CD บทที่ 558 เห็นผี
“โอย…”
เมื่อร่างของพวกเขาล้มลงกับพื้น โจรสาวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ส่วนจ้าวหยู่ยังคงสูดหายใจเข้าเต็มปอด ขณะเชยชมเรือนร่างอันสวยงาม พร้อมกับหน้าอกที่เขาไม่อาจละสายตาได้
‘ถึงเธอจะตัวเล็ก แต่หน้าอกของเธอใหญ่มาก!’
แต่เพียงไม่นาน โจรสาวก็ฟื้นตัวจากอาการมึนงง เธอยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นตบหัวของจ้าวหยู่ด้วยความโมโห และยกขาขึ้นเตะเข้าใส่เขาเต็มแรง
จ้าวหยู่รู้สึกเจ็บปวดจนต้องคว้าข้อเท้าของเธอขึ้นมาและยืนขึ้น โจรสาวที่ตัวเล็กกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เมื่อเขายกตัวเธอขึ้นสูง มันดูราวกับว่าเขากำลังอุ้มลูกเจี๊ยบตัวหนึ่ง
ร่างของเธอห้อยหัวลง เธอทั้งดิ้นรนและส่งเสียงกรีดร้อง ขยับแขนขาไปมาเพื่อพยายามหลบหนี สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้จ้าวหยู่รู้สึกขบขัน เขาคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่ทันที่จะได้กล่าวคำออกมา โจรสาวก็หยิบไฟฉายออกมาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วฟาดใส่หัวเข่าเขาเต็มแรง
พลัวะ!
"โอ๊ย!"
จ้าวหยู่ประมาทเกินไปจนละเลยการป้องกัน เขาปล่อยให้ตัวเองโดนเธอตีโดยไม่ทันตั้งตัว
เขาปล่อยมือจากโจรสาวทันที เธอล้มลงกับพื้นอีกครั้ง และครางออกมาด้วยความเจ็บปวด ขณะเดียวกันเธอก็พลิกตัวอย่างรวดเร็ว แล้วลอดใต้หว่างขาของจ้าวหยู่ หมายจะหลบหนีไป
โชคดีที่จ้าวหยู่ตอบสนองเร็ว เขาหันกลับมาและคว้ากระเป๋าเป้ของเธอไว้ทัน ทว่าแรงดึงทำให้ซิปกระเป๋าเปิดออก เผยให้เห็นกล่องยาและขวดยาจำนวนมาก พวกมันหล่นออกมากระจัดกระจายเต็มพื้น
'ยา? เธอขโมยยาจากไหนมาเนี่ย?'
จ้าวหยู่ไม่อยากจะเชื่อสายตา ก่อนจะนึกถึงภาพยนตร์ที่ตัวเอกขโมยยาจากโรงพยาบาล
‘ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นในชีวิตจริง’
‘หัวขโมยที่ลงทุนพกอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย เธอทำแบบนั้นเพื่อยาพวกนี้เท่านั้นเหรอ?’
จากนั้น เขาก็ใช้เวลาในการมองดูอาคารข้าง ๆ เขาอีกครั้ง
นอกจากนี้ เธอยังขโมยยาจากโรงพยาบาลจิตเวชอีกด้วย นั่นหมายความว่าเธอมีอาการทางจิตงั้นเหรอ?
หลังจากเห็นโจรสาวเริ่มวิ่งหนีไปอีกครั้ง จ้าวหยู่ก็ตัดสินใจไล่ตามด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาวิ่งตามเธอเข้าไปในซอยแคบ ๆ ที่มืดมิด สองร่างวิ่งตัดผ่านเงาในคืนอันเงียบสงัด
โรงพยาบาลจิตเวชฮัวซินอยู่ห่างจากตัวเมือง รอบบริเวณมีเพียงโรงงานไม่กี่แห่ง และถนนที่ไม่มีแม้แต่เสาไฟ ถนนเปล่าเปลี่ยวมีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องสว่างนำทาง แม้ว่าโจรสาวจะพยายามหลบหนีด้วยการวิ่งวกวนไปมา แต่จ้าวหยู่ยังคงตามหลังเธออย่างใกล้ชิด
ในที่สุด โจรสาวก็ตัดสินใจปีนต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ริมถนน เธอไต่ขึ้นไปอย่างคล่องแคล่ว แล้วกระโดดจากกิ่งไม้ข้ามกำแพงเข้าไปในเขตโรงงาน จ้าวหยู่มองตามด้วยความทึ่ง
‘ว้าว! เธอสมควรได้รับฉายาว่าแมวขโมยจริง ๆ เธอเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วมาก!’
จ้าวหยู่เงยหน้าขึ้นมองต้นไม้ใหญ่ และพบว่ากิ่งก้านของมันดูบอบบางมาก เขาสงสัยว่าผู้หญิงคนนั้นปีนขึ้นไปได้อย่างไร
เขามองหาวิธีข้ามกำแพง ก่อนจะเห็นถังขยะใบใหญ่ที่อยู่ใกล้ ๆ จ้าวหยู่วิ่งไปหาแล้วใช้มันเป็นฐานเพื่อกระโดดข้ามกำแพงไปอีกฝั่ง เขากระโดดเข้ามาภายในโรงงาน แต่ไม่เห็นร่องรอยของโจรสาวเลย ทว่าทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นมา เขาก็ต้องชะงัก
โจรสาวยืนอยู่ตรงหน้าเขา ไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่ทำให้จ้าวหยู่แปลกใจกว่าคือ เธอดูตกใจจนตัวสั่น สายตาจับจ้องไปยังบางสิ่งที่อยู่ข้างหน้าโดยไม่สนใจเขาเลย
จ้าวหยู่มองตามสายตาของเธอ และต้องตกตะลึงเช่นกัน ห่างออกไปไม่ถึงสิบเมตร มีหมาป่าสองตัวใหญ่ยืนอยู่ ตัวหนึ่งขู่คำราม ส่วนอีกตัวจ้องมองพวกเขาอย่างดุร้าย
จ้าวหยู่ยื่นมือไปที่เอวโดยสัญชาตญาณเพื่อหาปืน แต่เขาพึ่งนึกขึ้นได้ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พกปืนติดตัวมา
‘เชี่ยแล้ว!’
จ้าวหยู่สบถอยู่ในใจ
ขณะเดียวกันหมาป่าทั้งสองตัวค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ พร้อมกันนั้นโจรสาวก็ถอยหลังมาหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว เขาจึงรีบเตือนโจรสาวไปว่า
“อย่าขยับ! ฉันเป็นตำรวจ!”
“คุณพูดกับฉัน หรือกับหมาพวกนั้น?” เธอถามอย่างสงสัย แต่ยังคงตัวสั่นอยู่
“ถ้าฝ่ายไหนฟังฉันออก ฉันก็หมายถึงฝั่งนั้นแหละ ฟังฉันให้ดี ๆ ถ้าไม่อยากให้พวกมันวิ่งเข้ามา ช่วยอยู่นิ่ง ๆ ด้วยเข้าใจไหม?” จ้าวหยู่กล่าว
“แล้วทำไมฉันต้องเชื่อคุณด้วย? คุณอยากให้พวกมันกัดฉัน เพื่อที่คุณจะได้หนีไปได้ใช่ไหม?” เธอพูดพลางกลอกตา
‘ไม่ได้จะทำแบบนั้น!’ จ้าวหยู่คิดในใจ
ขณะพยายามหาทางออก หมาป่าทั้งสองตัวเริ่มเห่าอย่างดุดัน เสียงเห่าดังก้องกลางความเงียบของค่ำคืน มันทำลายการป้องกันจิตใจของโจรสาวอย่างสิ้นเชิง เธอไม่สามารถข่มความกลัวได้อีกต่อไป จึงหันหลังและวิ่งหนีทันที
“โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง!”
ตามที่คาดไว้ เมื่อเธอเริ่มวิ่ง หมาป่าดุร้ายทั้งสองตัวก็ไล่ตามเธอทันที
“แม่งเอ๊ย!”
จ้าวหยู่สบถออกมา ขณะที่เขาเริ่มวิ่งตามโจรสาวไป
“โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง!”
แต่เนื่องจากสถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่และว่างเปล่า ไม่มีที่ซ่อน พวกเขามีเพียงกำแพงสูงที่จะช่วยหลบหนี แต่การปีนข้ามนั้นไม่ง่ายเหมือนการเข้ามา
ด้วยความตึงเครียด จ้าวหยู่จึงอยากใช้เครื่องบินล่องหนของเขา และบินข้ามกำแพงไปพร้อมกับโจรสาว แต่เครื่องบินล่องหนนั้นมีค่าเกินไป เขาจึงลังเลที่จะใช้มัน
“นี่คุณ! ช่วยส่งฉันข้ามกำแพงมาเร็วเข้า!” โจรสาวสั่งจ้าวหยู่
“โอ้! ได้เลย!” หลังจากจ้าวหยู่พยักหน้าเห็นด้วย เขาก็ด่าในใจทันที
‘ทีอย่างนี้มาขอความช่วยเหลือเฉย ทั้ง ๆ ไม่เชื่อฉันตั้งแต่แรก แล้วอีกอย่าง พอฉันส่งเธอข้ามกำแพงไปแล้ว แล้วฉันล่ะ จะปล่อยให้ฉันโดนพวกหมาป่าขย้ำรึไง!?’
ในขณะนั้น จ้าวหยู่ก็มีความคิดชั่วร้าย โดยการปล่อยให้พวกหมาป่ากัดเธอ
แต่ทว่า มันเป็นเพียงแค่ความคิดเท่านั้น เขาไม่คิดจะลงมือทำจริง ๆ
โชคดีที่จ้าวหยู่คิดไอเดียอื่นขึ้นมาได้ ด้วยอุปกรณ์ล่องหนมากมาย เขามีอุปกรณ์ล่องหนที่มีชื่อว่าน้ำหอมล่องหนอยู่
เขาจำได้ว่าตอนที่เขากำลังตรวจสอบแถบอุปกรณ์ของเขาก่อนหน้านี้ เขาได้ดูการแนะนำน้ำหอมล่องหนอย่างละเอียด
หลังจากเปิดใช้งานอุปกรณ์แล้ว มันสามารถสร้างกลิ่นที่ผู้ใช้เลือกได้ ซึ่งในบรรดากลิ่นทั้งหมด มีสิ่งที่เรียกว่ากลิ่นหมู
‘นั่นแหละ!’
เขาคิดว่าชื่อนั้นแปลก เขาจึงลองดูอีกครั้ง เขาพบว่าหน้าที่หลักของกลิ่นหมูคือใช้ต่อสู้กับหมาป่าดุร้าย ดังนั้น การใช้กลิ่นหมูในตอนนี้จึงถือเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
จ้าวหยู่กดใช้น้ำหอมล่องหนและเลือกกลิ่นหมูทันที กลิ่นพิเศษฟุ้งกระจายไปในอากาศ
ในตอนแรก หมาป่าตัวหนึ่งกำลังจะกระโจนเข้าหาจ้าวหยู่ แต่เนื่องจากกลิ่นที่กระจายออกไปอย่างกะทันหัน มันจึงชะงักพร้อมกับถอยหนี ราวกับว่าโดนไฟฟ้าช็อต
อย่างไรก็ตาม โจรสาวยังคงไม่มีการป้องกัน หมาป่าตัวหนึ่งกำลังจะกระโจนเข้าหาเธอ จ้าวหยู่จึงรีบคว้าตัวเธอมากอดเข้ามาใกล้หน้าอกของเขา
“ไอ้โรคจิต! ปล่อยฉันนะ! อี๋แหวะ! เหม็นชะมัดเลย!” เธอตะโกนพลางดิ้นรน
ทันใดนั้น โจรสาวก็สับสนและหวาดกลัว เธอไม่รู้ว่าทำไมจ้าวหยู่ถึงทำเรื่องแปลก ๆ เช่นนี้
“หงิง ๆ”
หมาป่าตัวที่สองได้กลิ่นและหยุดเห่าทันที มันถอยหนีราวกับว่าโดนไฟฟ้าช็อตด้วย
จ้าวหยู่รู้ว่าพวกหมาป่าหนีไปนานแล้ว แต่เขายังคงกอดร่างของโจรสาวไว้แน่น เขาสัมผัสได้ว่าร่างของหญิงสาวนั้นนุ่มนิ่มและเด้งดึ๋งมาก โดยเฉพาะตรงนั้น...
ขณะที่จ้าวหยู่กำลังถูตัวเธออย่างหื่นกระหาย หน้ากากของโจรสาวก็หลุดออกอย่างกะทันหัน เผยให้เห็นใบหน้าที่ซ่อนอยู่ มันเป็นใบหน้าที่ทำให้จ้าวหยู่ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ
“อ๊า!”
จ้าวหยู่ถึงกับตะลึง เขาไม่เพียงแต่ปล่อยโจรสาวไปเท่านั้น เขายังถอยหลังไปอีกสองก้าวอย่างรวดเร็ว จนเกือบจะล้มลงไปบนพื้น
"คุณ!!!"
เมื่อหลุดจากพันธนาการของจ้าวหยู่ เธอจึงหันหลังกลับ และปีนข้ามกำแพงไป จากนั้นก็วิ่งหนีต่อไป
ตอนนี้เหลือเพียงจ้าวหยู่เท่านั้น เขายืนอยู่ที่นั่นคนเดียว ดูหวาดกลัว ราวกับว่าเห็นผี...