ตอนที่แล้วบทที่ 22 ทะเลลึกแห่งความมืดมิด  ตอนที่ 3
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 24 ทะเลลึกแห่งความมืดมิด  ตอนที่ 5

บทที่ 23 ทะเลลึกแห่งความมืดมิด  ตอนที่ 4


บทที่ 23 ทะเลลึกแห่งความมืดมิด  ตอนที่ 4

พนักงานหญิงจำเวลาในการเดินเรือและจุดชมวิวในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี เธอพูดขึ้นว่า “แบบนี้ค่ะ ฉันจะรายงานเรื่องนี้กับกัปตัน ต้องขออภัยอย่างยิ่งค่ะ”

เสิ่นชงหรานโบกมือ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแค่กังวลว่าเรือจะออกนอกเส้นทาง”

พนักงานหญิงยิ้มเล็กน้อย “อาจมีการเบี่ยงเบนเล็กน้อย แต่จะถูกปรับเส้นทางให้ถูกต้องโดยเร็ว ฉันจะรายงานเรื่องนี้ให้ค่ะ”

เสิ่นชงหรานไม่ได้คาดหวังจะได้คำตอบชัดเจน เธอเพียงแค่อยากให้พนักงานบนเรือรู้สึกตื่นตัวและตรวจสอบความผิดปกติได้เร็วขึ้น

เธอไม่สามารถหยุดภารกิจได้ แต่การตรวจพบความผิดปกติและป้องกันความเสียหายก็ถือเป็นสิ่งที่ดี

เมื่อเสิ่นชงหรานเดินจากไป พนักงานหญิงก็รีบออกจากตำแหน่งเพื่อไปแจ้งเรื่องนี้กับหัวหน้าทีมของตน

เรื่องนี้มันผิดปกติ แม้จะมีการเบี่ยงเบนเส้นทางเล็กน้อย แต่ไม่น่าจะทำให้มองไม่เห็นภูเขาปาจัวเลย

วันนี้พนักงานหญิงเข้ากะเวลา 11 โมงเช้า และเธอก็ได้ยินผู้โดยสารบางคนบ่นว่าไม่เห็นจุดชมวิวแรก

ไม่นานเธอก็ไปหาหัวหน้าทีมเพื่อรายงานเรื่องนี้ และหัวหน้าทีมก็นำไปแจ้งต่อกับผู้ดูแล

ในห้องบังคับการ กัปตันรับฟังรายงานนี้และนั่งครุ่นคิด

เขามองแผงควบคุมตรงหน้า แต่บนจอแสดงเส้นทางเดินเรือไม่ได้มีปัญหาอะไร ทำไมถึงมองไม่เห็นภูเขาปาจัว?

ในตอนนั้นเอง รองผู้ช่วยกัปตันเสนอขึ้นว่า “พวกเราลองรีเซ็ตเส้นทางดีไหมครับ เพื่อดูว่ามีปัญหาจริงหรือเปล่า”

กัปตันพยักหน้า “ลองดูสิ”

พวกเขาเริ่มดำเนินการรีเซ็ตเส้นทาง โดยหน้าจอแสดงเส้นทางเริ่มนับถอยหลัง หากมีปัญหา การรีเซ็ตนี้จะทำให้เส้นทางกลับมาแสดงผลตามปกติ แล้วพวกเขาสามารถปรับทิศทางได้ตามนั้น

เมื่อการรีเซ็ตเสร็จสิ้น ผลลัพธ์ที่ปรากฏบนหน้าจอกลับทำให้ทุกคนตกตะลึง

จอแสดงให้เห็นว่าเรือเฟยเยว่ได้เบี่ยงเบนเส้นทางอย่างรุนแรง จนไม่สามารถมองเห็นเส้นทางเดิมได้เลย ซึ่งหมายความว่าพวกเขาได้แล่นเรือไปในทิศทางที่ไม่คุ้นเคยมานานแล้ว

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้!” คนหนึ่งอุทาน

กัปตันเองก็ตกตะลึง เขามองจอควบคุมที่แสดงตำแหน่งการเดินเรืออัปเดตแบบเรียลไทม์อยู่ตลอดเวลา แต่เขายังคงมีประสบการณ์มากพอจึงรีบสั่งการทันที “ปรับเส้นทาง เราต้องกลับไปเส้นทางเดิม และรายงานเรื่องนี้ให้บริษัททราบ ให้เรือสำราญลำอื่นมารับผู้โดยสารเพื่อเดินทางต่อ ส่วนเรือลำนี้ต้องกลับไปตรวจสอบอย่างละเอียด”

นี่ถือเป็นเหตุการณ์ใหญ่ โชคดีที่พวกเขาเจอปัญหานี้ในตอนนี้ แต่พวกเขายังต้องติดต่อบริษัทเพื่อตรวจสอบว่าเรือสำราญลำอื่นจะพบกับเรือเฟยเยว่หรือไม่

ในมหาสมุทรกว้างใหญ่ ไม่ได้มีแค่เรือเฟยเยว่ที่แล่นอยู่

หลังจากได้รับคำสั่งจากกัปตัน ผู้ช่วยจึงพยักหน้ารับและพูดว่า “ครับ ผมจะรายงานทันที”

กัปตันยังคงพยายามค้นหาว่าเส้นทางเดิมอยู่ไกลจากจุดปัจจุบันแค่ไหน เมื่อเห็นผลการตรวจสอบ เขาก็พบว่าการเบี่ยงเบนนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวานที่เริ่มออกเดินทาง

สีหน้าของกัปตันดูเคร่งเครียดมากขึ้น นี่ถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในอาชีพการทำงานของเขา “จากนี้ไปให้ปรับทิศทางไปยังท่าเรือใกล้ภูเขาปาจัว ให้เรือของบริษัทที่ถูกส่งมารอรับผู้โดยสารที่นั่น”

แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ จากอีกฝั่ง คนอื่น ๆ ก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติจึงเงยหน้ามองคนที่กำลังจะรายงานเรื่องนี้

ชายคนนั้นยืนอยู่หน้าสายโทรศัพท์โดยไม่ขยับตัว ร่างกายของเขาเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ซึ่งหยดลงมาเปียกชื้นบนพื้นไม้ในห้อง

รองผู้ช่วยกัปตันมองด้วยความสงสัย “หลี่หมิง นายเป็นอะไรไป?”

แค่พวกเขาพูดกันแป๊บเดียว เขาก็ตกน้ำแล้วงั้นหรือ?

แต่หลี่หมิงไม่ได้ตอบ น้ำที่เท้าเขายังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ทุกคนเริ่มรู้สึกแปลก

กัปตันเรียกเขาเสียงต่ำ “หลี่หมิง นายยังฟังอยู่ไหม?”

ไม่นานพวกเขาเห็นนิ้วของหลี่หมิงขยับเล็กน้อย แล้วขาของเขาก็เริ่มขยับ ร่างของเขาค่อย ๆ หมุนตัวกลับมา

ใบหน้าที่ซีดขาวจากการจมน้ำของเขา เต็มไปด้วยน้ำที่ไหลออกมาตลอดเวลา แม้แต่ปากของเขาก็ยังพ่นน้ำออกมาเป็นระยะ กัปตันและคนอื่น ๆ ต่างตกใจจนพูดไม่ออก

มีลูกเรือคนหนึ่งพูดด้วยเสียงสั่น “หลี่...หลี่หมิง นายอย่าทำให้เรากลัว”

นี่ไม่ใช่คนปกติอีกแล้ว เขาคือศพที่จมน้ำมานานและลุกขึ้นมาเดินใหม่อีกครั้ง

เมื่อพวกเขานึกถึงเส้นทางที่ผิดปกติ ความหวาดกลัวก็แล่นเข้ามาในใจของทุกคน

ในขณะนั้น หลี่หมิงที่มีท่าทางแปลกประหลาดก็ยิ้มออกมา มุมปากของเขายกขึ้น พร้อมกับน้ำทะเลที่ไหลออกมาพร้อมกลิ่นคาวทะเล “ฮึฮึ พวกนายควรบังคับเรือให้ดี ๆ ล่ะ”

ร่างกายของทุกคนที่เคยแข็งทื่อเริ่มสั่นสะท้าน

หลี่หมิงไม่ใช่คนอีกต่อไปแล้ว... เขาเป็นผี!

รองผู้ช่วยกัปตันคิดจะออกจากที่นี่ แต่เมื่อเขาเพียงขยับศีรษะเล็กน้อย เขาก็เห็นเงาดำบางอย่างผ่านหางตาไป

ความชื้นในห้องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กลิ่นคาวทะเลโชยเข้าจมูก ความหวาดกลัวค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาห่อหุ้มพวกเขา

ลูกเรือคนหนึ่งเมื่อทนความกลัวไม่ไหว พยายามหมุนตัวเปิดประตูเพื่อหนีออกไป แต่พื้นไม้กลับเต็มไปด้วยน้ำทะเล เขาลื่นล้มลงไปบนพื้น

ขณะที่เขาพยายามลุกขึ้น ความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะจากมือซ้ายทำให้เขาหันมองไปช้า ๆ สิ่งที่เขาเห็นคือร่างของศพบวมอืดนอนอยู่บนพื้น มือซ้ายของเขากดลงไปที่หน้าท้องของศพจนมือทั้งข้างจมลงไป

เขารีบดึงมือกลับทันที แต่มือที่บวมซีดของศพนั้นกลับคว้าแขนซ้ายของเขาไว้ มันเป็นศพนั่นเอง! เขาเห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวของศพ ปากของมันเปิดออกและน้ำทะเลก็พุ่งออกมา เขาได้ยินเสียงที่เปล่งออกมาว่า “นายทับฉันนะ ต้องชดใช้สิ”

ชดใช้? ชดใช้ยังไง…

...

วันนี้ดีกว่าเมื่อวานเยอะ นั่นคือสิ่งที่หวงหาวคิด

เมื่อวานหัวหน้าทีมพูดถูก วันที่สองความตื่นเต้นของผู้โดยสารลดลง วันนี้พวกเขาจึงเลิกงานก่อนเวลาเกือบสองชั่วโมง

แต่หวงหาวไม่เคยทำงานหนักแบบนี้มาก่อน ในชีวิตก่อนเขาเคยเป็นเพียงพนักงานออฟฟิศทั่วไป นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ร่างกายของเขาจึงไม่ฟิตเหมือนสมัยเรียน

ตอนนี้เพื่อนร่วมงานที่อยู่ห้องเดียวกันหายไปไหนไม่รู้ และยังไม่กลับมา หวงหาวไม่ได้คิดอะไรมาก เขารีบอาบน้ำและล้มตัวลงบนเตียงทันทีด้วยความเหนื่อยล้า

เขาเพิ่งจะเคลิ้มหลับก็ได้ยินเสียงเปิดประตู เขาคิดว่าเป็นเพื่อนร่วมงานที่กลับมา แต่ก็รู้สึกง่วงเกินกว่าจะทักทาย

แต่พอเขาคิดทบทวน เขาก็จำได้ว่ามีเพียงเสียงเปิดประตูเท่านั้น ไม่มีเสียงปิดประตู หรือว่าเพื่อนร่วมงานออกไปอีกแล้ว?

ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น หวงหาวเกือบจะหลับไปอีกครั้ง แต่กลิ่นคาวทะเลเริ่มโชยเข้ามา ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะพวกเขาอยู่บนทะเล กลิ่นลมทะเลเป็นเรื่องปกติ

แต่ปัญหาคือกลิ่นนี้เข้มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่กี่นาทีต่อมากลิ่นคาวทะเลก็เริ่มเปลี่ยนไป มันกลายเป็นกลิ่นเหมือนปลาที่เน่าเสียอยู่ในห้อง กลิ่นนั้นแรงจนทำให้หวงหาวค่อย ๆ ได้สติ

เขาพยุงตัวขึ้นครึ่งหนึ่งและขยี้ตา เห็นว่าประตูไม่ได้ถูกปิดสนิท และมีคนยืนอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางแสงที่ส่องเข้ามา

“ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ไปนอน?” หวงหาวถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย

แต่เงานั้นไม่ขยับและไม่ตอบเขา

ไม่กี่วินาทีผ่านไป หวงหาวเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ ขนลุกไปทั้งตัว เขาเกือบจะลืมไปว่าภารกิจนี้คือภารกิจสยองขวัญ

โชคดีที่เขาเตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลา เขารีบหยิบยันต์ที่พกติดตัวขึ้นมาถือไว้ในมือ และค่อย ๆ นั่งตัวตรงขึ้น เตรียมรับมือกับวิญญาณที่อาจปรากฏตัว

ภายในห้องยังคงมืดสลัว การที่จะขจัดความกลัว สิ่งแรกที่ต้องมีคือแสงไฟ โคมไฟในห้องพักพนักงานอยู่ตรงหัวเตียง

หวงหาวจ้องมองเงาคนนั้นที่หน้าประตู ขณะที่มือเอื้อมไปหาสวิตช์ไฟ แต่ทันทีที่สัมผัส เขารู้สึกได้ว่ามันเปียก

ไฟสว่างขึ้น เผยให้เห็นคนที่ยืนอยู่หน้าประตู นั่นคือเพื่อนร่วมงานของเขา

..........

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด