บทที่ 7 การเข้าสู่โลกแห่งความฝันอีกครั้ง
ฉินชวนติดตั้งแอปฟอรั่มโลกแห่งความฝันเสร็จอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เปิดเข้าไปดู
ข้างในมีข้อมูลหลายอย่างถูกปักหมุดไว้ที่ด้านบนของฟอรั่ม แต่ส่วนใหญ่เนื้อหาก็ไม่ต่างจากที่โจวจื่อซิวบรรยายมากนัก มีหลายโพสต์ที่ถูกเผยแพร่ล่าสุด แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเนื้อหาที่ไม่มีความหมายอย่าง "ขอให้จำฉันได้" หรือคล้าย ๆ กัน
หลังจากสแกนดูด้วยสายตาเพียงคร่าว ๆ เขาก็วางโทรศัพท์ลง
หากต้องการหาข้อมูลที่มีความหมายจากฟอรั่ม คงต้องรออีกสักพัก
เมื่อเทียบกับฟอรั่มแล้ว คู่มือการเอาตัวรอดในป่าดูจะมีประโยชน์มากกว่า
ฉินชวนเปิดหน้าแรกของหนังสือ และอ่านด้วยความสนใจ
เจ้าอ้วนที่นั่งข้างกันกำลังเปิดดูฟอรั่ม สีหน้าของเขาดูตื่นเต้นขึ้นเรื่อย ๆ และพยายามหันมาเพื่อจะสนทนากับฉินชวน แต่เมื่อเห็นท่าทีจริงจังของฉินชวนที่กำลังอ่านหนังสือ เขาก็หยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะวางโทรศัพท์ลงอย่างเงียบ ๆ แล้วเปิดอ่านคู่มือการเอาตัวรอดในป่าด้วยเช่นกัน
แม้จะมีโลกแห่งความฝัน แต่โลกแห่งความจริงก็ยังคงต้องดำเนินไปตามปกติ
เมื่อมั่นใจแล้วว่าโลกแห่งความฝันจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใหญ่หลวงต่อโลกแห่งความเป็นจริง ชั้นเรียนของนักเรียนม.ปลายปีสามก็ยังคงดำเนินต่อไปตามปกติ
เพียงแต่ว่า เพื่อนร่วมชั้นหลายคนดูจะไม่สนใจการเรียนมากนัก
บางคนซ่อนโทรศัพท์ไว้ใต้หนังสือเรียนที่เปิดค้างไว้และท่องฟอรั่มโลกแห่งความฝัน บางคนก็แอบสอดคู่มือการเอาตัวรอดในป่าไว้ในหนังสือเรียนแล้วอ่านอย่างตั้งใจ
ครูผู้สอนที่ยืนอยู่บนแท่นมองเห็นการกระทำทุกอย่างของนักเรียนชัดเจน แต่ครูที่เคยเข้มงวดในวันนี้กลับเลือกที่จะไม่เอ่ยถึงและทำเป็นไม่เห็น เพราะเข้าใจความรู้สึกของนักเรียนดี ตัวครูเองก็อยากจะให้เลิกเรียนเร็ว ๆ เพื่อจะได้กลับไปทำสิ่งเดียวกันกับนักเรียน
และแล้ว ชั้นเรียนหนึ่งวันก็สิ้นสุดลง ท่ามกลางความคิดที่แตกต่างของครูและนักเรียน
เมื่อกลับถึงบ้าน ฉินชวนทานอาหารเย็นง่าย ๆ จากนั้นก็หยิบคู่มือการเอาตัวรอดในป่าขึ้นมาอีกครั้ง
คู่มือเล่มนี้เต็มไปด้วยข้อมูลที่มีประโยชน์ เขาใช้เวลาทั้งวันอ่านไปได้ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ของเนื้อหาทั้งหมด
การหาน้ำสะอาดอย่างปลอดภัย วิธีสร้างที่พักด้วยมือเปล่าเมื่อไม่มีเครื่องมือ วิธีซ่อนกลิ่นตัวขณะเคลื่อนไหวในป่า และวิธีสังเกตสภาพแวดล้อมรอบข้างจากร่องรอยเล็ก ๆ น้อย ๆ...
เทคนิคการเอาตัวรอดในป่าที่อ้างอิงจากโลกแห่งความเป็นจริงเหล่านี้ อาจไม่สามารถนำไปใช้ได้ทั้งหมดในโลกแห่งความฝัน แต่ก็อย่างน้อยแปดในสิบส่วนที่สามารถช่วยเขาในสถานการณ์ปัจจุบันได้
จากสิ่งนี้เห็นได้ว่าหน่วยปฏิบัติการพิเศษได้ตั้งใจทำขึ้นมาอย่างเต็มที่
จนกระทั่งนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ในโทรศัพท์ดังขึ้นตอนห้าทุ่ม ฉินชวนจึงยอมวางคู่มือการเอาตัวรอดลงอย่างไม่เต็มใจ และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูฟอรั่มสักรอบ เมื่อมั่นใจว่าไม่มีข้อมูลสำคัญที่พลาดไป เขาจึงวางมันไว้ข้างเตียง
ปิดไฟ แล้วเข้านอน
...
...
...
"โอย..."
สติสัมปชัญญะกลับคืนสู่ร่างกายอีกครั้ง ฉินชวนอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจด้วยความเจ็บปวด
ร่างกายที่แข็งแรงในโลกแห่งความจริงทำให้เขาเกือบลืมไปว่าในโลกแห่งความฝัน เขายังมีบาดแผลที่ยังไม่ได้หายดี
อย่างไรก็ตาม หลังจากเรียนรู้การเอาตัวรอดในป่ามาทั้งวัน ฉินชวนก็ไม่ได้ต้องนอนรอความตายอย่างไร้ทางสู้
เขาทดสอบความเจ็บปวดของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายและความสามารถในการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็ยืนยันได้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาไม่ได้รุนแรงนัก
บาดแผลภายนอกส่วนใหญ่เป็นแผลถลอก เลือดหยุดไหลแล้ว อาจมีบางจุดที่กระดูกแตกร้าว แต่ยังไม่ถึงขั้นกระดูกหัก
อวัยวะภายในอาจได้รับแรงสั่นสะเทือนจากการกลิ้งตกลงมา แต่ไม่มีการตกเลือดภายในหรืออาการร้ายแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิต เพียงแค่พักฟื้นสักระยะก็จะหายเองได้
เขาหาที่หลบซ่อนใกล้ ๆ ภายในระยะไม่เกินหนึ่งร้อยเมตร และย้ายตัวไปอย่างทุลักทุเล ก่อนจะนั่งลงอย่างเจ็บปวด
น่าเสียดายที่เขาไม่พบสมุนไพรบางชนิดที่กล่าวถึงในคู่มือ ซึ่งสามารถช่วยรักษาบาดแผลได้ เนื่องจากความแตกต่างระหว่างโลกแห่งความฝันกับโลกแห่งความจริง ทำให้ส่วนนี้น่าจะใช้ไม่ได้
ต่อจากนี้ ก็ต้องรอให้บาดแผลดีขึ้นสักหน่อย แล้วค่อยวางแผนการดำเนินการต่อไป
หรือว่า...จะลองเจอกับสัตว์อสูรวิญญาณดุร้ายสักตัว แล้วลบตัวละครเพื่อเริ่มต้นใหม่ดี?
เดี๋ยวก่อน! บางทีวิธีนี้อาจจะเร็วกว่า!
อย่างไรเสีย การฟื้นตัวจากบาดเจ็บนั้นใช้เวลานานถึงร้อยวัน จะให้เร็วเท่ากับการเริ่มใหม่ได้ยังไง?
เมื่อคิดเช่นนี้ สายตาของฉินชวนก็เหลือบไปยังหินก้อนใหญ่ข้าง ๆ
เขากำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะใช้หินก้อนนี้เอาตัวพุ่งชนจนตาย
ในขณะนั้นเอง เสียงเคลื่อนไหวเบา ๆ ก็ดึงความสนใจของฉินชวนกลับมาอีกครั้ง
ฉินชวนหันไปมอง และก็ต้องประหลาดใจ
เขาเห็นร่างสีฟ้าเหมือนน้ำสดใสที่คุ้นเคยกำลังวิ่งเข้ามาใกล้
เป็นสุนัขใบไม้วารีตัวที่จากไปก่อนหน้านี้
ในชั่วพริบตา ฉินชวนรู้สึกยินดีอย่างมาก
เมื่อสุนัขใบไม้วารีเข้ามาใกล้ ฉินชวนก็สังเกตเห็นว่ามันคาบอะไรบางอย่างมา
"โฮ่ง!"
สุนัขใบไม้วารีรีบเข้ามาใกล้ฉินชวน วางสิ่งที่คาบไว้ลงบนพื้นตรงหน้าเขา แล้วกระดิกหางด้วยความดีใจ
ฉินชวนจึงมองเห็นชัดเจนว่ามันเป็นพืชสมุนไพรและผลไม้สองลูกที่เขาไม่คุ้นเคย
"แสดงว่าเมื่อครู่นี้ แกจากไปเพื่อไปหาสิ่งเหล่านี้มาให้ใช่ไหม?" ฉินชวนพูดขึ้นพร้อมกับสายตาที่แฝงไปด้วยความเข้าใจและรู้สึกผิด
ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจสุนัขใบไม้วารีผิดไป
"โฮ่ง!"
สุนัขใบไม้วารีพยักหน้า จากนั้นก็หยิบผลไม้อีกลูกหนึ่งคาบขึ้นมาแล้ววางลงในมือของฉินชวน
"นี่กินได้หรือเปล่า?" ฉินชวนมองผลไม้ในมือด้วยความระมัดระวังแล้วถามออกมา
"โฮ่ง!"
เมื่อได้รับการตอบรับอย่างมั่นใจจากสุนัขใบไม้วารี ฉินชวนก็ใช้มือเช็ดสิ่งสกปรกบนผลไม้ออก ก่อนจะนำมันใส่ปาก
ในโลกแห่งความฝัน ร่างกายของเขาก็ต้องการอาหารและน้ำเช่นเดียวกัน เขาตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าจะหาทางฟื้นฟูร่างกายแล้วค่อยออกไปค้นหาและลองลิ้มรส
เมื่อกัดผ่านเปลือกเบา ๆ น้ำผลไม้ที่หวานละมุนก็แตกกระจายออกมา ไหลลงสู่หลอดอาหารและเข้าสู่กระเพาะ ช่วยบรรเทาความกระหายน้ำของฉินชวนได้ดี ในขณะเดียวกัน น้ำตาลที่อยู่ในผลไม้ก็ช่วยให้จิตใจของเขาฟื้นฟูขึ้นมาได้บ้าง
แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือ หลังจากที่ย่อยผลไม้ได้สักพัก ฉินชวนกลับรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ล้นออกจากกระเพาะ และแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายทุกส่วน ความเจ็บปวดที่เคยมีลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ผลไม้นี้...รักษาอาการบาดเจ็บได้งั้นหรือ?!
สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นทันที เมื่อมองไปที่ผลไม้อีกลูกบนพื้น เหมือนกำลังมองเห็นสิ่งล้ำค่า
ในตอนนั้นเอง การกระทำของสุนัขใบไม้วารีก็ทำให้ฉินชวนสังเกตเห็น
มันควบคุมน้ำให้ไหลพุ่งออกมา ห่อหุ้มสมุนไพรและพืชที่คาบกลับมา จากนั้นก่อเป็นลูกบอลน้ำขนาดเท่าศีรษะคนในอากาศ
ลูกบอลน้ำหมุนอย่างรวดเร็ว คล้ายกับเครื่องปั่นที่คั้นเอาสารสำคัญจากพืชสมุนไพรออกมา ทำให้น้ำใส ๆ กลายเป็นสีเขียวเข้มในเวลาไม่นาน
จากนั้น สุนัขใบไม้วารีก็ควบคุมน้ำเพื่อห่อหุ้มบาดแผลตามร่างกายของฉินชวน
ฉินชวนไม่ได้ต่อต้าน เขานั่งนิ่ง ๆ และให้ความร่วมมือกับการกระทำของสุนัขใบไม้วารี ในใจเริ่มเข้าใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เมื่อเขาตรวจบาดแผลของตนเอง จะรู้สึกว่ามันสะอาดและไม่มีสิ่งสกปรกมากนัก
อาจเป็นเพราะในขณะที่เขาหมดสติ สุนัขใบไม้วารีได้ใช้วิธีเดียวกันนี้ในการช่วยล้างแผลให้เขาแล้ว
ความเย็นสบายและความรู้สึกสดชื่นส่งผ่านมาจากบาดแผล แต่ละครั้งที่หายใจเข้า สีของน้ำสีเขียวก็ยิ่งขุ่นมากขึ้น ในขณะที่แผลถลอกบนร่างกายของฉินชวนก็หายดีจนไม่เหลือร่องรอยใด ๆ
หากในโลกแห่งความจริงมีสมุนไพรที่มหัศจรรย์เช่นนี้ คงจะมีคนแย่งชิงกันอย่างสุดชีวิต แต่ในโลกแห่งความฝัน สุนัขใบไม้วารีกลับสามารถหามันได้โดยไม่ยากเย็นนัก
นี่สินะที่เรียกว่าเสน่ห์ของความเหนือธรรมชาติ
.
(จบตอน)