ตอนที่แล้วบทที่ 20 ทะเลลึกแห่งความมืดมิด  ตอนที่ 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 22 ทะเลลึกแห่งความมืดมิด  ตอนที่ 3

บทที่ 21 ทะเลลึกแห่งความมืดมิด  ตอนที่ 2


บทที่ 21 ทะเลลึกแห่งความมืดมิด  ตอนที่ 2

เสิ่นชงหรานเดินสำรวจไปรอบ ๆ ชั้นสอง เธอสังเกตเห็นว่ามีการวางห่วงชูชีพไว้ที่ราวจับบนดาดฟ้า แต่ไม่พบเรือชูชีพที่ควรมี เมื่อเดินผ่านพื้นที่พักผ่อน เธอพบโซนการแพทย์ที่อยู่ติดกัน ภายในมีการเตรียมยาต่าง ๆ อย่างเพียงพอสำหรับผู้ที่รู้สึกไม่สบาย

พนักงานคนหนึ่งถือถาดผ่านมาพอดี เสิ่นชงหรานเรียกหยุดเขาไว้ “ขอโทษนะคะ ฉันเดินดูรอบ ๆ แต่ไม่เห็นเรือชูชีพเลย ตอนแรกคิดว่าจะเหมือนในหนังที่แขวนไว้ทั้งสองข้างของเรือ”

พนักงานยิ้มและตอบว่า “เรือชูชีพถูกเก็บไว้ในบริเวณที่กำหนดไว้ครับ ถ้ามีเหตุฉุกเฉิน มันจะปล่อยตัวเองลงทะเลอัตโนมัติ คุณผู้หญิงไม่ต้องกังวลไปนะครับ”

เสิ่นชงหรานพยักหน้า “ขอบคุณค่ะ”

วันนี้เป็นวันแรกของการเดินทางบนเรือเฟยเยว่ นักท่องเที่ยวต่างก็ดูมีความสุข ผู้จัดงานประกาศว่าจะมีการแสดงมายากลที่ชั้นสองในคืนนี้

เมื่อถึงเวลา ทุกอย่างก็เป็นไปตามปกติ

เสิ่นชงหรานเดินสำรวจไปทั่วเรือทั้งสามชั้น มีเพียงชั้นที่สี่เท่านั้นที่ไม่สามารถขึ้นไปได้

กลางคืนมาเยือน ผืนน้ำสงบเงียบ เรือเฟยเยว่สว่างไสวด้วยแสงไฟ และเสียงหัวเราะของนักท่องเที่ยวดังไปไกล

เรือเฟยเยว่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ แต่ในเวลาปกติจะไม่เปลี่ยนมาใช้ระบบนี้

ในห้องบังคับการ พนักงานเรือที่ใส่ชุดเครื่องแบบเปิดประตูเข้ามา “กัปตันครับ คืนนี้อยากทานอะไร ผมจะไปจัดการให้”

กัปตันหันมาคิดเล็กน้อยแล้วตอบว่า “ข้าวหน้าปลาไหลก็แล้วกัน”

หน้าจอของแผงควบคุมกระพริบขึ้นเล็กน้อย หลังจากการกระพริบนั้น เส้นทางบนแผนที่ได้เปลี่ยนไป

เมื่อพนักงานออกไป กัปตันมองดูหน้าจออีกครั้ง แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร

...

เสิ่นชงหรานยืนดูการแสดงมายากลบนชั้นสองอยู่พักหนึ่งก่อนจะถือแก้วน้ำผลไม้แล้วหันหลังเดินจากไป

เธอไม่ได้สนใจการแสดงนี้ และตอนนี้ก็เกือบจะห้าทุ่มแล้ว ความง่วงเริ่มเข้ามาเยือน

เมื่อขึ้นมาถึงชั้นสาม เสียงอึกทึกจากชั้นสองก็ถูกกั้นไว้อย่างดี

หลังจากล้างหน้าแปรงฟันอย่างง่าย ๆ เสิ่นชงหรานดื่มน้ำผลไม้ที่เหลือจนหมด ก่อนจะยืนอยู่ที่ระเบียงมองออกไปยังความมืดมิดของท้องทะเล เธอรู้ว่าภารกิจครั้งนี้คือ “ทะเลลึกแห่งความมืดมิด” แต่เธอไม่แน่ใจว่ามันเกี่ยวข้องอะไรกับทะเลนี้กันแน่

หลังจากวางแก้วลง เธอก็เดินไปแปรงฟันต่อ ขณะที่คลื่นนอกหน้าต่างเริ่มซัดเล็กน้อย

...

การเฉลิมฉลองบนชั้นสองของเรือเฟยเยว่ยังคงดำเนินไปจนดึก จนกระทั่งเวลาใกล้ตีสอง ผู้โดยสารส่วนใหญ่จึงค่อย ๆ ทยอยกลับห้องพัก

เรือแล่นไปบนทะเลอย่างเงียบสงบ

ไม่นานนัก คลื่นที่กระทบทั้งสองข้างของเรือเริ่มรุนแรงขึ้น มีบางอย่างจากใต้ทะเลกำลังเคลื่อนตัวขึ้นมา พวกมันสัมผัสกับตัวเรือแล้วค่อย ๆ ไต่ขึ้นมา

จู่ ๆ มือที่เน่าเปื่อยข้างหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากใต้ทะเล ตบดัง “ป้าบ” บนขอบเรือ

หวงหาวกำลังนวดไหล่ที่ปวดเมื่อย รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยและบ่นในใจว่า ผู้โดยสารพวกนี้ช่างสนุกสนานเสียจริง กว่าจะเลิกก็ล่วงเลยเวลามาจนดึก

เขาและ “เพื่อนร่วมงาน” พึ่งจะได้เปลี่ยนเวรกัน หลังจากที่ต้องทำงานยุ่งวุ่นวายมาตลอด แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนเวรแต่พวกเขาก็ไม่สามารถออกไปได้ในทันที

“โอ๊ย ไหล่นี่นะ ผู้โดยสารวันแรกก็เป็นอย่างนี้แหละ พรุ่งนี้ความตื่นเต้นของพวกเขาคงจะลดลงบ้าง”

หัวหน้าทีมซึ่งเป็นหญิงวัยกลางคนพูดขึ้นขณะที่เธอนวดไหล่ของตัวเอง

“ไปนอนเร็ว ๆ เถอะ ฉันง่วงจะตายแล้ว”

“พรุ่งนี้คงจะปวดไหล่แน่ ๆ เลย”

หวงหาวได้ยินพวกเขาพูดคุยกัน ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ต่างจากคนปกติในโลกแห่งความเป็นจริงมากนัก ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในโลกแห่งความจริงหรือในความฝันกันแน่

เพื่อนร่วมงานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตบไหล่เขา “เหม่ออะไรอยู่หวงหาว งานยุ่งจนเลอะเลือนแล้วเหรอ?”

หวงหาวสะดุ้งตื่นจากภวังค์ “อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก แค่เหม่อไปหน่อย”

เพื่อนร่วมงานของเขาซึ่งพักอยู่ห้องเดียวกันพอดี พูดพร้อมกับโอบไหล่หวงหาว “พอดีเราอยู่ห้องเดียวกัน งั้นหัวหน้าครับ เราขอไปพักก่อนนะครับ”

หัวหน้าทีมไม่พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้าด้วยดวงตาที่หรี่ลงเล็กน้อย

บนเรือเฟยเยว่ ห้องพักของพนักงานถือว่าดีใช้ได้ สองคนต่อห้อง และมีห้องน้ำในตัว

หลังจากเข้ามาในห้อง เพื่อนร่วมงานของหวงหาวก็เริ่มถอดเสื้อคลุม “ฉันขออาบน้ำก่อนนะ ครั้งหน้าให้เธออาบก่อนก็ได้”

หวงหาวไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ เขาพยักหน้า “ได้เลย รีบไปอาบเถอะ”

หลังจากอาบน้ำและพูดคุยกันอีกเล็กน้อย เวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงตีสามครึ่ง หวงหาวตบเตียงเบา ๆ ก่อนจะเอนตัวลงนอนอย่างอ่อนล้า หลังจากทำงานมาตลอดทั้งวัน เขาถอนหายใจยาวอย่างโล่งใจเมื่อได้สัมผัสเตียงนุ่ม ๆ

เพื่อนร่วมงานปิดไฟให้เขาอย่างเอาใจใส่

ด้วยความเหนื่อยล้า หวงหาวจึงเข้าสู่ห้วงนิทราได้อย่างรวดเร็ว

...

ไม่รู้ว่าเวลานี้เป็นเวลาใด หวงหาวรู้สึกแปลก ๆ เพราะรอบตัวเขามีความชื้นปกคลุม

ความชื้นที่สะสมอยู่แทบจะกลายเป็นหยดน้ำ ผ้าห่มที่คลุมตัวก็มีความรู้สึกชื้นแฉะจนนอนไม่สบาย

แต่เพราะเขาทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน ร่างกายจึงอ่อนล้ามาก แม้จะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ แต่ก็ไม่มีแรงจะลืมตาขึ้น

ในขณะที่เขาหลับตา หวงหาวเปิดตาขึ้นเล็กน้อยและเห็นว่า คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง เขาเห็นเงาร่างของใครบางคนเดินโยกเยกไปยังเตียงฝั่งตรงข้าม

หวงหาวคิดว่าคงเป็นเพื่อนร่วมงานที่ลุกไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน และกำลังกลับมาที่เตียง เขาไม่ได้ใส่ใจความชื้นรอบ ๆ อีก และปิดตาเข้าสู่การหลับลึกอีกครั้ง

...

เสิ่นชงหรานตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงงเล็กน้อย เมื่อคืนเธอนอนหลับสนิทโดยไม่ฝันแม้แต่น้อย

ฟ้าสว่างแล้ว แต่ท้องฟ้ากลับดูหม่นมัว แสงแดดอ่อน ๆ เล็ดลอดผ่านเมฆหนาทึบส่องลงมายังเรือ

หลังจากล้างหน้าแปรงฟันแล้ว เธอเดินไปยังชั้นสอง วันนี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั่งพูดคุยกันเงียบ ๆ ในเรือ ผู้ที่มาคนเดียวเหมือนเธอนั้นมีไม่มากนัก

เมื่อวานนี้เธอลองสังเกตผู้คนบนชั้นหนึ่งถึงชั้นสาม แต่ไม่พบว่าใครเป็น “ผู้ทำภารกิจ”

เธอเริ่มสงสัยว่าภารกิจครั้งนี้มีเพียงเธอคนเดียวหรือเปล่า

ขณะนั่งทานอาหารในร้านอาหารแบบบุฟเฟต์ ข้าง ๆ เธอเห็นกลุ่มเด็กสาวที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนกันที่มาท่องเที่ยวด้วยกัน

“เอ๊ะ เขาว่าวันที่สองจะเห็นภูเขาปาจัวนี่นา ทำไมตอนนี้นอกจากทะเลไม่มีอะไรเลย”

เมื่อเด็กสาวพูดแบบนั้น เพื่อน ๆ ก็หันไปมองวิวข้างนอก “ใช่จริง ๆ นะ สงสัยเพราะอากาศไม่ดี เราเลยมองไม่เห็น”

“คิดอะไรอยู่ อากาศวันนี้แค่มีเมฆ ไม่ได้มีหมอกหนา”

“อย่าบอกนะว่าเป็นแค่โฆษณาหลอกลวง ตอนแรกก็อยากเห็นภูเขาปาจัวที่เต็มไปด้วยดอกท้อของฤดูกาลนี้แท้ ๆ”

“ใครจะรู้ล่ะ ตอนแรกมองทะเลยังน่าตื่นเต้นอยู่เลย แต่คงไม่ใช่ว่าจะต้องมองทะเลทั้งทริปหรอกนะ”

“ก็ยังมีบาร์นี่ไง ไปสนุกที่นั่นก็ได้ ถ้ามีคนจากชั้นสี่ลงมาก็ดีนะ ฉันอยากขึ้นไปดู แต่เสียดายที่ไม่มีตั๋ว คนที่มีตั๋วเท่านั้นถึงจะพาขึ้นไปได้”

เสิ่นชงหรานไม่ได้สนใจเนื้อหาการพูดคุยของพวกเขามากนัก ยกเว้นเพียงเรื่องภูเขาปาจัว

จากประสบการณ์ภารกิจครั้งก่อน ๆ ของเธอ ความผิดปกติใด ๆ ล้วนเป็นข้อมูลสำคัญ เช่นเดียวกับครั้งก่อนที่ฝนตกไม่หยุด

หลังจากทานบะหมี่คำสุดท้าย เสิ่นชงหรานจึงคิดจะลองหาคู่มือการท่องเที่ยว

คู่มือท่องเที่ยวก็เป็นสื่อโฆษณาแบบหนึ่ง ไม่ยากที่จะหาในชั้นสองของเรือ เธอหยิบมาหนึ่งเล่มแล้วไปยังพื้นที่พักผ่อนบนชั้นสาม ซึ่งยังไม่มีคนอื่นอยู่

เธอเปิดคู่มือท่องเที่ยว หน้าแรกคือการแนะนำบริษัทเรือสำราญ จากนั้นก็เป็นโฆษณาท่องเที่ยวแบบหรูหราหลากหลายรูปแบบ

เมื่อพลิกไปยังหน้าที่แสดงสถานที่ที่เรือจะแล่นผ่าน ก็มีภูเขาปาจัวตามที่กลุ่มเด็กสาวกล่าวถึงพร้อมกับภาพประกอบ เป็นภาพภูเขาที่เต็มไปด้วยดอกท้อที่สวยงาม ถ่ายจากเรือสำราญ

ดอกท้อบนภูเขาดูงดงามมาก และจากเรือสำราญก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน

แต่วันนี้เธอสังเกตแล้ว นอกจากทะเล ก็ไม่มีสิ่งใดอื่นให้เห็น ไม่ต้องพูดถึงภูเขาเลย

ถึงแม้ว่าเรือลำใหญ่อาจจะหลุดจากเส้นทางไปบ้าง แต่ก็น่าจะใช้เครื่องมือหาพิกัดนี้ได้อย่างรวดเร็ว

เสิ่นชงหรานคิดในใจ บางทีหายนะอาจจะกำลังคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบ ๆ โดยไม่รู้ตัวหรือไม่

..........

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด