ตอนที่แล้วบทที่ 10 มดปลวกใต้ฝ่าเท้าปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 12 เลอวั่นอี้ผู้เดือดดาล

บทที่ 11 เด็กสาวผู้จริงจัง


บทที่ 11 เด็กสาวผู้จริงจัง

“สิ่งสำคัญอันดับแรกของการเป็นนักบำบัดที่ดีก็คือ ต้องมีจิตใจที่ดี และปฏิบัติตามกฎ...”

หญิงสาวหลับตาอ่านตำรา เธอไม่รู้เลยว่าเย่เหรินกำลังยืนอยู่ข้างๆ เธอ

เมื่อได้ยินว่าห้องเรียนเงียบสนิท จนแทบจะไม่ได้ยินเสียงใดๆ

เธอจึงค่อยๆลืมตาขึ้น

หญิงสาวเงยหน้าขึ้น เธอเห็นเย่เหรินกำลังยิ้มให้เธอ เด็กสาวตกใจจนจึงรีบลุกขึ้นยืน

ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น เธอก็ยังโค้งคำนับให้กับเย่เหรินอย่างสุภาพ

“เย่...ครูเย่ หนูไม่รู้ว่าครูอยู่ที่นี่”

เย่เหรินพลิกตำราของเด็กสาว เขาถอนหายใจออกมา

“หลักการพื้นฐานของการเยียวยาด้วยพลังวิเศษ... เจียงเสี่ยวหรู ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะเรียนรู้สิ่งที่เธอต้องเรียนในปีสองไปแล้ว เก่งมาก”

ทันทีที่เย่เหรินพูดจบ ใบหน้าของเจียงเสี่ยวหรูก็เปลี่ยนไปเป็นสีแดง

เธอรู้สึกอับอายอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่รู้จะพูดอะไร หัวสมองของเธอกำลังสับสน ในตอนนั้นเองเธอก็เผลอพูดออกไปว่า

“ค่ะ...ขอโทษด้วยค่ะครูเย่ ฉันจะไม่ท่องตำราอีกแล้วค่ะ!!”

ทันทีที่เธอพูดจบ ห้องเรียนก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

เสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมชั้นทำให้เจียงเสี่ยวหรูยิ่งสับสนมากขึ้น

เธอขดตัวด้วยความประหม่าอยู่ที่มุมห้อง เธอกำลังขยี้ชายเสื้ออย่างกังวล

เย่เหรินที่เห็นแบบนั้น เขายังคงนิ่งเงียบ

ในห้องเรียนแห่งนี้ คนที่ตั้งใจเรียนจะถูกหัวเราะเยาะ แถมยังต้องขอโทษอาจารย์จนไม่กล้าท่องตำราอีกงั้นเหรอ??

นี่มันเรื่องตลกอะไรกันล่ะเนีย?

“หัวเราะอะไรกัน?”

น้ำเสียงของเย่เหรินดูสงบนิ่ง แต่มันกลับทรงพลัง

ประโยคง่ายๆ นั้นทำให้เสียงหัวเราะหยุดลงทันที

“ฉันกำลังถามพวกแกอยู่ว่า ขำอะไรกัน?”

เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของเย่เหริน นักเรียนส่วนใหญ่ก็นิ่งเงียบ

“ครูเย่ เธอน่ะตั้งใจเรียนมากก็จริง แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ยังใช้ทักษะการเยียวยาระดับต่ำสุดไม่ได้ พวกเราเลยคิดว่าการเรียนน่ะมันไม่มีประโยชน์”

เสียงพูดของใครบางคนดังขึ้นมาจากกลุ่มนักเรียน

คำพูดนั้นเอง

ทำให้เจียงเสี่ยวหรูยิ่งอับอาย

เจียงเสี่ยวหรู

เด็กที่สามารถปลุกพรสวรรค์ในการเยียวยาขึ้นมาได้ แต่กลับใช้ทักษะการรักษาระดับต่ำสุดไม่ได้ มันเป็นปัญหาที่ติดตัวเธอมานาน

เธอเรียนอย่างหนักทุกๆ วัน ตั้งใจทำการบ้านมากกว่าใครๆ และปฏิบัติตามกฎระเบียบมากกว่าใครๆ

เป็นนักเรียนที่เชื่อฟังและเรียบร้อยที่สุดในสายตาของครูทุกคน

แม้แต่คะแนนทฤษฎีก็ยังติดอันดับหนึ่งของทั้งระดับชั้น

แต่ผลการปฏิบัติจริงของเธอกลับแย่ที่สุดในโรงเรียน

อ้างอิงตามระบบของโรงเรียน

ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของเจียงเสี่ยวหรู หากเจียงเสี่ยวหรูยังไม่สามารถผ่านการทดสอบการต่อสู้จริงในระดับต่ำสุดได้

เธอจะถูกไล่ออกจากโรงเรียน

และเมื่อได้ฟังคำพูดของเพื่อนร่วมชั้น สถานการณ์ที่เป็นอยู่ก็ยิ่งน่าอับอาย

มันเหมือนกับศรเย็นที่แทงทะลุหัวใจของเจียงเสี่ยวหรู

ความเศร้าและความคับข้องใจพวยพุ่งเข้ามาในใจของเธอ ดวงตาของเธอเริ่มแดงก่ำ

เย่เหรินมองไปที่นักเรียนทั้งหลาย เขานิ่งเงียบ

นี่มันห้อง 2 ชั้นปีที่ 1

ห้องเรียนเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความคิดที่ว่า ‘การเรียนไม่มีประโยชน์’ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยการกินดื่มเล่น

การตั้งใจเรียนอย่างหนักกลับกลายเป็นเรื่องตลก

ทุกคนต่างติดอยู่ในห้วงลึกแห่งความสิ้นหวัง พวกเขาไม่คิดจะหนีออกไป กลับพยายามดึงคนอื่นให้ลงไปในห้วงแห่งนั้นกับพวกเขา

ถ้าหากอยากจะให้ชั้นเรียนนี้พลิกกลับมา ถ้าหากอยากจะทำให้ชั้นเรียนนี้เก่งกาจขึ้น

เย่เหรินจะต้องแก้ไขบรรยากาศของชั้นเรียนนี้ให้ได้ซะก่อน

ในเมื่อกรณีของเจียงเสี่ยวหรูกลายเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการเรียนนั้นไม่มีประโยชน์

สิ่งที่เย่เหรินต้องทำก็คือ โค่นล้มหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธไม่ได้นี้ซะ!!

เย่เหรินเดินไปหาเจียงเสี่ยวหรูอย่างเงียบๆ

เขาปกป้องเจียงเสี่ยวหรูจากสายตาของทุกคน

“ฉันจะไม่สืบหรอกนะว่าใครเป็นคนพูด ฉันรู้ว่าพวกแกทุกคนมีความคิดแบบนั้นอยู่”

“พวกแกทุกคนกำลังหัวเราะเยาะคนที่ตั้งใจอย่างหนัก กำลังหัวเราะเยาะคนที่ทำงานไร้สาระ และพยายามสนับสนุนความคิดที่ว่าการเรียนไม่มีประโยชน์ของตัวเอง”

“แต่นั่นคือเหตุผลที่พวกแกไม่พยายามกันเหรอ?”

“ทุกคนที่นี่สอบเข้าสถาบันเกาอู่แห่งมหานครเวทมนตร์ได้ด้วยความสามารถของตัวเอง ทุกคนต่างก็มีคุณสมบัติที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้พวกแกกลับไม่เต็มใจที่จะก้าวไปข้างหน้า ไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้ตัวเองเหมือนกับโคลนตมที่ใครๆ ก็เหยียบย่ำได้”

เย่เหรินมองไปรอบๆ สายตาที่เฉียบคมในดวงตาของเขาทำให้นักเรียนทุกคนก้มหน้าลง

“พวกแกคิดว่าการตั้งใจอย่างหนักนั้นไร้ประโยชน์ พวกแกเยาะเยาะคนที่พยายาม ถามจริงๆ เหอะ ความจริงแล้วพวกแกน่ะไม่ได้กำลังดูถูกตัวเองอยู่เหรอ?”

“เมื่อเจออุปสรรคเพียงเล็กน้อย พวกแกก็เลือกที่จะหนี

กลัวว่าตัวเองจะไม่ใช่อัญมณี พวกแกก็เลยไม่คิดจะลองฝึกฝน

แต่ในใจลึกๆ ก็คิดว่าตัวเองเป็นอัญมณี มันทำให้รู้สึกพึงพอใจ แต่ก็กลัวความจริง พวกแกเลยหนีเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ

อยู่ที่นี่ ในโลกที่สามารถปลอบโยนตัวเองได้ แต่ก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ที่สว่างไสว”

คำพูดของเย่เหรินตรงประเด็นทุกอย่าง

นักเรียนที่อยู่ที่นั่นพูดไม่ออก บางคนถึงกับหน้าแดงด้วยความอับอายและความโกรธ

เย่เหรินและเจียงเสี่ยวหรูยืนอยู่ตรงกลางแท่นบรรยาย

“ความพยายามของเจียงเสี่ยวหรูไม่เคยสูญเปล่า วันหนึ่งเธอจะโผล่ออกมาจากรังไหม เธอจะกลายเป็นผีเสื้อ และยืนหยัดต่อหน้าทุกคนได้อีกครั้ง”

“ฉันรู้ว่าพวกแกอาจจะไม่พอใจ แต่จำสิ่งที่ฉันพูดเอาไว้ให้ดี วันหนึ่งพวกแกจะได้เห็นกับตาตัวเองว่า เจียงเสี่ยวหรูจะพิสูจน์ให้พวกแกได้เห็นถึงประโยชน์ของการเรียน และการตั้งใจอย่างหนักเอง!”

เย่เหรินหันไปทางเจียงเสี่ยวหรู

“เจียงเสี่ยวหรู ตามฉันมา”

เจียงเสี่ยวหรูมองไปที่เย่เหรินอย่างว่างเปล่า

ในตอนนั้นเอง ภายใต้แสงแดด วันนี้เย่เหรินดูเหมือนกับเทวดาที่ลงมาจากสวรรค์

“ค่ะ...ค่ะ ครู”

เจียงเสี่ยวหรูกอดตำราของเธอ เธอเดินตามเย่เหรินออกจากห้องเรียนไป

นักเรียนที่เหลือต่างก็มองหน้ากัน

ที่ทางเดิน

เย่เหรินเดินนำหน้า เจียงเสี่ยวหรูเดินตามหลัง

สองคนกำลังเดินตามกัน

เย่เหรินเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า

ตราบใดที่เขายังคงเดินเร็ว เจียงเสี่ยวหรูก็จะเดินตามเขาเร็วขึ้น ถาหากเขาเดินช้าลง เจียงเสี่ยวหรูก็จะเดินช้าลง

เธอไม่ยอมเดินเคียงข้างเขา

“เสี่ยวหรู ไม่ต้องเกร็งแบบนั้นก็ได้”

เจียงเสี่ยวหรูส่ายหน้าอย่างจริงจัง “ตามกฎของโรงเรียนแล้ว พวกเราต้องเคารพครู การเดินตามหลังครูครึ่งก้าวเป็นการแสดงถึงความเคารพค่ะ”

เย่เหรินส่ายหัวอย่างหมดหวัง

“แล้วแต่เธอก็แล้วกัน แต่เธอยังถือตำราอยู่ทำไม?”

“ครูเย่คะ ตามกฎของโรงเรียน พวกเราจะต้องทบทวนเนื้อหาในตำราทุกๆ วันค่ะ หนูต้องอ่านมันตลอดเวลาค่ะ”

เย่เหรินเห็นเจียงเสี่ยวหรูทำทุกอย่างตามกฎของโรงเรียน

เย่เหรินหยุดเดิน เขาหันหลังกลับไปมองเด็กหญิงที่ดูจริงจังอยู่ตรงหน้า เขายิ้มออกมาอย่างหมดหวัง

เย่เหรินนึกถึงข้อมูลของเจียงเสี่ยวหรูจากระบบ

เจียงเสี่ยวหรู

เพศหญิง อายุ 19 ปี

พลังตื่นรู้: พรสวรรค์ในการเยียวยาระดับ B

การฝึกฝนในปัจจุบัน: การฝึกฝนร่างกายสถาบันเกาอู่แห่งมหานครเวทมนตร์ 2.0 (เวอร์ชั่นสาธารณะ)

ข้อดี: มีระบบความรู้ในด้านผู้เยียวยาที่สมบูรณ์แบบ และเชี่ยวชาญทักษะพื้นฐานของนักบวชทั้งหมด

ข้อเสีย: ไม่สามารถใช้พลังในการเยียวยาได้

แผนการแนะนำ:

เข้ากันได้ดีกับอาชีพนักเยียวยาแห่งรัตติกาล แนะนำให้สืบทอดอาชีพนักเยียวยาแห่งรัตติกาล ข้อมูลการรับมรดกเฉพาะมีดังนี้...

พูดตามตรง นี่เป็นครั้งแรกที่เย่เหรินได้ยินว่าเจียงเสี่ยวหรูเหมาะกับการสืบทอดเป็นนักเยียวยาแห่งรัตติกาล

เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

การสืบทอดอาชีพ มันคือวิธีการฝึกฝนของพรรคและสำนัก

มันแตกต่างจากความสามารถที่ตื่นขึ้นมา และการสืบทอดสายเลือดของตระกูลขุนนาง

พรรคและสำนักต่างๆ มีวิธีการฝึกฝนเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะพรรคใหญ่ที่มีความเชื่อทางศาสนา

สิ่งที่พวกเขาเรียกว่าเทพเจ้านั้น จะมอบพลังและการสืบทอดให้

พรรคต่างๆ จะออกตามหาและดึงดูดผู้สืบทอดที่เหมาะสมกับระบบของตนเองในหมู่มนุษย์

อย่าง มรดกทูตสวรรค์ และมรดกพาลาดิน

พระพุทธรูปโบราณ และพระโพธิสัตว์ในวิหารหลวง

ยิ่งผู้สืบทอดมีความเหมาะสมกับมรดกมากเท่าไหร่ ความสมบูรณ์ของมรดกก็จะยิ่งสูงขึ้น ผลลัพธ์ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

มรดกของผู้เยียวยาแห่งรัตติกาลมาจากพลังพิเศษที่ยิ่งใหญ่ พลังของสามปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำ โรงเตี๊ยมอิสระ

ในโลกใบนี้ คนที่นี่เป็นทั้งคนดีและคนชั่ว ทำทุกอย่างตามใจชอบ เทพเจ้าที่พวกเขานับถือก็เป็นพวกนอกรีตและมีความเป็นตัวของตัวเอง

มรดกมากมายหลายอย่างไม่เคยได้มีผู้สืบทอดแม้แต่คนเดียว

เช่นเดียวกับนักเยียวยาแห่งรัตติกาลที่เจียงเสี่ยวหรูเหมาะสม

ถ้าวันนี้เย่เหรินไม่ได้ยินคำแนะนำจากระบบ

เขาอาจจะไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเส้นทางการสืบทอดอาชีพนี้เลยในชีวิต

แต่ตามข้อมูลจากระบบ

มรดกของนักเยียวยาแห่งรัตติกาลนั้นแข็งแกร่งมาก

เป็นหนึ่งในมรดกแห่งอาชีพชั้นนำ

และเป็นหนึ่งในความลับของโรงเตี๊ยมอิสระ แต่มันไม่มีใครสืบทอดได้สำเร็จ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด