OS ตอนที่ 43 พิสูจน์ทฤษฎีการวิวัฒนาการ
อีควิน็อกซ์ยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจเมื่อได้เห็นสัตว์อัญเชิญใหม่ของเขา ซึ่งมีความสามารถในการรักษา มันจะมีส่วนช่วยอย่างมากในระหว่างการต่อสู้
แต่เมื่อเขาตรวจสอบความสามารถที่เจ้านกสาลิกาได้รับมา ใจของเขากลับไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่
==
ทักษะ: ลมหายใจของนกสาลิกา
เอฟเฟ็กต์: ฟื้นฟูพลังชีวิต 0.2% ของเป้าหมายต่อวินาที ตามพลังโจมตีพื้นฐานของผู้ใช้
คูลดาวน์: ไม่มี
==
==
ทักษะ: แสงแห่งความหวัง
เอฟเฟ็กต์: ฟื้นฟูพลังชีวิตสมาชิกปาร์ตี้ 5% ของพลังชีวิต
คูลดาวน์: 1 นาที
==
==
ทักษะ: ออร่าส่องแสง
เอฟเฟ็กต์: เพิ่มพลังชีวิตและการฟื้นฟูมายาของสมาชิกปาร์ตี้อย่างต่อเนื่อง
==
แม้ทักษะเหล่านี้จะดูมีประโยชน์ แต่เขากลับรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะนี่คือสิ่งมีชีวิตระดับโบราณ ซึ่งเขาหวังว่ามันจะมีพลังมากกว่านี้ อาจเป็นเพราะเจ้านกน้อยตัวนี้ยังอยู่ในระดับเลเวลที่ต่ำอยู่
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาสนใจก็คือ เซน่าไม่ได้อยู่ในวัยเด็กแล้ว เนื่องจากไม่มีคำว่า ‘วัยเด็ก’ ต่อท้ายชื่อ นั่นหมายความว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตในร่างของวัยผู้ใหญ่แล้ว
อีควิน็อกซ์จึงตัดสินใจตรวจสอบสถานะของเซน่าอีกครั้งอย่างละเอียด
==
ชื่อ: เซน่า
สายพันธุ์: นกสาลิกาเผือก (สายพันธุ์ซาริมาโนก)
เลเวล: 1
HP: 75 / 75
ค่าประสบการณ์: 0 / 100%
ทักษะ: ทักษะใช้งาน (กดขยาย) ทักษะติดตัว (กดขยาย)
วิวัฒนาการ: เป็นไปได้
==
ความสนใจของอีควิน็อกซ์ถูกดึงดูดไปยังคำว่า ‘วิวัฒนาการ’ เขาอยากรู้ว่าเซน่าจะสามารถเติบโตเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังยิ่งขึ้นได้อย่างไร
ด้วยความตื่นเต้น เขารีบตรวจสอบเส้นทางวิวัฒนาการที่เป็นไปได้ทันที
วิวัฒนาการ: คาลาเดรียส[1] (สายพันธุ์ซาริมาโนก)
ข้อกำหนดในการวิวัฒนาการ:
1.) ฟื้นฟูความเสียหาย 100,000 หน่วย
2.) ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของผู้อื่นเป็นจำนวน 100 คน
3.) เลเวล 50
‘จะต้องทำการรักษาผู้อื่น’ เขาคิดในใจ
สุดท้ายแล้ว วิวัฒนาการของเซน่าจะขึ้นอยู่กับการรักษาผู้อื่นเป็นหลัก
อีควิน็อกซ์รู้สึกประหลาดใจ ที่มันไม่ได้วิวัฒนาการเป็นนกซาริมาโนกโดยตรง ไม่แน่ว่า มันอาจจะกลายเป็นวิวัฒนาการขั้นสูงสุดของมัน
อีควิน็อกซ์รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะเขามีสัตว์อัญเชิญที่มีเส้นทางวิวัฒนาการขั้นสูงสุด และเขาเพียงแค่ต้องทำตามข้อกำหนดเท่านั้น
ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่อาจปิดกั้นความกังวลในใจของเขาเกี่ยวกับสัตว์อัญเชิญตัวอื่น ๆ ได้ เพราะทั้ง ซิริอุสและคันลาออนยังไม่มีเส้นทางวิวัฒนาการที่ชัดเจน ซึ่งหมายความว่าเขาอาจจะต้องหาวิธีใหม่ในการพัฒนาพวกมัน
เขารู้ว่าหลายคนยกเลิกพันธะกับสัตว์อัญเชิญตัวเก่าเมื่อพบสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังมากกว่า แต่เขาไม่อยากทำเช่นนั้น อีควิน็อกซ์เชื่อว่าในโลกของเกมนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุด
เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขาได้พบกับหินอัปเกรด ซึ่งทำให้เขาคิดว่าอาจจะมีสิ่งของหรือวิธีการอื่นๆ ที่สามารถเพิ่มศักยภาพของซิริอุสกับคันลาออนได้
บางที เขาอาจจะต้องถามเพื่อนของเขาอย่าง แพนน์ เพื่อหาคำตอบ แต่นั่นคงเป็นเรื่องที่ต้องเก็บไว้ถามทีหลัง
หลังจากตรวจสอบเซน่าเสร็จ เขาก็หันไปตรวจสอบเส้นทางวิวัฒนาการของซิริอุสและคันลาออนบ้าง
วิวัฒนาการ: ออร์โธส[2]
ข้อกำหนดในการวิวัฒนาการ:
1) ต้องอยู่ในอาณาจักรใต้ดิน
2) ได้รับหินวิญญาณสายพันธุ์สุนัขสายฟ้า
อีควิน็อกซ์ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ เขาไม่ต้องการให้ซิริอุสวิวัฒนาการไปเป็นออร์โธสเลย เพราะออร์โธสเป็นสัตว์อสูรที่พบได้ทั่วไปในนรก และต้องมีเลเวลอย่างน้อย 200 จึงจะพบมันได้
ผู้เล่นที่สามารถไปถึงนรกใต้ดินได้มักจะถูกกำจัดโดยออร์โธสในช่วงแรก ๆ ที่ไปถึง
แต่ส่วนที่เขาไม่ชอบที่สุด คือนิสัยใจคอของออร์โธส เขาเคยอ่านเจอในหนังสือว่าหัวทั้งสองของออร์โธสมักจะทะเลาะกัน และถ้าเป็นแบบนั้นจริง มันจะสร้างปัญหาในระยะยาวแน่นอน
เขาจึงไม่คิดจะทำให้ซิริอุสวิวัฒนาการไปในทิศทางนี้ มันจะอยู่ในร่างของหมาป่าปีศาจ จนกว่าเขาจะหาวิธีเบี่ยงเบนเส้นทางวิวัฒนาการได้
วิวัฒนาการ: ราชามังกรไฟ
ข้อกำหนดในการวิวัฒนาการ:
1.) ต้องมีเลเวล 300
2.) ผ่านบททดสอบของราชามังกร
เขาแทบจะเป็นลมเมื่อเห็นข้อกำหนดวิวัฒนาการของคันลาออน
ถึงจะรู้ว่าคันลาออนเป็นมังกรระดับสูง แต่เลเวล 300 นั้นดูเหมือนเป็นไปไม่ได้เลย เขาคำนวณในใจว่าเขาจะต้องใช้เวลาเล่นเกมนี้ประมาณสองปีในเกมกว่าจะไปถึงเลเวลนั้น ซึ่งก็คือเวลาหลายปีในชีวิตจริงกว่าจะทำได้สำเร็จ
โชคดีที่อีควิน็อกซ์ยังมีไอเดียอื่น ๆ เขานึกถึงหนึ่งในไอเทมที่เพิ่งได้รับมา นั่นคือแก่นมังกรก้นเหว
==
ชื่อ: แก่นมังกรก้นเหว
ระดับ: โบราณ
คำอธิบาย: แก่นของมังกรน้ำสายพันธุ์สูงสุดที่เป็นผู้ปกครองเหนือธาตุน้ำและธาตุน้ำแข็งทั้งมวล
เอฟเฟ็กต์: เพิ่มคุณสมบัติของมังกรก้นเหว
เงื่อนไข: สิ่งมีชีวิตประเภทมังกรหรือความเชี่ยวชาญของช่างตีเหล็กขั้นสูง
==
ไอเทมนี้สามารถใช้เป็นวัสดุในการตีเหล็กหรือเพิ่มพลังให้กับสิ่งมีชีวิตประเภทมังกรได้
เมื่ออีควิน็อกซ์หยิบแก่นมังกรนี้ออกจากคลังไอเทม คันลาออนก็เริ่มตัวสั่น ราวกับมันสัมผัสได้ถึงพลังของไอเทมนี้ เจ้ามังกรยักษ์ยาว 10 เมตร เดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับทำตาบ้องแบ๊วราวกับเด็กน้อยขอขนมหวาน
เขาหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นคันลาออนแสดงท่าทางน่ารักแบบนั้น แล้วเขาก็ยื่นไอเทมให้กับมัน
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขาตกตะลึง เพราะคันลาออนกินแก่นมังกรเข้าไปทั้งดุ้น!
อีควิน็อกซ์จินตนาการว่าคันลาออนใช้เวทมนตร์มังกร หรืออะไรบางอย่างเพื่อดูดซับแก่นเข้าไป หรือทำอะไรเจ๋ง ๆ สักอย่าง แต่กลับกลายเป็นว่ามันกินเข้าไปแบบดื้อ ๆ ซะอย่างนั้น
อย่างไรก็ตาม อีควิน็อกซ์กลับต้องกระโดดด้วยความดีใจ เพราะความคาดหวังอย่างหนึ่งของเขากลายเป็นความจริง
วิวัฒนาการ: มังกรฟรอสต์ไฟร์
ข้อกำหนดในการวิวัฒนาการ:
1.) แก่นมังกรก้นเหว
2.) เลเวล 75
ทฤษฎีของอีควิน็อกซ์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสิ่งของบางอย่างสามารถส่งผลต่อวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ดังนั้น อีควิน็อกซ์จึงมองเห็นความหวังสำหรับซิริอุสแล้ว
ตอนนี้เขากำลังเพ้อฝันถึงการสร้างสุดยอดทีม โดยการนำพาสัตว์อัญเชิญของเขาไปสู่ขั้นสูงสุดของการวิวัฒนาการของพวกมัน
ในระหว่างนั้น อีควิน็อกซ์ก็ตรวจดูสถานะปัจจุบันของเขา เพื่อดูว่าตอนนี้เขาก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว
==
ชื่อ: อีควิน็อกซ์
เผ่าพันธุ์: เดมอส (เชื้อสายแอสโมเดียน)
สายพันธุ์: อิมป์ (ปีศาจระดับล่าง)
ฉายา: ผู้กล้าแห่งเทพเจ้าคู่แฝด, ผู้ฝึกมังกร (กดขยาย)
อาชีพ: นักอัญเชิญ (สืบทอดนักอัญเชิญโอเมก้า)
เลเวล: 17
ค่าประสบการณ์: 0 / 100%
HP: 1500 / 1500
MP: 950 / 950
VIT: 70 + 5
STR: 75 + 10
INT: 75 + 20
AGI: 70 + 10
DEX: 70 + 15
END: 68
ค่าสถานะที่ใช้ได้คงเหลือ: 18
ทักษะ: ทักษะอาชีพ (กดขยาย), ทักษะใช้งาน (กดขยาย), ทักษะติดตัว (กดขยาย), ทักษะเผ่าพันธุ์: เวทมนตร์ต้นกำเนิด (กดขยาย)
==
จากนั้น อีควิน็อกซ์ก็ทำการอัปเกรดชุดรบแอสโมเดียนให้เป็นระดับหายาก เนื่องจากเขามีชุดเกราะที่ดรอปมาจากพวกอันเดด เนื่องจากพวกมันไม่สามารถใช้กับสิ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ เขาจึงนำพวกมันไปอัปเกรดโดยไม่รู้สึกเสียดายเลยแม้แต่น้อย
==
ชื่อ: ชุดรบแอสโมเดียน (ไอเทมเติบโต) (ผูกมัดกับตัวละคร)
ระดับ: หายาก
เอฟเฟ็กต์: ลดความเสียหายทางกายภาพ 15% ลดความเสียหายทางเวทมนตร์ 15% HP + 500 HP Regen + 50%
ช่อง: 1. ว่างเปล่า 2. ว่างเปล่า 3. ว่างเปล่า
เงื่อนไข: สายเลือดแอสโมเดียน
==
ผลลัพธ์ของการอัปเกรดนั้นเป็นที่น่าพึงพอใจ เนื่องจากมันปลดล็อคคุณสมบัติใหม่ และเพิ่มการลดความเสียหาย
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาตกใจ นั่นคือรูปลักษณ์ของชุดรบ ตอนนี้ชุดนั้นเผยให้เห็นข้อศอกของเขา
อีควิน็อกซ์หวังว่านั่นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นกับมัน
จากนั้น เขาก็ละความสนใจเรื่องชุด แล้วเอาความสนใจไปที่ภารกิจสำคัญต่อไปของเขา ซึ่งก็คือการมองหาอาชีพรอง
เลเวลของเขาสูงกว่า 15 แล้ว แต่ยังไม่มีอาชีพรองเลย และอีกอย่าง มันเป็นภารกิจของอัสคาลอร์ที่บอกให้เขาทำ
เมื่อเขาเดินเข้าไปทางเมือง เขาได้ดึงดูดความสนใจของชาวเดมอสคนอื่น ๆ เพราะกลุ่มของเขาดึงดูดสายตามาก มันมีทั้งมังกร หมาป่ายักษ์ นกสาลิกาสีขาวน่ารัก และอิมป์ซึ่งตอนนี้ผมของเขาเป็นสีขาวครึ่งหนึ่งพร้อมมงกุฎลอยอยู่เหนือหัว และตัวเขาดูเหมือนขุนนาง เพราะเครื่องแต่งกายของเขา ยกเว้นเท้าของเขาเพราะมันเป็นรองเท้าเริ่มต้น
เขาจำเป็นต้องหาวิธีแปลงร่างให้กับคันลาออนกับซิริอุส เพื่อที่พวกมันจะไม่ดึงดูดความสนใจมากเกินไป ไว้เขาจะถามเพนน์ในภายหลัง แต่ก่อนอื่นเขาต้องจัดการกับภารกิจที่อยู่ตรงหน้าเสียก่อน
ด้วยความน่าสนใจ พวกเด็ก ๆ แห่กันไปหาซิริอุสเพื่อลูบต้วของมัน แต่พ่อแม่ของพวกเด็ก ๆ ก็รีบพาตัวพวกเขาไป
อีควิน็อกซ์กำลังดูอาชีพรองต่าง ๆ ที่มีอยู่ในที่ราบพาราด็อกซ์ บางทีเขาอาจจะเจอเข้ากับอาชีพรองที่หายาก เนื่องจากเผ่าเดมอสไม่สามารถใช้เวทมนตร์ธาตุได้
เขานึกถึงจีอันนาขึ้นมาได้ทันที เพราะเธอเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ แม้ว่าพฤติกรรมของเธอจะดูแปลกไปสักหน่อย แต่เธอต้องเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับแกรนด์มาสเตอร์อย่างแน่นอน เพราะสามารถขายยาฟื้นฟูสมบูรณ์ได้
ด้วยระดับความชำนาญของเธอ กิลด์ต่าง ๆ มากมายจะต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อเชิญเธอเข้ากิลด์อย่างแน่นอน เนื่องจากผลของการต่อสู้ มันขึ้นอยู่กับจำนวนยาที่พกเอาไว้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่กิลด์ต่าง ๆ จึงเปิดรับผู้เล่นที่เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุแทบจะตลอดเวลา
แต่เอเดรียนต้องการอาชีพรองที่ช่วยเขาในการต่อสู้ด้วย และเขาก็ไม่ต้องการเป็นช่างตีเหล็ก เพราะทักษะติดตัวของการทำลายเกราะนั้นใช้ได้กับอาวุธเท่านั้น และถุงมือเสี้ยวสนธยาของเขาไม่ได้เป็นอาวุธที่สร้างความเสียหายโดยตรง
มันเป็นถุงมือสำหรับนักอัญเชิญที่ใช้ในการร่ายเวย์ และเสริมพลังเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ความเสียหายทางกายภาพ แต่การที่มันสามารถใช้สร้างความเสียหายได้ มันเป็นเพราะมันติดตั้งรูนแห่งคลื่นระเบิด
อีควิน็อกซ์กำลังเดินและคิดไปพร้อม ๆ กัน นั่นเป็นเหตุว่าทำไมเขาถึงไม่รู้ตัวว่าเขาออกจากบริเวณกลางเมืองไปแล้ว และเดินไปยังสถานที่ที่มีเวิร์กช็อปไม่กี่แห่ง เมื่อไปถึงสถานที่ที่มีป้ายเขียนว่า อาลักษณ์เอิร์นนาส
อีควิน็อกซ์หยุดเดินและสงสัยว่าอาลักษณ์คืออะไร ด้วยความสนใจ เขาจึงเดินเข้าไปในร้าน
ภายในร้านมีหนังสือและเครื่องรางมากมาย และยังมีหินรูนอีกด้วย
ขณะที่อีควิน็อกซ์คิดว่าอาลักษณ์นั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง เขาก็ต้องประหลาดใจ เพราะคำจารึกที่เขียนบนกระดาษและหินนั้นส่องแสงออร่าออกมา โดยแต่ละคำจารึกนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และบางคำจารึกมีผลทำให้จิตใจสงบ ในขณะที่บางจารึกก็ทำให้หายใจไม่ออกเพียงแค่ยืนอยู่ข้าง ๆ คำจารึกนั้น
สิ่งเหล่านี้ดูน่าสนใจมาก อีควิน็อกซ์หวังว่าอาลักษณ์จะเป็นอาชีพรอง ไม่ใช่สายอาชีพของนักเวทย์
เขากำลังเดินด้วยความหวาดกลัวจนกระทั่งเขาชนเข้ากับใครบางคน และเผลอส่งเสียงร้องออกมา
"อ๊า! ขอโทษที... เอ่อ เด็กน้อยงั้นเหรอ?" อีควิน็อกซ์บ่นพึมพำ
แต่ทันทีที่เขาพูดจบ สีหน้าของคนที่อีควิน็อกซ์ชนก็แสดงความไม่พอใจออกมา และพัดกระดาษก็ฟาดเข้าที่ศีรษะของอีควิน็อกซ์ หน้าผากของเขาก็นูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
[1] Caladrius สัตว์ในตำนานของยุโรปในยุคกลาง มันเป็นนกสีขาวหิมะหรือสีเหลืองที่อาศัยอยู่ในปราสาทของพระราชา ว่ากันว่ามันมีความสามารถดูดซับความเจ็บป่วยไว้ที่ตัว และบินจากไปยังพื้นที่ห่างไกล เพื่อรักษาตัวเองกละรักษาคนป่วย
[2] ตามปกรณัมกรีก ออร์โธส มีรูปร่างเป็นสุนัขสองหัว มันเป็นลูกหลานของอีคิดนากับไทฟอน และเป็นพี่ชายของเซอร์เบอรัส ซึ่งเป็นสุนัขเฝ้ายามหลายหัวเช่นกัน