บทที่ 15 แบบนี้คงไม่เรียกว่าเดตหรอกมั้ง?
บทที่ 15 แบบนี้คงไม่เรียกว่าเดตหรอกมั้ง?
"หืม?"
เซี่ยซินหยู่เงยหน้าขึ้นมองเฉินหยวนอย่างงุนงง ดวงตาใสซื่อราวกับนากน้อยที่ตกใจกับเสียงฟ้าผ่า
ฉากนี้... เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลยแฮะ
"พรุ่งนี้หยุด ฉันว่าง ไม่มีอะไรทำ นอนดึกหน่อยก็ได้ ถ้าเธอว่าพรุ่งนี้ไม่ทันร่ำลา งั้นคืนนี้เรามาลาจากกันดี ๆ ก็แล้วกัน"
เฉินหยวนเสนออย่างจริงจัง
"เอ่อ..." เซี่ยซินหยู่ฝืนยิ้ม "คือ พรุ่งนี้ต้องรีบไปขึ้นรถ นอนดึกไม่ได้น่ะสิ"
หรือว่า... ที่พูดไปตั้งแต่แรกว่าไม่สะดวก หมายถึงตัวเองกันนะ?
เฉินหยวนวางมือบนไหล่เซี่ยซินหยู่ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "เธอยังเด็ก ยังไหวอยู่ สู้ ๆ"
เหมือน... เหมือนกับตอนที่อาจารย์จางเจี้ยนจุน (ผู้อำนวยการโรงเรียนหมายเลข 4) กำลังหลอกล่อครูใหม่อย่างไรอย่างนั้นเลย!
"แต่... คืนนี้จะทำอะไรกันล่ะ?" เซี่ยซินหยู่กลับดึกหน่อยก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงเรื่องฆ่าตัวตายก็ไม่รีบร้อน ไม่ได้ซีเรียสเรื่องสถานที่อะไรนัก แต่ถ้ารู้ก่อนว่าคืนนี้จะมีพิธีร่ำลากันแบบนี้อย่างน้อยก็ควรจะเก็บเงินค่าชานมไว้สักหน่อย
แบบนี้ตายเพราะจนจริง ๆ ด้วยสิ
"ไม่รู้สิ ไม่เคยร่ำลากับผู้หญิงมาก่อน" เฉินหยวนส่ายหัว พูดอย่างตรงไปตรงมา
"งั้นเล่นเกมเป็นเพื่อนหน่อยไหม?"
เซี่ยซินหยู่หันโทรศัพท์เป็นแนวนอน เสนอขึ้น
"เล่นอะไรล่ะ?" เฉินหยวนถาม
"ROV..."
"เหอะ! เกมเด็กน้อย"
"PUBG..."
"เหอะ! เกมไก่"
"งั้น... ไข่..."
"เกมปัญญาอ่อน ไม่เล่น"
"งั้นก็ไม่รู้จะเล่นอะไรแล้ว"
เซี่ยซินหยู่จนปัญญา ครั้งก่อนที่เล่นเกมเป็นเพื่อนหลานก็เล่นแต่เกมพวกนี้ เด็ก ๆ ชอบกันมาก แต่เห็นได้ชัดว่าเฉินหยวนโตกว่าหลานมาก เกมมือถือธรรมดาคงไม่ถูกใจ
"งั้น... ออกไปกินชานมกันไหม?"
เซี่ยซินหยู่นึกขึ้นได้ว่ายังมีเงินในแอพผ่อนชำระ ถึงแม้การตายไปพร้อมกับหนี้สินจะเป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบ แต่หนี้แค่นี้ คงไม่กระทบกับงบการเงินของเจ้าสัวใหญ่ ๆ หรอกมั้ง
"แบบนั้นไม่เหมือนไปเดตกันเหรอ?"
"..." จู่ ๆ เฉินหยวนก็ทำตัวเขินอาย ทำให้เซี่ยซินหยู่ไปไม่เป็น เลยพูดติดตลก "แค่กินชานมเอง ไม่น่าจะขนาดนั้นมั้ง?"
"งั้นเธอก็เจ้าชู้เหมือนกันนะเนี่ย"
"เรื่องเจ้าชู้เนี่ย... ถ้าแผนต่อไปเป็นแบบนี้ นี่ก็เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันได้กินชานมกับผู้ชาย" เซี่ยซินหยู่เถียงขึ้นมาทันทีหลังจากที่ถูกเฉินหยวนพูดแบบนั้น หลังจากที่แสดงอาการเหมือนหอยกาบไปเมื่อกี้ เธอก็เผยธาตุแท้อีกอย่างหนึ่งออกมา นั่นก็คือความใจร้อน
"นึกว่าเป็นผู้หญิงประเภทที่ชอบเลี้ยงชานมคนอื่นเพื่อตอบแทนบุญคุณซะอีก" เฉินหยวนพูด
"เปล่านะ" เซี่ยซินหยู่รีบปฏิเสธ
ฉันจนจะตาย จะไปเลี้ยงชานมคนอื่นได้ยังไงกัน?
อีกอย่าง ถ้าบอกว่าการกินชานมด้วยกันเหมือนกับการเดท แล้วที่ตัวเองทำอาหารให้เฉินหยวนที่บ้าน รอเขากลับมากินข้าวด้วยกันทุกวันแบบนี้ล่ะ? มันจะเรียกว่าอะไร?
แทบจะไม่ต่างจากสามีภรรยากันแล้ว
ประเด็นที่เขาคิดมากนี่มันแปลกจริง ๆ
"สรุปคือ กิจกรรมที่ดูเหมือนเดท แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่แบบนี้ เธอรับได้งั้นสิ?" เฉินหยวนถามด้วยความอยากรู้
เซี่ยซินหยู่ฝืนยิ้มออกมา พูดด้วยน้ำเสียงที่ยอมตามใจ "ตามใจนายก็ได้..."
ถึงแม้สีหน้าของเธอจะไม่ได้ดูตลกเหมือนกับเม็ดถั่วเหลืองที่มีเหงื่อออก แต่ถ้าเป็นการ์ตูนล่ะก็ นักวาดคงจะต้องวาดเหงื่อหยดหนึ่งลงไปข้าง ๆ หน้าผากของเซี่ยซินหยู่อย่างแน่นอน
"ถ้างั้น ขอยืมเวลาเธออีกสองชั่วโมงนะ"
เฉินหยวนจ้องมองเซี่ยซินหยู่ น้ำเสียงของเขาดูจริงจังขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไม่เหมือนกับตัวเขา แต่ก็ไม่ได้แปลกอะไร
นี่น่าจะเป็นด้านที่แท้จริงอีกด้านหนึ่งของเฉินหยวน
"อืม ได้สิ ตามใจนาย" เซี่ยซินหยู่ตอบตกลง
ตัวเลขบนหัวของเซี่ยซินหยู่เปลี่ยนจาก 【0.2】 เป็น 【0.3】
………
"เราสองคนทำแบบนี้ตอนกลางคืน... มันไม่ค่อยถูกระเบียบหรือเปล่า?" เซี่ยซินหยู่ถามอย่างกังวล
"ไม่เป็นไร ขอแค่ไม่ให้ใครเห็นก็พอ" เฉินหยวนตอบ
"งั้น... ฉันขึ้นไปเลยนะ?" เซี่ยซินหยู่ถามอีกครั้ง
"อืม ขึ้นมาเลย"
ที่ข้างล่างของอพาร์ทเมนต์เก่า ๆ หลังจากมองไปรอบ ๆ แล้ว เซี่ยซินหยู่ก็ขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบแชร์อย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ใช้มือจับชายเสื้อของเฉินหยวนไว้
ที่เมืองเซี่ยไห่ มีการควบคุมการใช้จักรยานและพาหนะที่ไม่ใช่เครื่องยนต์อย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการไม่สวมหมวกกันน็อค ไม่ขับในเลนจักรยาน รวมถึงการซ้อนท้าย ล้วนมีโทษปรับทั้งสิ้น
การถูกปรับเป็นเรื่องหนึ่ง บางคนยังถูกตำรวจจับได้แล้วเอาไปโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ให้คนมากดไลก์เพื่อเป็นการเตือนอีก
เฉินหยวน เนื่องจากซ้อนท้ายหญิงสาวอายุ 17 ปี สูง 162 เซนติเมตร หนัก 47 กิโล ผมยาว หน้ารูปไข่ ตาโต บนจักรยานแบบแชร์ จึงได้ตระหนักถึงความผิดของตัวเองอย่างลึกซึ้ง ตอนนี้จำเป็นต้องโพสต์ลงโซเชียลมีเดียเพื่อสะสมยอดไลก์ให้ได้สามสิบไลก์ เพื่อเป็นการเตือน และรับรองว่าจะไม่ทำผิดซ้ำอีก...
