บทที่ 17 ใช้งานมรดกนักเยียวยาแห่งรัตติกาล!
บทที่ 17 ใช้งานมรดกนักเยียวยาแห่งรัตติกาล!
การกระทำแบบนี้มันดูวิปริตและไม่เหมือนใคร
นอกจากโรงเตี๊ยมอิสระแล้ว คงไม่มีที่ไหนที่มีคนแบบนี้อีกแล้ว
“จ้าวแห่งหมอกมัว ท่านไม่อยากเห็นนักเยียวยาแห่งรัตติกาลในอนาคตหรอกเหรอ?” คำพูดของเย่เหรินขัดจังหวะการกระทำที่บ้าคลั่งของจ้าวแห่งหมอกมัว
ในที่สุดเขาก็สามารถดึงดูดความสนใจของจ้าวแห่งหมอกมัวได้
จากนั้น จ้าวแห่งหมอกมัวก็บินตรงไปที่เจียงเสี่ยวหรู
หมอกสีเทาและดวงตาที่แหลมคมราวกับว่ามันสามารถมองทะลุทุกอย่างที่เกี่ยวกับเจียงเสี่ยวหรูได้
“นี่คือผู้สืบทอดที่เจ้าพูดถึง?? ดูธรรมดาๆ?”
“ท่านจะรู้ว่าธรรมดาหรือไม่ ก็ต่อเมื่อเธอได้สัมผัสกับมรดก” เย่เหรินตอบคำถามของจ้าวแห่งหมอกมัวอย่างใจเย็น
จ้าวแห่งหมอกมัวหันไปมองเย่เหรินก่อนจะหัวเราะออกมา
“ความใจเย็นของเจ้า ทำให้ข้าสงสัยว่าเจ้าเป็นแค่คนระดับเงินจริงๆ เหรอ? ยืนอยู่ตรงหน้าข้าขนาดนี้ เจ้าไม่กลัวบ้างเหรอ?”
“โรงเตี๊ยมอิสระ ทำทุกอย่างตามใจชอบก็จริง แต่พวกเราก็ไม่เคยทำร้ายเพื่อนหรอกนะ ยิ่งเป็นเพื่อนที่มอบของขวัญล้ำค่าให้ พวกเรายิ่งต้องดูแลเขาเป็นอย่างดี”
จ้าวแห่งหมอกมัวจ้องไปที่เย่เหริน เธอนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อว่า
“เจ้าเชื่อจริงๆ เหรอว่าเธอสามารถสืบทอดนักเยียวยาแห่งรัตติกาลได้? เจ้ารู้รึเปล่า ว่าพวกเราทั้งสามคนใช้ความพยายามมากแค่ไหน เพื่อที่จะหามัน?”
เย่เหรินจ้องไปที่จ้าวแห่งหมอกมัวโดยไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาคือปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำ
“เปิดใช้งานมรดก แล้วท่านจะได้เห็นคำตอบที่ต้องการ”
ดวงตาของจ้าวแห่งหมอกมัวเป็นประกาย ร่างกายของเธอดูเลือนลาง
แม้แต่ปรมาจารย์ระดับเพชรบางคนก็ยังต้องระมัดระวังและหวาดกลัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเธอ
ไม่ว่าเย่เหรินจะซ่อนมันได้ดีแค่ไหน ตัวตนของเขาก็ยังคงปรากฏต่อหน้าเธอ ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณ
แต่วันนี้เธอกลับไม่เห็นวี่แววของความตื่นเต้นหรือความประหม่าจากเด็กหนุ่มระดับเงินที่อยู่ตรงหน้าเธอเลย
เธอไม่สามารถมองทะลุเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอได้
“เจ้ารู้ไหมว่าการยั่วโมโหปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำ จะต้องเจอกับอะไรบ้าง?”
“หากล้มเหลว เชิญเอาชีวิตของข้าไปได้เลย”
ดวงตาของเย่เหรินเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ความมั่นใจ ความบ้าคลั่ง...
“ครูเย่ พวกเรากลับกันเถอะค่ะ”
เจียงเสี่ยวหรูตกตะลึงเมื่อได้ยินว่าเย่เหรินกำลังเดิมพันด้วยชีวิต
เธอจับมือของเย่เหริน เธออยากให้เย่เหรินเอาชีวิตคืนมา
เย่เหรินยิ้มออกมา เขาลูบหัวของเจียงเสี่ยวหรู
“ครูจะช่วยสร้างบันไดให้เธอปีนขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์เอง”
ในตอนนั้นเอง เจียงเสี่ยวหรูก็รู้สึกสับสน
เธอไม่คิดเลยว่า
คำพูดที่ว่า ‘ครูจะช่วยสร้างบันไดให้เธอปีนขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์เอง’ ที่เย่เหรินพูดออกมา มันจะใช้ชีวิตของเขาเป็นเดิมพัน...
ความรู้สึกที่ซับซ้อนพวยพุ่งเข้ามาในใจของเธอ
เธอไม่เข้าใจว่า ทำไมเย่เหรินถึงยอมทำแบบนี้เพื่อเธอ
จ้าวแห่งหมอกมัวได้ยินแบบนั้น เธอก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ราวกับว่าได้เจอกับเรื่องสนุก
“เอาล่ะๆ เจ้าหนูน้อย เจ้าบ้ากว่าคนในโรงเตี๊ยมอิสระซะอีก ในเมื่อเจ้ายินดีที่จะเดิมพัน งั้นข้าก็จะช่วยให้เจ้าสมหวังเอง”
พูดจบจ้าวแห่งหมอกมัวก็โบกเสื้อคลุมสีเทาของเธอเบาๆ
พลังงานสีเทากวาดไปทั่วทั้งห้องนั่งเล่น
รูปปั้นหญิงสาวที่กำลังก้มหน้าสวดมนต์ก็ปรากฏขึ้นในห้องนั่งเล่นด้วยวิธีที่คนธรรมดาไม่สามารถเข้าใจได้
หญิงสาวในรูปปั้นดูใจดี อ่อนโยน และอ่อนหวาน
เพียงแต่สีดำที่อยู่บนรูปปั้น ทำให้รูปปั้นนี้ดูแปลกประหลาด
ด้านหลังของรูปปั้นนี้สลักคำพูดที่ระบบเคยบอกกับเย่เหรินเอาไว้
‘การเกิดเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความตาย’ ...
“คำพูดนี้ถูกสลักไว้ตรงนี้ตั้งแต่ที่พวกเราได้รูปปั้นมานี้แล้ว น่ารำคาญจริงๆ พวกเราไม่รู้เลยว่าจะสืบทอดมันยังไง ถ้าเจ้าไม่ได้พูดประโยคนั้นออกมา ข้าก็คงจะไม่สนใจเจ้า”
“เอาล่ะ ไม่ต้องกังวล มาเริ่มกันเลย”
จ้าวแห่งหมอกมัวพูดอย่างใจร้อน
เย่เหรินหันไปมองเจียงเสี่ยวหรูอย่างอ่อนโยน
“ไปสิ”
“ไม่...หนูไม่ไป หนูอยากเป็นลูกศิษย์ของครู หนูไม่ต้องการสิ่งแปลกประหลาดพวกนั้น”
เจียงเสี่ยวหรูส่ายหัว
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอเรียนรู้ที่จะปฏิเสธคนอื่น
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอเลือกที่จะไม่เชื่อฟัง
เจียงเสี่ยวหรูนึกถึงตอนที่ครูเย่ยิ้มให้กับเธอทุกๆ เช้า พร้อมกับกล่าวคำว่า อรุณสวัสดิ์
เธอนึกถึงตอนที่เธออ่านหนังสือจนดึกดื่น ครูเย่ก็จะเลี้ยงอาหารว่างตอนดึกให้เธอเสมอ
เธอนึกถึงตอนที่เธอถูกเพื่อนร่วมชั้นหัวเราะเยาะ ครูเย่ก็ยืนอยู่ข้างหน้าเธอ บดบังทุกสายตา
เธอนึกถึงตอนที่ฮั่นฉุนพูดจาลวนลามเธอ ครูเย่ก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้
และตอนนี้ครูเย่กำลังเดิมพันด้วยชีวิต...
ตั้งแต่เด็กจนโต นอกจากพ่อแม่ของเธอแล้ว เธอไม่เคยได้รับความรักแบบนี้จากใครมาก่อน
ความรักที่ปรารถนาดีต่อเธออย่างไม่มีเงื่อนไข
ความรักที่บริสุทธิ์
ความรู้สึกที่อัดอั้นมานาน ในที่สุดมันก็ระเบิดออกมาในตอนนี้
น้ำตาของเจียงเสี่ยวหรูไหลรินลงมาไม่หยุด
เย่เหรินมองเจียงเสี่ยวหรูที่กำลังร้องไห้อยู่ เขารู้สึกหมดหวัง
เขาได้แต่ลูบหัวเจียงเสี่ยวหรูเบาๆ
“ไปเถอะ เชื่อมั่นในการตัดสินของครูนะ เธอทำได้แน่”
คำพูดปลอบใจของเย่เหรินทำให้หัวใจของเจียงเสี่ยวหรูสงบลง
เจียงเสี่ยวหรูเช็ดน้ำตาของตัวเอง เธอเดินไปที่รูปปั้นด้วยความหวาดกลัว
เธอเอามือไปแตะมัน
ในตอนนั้นเอง พลังงานสีดำก็แผ่กระจายออกไป
มันกลายเป็นวงเวทย์มนตร์โบราณบนพื้นดิน
พลังงานของวงเวทย์นี้ทรงพลังมาก
มันทำให้ทั้งห้องสั่นไหว
“ชิ พลังนี่รุนแรงเกินไป ต้องเปลี่ยนสถานที่แล้ว”
ดวงตาของจ้าวแห่งหมอกมัวเป็นประกาย เสียงของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เพราะเด็กสาวธรรมดาๆ คนนี้สามารถปลุกมรดกของนักเยียวยาแห่งรัตติกาลขึ้นมาได้!!!!
พลังงานสีเทากระจายออกไป
รูปปั้น เจียงเสี่ยวหรู เย่เหริน และคนอื่นๆ ถูกเคลื่อนย้ายไปยังอีกมิติหนึ่ง
“นี่คือดินแดนจักรหมอกมัว มันคือมิติส่วนตัวของฉัน” จ้าวแห่งหมอกมัวพูดอย่างแผ่วเบา
จากนั้นเธอก็หันไปมองเจียงเสี่ยวหรูด้วยความต
จากนั้นเธอก็มองไปที่เจียงเสี่ยวหรูด้วยความตื่นเต้น "ไม่ต้องห่วง ที่นี่ไม่มีทางพังทลายแน่!! ปลดปล่อยพลังของเธอออกมาให้เต็มที่ ให้ฉันให้ดูหน่อยเถอะว่าเจ้าเธอกับมรดกได้มากแค่ไหน!!"
เจียงเสี่ยวหรูได้ยินคำพูดของจ้าวแห่งหมอกมัว
เธอไม่ลังเลอีกต่อไป
เธอหลับตาลง ก่อนจะเริ่มเชื่อมต่อกับรูปปั้นด้วยสุดหัวใจ
"ตูม!!!"
เพียงพริบตาเดียว
วงเวทย์มนตร์สีดำก็ขยายตัวออกไปกว่าสิบเท่า
ดินแดนหมอกมัวแทบจะต้านทานการขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้ไม่ได้ แถมยังมีรอยร้าวปรากฏขึ้นอีกด้วย
"ชิ พลังงานของเธอนี่มันรุนแรงจริงๆ" จ้าวแห่งหมอกมัวขมวดคิ้ว
พลังงานสีเทากำลังกระจายตัวออกไป ดินแดนหมอกมัวกำลังขยายตัวอย่างบ้าคลั่ง
มันหยุดลงเมื่อครอบคลุมวงเวทย์มนตร์สีดำเอาไว้ทั้งหมด
ในตอนนั้นเอง
ดวงตาของจ้าวแห่งหมอกมัวดูอ่อนล้า
แต่ท่ามกลางความเหนื่อยล้านั้น เธอกลับรู้สึกตกตะลึงและตื่นเต้นมากขึ้น
"ดี ดี ดี ไม่เพียงแต่จะสามารถสืบทอดได้ แต่เธอยังเข้ากับมรดกได้อย่างสมบูรณ์แบบ! นี่มันอัจฉริยะที่จะมีหนึ่งในล้าน!!!"
นอกจากความตื่นเต้นแล้ว จ้าวแห่งหมอกมัวก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
ทำไมปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำทั้งสามถึงไม่สามารถหาคนที่มีคุณสมบัติแบบนี้ได้?
แต่เด็กหนุ่มระดับเงินกลับหามันเจอได้อย่างง่ายดาย...
จ้าวแห่งหมอกมัวมองเย่เหริน
เธอมีสีหน้าที่ซับซ้อน
ตั้งแต่ที่พวกเธอได้รับรูปปั้นนักเยียวยาแห่งรัตติกาลมา พวกเธอไม่เคยเปิดเผยมันให้กับคนนอกได้เห็นเลย
เย่เหรินรู้ข้อความที่อยู่ด้านหลังได้ยังไงกัน?
และเย่เหรินมั่นใจได้ยังไง ว่าลูกศิษย์ของเขาสามารถสืบทอดนักเยียวยาแห่งรัตติกาลได้???
เด็กหนุ่มลึกลับนี่...
จ้าวแห่งหมอกมัวหรี่ตาลงเล็กน้อย
อยากจะดึงวิญญาณของเขามาวิจัยจริงๆ...