ตอนที่ 56 ระฆังบุญ อาวุธป้องกันขั้นสูงสุด
ตอนที่ 56 ระฆังบุญ อาวุธป้องกันขั้นสูงสุด
คิดได้เช่นนั้นฉู่เสวียนก็หยิบถุงเก็บของของฮุยคงออกมา
หลังจากสังหารฮุยคง เขาก็เข้าไปในคุกใต้ดินทันทีเพื่อช่วยเหลือหวันอู๋อิง
จากนั้นเขาก็ออกจากคฤหาสน์หยุนอู๋และเดินทางมายังห้องโถงเฟยซานทันที
เขาจึงแทบไม่มีเวลาที่จะสำรวจสิ่งของข้างในถุงเก็บของ
เขาเพิ่งมีเวลามาคิดทวบทวนเรื่องต่างๆ ก็ตอนนี้ ถุงเก็บของของฮุยคงนั้นไม่ธรรมดา
ผู้บำเพ็ญช่วงกลั่นลมปราณมักจะใช้ถุงเก็บของคุณภาพต่ำ โดยมีพื้นที่จัดเก็บเพียงด้านเดียว
เมื่อแปลงเป็นหน่วยพื้นที่แล้วก็จะมีพื้นที่เก็บของแค่หนึ่งตารางเมตรเท่านั้น
แต่ถุงเก็บของของผู้บำเพ็ญช่วงสร้างรากฐานนั้น โดยทั่วไปจะใช้ถุงเก็บของขนาดกลางที่มีพื้นที่จัดเก็บสิบตารางเมตร ทว่าฮุยคงกลับใช้ถุงเก็บของคุณภาพสูง! ที่มีพื้นที่เก็บของเป็นร้อยตารางเมตร!
ต้องรู้ก่อนว่า ถุงเก็บของนี้ก็คืออาวุธเวทย์มนตร์มิติที่เอาไว้ใช้สำหรับเก็บทรัพยากรในการบ่มเพาะ
เนื่องจากลักษณะพิเศษของมัน อาวุธเวทย์มนตร์มิติระดับสูงเช่นนี้จึงมีราคาสูงกว่าอาวุธเวทย์มนตร์ธรรมดา อย่างอาวุธเวทย์มนตร์ป้องกัน อาวุธเวทย์มนตร์บินได้ และสมบัติอื่น ๆ
ซึ่งราคาของถุงเก็บของคุณภาพสูงนั้น สูงกว่าราคาของอาวุธเวทย์มนตร์ธรรมดาระดับสูงประมาณ 30%
แม้แต่หลี่ซวนหมิงก็ยังใช้ถุงเก็บของระดับกลางอยู่ในขณะนี้
แต่ฮุยคงกลับสามารถครอบครองถุงเก็บของคุณภาพสูงได้!
ตามที่คาดไว้ สมควรแล้วที่เขาจะเป็นศิษย์ที่น่าภาคภูมิใจของวัดจินหลง
เย่อหยิ่งสมคำล่ำลือ!
ฉู่เสวียนถูฝ่ามือด้วยความตื่นเต้นแล้วค่อย ๆ เปิดถุงเก็บของออก
สมบัติต่างๆในถุงเก็บของก็ปรากฏขึ้นทันที
ก่อนอื่นเลย ในนั้นมีหินวิญญาณที่แวววาวกองอยู่เป็นพะเนิน! หินวิญญาณระดับต่ำ ถูกกองรวมกันเป็นเหมือนภูเขาเล็กๆ เมื่อลองประมาณการคร่าวๆ ดูแล้วก็น่าจะมีอย่างน้อยสามพันก้อน และยังมีหินวิญญาณระดับกลางกองอยู่ที่มุมห้องประมาณการคร่าวๆ แล้วก็น่าจะมีห้าสิบก้อน แค่หินวิญญาณเหล่านี้เพียงอย่างเดียว ก็เพียงพอที่จะซื้ออาวุธเวทมนตร์คุณภาพสูงได้สามถึงสี่ชิ้นเลยทีเดียว
นอกจากหินวิญญาณแล้ว ฉู่เสวียนยังเห็นอาวุธเวทย์มนตร์อีกหลายอย่าง แต่ทั้งหมดล้วนเป็นอาวุธเวทย์มนตร์ที่อยู่ในระดับกลาง ตอนนี้เมื่อความแข็งแกร่งของฉู่เสวียนเพิ่มขึ้น วิสัยทัศน์ของเขาก็สูงขึ้นโดยธรรมชาติ เขาจึงดูถูกอาวุธเวทย์มนตร์ระดับกลางเหล่านี้เป็นธรรมดา...แต่มีก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย
จริงๆ แล้ว เขาอยากได้ลูกปัดเพชรของฮุยคงมากกว่า อาวุธเวทย์มนตร์นั้นสามารถใช้โจมตี ล่าถอย หรือป้องกันได้ทั้งหมด มันเป็นอาวุธวิเศษที่หายากและมีคุณค่า หากว่าต้องการขัดเกลาอาวุธชิ้นไหนเพิ่ม ก็แค่ใส่วิญญาณหยินเข้าไปในอาวุธชิ้นนั้น จากนั้นมันก็จะตกมาเป็นของเขาอย่างแท้จริง
น่าเสียดายที่ลูกปัดเพชรและเสื้อคลุมวัชระที่ฮุยคงใช้ได้รับความเสียหายในการต่อสู้ครั้งนั้นไปแล้ว จึงเหลือเพียงดาบเท่านั้นที่ตกมาถึงมือของฉู่เสวียน อย่างไรก็ตามดาบนี้ถูกสร้างขึ้นโดยผู้บำเพ็ญของวัดจินหลง และมีความแข็งแกร่งมาก มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะใส่วิญญาณเข้าไปควบคุมดาบ และเขาสามารถใช้พลังของมันได้มากที่สุดเพียง 30% เท่านั้น
"เอาล่ะ... ค่ายกลมังกรทอง ค่ายกลการควบคุมปีศาจ ค่ายกลปราบปรามปีศาจ...
"ค่ายกลเหล่านี้ล้วนเป็นค่ายกลที่ดี แต่ข้าใช้ไม่ได้ ดังนั้นข้าต้องหาทางขายมันออกไป .."
“‘ตำราสำคัญของการเข้าสู่ช่วงสร้างรากฐาน’ ก็ไม่เลวเลย ....”
"หือ มียาไท้ส่วยด้วยหรือ?" ฉู่เสวียนพบกล่องยาอยู่ที่มุมห้อง เขาแสดงสีหน้าแปลกใจออกมาทันที
ยาไท้ส่วยเป็นยาอายุวัฒนะที่ทำจากเนื้อไท้ส่วยเป็นส่วนประกอบหลัก
มันเป็นพิษร้ายแรงสำหรับผู้บำเพ็ญแก่นปราณทองคำ แต่สำหรับศพหยินนั้นมันถือเป็นอาหารเสริมชั้นเยี่ยม
หากพลทหารศพต้องการเลื่อนขั้นขึ้นเป็นนายพลศพ ยาไท้ส่วยนี้ถือว่าเป็นปัจจัยหลักในการช่วยให้เลื่อนขั้นไปได้
เดิมนิกายอู๋จี๋ปลูกไท้ส่วยไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อเอาเนื้อของมันมากลั่นหลอมเป็นยาไท้ส่วย
ตอนแรกฉู่เสวียนเองก็กังวลว่าในสถานการณ์แบบนี้จะไปหาเนื้อไท้ส่วยมาจากที่ไหนดี เพื่อเอามากลั่นหลอมเป็นยาไท้ส่วย แต่ ฮุยคงก็ส่งมันมาให้ถึงหน้าประตูบ้านของเขา
“จริงๆ แล้วในนี้ยังมีเมล็ดพันธุ์ไท้ส่วยอยู่ด้วย ฮุยคงน่าจะได้มาจากการฆ่าผู้บำเพ็ญสายมารเป็นแน่ แต่ด้วยความที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร จึงโยนมันเข้าไปในถุงเก็บของ” ฉู่เสวียนยิ้มและกล่าวออกมา
"นี่คือ..." ทว่าทันใดนั้นเขาก็ค้นพบกล่องหยกขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างสวยงาม บนพื้นผิวของกล่องหยกมีตราประทับและมีข้อความเขียนอยู่ ‘ถ้าเจ้ามีบุญไม่เพียงพอ ก็เปิดไม่ได้’
ฉู่เสวียนเลิกคิ้ว...บุญอย่างนั้นหรือ?
ไม่รู้ว่าคนอื่นมีบุญมากแค่ไหน แต่บุญที่เขามีนั้นถือว่ามหาศาลเลยก็ว่าได้!
ฉู่เสวียนเปิดกล่องหยกออกโดยไม่ลังเล
ก่อนจะเห็นว่ามีระฆังทองแดงโบราณวางอยู่อย่างเงียบ ๆ ในกล่องหยกนั้น
พื้นผิวระฆังทองแดงนี้สลักด้วยอักษรต่างๆ และมีภาพเทพเจ้าหลายองค์อยู่บนนั้น
บางองค์นี้มีดวงตาโกรธเกรี้ยว บางองค์ขมวดคิ้ว และบางองค์มีรอยยิ้มจางๆ ข้างกายมีอาวุธประจำกายอยู่
ทว่าทันใดนั้น ฉู่เสวียนก็ถูกสายตาของเทพเจ้าเหล่านี้จ้องมองมา และดูดจิตวิญญาณของเขาเข้าไปในนั้น เขากลายเป็นผู้อ่อนแอเหมือนมดไปในทันทีเทพเจ้าเหล่านี้ดูยิ่งใหญ่ดุจภูเขา
แต่ในชั่วพริบตา ภาพลวงตาอันแปลกประหลาดนี้ก็หายไปอีกครั้ง เขายังคงนั่งอยู่ในถ้ำเหมือนเคย “อาวุธวิเศษนี้ทำให้ข้ามองเห็นภาพลวงตาอย่างนั้นหรือ มันทรงพลังมาก?”
ฉู่เสวียนทั้งตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน
ทั้งที่เขายังไม่ได้เอามันก็ไปใช้งาน ก็ถูกอาวุธนี้คุกคามก่อนเสียแล้ว หากว่าเขาไม่สามารถควบคุมมันได้ เขาจะต้องทำอย่างไรต่อไปดี ? “ข้าไม่รู้ว่าข้าจะสามารถใช้ระฆังทองแดงนี้ได้หรือไม่”
ฉู่เสวียนคิดอย่างรอบครอบ หลังจากคิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ข้าก็ตัดสินใจหยิบมันออกมา
เต็ง!
ทันทีที่ถูกนำออกมา ระฆังทองแดงก็ดังขึ้นเอง แสงสีทองส่องประกายออกมาจากรูปแกะสลักพระพุทธเจ้า ราวกับว่าต้องการทดสอบว่าผู้ใช้มีคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่
ทันใดนั้น...ที่ด้านหลังศีรษะของฉู่เสวียนก็เกิดวงล้อแห่งบุญกุศลปรากฏขึ้นมา วงล้อแห่งบุญกุศลนี้หมุนวนอย่างช้าๆ ดูงดงามและกว้างใหญ่ตระการตา ราวกับว่าพระพุทธเจ้าเสด็จลงมาที่โลกใบนี้จริงๆ!
จากนั้นไม่นานเสียงระฆังทองแดงก็หยุดกะทันหัน
บนพื้นผิวของระฆังทองแดง เทพเจ้าแต่ละองค์ไม่ได้แผ่รัศมีกดดันออกมาหาฉู่เสวียนอีกต่อไป สีหน้าของแต่ละองค์ก็ตรงกันข้ามกับเมื่อครู่เป็นอย่างมาก...พวกเขาดูสุขใจและอิ่มเอ็มใจ
พรืบ...ในตอนนั้นแสงสีทองแห่งบุญก็ดับวูบลง
ฉู่เสวียนมองไปที่ระฆังทองแดงที่ดูเชื่อฟังตรงหน้าเขา ก็ได้แต่เกาหัวด้วยความงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ดูเหมือนว่าบุญเล็ก ๆ ที่ฆ่าซอมบี้ไปหลายร้อยล้านตัวของข้ายังคงมีประโยชน์อยู่บ้าง”
ฉู่เสวียนมองที่ระฆังทองแดงอย่างระมัดระวังและในไม่ช้าก็เห็นคำสามคำที่ด้านล่าง
“ระฆังบุญ” ฉู่เสวียนเลิกคิ้วอีกครั้ง เขาเหมือนเคยได้ยินชื่อของสมบัติชิ้นนี้มาก่อน
หยวนหง เจ้าอาวาสวัดจินหลงในขณะนั้น ได้ใช้ระฆังบุญนี้เมื่อยังเป็นผู้บำเพ็ญช่วงสร้างรากฐาน
เมื่อมีระฆังบุญอยู่ในมือ ก็ราวกับว่าหยวนหงได้สวมจีวรอันล้ำค่าของพระอรหันต์ ไม่ว่าศัตรูที่อยู่รอบตัวจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาก็มั่นคงและไม่สั่นไหว
ความสำเร็จสูงสุดของหยวนหงคือการที่เขาสามารถต่อต้านผู้บำเพ็ญสายมาร 6 คนที่อยู่ในเขตแดนเดียวกัน เป็นเวลาห้าวันห้าคืนติดต่อกันเพียงลำพัง จนกระทั่งกำลังเสริมมาถึง!
แต่ตอนนี้หยวนหงได้กลายเป็นผู้บำเพ็ญแก่นปราณทองคำระดับสูงแล้ว ระฆังบุญจึงถูกมอบให้กับศิษย์ผู้สืบทอดโดยธรรมชาติ
โดยไม่คาดคิด มันกลับถูกมอบให้กับฮุยคง!
เห็นได้ชัดว่าบุญของฮุยคงนั้นไม่เพียงพอ ไม่เช่นนั้นเขาคงจะเอาระฆังบุญออกมาใช้ในการต่อสู้ครั้งก่อนแล้ว
ระฆังบุญเป็นอาวุธเวทย์มนตร์ชั้นยอด หากมีระฆังบุญนี้อยู่ในมือและสามารถเปิดการใช้งานของมันได้ ฉู่เสวียนและทั้งสามคนก็จะไม่สามารถฝ่าแนวป้องกันของเขาไปได้
"ฮ่าฮ่า! ไม่มีใครสามารถใช้สิ่งนี้ได้! มีเพียงข้าเท่านั้นที่สามารถใช้มันได้!" ฉู่เสวียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
ช่างเป็นโอกาสอันดีที่พระเจ้าส่งมาให้ข้าจริงๆ! เกรงว่าแม้แต่วัดจินหลงเองก็คงไม่คิดว่าผู้บำเพ็ญสายมารอย่างเขาจะมีบุญกุศลถึงขนาดที่สามารถใช้ระฆังบุญนี้ได้!
ฉู่เสวียนมองไปที่ฮุยคงที่ยืนอยู่ข้างๆ และยิ้มออกมาด้วยความขอบคุณ "ฮุยคง ฮุยคง เจ้าช่วยข้าได้มากจริงๆ"
ฮุยคงดูสับสน เขาสูญเสียความทรงจำในตอนที่มีชีวิตไปนานแล้ว และตอนนี้เขามีแต่ความหวาดกลัวต่อฉู่เสวียน
ฉู่เสวียนใช้เวลานานมากในการดูสิ่งของที่อยู่ในถุงเก็บของของฮุยคง ก่อนที่จะพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ระฆังบุญ ยาไท้ส่วย และหินจิตวิญญาณระดับต่ำมากกว่าสามพันก้อน นี่ถือเป็นกำไรที่ใหญ่ที่สุดที่เขาได้มาจากถุงเก็บของของผู้บ่มเพาะทั้งหมดที่เขาฆ่าตายไป
หลังจากช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านไป เขาก็เริ่มวางแผนขั้นตอนต่อไปทันที
"ประการแรก ข้าจะต้องทำการฝึกฝนเทคนิคแมลงกู่ให้เชี่ยวชาญมากกว่าเดิม"
"ประการที่สอง ดูดซับลูกปัดโลหิตก้อนใหญ่และทำการเลื่อนระดับให้กับศพหยิน"
"ประการที่สาม ตามหาผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังเพื่อเอาวิญญาณดิบมาเป็นจิตวิญญาณหลักของค่ายกล"
ประการที่สี่ บ่มเพาะให้มากขึ้น เพื่อทะลวงผ่านเขตแดนให้อยู่ในขั้นที่สูงกว่านี้"
"ทุกสิ่งล้วนมีความสำคัญพอๆกัน"
"มันถูกต้องแล้วที่ข้าจะใช้ประโยชน์จากกระแสเวลาที่แตกต่างกันระหว่างทวีปชางเสวียนและดาวเคราะห์โลกาวินาศในการเร่งความเร็วของการบ่มเพาะ!" ฉู่เสวียนหยิบกระจกโลหิตที่เต็มไปด้วยพลังงานออกมา และฉีดพลังวิญญาณเข้าไปทันที