ตอนที่แล้วบทที่ 224 ท่านประธานซู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 226 ซุนเหว่ยลาออก

บทที่ 225 ยกเว้นมาส์กหน้า สินค้าอื่น ๆ หยุดการผลิตทั้งหมด


[แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ\]

[Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย]

[หลังแปลจบ คิดว่าจะมีการเกลาคำเบื้องต้น แก้คำผิด ปรับสำนวนให้สละสลวย เทียบคำต่อคำ ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกันเสมอมานะครับ]

บทที่ 225 ยกเว้นมาส์กหน้า สินค้าอื่น ๆ  หยุดการผลิตทั้งหมด

แม้ทุกคนจะไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ  แต่ในใจต่างก็สงสัยในคำพูดของซูเฉียนโม่เป็นอย่างมาก

ไม่ใช่แค่พนักงานทั่วไป แม้แต่ผู้จัดการและผู้อำนวยการหลายคนก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก

ใคร ๆ  ก็ว่าขุนนางใหม่มักจะโชว์อำนาจ แต่ท่านประธานซูเล่นแรงไปหน่อยไหม?

ท่านประธานซูไม่ทราบปัญหาที่บริษัทกำลังเผชิญอยู่หรือ?

เธอไม่ได้มีข้อมูลของบริษัทอยู่ในมือหรอกหรือ?  หรือว่าเธอไม่ได้อ่าน?

หรือว่า อ่านแล้วแต่ไม่เข้าใจ?

“ท่านประธานซู”

ทันใดนั้น ชายหนุ่มในชุดสูทก็ยกมือขึ้น เขาชื่อซุนเหว่ยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง สาขาเคมีประยุกต์

กล่าวได้ว่า ในบริษัทไฉ่หยิ่ง เขาคือคนที่รู้เรื่องเครื่องสำอางมากที่สุด ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นทั้งเล็กใหญ่ต้องผ่านการอนุมัติจากเขาก่อนถึงจะผลิตได้

ด้วยเหตุนี้ แม้แต่วังโหย่วไฉ่ อดีตเจ้าของบริษัทไฉ่หยิ่ง ก็ยังพูดจาด้วยความสุภาพกับซุนเหว่ย

เพราะถ้าหากสูญเสียบุคลากรดี ๆ  แบบนี้ไป ถือเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวงของบริษัท

ด้วยเหตุนี้เอง แม้ซุนเหว่ยจะเป็นแค่ผู้อำนวยการฝ่าย แต่ในความเป็นจริง อำนาจของเขาเป็นรองแค่หวังโหย่วไฉ่เท่านั้น

เมื่อเห็นซุนเหว่ยยกมือขึ้น ซูเฉียนโม่ก็หันมามองเขาด้วยสายตาที่เฉียบคมและเย็นชา "ว่ามา"

ซุนเหว่ยไม่เคยสัมผัสกับสายตาที่เยือกเย็นเช่นนี้จากผู้บังคับบัญชามาก่อน เขาถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “ท่านประธานซู ผมซุนเหว่ย ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ครับ”

“ตอนนี้ ท่านอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ของบริษัทไฉ่หยิ่ง ผมขออนุญาตอธิบายข้อมูลให้ท่านฟังอย่างละเอียดครับ”

ว่าแล้วเขาก็หยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาพร้อมกับลุกขึ้นยืน “ในตอนนี้ สินค้าในคลังของเรามีจำนวนมาก...”

“ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันรู้เรื่องพวกนี้หมดแล้ว” ซูเฉียนโม่ยกมือขึ้นขัดจังหวะซุนเหว่ยก่อนที่เขาจะพูดจบ “ฉันได้อ่านงบการเงินและข้อมูลของบริษัทเมื่อวานนี้แล้ว คุณตั้งใจทำงานบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ก็พอ เรื่องอื่นไม่ต้องยุ่ง”

คำพูดของซูเฉียนโม่ทำให้ทุกคนตกตะลึง

บ้าไปแล้ว!

ท่านประธานซูคนใหม่นี่ ไม่ไว้หน้าผู้อำนวยการซุนเลยหรือ?

ผู้อำนวยการซุนเป็นคนมีความสามารถนะ!

ก่อนหน้านี้ ประธานหวังคนก่อนแทบจะเอาผู้อำนวยการซุนบูชาเหมือนเทพเจ้า เวลาประชุมทีไร ผู้อำนวยการซุนคนนี้วางท่าใหญ่โตโอ้อวดตลอด

แต่ใครจะไปคิดว่าท่านประธานคนใหม่จะปฏิบัติกับผู้อำนวยการซุนเหมือนเป็นแค่ผู้อำนวยการธรรมดา ๆ  คนหนึ่ง?

“คือ... ครับ ผมล่วงเกินไปเอง” คำพูดของซูเฉียนโม่ทำให้ซุนเหว่ยถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย แต่เขาก็รีบปรับสีหน้าแล้วยิ้มแห้ง ๆ “ในเมื่อท่านประธานซูทราบสถานการณ์ของบริษัทไฉ่หยิ่งแล้ว ท่านมีแผนจะพัฒนาบริษัทไฉ่หยิ่ง ให้เติบโตอย่างที่ท่านพูดไว้หรือยังครับ?”

ซูเฉียนโม่โยนเอกสารในมือลงบนโต๊ะ กอดอกพิงพนักเก้าอี้ แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณฟังไม่เข้าใจหรือไง?  ฉันบอกแล้วว่า คุณแค่ดูแลฝ่ายผลิตภัณฑ์ให้ดีก็พอ เรื่องอื่นไม่ต้องยุ่ง คุณแค่ทำงานของตัวเองให้ดีและร่วมมือกับฉันก็พอ เข้าใจไหม?”

“แต่...” ซุนเหว่ยยังอยากจะพูดอะไรต่อ แต่พอเห็นแววตาของซูเฉียนโม่ เขาก็รู้สึกเหมือนโดนอำนาจบางอย่างกดดันจนต้องถอยกลับไป สุดท้ายได้แต่พยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ ท่านประธานซู”

ไม่ต้องพูดถึงความสามารถของซูเฉียนโม่ แค่การที่เธอเคยเป็นถึงประธานบริษัทหญิงในโลกนิยายมาเป็นเวลานาน บุคลิกของเธอก็ไม่ธรรมดาแล้ว

ถึงแม้ว่าเวลาอยู่กับกู่เฉินหนาน ซูเฉียนโม่จะดูอ่อนโยนและน่ารัก แต่เวลาอยู่กับคนอื่น เธอก็ยังคงเป็นประธานสาวที่เย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็ง

สิ่งนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

แม้ซูเฉียนโม่จะไม่ได้แสดงอาการโกรธออกมา แต่ซุนเหว่ยก็รู้สึกกดดันจากบารมีของเธอ

ซุนเหว่ยรู้สึกเสียหน้า แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร เขาจึงนั่งลง มองซูเฉียนโม่ด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์ ก่อนจะหันไปจ้องเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะโดยไม่พูดอะไร

หึ! ประธานคนใหม่นี่คงไม่รู้สินะว่าใครใหญ่ใครโต?

คิดว่าแค่ซื้อบริษัทแล้วจะสามารถควบคุมอำนาจทั้งหมดได้งั้นหรือ?

ถ้าบริษัทไฉ่หยิ่ง ไม่มีฉัน บริษัทคงเจ๊งไปนานแล้ว!

ทุกคนในห้องประชุมมองหน้ากันไปมา พลางคิดในใจว่าควรจะชมซูเฉียนโม่ว่ามีอำนาจบารมีที่น่าเกรงขาม หรือควรจะตำหนิเธอว่าเผด็จการเกินไปดี

ซุนเหว่ยเป็นถึงผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทไฉ่หยิ่ง ที่วางขายในท้องตลาดตอนนี้ ล้วนเกิดจากฝีมือของซุนเหว่ยทั้งนั้น ไม่กลัวว่าเขาจะลาออกหรือไงที่ไม่ไว้หน้าเขาแบบนี้?

ถ้าผู้อำนวยการซุนลาออก บริษัทไฉ่หยิ่ง คงอยู่ได้อีกไม่นาน

ท่ามกลางความงุนงงและตกตะลึงของทุกคน ซูเฉียนโม่ก็พูดขึ้นอีกครั้ง

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้หยุดการผลิตสินค้าทั้งหมด ยกเว้นมาส์กหน้าสูตรบำรุงผิว ฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้ร่วมมือกับฝ่ายการตลาด โปรโมตมาส์กหน้าสูตรบำรุงผิวให้เป็นสินค้าหลักของบริษัท ส่วนสินค้าอื่น ๆ  ให้ใช้เป็นของแถมสำหรับมาส์กหน้า”

ก่อนหน้านี้ ซูเฉียนโม่ได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางหลากหลายยี่ห้อที่มีขายในตลาดเมืองมหานคร ต้องยอมรับว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทไฉ่หยิ่ง นั้นยอดเยี่ยมมาก

และในบรรดาผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทไฉ่หยิ่ง มาส์กหน้าสูตรบำรุงผิวนี่แหละดีที่สุด

ถ้าอยากจะชุบชีวิตบริษัทไฉ่หยิ่ง ก็ต้องเลือกสินค้าตัวเด่นออกมาโปรโมต และมาส์กหน้าสูตรบำรุงผิวนี่แหละคือตัวเลือกที่ดีที่สุด

ส่วนสินค้าอื่น ๆ  ให้หยุดการผลิตไปก่อน รอให้บริษัทไฉ่หยิ่ง กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยมาส์กหน้าสูตรบำรุงผิว ค่อยนำสินค้าอื่น ๆ  กลับมาขายในตลาดก็ยังไม่สาย

ทันทีที่ซูเฉียนโม่พูดจบ ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ

ทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง

และแล้ว...

“ท่านประธานซู สินค้าหลักของบริษัทไฉ่หยิ่ง เราคืออายแชโดว์มาตลอด ท่านสั่งให้หยุดการผลิตสินค้าทั้งหมด ยกเว้นมาส์กหน้าสูตรบำรุงผิว แบบนี้ไม่เท่ากับตัดแขนตัดขาตัวเองหรอกหรือครับ? !”

“บริษัทไฉ่หยิ่ง เราเน้นขายเครื่องสำอางเป็นหลัก ทำไมอยู่ ๆ  ถึงเปลี่ยนมาขายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวล่ะครับ?”

“ต่อให้บริษัทไฉ่หยิ่ง ของเราจะขายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ก็น่าจะเริ่มจากโฟมล้างหน้า ครีมบำรุงผิว หรืออะไรพวกนั้นก่อนสิครับ มาส์กหน้ามันดูราคาถูกไปหน่อยนะครับ!”

“ใช่ครับ ท่านประธานซู มาส์กหน้าสูตรบำรุงผิวตัวนี้เป็นแค่สินค้าตัวประกอบของบริษัทมาตลอด ปกติเราแถมมาส์กหน้าเวลาลูกค้าซื้อสินค้าอื่น ๆ  ท่านประธานอย่าเอาเรื่องเล็กน้อยมาเป็นเรื่องใหญ่สิครับ!”

ทั้งห้องประชุมต่างโหวกเหวกโวยวาย!

ทุกคนต่างตั้งคำถามกับการตัดสินใจของซูเฉียนโม่

ซุนเหว่ยที่ตอนแรกเงียบไปแล้ว พอได้ยินว่าสินค้าที่เขาคิดค้นขึ้นมาทั้งหมดจะถูกสั่งให้หยุดการผลิต แถมบริษัทจะขายแต่มาส์กหน้าเพียงอย่างเดียว เขาก็โกรธขึ้นมาทันที

จะไม่ให้เกียรติเขาก็ได้ แต่จะมาสั่งหยุดการผลิตสินค้าที่เขาคิดค้นขึ้นมาไม่ได้!

สำหรับเขาแล้ว นี่คือความอัปยศ อัปยศอย่างร้ายแรง!

ปัง!

เขาตบโต๊ะดังปังแล้วลุกขึ้นยืน

“ท่านประธานซู นี่มันบ้าไปแล้ว บริษัทไฉ่หยิ่ง เรามีสินค้าตั้งเยอะแยะ ทำไมท่านถึงเลือกมาส์กหน้าสูตรบำรุงผิวที่ไม่ได้มีเทคโนโลยีอะไรพิเศษเลย ท่านกำลังพาบริษัทไฉ่หยิ่ง ไปตาย!”

แต่ซูเฉียนโม่กลับไม่ได้ร้อนรน ดูเหมือนเธอจะคาดการณ์ไว้แล้วว่าทุกคนจะมีปฏิกิริยาแบบนี้

เพียงแต่ การที่ซุนเหว่ยตบโต๊ะทำให้เธอค่อนข้างแปลกใจ

“ผู้อำนวยการซุน คุณกำลังล้ำเส้นเกินไปแล้ว” ซูเฉียนโม่มองซุนเหว่ยด้วยสายตาเย็นชา “หน้าที่ของคุณคือควบคุมคุณภาพสินค้า ส่วนการตัดสินใจของบริษัท คุณไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่ง”

“ควบคุมคุณภาพ?” พอได้ยินแบบนั้น ซุนเหว่ยก็ยิ่งโกรธหนักกว่าเดิม “ท่านประธานซูจะสั่งให้หยุดการผลิตสินค้าทั้งหมด ถ้าหยุดการผลิตแล้ว ผมจะไปควบคุมคุณภาพอะไร?”

ซุนเหว่ยรู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถ ถึงขั้นกล้าขู่ซูเฉียนโม่ “ถ้าท่านประธานซูยังยืนยันที่จะทำแบบนี้ ผมก็คงไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถในบริษัทนี้ ขออภัยที่ผมต้องเลือกต้นไม้ใหญ่ที่ดีกว่าสำหรับพักพิง!”

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด