ตอนที่แล้วบทที่ 73 ห้องโถงไร้สิ้นสุด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 75 ข้อความจากผู้เขียน (ไม่แปล)

บทที่ 74 อู๋เซี่ยนถูกตัดหัว


บทที่ 74 อู๋เซี่ยนถูกตัดหัว

ในตอนนี้อู๋เซี่ยนกำลังต้องการอาหารและน้ำอย่างมาก

หากไม่ได้รับเสบียงเพิ่มเติม เขาต้องตายอย่างแน่นอน

เมื่อเห็นว่าอู๋เซี่ยนไม่ได้แสดงการคัดค้าน กลุ่มชายหนุ่มหญิงสาวทั้งห้าก็เริ่มหยิบจานอาหารแต่ละจานและเตรียมโยนไปหาอู๋เซี่ยน

แต่อู๋เซี่ยนยังคงมีความระแวดระวังอยู่ เขาหยิบกระจกสะท้อนปีศาจแปดทิศออกมาและส่องไปที่กลุ่มคนเหล่านั้น

สิ่งที่สะท้อนออกมาจากกระจก ทำให้อู๋เซี่ยนมีสีหน้าที่หม่นหมองลงในทันที

นอกจากความตกใจแล้ว สิ่งที่มากกว่านั้นคือความผิดหวัง

แม้อู๋เซี่ยนจะคาดเดาไว้แล้วว่าน่าจะเป็นเช่นนี้ แต่การที่ไม่ได้กินอาหารร้อนๆ ก็ทำให้เขารู้สึกหดหู่ขึ้นมา

ในกระจกไม่ได้สะท้อนภาพของชายหญิงทั้งห้าคน

แต่สะท้อนภาพของศพไร้หัวห้าศพ!

ศพเหล่านี้สวมเสื้อผ้าขาดวิ่น ร่างกายเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็น และท่อนล่างของพวกมันเชื่อมต่อกับผนังเนื้อของทางเดินด้วยเส้นใยกล้ามเนื้อมากมาย

ในมือของพวกมัน ไม่ได้ถือจานอาหารร้อนๆ แต่อย่างใด

แต่เป็นหัวของพวกมันเอง!

หัวทั้งห้านั้นเต็มไปด้วยบาดแผลเล็กๆ บนใบหน้าแสดงอาการบิดเบี้ยวน่ากลัว ผมของพวกมันถูกถักเป็นเปียยาว และที่ปลายเปียมี

ใบมีดคมกริบส่องประกายเย็นวาบอยู่!

อู๋เซี่ยนปฏิเสธพวกมันทันที

“เดี๋ยวก่อน ฉันไม่กินแล้ว พวกคุณกินกันเองเถอะ”

แต่ชายหญิงทั้งห้าคนไม่ได้สนใจคำปฏิเสธของอู๋เซี่ยน พวกมันโยนสิ่งที่ถืออยู่ในมือใส่อู๋เซี่ยนตรงๆ

“รีบกินซะสิ มันอร่อยมากเลยนะ จะทำให้คุณอร่อยจนหัวหลุดไปเลยล่ะ!”

ในกระจกสะท้อนปีศาจแปดทิศ

หัวทั้งห้าต่างลืมตากว้างและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง มันหมุนอยู่ในอากาศ ขณะที่เปียผมของพวกมันพัดพาใบมีดหมุนวนด้วยความเร็วสูง หากปล่อยให้พวกมันเข้าใกล้ ร่างของอู๋เซี่ยนจะถูกใบมีดเหล่านั้นหั่นเป็นชิ้นๆ!

แต่เวลานั้นสั้นนัก อู๋เซี่ยนไม่มีเวลาพอจะตอบสนองมากนัก

เขารีบยื่นกระจกสะท้อนปีศาจแปดทิศไปข้างหน้าและเปิดใช้งานพลังขับไล่ปีศาจและทำลายพลังชั่วร้ายของกระจกทันที!

แสงสีทองพุ่งออกจากกระจกสะท้อนปีศาจแปดทิศ แผ่ขยายเป็นคลื่นกระแทกสีทองอันงดงาม คลื่นกระแทกนี้พุ่งไปด้านหน้าอู๋เซี่ยน และหัวทั้งหลายที่โดนคลื่นสีทองกระทบก็ถูกกระแทกกลับไปทันที หัวบางส่วนถูกทำลายจนแหลกไปครึ่งหนึ่งโดยแสงสีทอง

จากนั้นอู๋เซี่ยนดีดนิ้วอย่างรวดเร็ว

คาถาคลื่นมีดลอยหลายบทถูกยิงออกไป ตัดร่างของชายหญิงเหล่านั้นจนกระจัดกระจายเต็มพื้น

อู๋เซี่ยนถอนหายใจออกมาเบาๆ

วิกฤตในครั้งนี้ดูเหมือนจะผ่านไปชั่วคราวแล้ว

แต่ตอนนี้เขายังคงหิวโหย เขาเริ่มสงสัยว่าศพเหล่านี้สามารถกินได้หรือไม่?

ขณะที่อู๋เซี่ยนผู้หิวโหยกำลังคิดถึงความเป็นไปได้ในการกินปีศาจนั้น

เขาก็สังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ ทันใดนั้นเขาเพิ่งรู้ตัวว่ามีหัวปีศาจเพียงสี่หัวที่อยู่ข้างหน้าเขา แต่ก่อนหน้านี้มีหัวปีศาจถึงห้าหัวที่ถูกโยนมาทางเขา

ถ้าเช่นนั้น…

อีกหัวหนึ่งล่ะ?

เมื่อรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ อู๋เซี่ยนก็รู้สึกหนาวเยือกไปทั้งตัว เขาหันกลับไป และพบว่ามีหัวหนึ่งกำลังหมุนวนอยู่ตรงนั้น ใบมีดคมหมุนอยู่ตลอดเวลาพร้อมกับการเคลื่อนไหวของหัว

ฉึก…

คอของอู๋เซี่ยนพลันพุ่งออกมาเป็นสายเลือด หัวของเขากลิ้งหลุนๆ ลงบนพื้น

“ฉัน... ฉันพลาดไปหนึ่งหัว…”

นี่คือคำสุดท้ายที่อู๋เซี่ยนเอ่ยออกมาก่อนที่ดวงตาของเขาจะปิดลง หัวใจและลมหายใจของเขาหยุดลงทันที

......

ในห้องโถงเนื้อที่เงียบสงัด บรรยากาศเงียบลงอย่างน่ากลัว

สิบนาทีต่อมา

ผนังเนื้อข้างตัวอู๋เซี่ยนเริ่มขยับ เขย่าแรงขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด ปีศาจร้ายตนหนึ่งก็เบียดแทรกออกมาจากผนัง

“ฮ่า! ในที่สุดก็สำเร็จแล้ว!”

ปีศาจร้ายตัวนี้มีความสูงใกล้เคียงกับคนทั่วไป แต่ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่บิดเกร็ง ตาของมันโปนออกมา ลิ้นยาวลากพื้น และแขนขวาของมันกลายเป็นมีดโกนขนาดใหญ่ที่แหลมคม

มันคือปีศาจที่พยายามจะยึดร่างของอู๋เซี่ยน

เมื่อครั้งยังมีชีวิต ปีศาจตนนี้ใช้ชื่อว่าเหวินหยงมันเคยเป็นเจ้าของบริษัทเสริมสวยและตัดผมขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง

กิจการตัดผมของเหวินหยงรุ่งเรืองมาก ราคาแพงกว่าร้านอื่นๆ ในระดับเดียวกันหลายเท่า แถมยังมีบริการหลอกลวงลูกค้าอีกหลายอย่าง เช่น เมื่อมีลูกค้าที่ดูซื่อๆ เข้ามาในร้าน พวกเขาจะเสนอให้ทดลองบริการฟรี แต่เมื่อสิ้นสุดการทดลอง บริการนั้นกลับกลายเป็นบริการที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในราคาสูง และปกติแล้วพวกเขาสามารถรีดไถเงินจากลูกค้าคนหนึ่งได้หนึ่งถึงสองหมื่นหยวน

ด้วยวิธีเช่นนี้

เหวินหยงทำกำไรมหาศาล

แต่วันหนึ่ง มีชายซื่อคนหนึ่งที่โดนหลอก จึงเกิดความโกรธแค้น และใช้มีดฆ่าหมูสังหารเหวินหยงพร้อมทั้งครอบครัวของเขาจนหมดสิ้น แม้แต่เหวินหยงผู้ชั่วร้ายก็ไม่สามารถหนีรอดได้

หลังจากเขาตาย ความชั่วร้ายในใจของเขาไม่ได้หายไป กลับเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ

ในที่สุด เหวินหยงก็กลายเป็นปีศาจร้าย

เมื่อกลายเป็นปีศาจแล้ว เหวินหยงใช้ชีวิตอย่างไร้สติ ดำเนินชีวิตไปวันๆ และเฝ้าหลอกหลอนผู้คนโดยไม่หยุดหย่อน ชีวิตของเขาไม่ต่างอะไรจากสัตว์เดรัจฉาน

จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พบกับบุคคลประหลาดคนหนึ่ง บุคคลนี้สวมผ้าผืนใหญ่ปกปิดตัวเองไว้ ไม่สามารถมองเห็นร่างกายหรือใบหน้าของเขาได้เลย มีเพียงเทียนเล่มหนึ่งที่เขาถือไว้ในฝ่ามือ

เหวินหยงไม่รู้ว่าทำไม เขาจึงไม่มีความคิดจะโจมตีบุคคลผู้นี้ และแทนที่จะเป็นเช่นนั้น เขากลับฟังข้อเสนอของชายผู้นั้นอย่างตั้งใจ

“เจ้าพอใจที่จะเป็นปีศาจตลอดไปหรือ?”

“เจ้าไม่อยากสัมผัสความรุ่งโรจน์ในโลกมนุษย์บ้างหรือ?”

“แล้วเจ้าอยากลองใส่หนังมนุษย์ดูไหมล่ะ?”

……

หนังมนุษย์งั้นหรือ…

เจ้าอู๋เซี่ยนนี่ คงเป็นหนังมนุษย์ที่เขาเลือกแล้วกระมัง

หลังจากเลือกหนังมนุษย์แล้ว เหวินหยงก็เริ่มรู้สึกว่า ตัวเขาเองเริ่มฉลาดขึ้นเรื่อยๆ

เหวินหยงสะบัดความคิดออกไป ตอนนี้เขาควรทำสิ่งที่ต้องทำก่อน

ตามกระบวนการปกติ อู๋เซี่ยนจะค่อยๆ ฆ่าตัวตนของตัวเองในระหว่างการวนลูป จนกระทั่งเหลือเพียงตัวตนเดียวเท่านั้น

เหวินหยงไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย เพียงแค่ปล่อยพลังบางส่วนของเขาเข้าไปในลูป และรอเวลาเท่านั้น อู๋เซี่ยนที่เหลือเพียงตัวตนเดียว จะตื่นขึ้นในทางเดินเลือดเนื้อแห่งนี้อย่างไร้สติ

จากนั้นเหวินหยงเพียงแค่หลอมรวมเข้ากับอู๋เซี่ยน ก็จะสามารถยึดร่างได้สำเร็จ

แต่สถานการณ์ของอู๋เซี่ยน กลับไม่เป็นไปตามที่ชายลึกลับคนนั้นกล่าวไว้

เหวินหยงไม่เคยคาดคิดว่า อู๋เซี่ยนจะเป็นคนที่จัดการยากเช่นนี้ ไม่เพียงแต่อู๋เซี่ยนจะทำลายพลังบางส่วนที่เขาทิ้งไว้ในลูป ทำให้พลังของเขาลดลงมาก แต่ยังหนีออกจากลูปมาได้อย่างง่ายดาย

ด้วยเหตุนี้ เหวินหยงจึงไม่รีบโจมตีอู๋เซี่ยนทันที

เขาตัดสินใจรอให้อู๋เซี่ยนเหนื่อยล้าจนหมดแรงก่อน แล้วจึงค่อยหลอมรวมเข้ากับเขา

ท่าทีของอู๋เซี่ยนก่อนหน้านี้

ทำให้เหวินหยงยิ่งรู้สึกชื่นชมการตัดสินใจของตนเอง คนผู้นี้ดูเหมือนจะมีพลังประหลาดซ่อนอยู่ หากเขาโจมตีตรงๆ อาจจะพ่ายแพ้ได้

เหวินหยงหยิบหัวของอู๋เซี่ยนขึ้นมาและค่อยๆ ยื่นเข้าไปใกล้ใบหน้าของตัวเอง ในขณะที่ใบหน้าทั้งสองห่างกันเพียงสิบเซนติเมตร อู๋เซี่ยนก็ลืมตาขึ้นอย่างกระทันหัน

“เเฮ่ เซอร์ไพรส์!”

เหวินหยงตกใจจนยืนนิ่ง

ในช่วงเวลานั้นเอง อู๋เซี่ยนที่อยู่ด้านหลังก็ลุกขึ้นยืน และยกกระจกสะท้อนปีศาจแปดทิศขึ้นมาส่องใส่เหวินหยง

ตูม!

แสงสีทองจ้าเจิดจ้าพุ่งออกมาอีกครั้ง คลื่นกระแทกสีทองขนาดใหญ่กระจายออกมา

เหวินหยงไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างของเขาถูกกระแทกปลิวไปกระแทกเข้ากับผนังเนื้ออย่างแรง ส่วนที่ถูกแสงทองกระทบนั้นก็แห้งเหี่ยวกลายเป็นสีเทาในทันที

หัวของอู๋เซี่ยนที่อยู่ในมือของเหวินหยง กลิ้งหล่นลงกับพื้นเพราะการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้

เหวินหยงลืมตากว้าง สมองใหม่ที่เพิ่งเริ่มพัฒนาไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์นี้ได้

หัวของคนผู้นี้ขาดไปแล้ว ทำไมเขายังพูดได้ ทำไมเขายังสามารถโจมตีได้?

คนผู้นี้เป็นมนุษย์จริงๆ หรือ?

เหวินหยงซึ่งเป็นปีศาจที่ระมัดระวังมาโดยตลอด เลือกจะลอบโจมตีมากกว่าปะทะตรงๆ ดังนั้นร่างของเขาจึงค่อยๆ แทรกเข้าไปในผนังเนื้ออีกครั้ง หวังจะซ่อนตัวอีกสักระยะ และรอให้อู๋เซี่ยนตายจากความหิว

แต่อู๋เซี่ยนไม่มีทางปล่อยโอกาสนี้หลุดไปได้แน่นอน!

วิ้ว วิ้ว วิ้ว!

นิ้วมือของอู๋เซี่ยนดีดคาถาคลื่นมีดลอยออกไปจนแทบเป็นตะคริว

ทุกครั้งที่ดีดนิ้ว มีคมมีดลอยออกไป และคมมีดเหล่านั้นบิดเบี้ยวไปตามทาง ทุกอนุภาคของพลังไม่มีการสูญเปล่าเลย คมมีดทุกอันพุ่งตรงเข้าสู่ร่างของเหวินหยง ทุกครั้งที่คมมีดกระทบร่างกายของเหวินหยง เลือดก็พุ่งกระเซ็นออกมาเป็นเส้นๆ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด