ตอนที่แล้วบทที่ 13 พาลูกศิษย์ไปไนต์คลับ? 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 15 บทมันสลับกันรึเปล่า?

บทที่ 14 ก็ลองดูสิ


บทที่ 14 ก็ลองดูสิ

หลังจากที่เย่เหรินให้เลอวั่นอี้และคนอื่นๆ นั่งลง

เขาก็หันหลังกลับก่อนจะเดินไปหาบาร์เทนเดอร์

บาร์เทนเดอร์ที่เห็นเย่เหรินกำลังเดินเข้ามา เขายิ้มออกมาอย่างมืออาชีพ “คุณผู้ชาย ต้องการอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าครับ?”

เย่เหรินมองบาร์เทนเดอร์ “ฉันอยากจะเจอกับผู้ดูแลน่ะ”

“ได้เลยครับ เดี๋ยวผมจะติดต่อผู้จัดการให้” บาร์เทนเดอร์พูดจบก็หยิบเอาเครื่องมือสื่อสารออกมา

แต่ก่อนที่เขาจะได้พูด มือของใครบางคนก็กดลงบนอินเตอร์คอม

เย่เหรินส่ายหัว “ฉันไม่ได้อยากเจอผู้จัดการ”

สีหน้าของบาร์เทนเดอร์เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงถามต่อ “คุณผู้ชาย ผมไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูดถึง”

เย่เหรินจ้องไปที่บาร์เทนเดอร์ เขาพูดทีละคำ “ฉันอยากจะพบกับผู้ดูแลของโรงเตี๊ยมอิสระ”

เมื่อบาร์เทนเดอร์ได้ยินคำว่า “โรงเตี๊ยมอิสระ” ดวงตาของเขาก็จริงจังขึ้นมาทันที แม้แต่ออร่าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“สมกับเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่ง แม้แต่บาร์เทนเดอร์ก็ยังเป็นถึงผู้มีพลังระดับทอง” เย่เหรินอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชม

พูดตามตรง ตอนที่เย่เหรินได้ยินจากระบบว่าไนต์คลับที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้แห่งนี้คือสาขาของโรงเตี๊ยมอิสระ

เขาก็อดที่จะรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ แต่หลังจากที่คิดทบทวนดูแล้ว ก็พบว่ามันสมเหตุสมผลดี

โรงเตี๊ยมอิสระต้องการมอบมรดกให้กับผู้คนที่ต้องการไขว่คว้ามัน ผู้คนที่ใฝ่ฝันถึงมัน

มันเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าของไนต์คลับแห่งนี้

หลังจากที่ได้ยินเย่เหรินพูดถึงมรดกวิชาชีพอย่างถูกต้อง

บาร์เทนเดอร์ก็เลิกเล่นลิ้น

“ขอโทษนะครับ คุณผู้ชายมีธุระอะไรกับผู้ดูแลโรงเตี๊ยมอิสระของเราเหรอครับ?”

เย่เหรินหรี่ตาลง เขาพูดเบาๆ

“ไปบอกผู้ดูแลของพวกแกสิ บอกว่ามีผู้สืบทอดที่เหมาะสมกับโรงเตี๊ยมอิสระอยู่ รอฉันอยู่ที่นี่แหละ”

บาร์เทนเดอร์พยักหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น

นี่คือเหตุผลที่พวกเขาต้องแอบตั้งสาขา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับการยอมรับจากราชอาณาจักรมังกร

ประชากรในราชอาณาจักรมังกรมีมากมายมหาศาล พวกเขาน่าจะเจอผู้สืบทอดมากมายในอนาคต

“คุณผู้ชายบอกได้รึเปล่า ว่าผู้สืบทอดคนนี้เหมาะสมกับการสืบทอดอาชีพอะไรในโรงเตี๊ยมอิสระของพวกเรา?”

เย่เหรินมองบาร์เทนเดอร์ เขาตอบกลับอย่างใจเย็น

“นักเยียวยาแห่งรัตติกาล”

ทันทีที่เขาพูดจบร่างกายของบาร์เทนเดอร์ก็สั่นไหวเล็กน้อย

ใครก็ตามที่พูดคำว่า “นักเยียวยาแห่งรัตติกาล” ออกมา พวกเขาต้องรู้จักโรงเตี๊ยมอิสระเป็นอย่างดี

แต่บาร์เทนเดอร์ก็ไม่ค่อยแน่ใจ

จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครสืบทอดนักเยียวยาแห่งรัตติกาลได้ แม้แต่ผู้นำทั้งสามของโรงเตี๊ยมอิสระก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้

แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขากลับพูดซ้ำๆ ว่ามีคนที่เหมาะสมแล้ว

เมื่อมองจากท่าทางที่มั่นใจ และน้ำเสียงที่จริงจัง มันก็ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น

ในตอนนั้นเอง บาร์เทนเดอร์ก็ไม่แน่ใจ เขาได้แต่พูดอย่างระมัดระวัง “แล้วผมจะรู้ได้ยังไง ว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก?”

เย่เหรินพูดอย่างใจเย็น “ไปบอกผู้ดูแลของพวกแกสิว่า ‘การเกิดเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความตาย’ เดี๋ยวเขาก็มาหาฉันเอง”

บาร์เทนเดอร์ไม่แน่ใจ

“ขอทราบชื่อได้ไหมครับ?”

“เย่เหริน”

เย่เหรินตอบกลับ ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะของเขาพร้อมกับรอยยิ้ม

“ไง อาจารย์ใหญ่เลอ ไม่ดื่มอะไรหน่อยเหรอ?”

เย่เหรินมองไปที่โต๊ะ บรรยากาศในตอนนี้ดูเย็นยะเยือก เขาพยายามที่จะทำลายความเงียบสงบ

เลอวั่นอี้มองไปที่เย่เหริน จากนั้นเธอก็มองเจียงเสี่ยวหรู ใบหน้าของเธอดูเย็นชา

“ครูเย่ นายควรจะอธิบายให้ฉันฟังก่อนนะ ว่าทำไมนายถึงพาลูกศิษย์มาที่ไนต์คลับน่ะ”

การเผชิญหน้าได้เริ่มต้นขึ้น สงครามได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

หัวใจของหวังเสี่ยวหม่านเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมา เธอหลับตาลงเล็กน้อย เพราะกลัวว่าเลือดจะสาดกระเด็นใส่ตัวเธอ

“นี่...”

เย่เหรินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่ได้ตอบคำถามของเลอวั่นอี้

นี่มันมีปัญหาแน่ๆ!!!

เลอวั่นอี้เห็นเย่เหรินไม่ตอบ ดวงตาของเธอก็หรี่ลงเล็กน้อย ลมหายใจของเธอดูเย็นยะเยือกกว่าเดิม

เลอวั่นอี้จ้องเย่เหริน ราวกับจะหยิบเอาอะไรบางอย่างออกมา หากเย่เหรินพูดอะไรผิดพลาด

แม้แต่หวังเสี่ยวหม่านก็ยังคว้าแขนของเลอวั่นอี้เอาไว้ด้วยความกังวล

เธอกลัวว่าพี่สาวของเธอจะทำเรื่องไม่ดีลงไป

แต่เย่เหรินที่อยู่ในใจกลางพายุ เขากลับไม่รู้สึกกดดันอะไร เขาทำตัวสงบนิ่ง

“ฉันพาลูกศิษย์มาที่นี่ก็เพื่อพัฒนาความแข็งแกร่ง ถามจริงๆ เถอะ ถ้าหากฉันอยากมาที่นี่จริงๆ ฉันคงต้องไปหาหมอตรวจหูแล้วล่ะ”

เย่เหรินพูดจบก็แคะหูออกมาอย่างรังเกียจ

เลอวั่นอี้และหวังเสี่ยวหม่านที่ได้ยินคำตอบของเย่เหริน พวกเธอถึงกับอึ้ง

พาลูกศิษย์ไปไนต์คลับ นายบอกว่านี่คือการพัฒนาความแข็งแกร่งงั้นเหรอ??

นี่เขากำลังล้อเล่นอะไรกันอยู่?

ก่อนที่เลอวั่นอี้จะโกรธ เสียงเยาะเย้ยก็ดังขึ้นจากข้างหลัง

“วิธีการสอนของครูเย่นี่แปลกใหม่จริงๆ แถมยังพาลูกศิษย์มาพัฒนาความแข็งแกร่งในไนต์คลับอีก พัฒนาความแข็งแกร่งด้านไหนกันนะ?”

เลอวั่นอี้และคนอื่นๆ มองไปยังต้นตอของเสียง

เมื่อเห็นหน้าของคนคนนั้น คิ้วของพวกเธอก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

ฮั่นฉุนมักจะใช้สถานะครูผู้มีชื่อเสียงโอ้อวดและกดขี่คนอื่นๆ ภายในโรงเรียน เลอวั่นอี้ไม่ชอบฮั่นฉุนเอาซะเลย เธอไม่คิดเลยว่าจะมาเจอแมลงวันตัวนี้อีก

ฮั่นฉุนมีความภาคภูมิใจในตัวเองมาก เขาไม่ได้รู้สึกถึงความเบื่อหน่ายของเลอวั่นอี้เลย กลับกัน เขานั่งลงบนโซฟาพร้อมกับแก้วไวน์อย่างสง่างาม

เขายกแก้วไวน์ให้กับเลอวั่นอี้เหมือนกับสุภาพบุรุษ

“อาจารย์ใหญ่เลอ ผมไม่คิดเลยนะว่าคุณจะชอบมาเที่ยวไนต์คลับ ครั้งหน้าผมจะพาคุณมาเอง พูดตามตรงเลยนะ ห้องนี้เจ๋งมาก”

ฮั่นฉุนส่ายหัวพร้อมกับส่งเสียง ‘จึ๊ จึ๊’ ออกมา

เขาแสดงความรังเกียจต่อตำแหน่งของห้องนี้

ฮั่นฉุนไม่ได้สนใจเย่เหรินที่นั่งอยู่ที่นั่นเลย

เลอวั่นอี้ที่กำลังหงุดหงิดอยู่แล้ว

ในตอนนี้ เธอก็ยังต้องมาฟังฮั่นฉุนโอ้อวดความเหนือกว่าของตัวเองอีก

มันทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น

เลอวั่นอี้ทำหน้าไม่พอใจ เธอไม่ได้สนใจฮั่นฉุนเลย

ฮั่นฉุนที่ถูกเมิน เขารู้สึกอับอายเล็กน้อย เขาหันไปมองเย่เหรินและเจียงเสี่ยวหรู

“ครูเย่ นี่คือลูกศิษย์ที่คุณต้องการสอนสินะ? เธอดูสวยใช้ได้เลยนะ ครูเย่นี่มีรสนิยมดีจริงๆ”

ฮั่นฉุนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่าเย่เหรินก็เหมือนกับเขา ชายที่พาเด็กสาวมหาวิทยาลัยมาที่ไนต์คลับ

“มาสิ มานี่สิ ให้ครูฮั่นดูหน่อยสิ คุณสมบัติของเธอน่ะ เป็นยังไงบ้าง?”

เจียงเสี่ยวหรูได้ยินคำพูดของฮั่นฉุน เธอรีบลุกขึ้นยืน

“อ้อ...ค่ะๆ”

พูดจบเธอก็ลุกขึ้นยืนและเดินไปทางฮั่นฉุน

แต่ทันใดนั้นเอง มือของใครบางคนก็คว้าเธอเอาไว้ซะก่อน

เจียงเสี่ยวหรูมองลงไป เธอเห็นว่ามันคือเย่เหริน

“นี่มันหมาที่ไหนกัน เห่าเสียงดังจนน่ารำคาญชะมัด”

เย่เหรินขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาของเขากำลังมองดูชายตรงหน้า

เขากำลังมองฮั่นฉุนราวกับว่าฮั่นฉุนเป็นสัตว์

ฮั่นฉุนถึงกับอึ้ง

เขาไม่เคยคิดเลยว่า ครูผู้สอนห้องเรียนสุดห่วย ผู้ซึ่งไม่มีใครรู้จักในโรงเรียน จะกล้าพูดแบบนั้นออกมา

เมื่อตั้งสติได้ ใบหน้าของเขาก็เริ่มแดงก่ำ

การที่ถูกครูชั้นเรียนห่วยๆ ที่กำลังจะโดนไล่ออกดูถูก ยิ่งไปกว่านั้นเขายังถูกดูถูกต่อหน้าเลอวั่นอี้

ฮั่นฉุนอยากจะฉีกเย่เหรินเป็นชิ้นๆ

ฮั่นฉุนหรี่ตาลง เขาข่มขู่เย่เหรินอย่างร้ายกาจ

“เย่เหริน นายอยากโดนไล่ออกรึไง?”

ในไนต์คลับแห่งนี้ ฮั่นฉุนคือลูกค้า SSVIP

ฮั่นฉุนคิดว่า ถึงแม้เขาจะโยนเย่เหรินออกไป เจ้าของไนต์คลับก็คงจะไม่กล้าห้ามเขา

เย่เหรินที่ได้ยินคำขู่ของฮั่นฉุน เขาก็หัวเราะออกมา

จากนั้นเขาก็เปิดกระป๋องโค้กอย่างใจเย็น ก่อนจะพูดอย่างใจเย็นว่า

“ก็ลองดูสิ”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด