บทที่ 4 หน่วยปฏิบัติการพิเศษ
“ฉินชวน เมื่อคืนในโลกแห่งความฝันนายเจอสัตว์อสูรวิญญาณบ้างไหม?”
ในห้องเรียนที่เต็มไปด้วยเสียงจ้อกแจ้กจอแจ เจ้าอ้วนที่นั่งข้าง ๆ ดันศอกฉินชวนเบา ๆ แล้วถามขึ้นด้วยเสียงเบา
“เจอสิ” ฉินชวนพยักหน้า แล้วหันไปมองเจ้าอ้วน
เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นเมื่อวาน ตอนนี้เจ้าอ้วนดูท่าทางหดหู่ไม่น้อย
“นายก็เจอเหมือนกันเหรอ?” ดวงตาเจ้าอ้วนสว่างวาบ สีหน้าดูมีความหวังมากขึ้น “นายก็โดนสัตว์อสูรวิญญาณฆ่าในทันทีเหมือนกันใช่ไหม?!”
“ไม่นะ” ฉินชวนส่ายหน้า เมื่อเห็นสีหน้าของเจ้าอ้วนกลับมาหม่นหมองอีกครั้ง ก็อดขำในใจไม่ได้ “นายตายในโลกแห่งความฝันเหรอ?”
“ใช่แล้ว” เจ้าอ้วนถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ตอนประมาณตีสอง ฉันเจอหมีพลังมหาศาลขั้นโตเต็มวัยในโลกแห่งความฝัน มันฟาดฉันทีเดียว ฉันก็จบเลย”
“ที่สำคัญที่สุดนายรู้ไหมคืออะไร?” สีหน้าของเจ้าอ้วนเปลี่ยนเป็นเศร้าโศกขึ้นมาทันที “ความเจ็บปวดในโลกแห่งความฝันสมจริงมาก ฉันตื่นขึ้นมายังรู้สึกเหมือนกระดูกจะหักทั้งตัว ปวดไปหมดทุกส่วนเลย”
“แย่จริง ๆ” ฉินชวนตบไหล่เจ้าอ้วนเบา ๆ แล้วนึกถึงเสือดาวเงามืดที่เกือบจะฉีกเขาเป็นชิ้น ๆ
ถ้าไม่ได้สุนัขใบไม้วารีช่วยไว้ เขาคงลงเอยแบบเดียวกับเจ้าอ้วน
“จริงสิ” ฉินชวนคิดอะไรบางอย่างได้ รีบถาม “หลังจากนายตายในโลกแห่งความฝันแล้ว ตื่นขึ้นมานายได้ไปดูพ่อแม่หรือยัง? พวกท่านก็น่าจะเข้าสู่โลกแห่งความฝันเหมือนกันใช่ไหม? แล้วร่างกายในโลกจริงเป็นยังไงบ้าง?”
“ฉันไปดูมาแล้วจริง ๆ” เจ้าอ้วนหัวเราะเบา ๆ “ทั้งสองคนก็เหมือนปกติ หลับสนิท ฉันก็ไม่ได้ปลุกท่าน กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น เลยแค่แอบดูแล้วกลับห้องของตัวเอง”
“อย่างนี้เอง…”
ฉินชวนรู้สึกกังวลขึ้นมา
หากคนในโลกแห่งความฝันถูกปลุกด้วยแรงภายนอก ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เขาพยายามกดความกังวลลงแล้วถามต่อ “แล้วนายได้ลองเข้าสู่โลกแห่งความฝันอีกครั้งหรือยัง?”
“แน่นอนสิ” เจ้าอ้วนยิ้มให้ฉินชวนอย่างมั่นใจ “แม้ว่าทั้งตัวจะปวดไปหมด แต่ฉันกลับห้องแล้วก็นอนฟังเทปฝึกภาษาอังกฤษอยู่ชั่วโมงกว่า ๆ แล้วบังคับตัวเองให้หลับอีกครั้ง!”
ฉินชวน: “…”
ดีมาก ฟังดูสมเหตุสมผลดี
ยังไม่ทันที่ฉินชวนจะถามต่อ เจ้าอ้วนก็หัวเราะและเล่าต่อ “พอหลับไปอีกครั้ง ฉันก็ไปโผล่ในที่ที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ชื่อผู้เล่นกับรูปลักษณ์ก็ต้องตั้งใหม่ เหมือนกับต้องสร้างตัวละครใหม่เลย”
“อันนี้มันก็มีบอกไว้ในประกาศการอัปเดต” ฉินชวนพยักหน้า
หลังจากตื่นขึ้นในวันนี้ ข้อความเมื่อวานก็หายไปแล้ว แต่เขายังจำได้ชัดเจน
“พูดก็พูดเถอะนะ โลกแห่งความฝันนี้มันเหมือนเกมจริง ๆ” เจ้าอ้วนขยิบตาให้ฉินชวน “นอกจากความรู้สึกที่สมจริงแล้ว อย่างอื่นก็แทบไม่ต่างกันเลย”
“แต่แผงควบคุมของเกมมันหยาบไปหน่อย” เจ้าอ้วนอดบ่นไม่ได้ “นอกจากระดับผู้เล่น ช่องสัญญา ช่องเก็บของ และตัวนับเวลาถอยหลังแล้ว ก็ไม่มีอะไรอีกเลย”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เจ้าอ้วนก็กำหมัดแน่น “ในฐานะผู้เล่นที่เล่นเกมมาเยอะ ฉันถือว่าเหตุการณ์เมื่อคืนเป็นเพียงอุบัติเหตุ คอยดูนะ ฉันจะสร้างตัวละครใหม่และกลับมาอีกครั้ง!”
“นายก็สู้ ๆ ล่ะกัน” ฉินชวนยิ้มมุมปาก แล้วถามต่อไปด้วยท่าทีเรียบ ๆ “แล้วผู้เล่นระดับสูง ตัวนับเวลาถอยหลังหนึ่งวินาทีมีไว้ทำอะไร นายค้นพบอะไรบ้างหรือยัง?”
“ผู้เล่นระดับสูงอะไรกัน!” เจ้าอ้วนเบิกตา “เรียกฉันด้วยชื่อเต็มสิ ผู้เล่นระดับเก๋า!”
เมื่อทั้งสองจ้องตากันอยู่หนึ่งวินาที เจ้าอ้วนก็เกาหัว “ตัวนับเวลาหนึ่งวินาทีคืออะไร?”
“มันคือ...” ฉินชวนกำลังจะตอบ แต่ก็ฉุกคิดขึ้นมา “บางทีฉันอาจจะมองผิดไปก็ได้”
เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าในช่วงสุดท้ายก่อนที่ทางเข้าโลกแห่งความฝันจะปิด ตัวนับเวลาที่เดิมเป็น 【00:00:00】 กลับกลายเป็น 【00:00:01】
ความหมายของหนึ่งวินาทีนี้ ฉินชวนยังไม่เข้าใจทั้งหมด
เขาตั้งใจจะถามเจ้าอ้วนดู แต่ความสับสนของเจ้าอ้วนและคำพูดก่อนหน้านี้ ทำให้เขามีการคาดเดาอย่างกล้าหาญขึ้นมา
หนึ่งวินาทีที่เพิ่มมานี้ เจ้าอ้วนอาจจะมองไม่เห็น
“เอาเถอะ” เจ้าอ้วนที่ปกติแล้วไม่ใส่ใจอะไรมาก ก็ไม่ได้สนใจกับความแปลกประหลาดที่ฉินชวนแสดงออกมา เขารีบเปิดปากพูดอย่างกระตือรือร้น “ถ้าฉันเดาไม่ผิด แก่นหลักของโลกแห่งความฝันนี้คงเป็นการทำสัญญากับสัตว์อสูรวิญญาณ”
“ฉันเห็นว่าสัตว์อสูรวิญญาณทุกตัวที่พบ ล้วนแต่มีสถานะที่เรียกว่า ‘ยังไม่ทำสัญญา’ และในแผงควบคุมของเราก็มีช่องสัญญาอย่างชัดเจน ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ดูเหมือนจะเชื่อมโยงกัน”
“ตอนนี้ช่องสัญญามีเพียงช่องเดียว หมายความว่าเราสามารถทำสัญญากับสัตว์อสูรวิญญาณได้เพียงตัวเดียว” เจ้าอ้วนพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความฝัน “หลังจากทำสัญญาแล้ว สัตว์อสูรวิญญาณน่าจะทำตามคำสั่งของเราได้ และยังฝึกให้แข็งแกร่งขึ้นได้ด้วย”
“แบบนั้นคงสนุกน่าดูเลย!”
“หลังจากสร้างตัวละครใหม่ครั้งที่สอง ฉันเห็นสัตว์อสูรวิญญาณขั้นทารกหลายตัว แต่เสียดายที่พวกมันเห็นฉันแล้ววิ่งหนีเร็วมาก จับยากจริง ๆ” เจ้าอ้วนถอนหายใจ “ไม่อย่างนั้นตอนนี้ฉันคงทำสัญญากับมันได้แล้ว”
ฉินชวนฟังอยู่เงียบ ๆ
เขายอมรับกับการคาดเดาของเจ้าอ้วนเป็นส่วนใหญ่
หลังจากเห็นสถานะของสัตว์อสูรวิญญาณและช่องสัญญา เขาเองก็เคยคิดเช่นนี้เหมือนกัน แต่ยังไม่มีโอกาสลงมือทำก็ถูกเสือดาวเงามืดโจมตีเสียก่อน
ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน เพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ก็พูดคุยกันเสียงเบา ๆ เช่นกัน แต่จู่ ๆ ก็มีเสียงร้องดังขึ้น ทำให้ทั้งห้องเงียบกริบ
“หัวหน้าห้อง นายทำสัญญากับสัตว์อสูรวิญญาณได้แล้วเหรอ?!”
ทุกคน รวมถึงฉินชวนและเจ้าอ้วน ต่างหันไปมองเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่แถวหน้าทันที เด็กหนุ่มคนนั้นสวมแว่นตา สีหน้าท่าทางสุภาพ แต่ในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความภูมิใจ
หัวหน้าห้องของฉินชวน อยู่ในห้องเรียน ม.6/7 ชื่อว่า จางหยางวั่ง
“ใช่แล้ว ฉันทำสัญญากับสัตว์อสูรวิญญาณได้แล้ว” จางหยางวั่งลุกขึ้นยืน หันมามองเพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่ด้านหลังด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและอิจฉา แล้วดันแว่นขึ้นเล็กน้อย “ฉันรู้ว่าพวกนายคงอยากรู้หลายอย่าง ในฐานะคนแรกของห้องที่ทำสัญญากับสัตว์อสูรวิญญาณได้ ฉันยินดีที่จะเล่าประสบการณ์ของฉันให้ฟัง”
“หัวหน้าห้องใจดีจัง!”
“ขอบคุณหัวหน้าห้อง! หัวหน้าห้องจงเจริญ!”
“ไม่เสียชื่อหัวหน้าห้องเลย ทำสัญญากับสัตว์อสูรได้ไวขนาดนี้!”
หลังจากที่จางหยางวั่งพูดจบ เพื่อนร่วมชั้นหลายคนก็พูดชมเชยขึ้นมา ทำให้สีหน้าของจางหยางวั่งดูภูมิใจมากยิ่งขึ้น
“แค่ก แค่ก!” เขาเคลียร์คอเตรียมที่จะพูดต่อ แต่ในขณะนั้น ประตูห้องเรียนก็ถูกผลักเปิดออก
“นักเรียนทุกคนเงียบหน่อย” ครูประจำชั้นเดินเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว ด้านหลังเขามีชายหนุ่มในชุดลำลองเดินตามเข้ามา “ตอนนี้จะมีการบรรยายเกี่ยวกับโลกแห่งความฝัน”
“จางหยางวั่ง นายยืนทำอะไรอยู่?
“เปล่า...ไม่มีอะไรครับ” จางหยางวั่งอ้าปากเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ นั่งลง
เมื่อเห็นสีหน้าหงุดหงิดของจางหยางวั่ง เจ้าอ้วนก็หัวเราะเบา ๆ แล้วดันศอกฉินชวน “สมน้ำหน้าไอ้หมอนั่น”
ฉินชวนยิ้มมุมปาก มองชายหนุ่มที่กำลังก้าวขึ้นไปบนแท่นด้วยความสนใจ
“สวัสดีนักเรียนทุกคน” ชายหนุ่มยิ้มอย่างอบอุ่น แล้วเดินขึ้นไปบนแท่น
“ฉันคือ โจวจื่อซิว จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ”
.
(จบตอน)