ภาพเหตุการณ์นั้นลอยเข้ามาในหัว โดยเฉพาะภาพที่เซี่ยซินหยู่โอบเอวเขาไว้แน่นขณะซ้อนท้ายจักรยาน ทำเอาเฉินหยวนแทบอยากจะมุดแผ่นดินหนี!
มุมปากอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มขึ้นอย่างเคอะเขิน... แค่ก ๆ ต้องคุมสีหน้าไว้หน่อยแล้ว
"พวกเรากำลังจะไปไหนกันเหรอ?" เสียงหวานใสของเซี่ยซินหยู่เอ่ยถามอย่างใคร่รู้
"มีที่แห่งหนึ่ง วิวสวย แถมคนน้อย ฉันไปบ่อย"
"ไปบ่อย?"
เรื่องในใจของเด็กหนุ่ม เธอคงไม่เข้าใจหรอก
แน่นอน เฉินหยวนคงไม่พูดแบบนั้นออกมา
"ที่นั่นน่ะ ถ้าถูกคนอื่นรู้เข้า ต้องโดนล้อมรั้วเก็บค่าเข้าชมแน่ ๆ"
"ในเมืองแบบนี้ ยังมีที่แบบนี้อีกเหรอ"
"ตามมาสิ"
หลังจากสแกนรหัสเสร็จ เฉินหยวนก็บิดกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
ทันทีที่ล้อเริ่มหมุน เซี่ยซินหยู่ที่แต่เดิมจับชายเสื้อของเฉินหยวนไว้ ก็เปลี่ยนเป็นเอื้อมมือโอบรอบเอวเขาอย่างเป็นธรรมชาติ
เส้นผมสีดำขลับพลิ้วไหวไปตามสายลมยามค่ำคืน ใบหน้าด้านข้างที่งดงามสะท้อนกับแสงไฟสว่างไสว ยิ่งดูงดงามชัดเจน
ชุมชนแสงตะวันนั้นอยู่ไกลจากตัวเมืองอยู่แล้ว เฉินหยวนยังขับรถมุ่งหน้าไปในทิศทางตรงกันข้ามกับย่านการค้าใจกลางเมืองอีก
ตามระยะทางที่บ้านเรือนเริ่มเบาบางลง ทิวทัศน์สองข้างทางก็ยิ่งเปิดกว้างขึ้นเรื่อย ๆ
สิบนาทีกว่า ๆ ต่อมา เขาก็ขับรถมาถึงเขื่อนกั้นน้ำชานเมือง
"ที่นี่มันเปลี่ยวไปหน่อยนะ..."
น้ำเสียงของเซี่ยซินหยู่เริ่มระมัดระวังขึ้น
และโดยไม่รู้ตัว เธอก็โอบเอวเฉินหยวนแน่นขึ้น
ก็ยังดี ที่สิ่งที่กลัวไม่ใช่ฉัน
ฉันนึกว่าเธอคิดว่าที่นี่เปลี่ยวแล้วฉันจะคิดไม่ดี ทำอะไรแผลง ๆ แบบสารภาพรักอะไรเทือกนั้น ถ้าสารภาพรักไม่สำเร็จก็จะฉวยโอกาสทำมิดีมิร้าย
"ว้าว ในพงหญ้าข้างทางมีจักรยานสาธารณะที่คนอื่นเอามาทิ้งไว้ด้วย"
"ที่นี่ไม่มีจุดจอดคืนแล้วล่ะ แต่ไม่เป็นไร ฉันดูแบตเตอรี่แล้ว เดี๋ยวขี่กลับไปได้สบาย ๆ"
"ถึงแล้วเหรอ?"
"อืม ถึงแล้ว"
ระหว่างที่พูด เฉินหยวนก็จอดรถบนเนินริมแม่น้ำ
"อืม ใช่ที่นี่แหละ"
หลังจากจอดรถข้างทาง เซี่ยซินหยู่ก็ลงจากรถ
สายลมเย็นสดชื่นพัดมาปะทะใบหน้า พัดปอยผมหน้าม้าของเธอให้เปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าที่งดงาม แม้จะเห็นหน้าผากก็ยังคงความสวยไร้ที่ติ
ถนนลาดยางริมแม่น้ำมีเนินดินอยู่ช่วงหนึ่ง ใต้แสงไฟริมฝั่งแม่น้ำ มีประภาคารเตี้ย ๆ ส่องสว่างอยู่ แหล่งกำเนิดแสงรูปพัดสองแห่ง ส่องสว่างมาบรรจบกันที่ริมตลิ่งพอดี
เฉินหยวนอดไม่ได้ที่จะภูมิใจกับสถานที่เดทที่ยอดเยี่ยมแห่งนี้ "ที่นี่กลางคืนปกติจะไม่มีคนมาหรอก นาน ๆ ทีอาจจะมีคนมาตกปลาบ้าง แต่เพราะที่นี่เขาเข้มงวด ห้ามใช้เบ็ดตกปลาแบบใหม่ ๆ บรรยากาศเลยเงียบสงบ เหมาะแก่การมานั่งรับลมริมแม่น้ำมาก ว่าแต่ ริมน้ำมีหาดทรายด้วยนะ..."
เฉินหยวนยังแนะนำไม่ทันจบ ก็เห็นเซี่ยซินหยู่ถอดรองเท้าออก ยัดถุงเท้าเข้าไปในรองเท้า แล้วเดินไปที่ริมน้ำ
แสงไฟจากประภาคารและไฟถนนส่องสว่างได้ในระยะจำกัด ขอบของแสงรูปพัดทั้งสองไม่ได้บรรจบกัน จึงมีมุมมืดอยู่จุดหนึ่ง
มองไม่เห็นผู้คนแล้ว...
แถมตัวเลขบนหัวก็หายไปด้วย...
อย่า!
เฉินหยวนตกใจจนเหงื่อเย็นแตกพลั่ก เตรียมก้าวเท้าไปข้างหน้า แต่ทันทีที่ขยับ แสงจากประภาคารก็สาดส่องเผยให้เห็นร่างของหญิงสาว
เธออยู่ในชุดกระโปรงสีเขียวอ่อน ยกชายกระโปรงขึ้นเล็กน้อย เท้าเปลือยเปล่าเหยียบลงบนผืนทรายนุ่ม สายลมจากแม่น้ำพัดผ่าน ปล่อยให้เส้นผมยาวสยาย ภายใต้แสงจันทร์สีขาวนวล ดวงตาของเธอสะท้อนภาพของเฉินหยวน ไร้ซึ่งความขุ่นมัวใด ๆ แย้มยิ้มออกมาอย่างใสซื่อบริสุทธิ์...