่ยวหรูจะมีความเป็นไปได้ไม่รู้จบ!!
จ้าวแห่งหมอกมัวฟังคำถามของเย่เหริน
เธอหันไปมองเจียงเสี่ยวหรูที่กำลังอยู่ในพิธีสืบทอด
จ้าวแห่งหมอกมัวสัมผัสได้ถึงมรดก มันทำให้เธอกลัวจนตัวสั่น
“นี่มัน...เกิน 60% ไปแล้วงั้นเหรอ?!”
การสืบทอดคือการรับพลังจากมรดกนั้นๆ
อัจฉริยะ...
ดวงตาของจ้าวแห่งหมอกมัวเต็มไปด้วยความคลั่งไคล้
มรดกระดับสูง ในที่สุดก็ได้พบเจอกับผู้สืบทอดที่มีความเหมาะสมเกิน 60% ...
จ้าวแห่งหมอกมัวจินตนาการไม่ออกเลยว่า ในอนาคตหญิงสาวคนนี้จะเก่งกาจขนาดไหน? !!
ในตอนนั้นเองความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของจ้าวแห่งหมอกมัว
หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี
ในอนาคตอันใกล้นี้ โรงเตี๊ยมอิสระจะต้องมีปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำคนที่สี่อย่างแน่นอน!!
หนึ่งโรงเตี๊ยม สี่ปรมาจารย์!!!
อะไรคือศาลศักดิ์สิทธิ์แห่งแสง อะไรคืออัครทูติ อะไรคือโบสถ์รัตติกาลนิรันดร์ อะไรคือบรรพชนโลหิต อะไรคือเทพอัสดง อะไรคือจ้าวสายฟ้า
ต่อจากนี้ไป พวกเขาจะต้องมาเลียแข้งเลียขาโรงเตี๊ยมอิสระ!!!
จ้าวแห่งหมอกมัวคิดแบบนี้ เธอก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ หมอกสีเทาที่อยู่รอบๆ ตัวเธอกำลังสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้
เมื่อได้ยินคำว่า ‘มรดกสมบูรณ์แบบ’
เย่เหรินก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
มรดกสมบูรณ์แบบ
ระบบไม่ได้โกหกเขาจริงๆ ความเหมาะสมของเจียงเสี่ยวหรูกับนักเยียวยาแห่งรัตติกาลนั้นสูงมาก!!
นักเยียวยาแห่งรัตติกาล เป็นมรดกอันดับต้นๆ ของโรงเตี๊ยมอิสระ
เป็นมรดกระดับแนวหน้า!!
นั่นหมายความว่า หากเจียงเสี่ยวหรูยังคงฝึกฝนต่อไป
ในที่สุดเธอก็จะไปถึงสิ่งที่เย่เหรินคาดหวังเอาไว้ได้
นั่นก็คือการเป็นเทพเจ้า!!
เมื่อพิธีสืบทอดใกล้จะสิ้นสุดลง
ทันใดนั้นหมอกสีเทาก็เริ่มปั่นป่วน
พลังที่อธิบายไม่ได้เริ่มรวมตัวกันบนท้องฟ้าเหนือดินแดนหมอกมัว
จ้าวแห่งหมอกมัวแค่นเสียงเย็นชาออกมา
เธอจะไม่มีวันยอมให้มีอะไรมารบกวนพิธีสืบทอดอย่างแน่นอน
พลังงานสีเทามากมายเริ่มไหลเข้าไปในรูที่กำลังจะระเบิด มันดูเหมือนกับคนที่กำลังซ่อมแซมท้องฟ้า
"ตูม!!!"
แต่พลังงานเหล่านั้นไม่ได้ถูกหยุดไว้ มันพุ่งทะลุดินแดนหมอกมัวไปอย่างรวดเร็ว
มันพุ่งตรงไปที่เจียงเสี่ยวหรู
การทำลายอาณาเขตพลังแบบนั้น แม้แต่ปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำอย่างจ้าวแห่งหมอกมัวก็ยังต้านทานไม่ไหว พลังงานและเลือดในกายของเธอเริ่มปั่นป่วน เธอถึงกับกระอักเลือดออกมา
จ้าวแห่งหมอกมัวตกใจเล็กน้อย
นี่มันพลังอะไรกัน? มันสามารถทะลุผ่านการป้องกันทั้งหมดได้ แถมยังทำลายอาณาเขตของเธอได้??
นี่... แม้แต่ปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำที่สามารถทำลายล้างประเทศได้ ก็ยังไม่สามารถทำแบบนี้ได้ง่ายๆ!!!
และเมื่อสัมผัสกับพลังงานนี้
จ้าวแห่งหมอกมัวก็สัมผัสได้ถึงความหวาดกลัว
ความหวาดกลัวแบบนี้ มาจากการถูกกดขี่
ครั้งสุดท้ายที่เธอรู้สึกแบบนี้ คือตอนที่เธอเผชิญหน้ากับชายชราหนวดเคราสีขาวในเซี่ยงไฮ้...
จ้าวแห่งหมอกมัวใจสั่นเล็กน้อย เธอหวังว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลต่อการสืบทอดมรดกของเด็กสาว...
เมื่อพลังงานที่กระทบกระจายไป พิธีสืบทอดก็สิ้นสุดลง
ในเวลานั้นเอง พลังของเจียงเสี่ยวหรูก็เริ่มพุ่งสูงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
กลางระดับทองแดง ปลายระดับทองแดง ต้นระดับเงิน กลางระดับเงิน ปลายระดับเงิน ต้นระดับทอง กลางระดับทอง!!!
พลังที่กำลังพุ่งสูงขึ้น ในที่สุดมันก็หยุดลงที่กลางระดับทอง
นี่เป็นเพียงแค่การสืบทอดมรดก
เธอก็ก้าวข้ามเจ็ดขั้นไปได้แล้ว
จ้าวแห่งหมอกมัวที่เห็นแบบนั้น
เธอก็ถอนหายใจออกมา ดูเหมือนว่านี่จะเป็นส่วนหนึ่งของพิธีสืบทอด
แต่จากสิ่งที่เห็น ฐานะของนักเยียวยาแห่งรัตติกาลนั้นสูงส่งมาก เพียงแค่การโจมตีแบบส่งๆ ก็ยังทำให้วิญญาณของเธอสั่นไหวได้...
ในขณะที่เจียงเสี่ยวหรูกำลังก้าวข้ามขั้นอย่างต่อเนื่อง พลังของเธอกำลังพุ่งสูงขึ้น
เย่เหรินก็ได้ยินเสียงของระบบ
[ติ้ง ยินดีด้วยกับโฮสต์ที่ทำภารกิจแนะนำนักเรียนสำเร็จแล้ว รางวัลสำหรับการแนะนำกำลังถูกแจกจ่าย]
[ติ้ง ยินดีด้วยกับโฮสต์ คุณได้รับตั๋วลอตเตอรีระดับทองแดง]
[ติ้ง ตรวจพบว่าซับเจคที่สอนมีความเคารพต่อโฮสต์อย่างสูง ต้องการผูกมัดเขาเป็นศิษย์สายตรงหรือไม่?]
มาอีกแล้ว สบายจริงๆ
เย่เหรินเลือกที่จะรับมันโดยไม่ต้องคิด
[ติ้ง ยินดีด้วยกับโฮสต์ที่ได้รับศิษย์สายตรง!]
ทันใดนั้น
เย่เหรินรู้สึกว่าเขาได้สร้างการเชื่อมต่อกับเจียงเสี่ยวหรูขึ้นมา
พลังของเย่เหรินเริ่มปั่นป่วน
มังกรหมึกในร่างกายของเขากำลังปรากฏตัวขึ้นรอบๆ เย่เหริน
“มังกรดำโมหลงแห่งตระกูลเย่...”
จ้าวแห่งหมอกมัวจ้องไปที่มังกรหมึกที่อยู่รอบๆ ตัวเย่เหริน เธอพึมพำออกมา ดวงตาของเธอเปล่งประกาย
“โฮรก!!!” มังกรหมึกรอบๆ ตัวเย่เหรินคำรามออกมา
เย่เหรินรู้สึกได้ถึงเส้นเอ็นในร่างกายของเขากำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
พลังมากมายไหลเวียนราวกับแม่น้ำอันกว้างใหญ่
ยิ่งพลังงานไหลเวียนมากขึ้น มังกรหมึกที่อยู่รอบตัวเย่เหรินก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น
เขาได้รับพลังจากหวังดาชุนและเจียงเสี่ยวหรู
ในที่สุดเย่เหรินก็สั่งสมพลังได้มากพอ เย่เหรินพร้อมที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดระดับทองไปแล้ว
“โฮรก!!!” มังกรหมึกคำรามออกมา มันกลายร่างเป็นลำแสงพลังงาน พุ่งเข้าหาจิตใจของเย่เหริน
มันพุ่งเข้าพันธนาการที่มองไม่เห็น
“บุ่มบ่ามซะจริง...” จ้าวแห่งหมอกมัวพึมพำออกมา
ในฐานะปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำ แน่นอนว่าเธอสามารถมองเห็นปัญหาด้านพรสวรรค์ของเย่เหรินได้อย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้เย่เหรินน่าจะเก่งกาจมาก เขาควรจะไปถึงระดับทองได้ตั้งนานแล้ว แต่น่าเสียดายที่เขาทำไม่สำเร็จ
หลังจากพยายามก้าวข้ามระดับทองไปหลายครั้งแต่ก็ล้มเหลว พันธนาการสีทองบนร่างกายของเย่เหรินก็หนาขึ้นจนมองเห็นได้ชัด
ปกติถ้าหากไปถึงขั้นนั้นแล้ว
ก็เท่ากับว่าหมดหวังที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดนั้นไปได้
ผู้ฝึกฝนเรียกสิ่งนี้ว่า ‘เหว’ เหวที่ไม่มีวันก้าวข้ามไปได้
หากพยายามทำลายพันธนาการด้วยตัวเอง
ก็ไม่ต่างอะไรกับหนอนน้อยที่พยายามเขย่าต้นไม้ใหญ่
แต่ในเวลานี้เย่เหรินไม่สามารถควบคุมอะไรได้แล้ว เขารู้สึกตื่นเต้นมาก
เขาควบคุมมังกรหมึก พยายามทำลายขีดจำกัดของระดับทอง
ในขณะที่กำลังจะสัมผัสกับพันธนาการที่แข็งราวกับหิน
ร่างเต๋าฟ้าประทานของเย่เหรินก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ในตอนนั้นเอง ร่างเต๋าฟ้าประทานก็ละลายพันธนาการสีทองที่แข็งราวกับหินออกไป
เย่เหรินพุ่งทะยานไปข้างหน้าโดยไม่เจออุปสรรคใดๆ
ทะลุขีดจำกัดของระดับทอง!!
“ตูม!!” ออร่าทรงพลังแผ่กระจายออกไปจากเย่เหริน
ก้าวข้ามขีดจำกัดไปเป็นระดับทอง!!!