ตอนที่แล้วตอนที่ 81 ผมนอนบนโซฟาได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 83 ถ้าไม่พูด ผมจะถือว่าตกลง

ตอนที่ 82 ห้องนอนของมู่ฉิว


พรสวรรค์ด้านวิทยายุทธ์ไม่ได้สืบทอดผ่านสายเลือด

ลูกที่เกิดจากคู่รักมหาปราชญ์ยุทธ์ อาจจะไม่ใช่อัจฉริยะด้านวิทยายุทธ์ พวกเขาอาจจะไม่ได้เป็นนักรบด้วยซ้ำ

แต่มหาปราชญ์ยุทธ์คือจุดสูงสุดของจีน

พวกเขามีพลังที่จะได้รับยามหัศจรรย์ชั้นยอด

มู่ฉิวเป็นอัจฉริยะด้านวิทยายุทธ์ที่น่ากลัวที่สุดที่หลี่หยวนเคยเห็น

เธอฝึกฝนพลังปราณและพลังจิตจนถึงระดับ 7

ในสายตาหลี่หยวน

พรสวรรค์ของเธอเทียบเท่ากับจั่วเฟิง

แต่ถึงอย่างนั้น

มู่เยว่ฉิน แม่ของมู่ฉิวก็เป็นแค่คนธรรมดา ไม่ใช่นักรบและไม่ใช่ผู้ใช้พลังจิต

แต่พ่อของมู่ฉิว...หลี่หยวนใช้พลังจิตสัมผัส

เขารู้สึกว่าคุณลุงที่ดูเป็นคนรักการอ่านไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่คิด

พ่อของมู่ฉิวแซ่หลิน

ส่วนมู่ฉิวใช้นามสกุลแม่

อาจจะมีความลับซ่อนอยู่

หลี่หยวนเดินตามพ่อของมู่ฉิวเข้าไปในห้องทำงาน

เขามองไปรอบๆ เห็นหนังสือเต็มผนังสองด้าน ปกหนังสือบางเล่มเหลือง

ในตู้กระจกมะฮอกกานีใกล้ประตู มีไหเหล้าดินเผาหลายใบ ดูเหมือนไม่ใช่ของยุคนี้

"เธอสนใจเรื่องเหล้าด้วยเหรอ?”

พ่อของมู่ฉิวเห็นหลี่หยวนมองดูตู้เหล้าจึงถาม

"เปล่าครับ ผมแค่สงสัยนิดหน่อย”

หลี่หยวนส่ายหน้า

"นี่เป็นของดี มันช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและดีต่อสุขภาพ”

"วันนี้ดึกแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะสั่งอาหารและเหล้ามาดื่มกับเธอ"

พ่อของมู่ฉิวพูดจบ

สีหน้าเขาก็จริงจังขึ้น เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "เธอรู้ไหมว่าทำไมเสี่ยวฉิวถึงใช้นามสกุลแม่?"

หลี่หยวนส่ายหน้า "ไม่รู้ครับ"

พ่อของมู่ฉิวถอนหายใจ "ตอนนั้น...”

มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกห้องทำงาน

มู่ฉิวปรากฏตัวที่ประตู เธอมองดูพ่อ "พ่อ หนูจะบอกเขาเองพอถึงเวลา”

"ก็ได้...“พ่อของมู่ฉิวพยักหน้า”งั้นพวกเธอคุยกัน ฉันจะไปพักผ่อนก่อน”

พ่อของมู่ฉิวรีบออกจากห้องทำงาน

ในห้องทำงานเหลือแค่หลี่หยวนกับมู่ฉิว

บรรยากาศเงียบสงบ

มู่ฉิวมองไปทางห้องนั่งเล่นและถาม "เธอจะนอนโซฟาจริงๆ เหรอ?"

หลี่หยวนสงสัย "มีปัญหาเหรอครับ?”

"เธอไม่โกรธเหรอ?" มู่ฉิวพูด "เธอมาที่นี่ครั้งแรกแต่กลับต้องนอนโซฟา"

หลี่หยวนยิ้ม "ผมไม่ได้เรื่องมากขนาดนั้น อีกอย่าง ใครใช้ให้ผมมาแบบไม่บอกล่ะ? ผมสมควรโดนแล้ว”

มู่ฉิวแค่นเสียง  "ดีแล้วที่รู้ตัว"

จากนั้นก็ไม่พูดกับหลี่หยวนอีก

เธอหันหลังกลับเข้าห้องนอน ปิดประตู

"บ้านนี้เก็บเสียงดีจัง..."

หลี่หยวนลูบหน้า ปิดไฟในห้องทำงาน กลับไปห้องนั่งเล่น นอนลงบนโซฟา

เขาเปิดแผงสถานะ

ความคืบหน้าของสะพานสวรรค์และโลกที่สองกับจักรวาลเล็กอยู่ที่ 17% และ 15% ตามลำดับ

ถ้าอยากเลื่อนเป็นระดับ 7 เขายังต้องฝึกฝนอีกเยอะ

แต่ด้วยความแข็งแกร่งของหลี่หยวนตอนนี้

เขาน่าจะสามารถสู้กับศัตรูระดับ 7 หรือแม้กระทั่งสังหารมันได้

เมื่อเกิดการระบาดของสัตว์อสูรและสัตว์อสูรระดับราชาปรากฏตัว เขาก็จะมีโอกาสพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขา

ส่วนโสมม่วงเหยาฮวาที่ได้มาจากฉวนหนานเฟิง

หลี่หยวนยังไม่มีโอกาสกินมัน

ตามที่ฉวนหนานเฟิงบอก แค่พลังของยามหัศจรรย์ชั้นยอดนี้ก็สามารถทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดรวมทั้งวัชพืชกลายเป็นสัตว์อสูรระดับ 1 หรือระดับ 2 ภายในรัศมีร้อยเมตร

หลี่หยวนวางแผนจะหาเวลาที่เหมาะสมในการกินมัน

อย่างน้อยก็ต้องหาสถานที่เงียบสงบ

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

หลี่หยวนพลิกตัวไปมาบนโซฟาแต่ก็ไม่สามารถนอนหลับได้

“เกิดอะไรขึ้น? ฉันประหม่าเกินไป? ไม่น่าจะใช่...”

หลี่หยวนพึมพำในใจ

ทันใดนั้นก็มีเสียงเปิดประตู หลี่หยวนเงยหน้าขึ้น

มู่ฉิวยืนอยู่ที่ประตูห้องนอน เธอสวมชุดนอนสีฟ้าอ่อน

พอเห็นหลี่หยวนมอง

เธอก็พูด "เข้ามา"

จากนั้นก็หันหลังกลับเข้าห้องนอน

"เธอหมายความว่าไง..."

หลี่หยวนลุกขึ้นจากโซฟา รีบเดินตามเข้าไป

พอหลี่หยวนก้าวเข้าไปในห้องนอน

เขาก็ได้กลิ่นหอมสดชื่นที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข

สายตาของเขามองไปยังเตียง

มู่ฉิวนอนหันหลังให้เขา ปล่อยที่ว่างไว้ครึ่งเตียง

หลี่หยวนกดความคิดลงและเดินไปที่เตียง

เขาปิดไฟ...ห้องนอนตกอยู่ในความมืด

หลี่หยวนรู้สึกว่ามู่ฉิวตัวแข็งทื่อ

"ที่แท้เธอก็ประหม่าเหมือนกันนี่...”

หลี่หยวนยิ้ม แต่ก็รีบเก็บอาการ

เขาอาศัยแสงจันทร์ข้างนอก

ค่อยๆ ขึ้นเตียง

คราวนี้ มู่ฉิวถึงกับกลั้นหายใจ

รออยู่นาน  หลี่หยวนถึงได้ยินเสียงหายใจแผ่วเบา

เขาหันไปถาม "ฉิวเอ๋อร์ ฉันไม่ค่อยเห็นเธอฝึก ทำไมระดับบ่มเพาะของเธอถึงได้พัฒนาเร็วขนาดนี้?”

นี่เป็นสิ่งที่เขาสงสัยมาตลอด

พรสวรรค์ด้านวิทยายุทธ์ของมู่ฉิวน่ากลัวมาก

ตอนอยู่ในแดนปีศาจมืด การเลื่อนเป็นระดับปรมาจารย์ง่ายมากสำหรับเธอ

ส่วนพรสวรรค์ด้านพลังจิตของเธอก็ยิ่งน่ากลัว

หลี่หยวนสงสัยว่า เธออาจรวบรวมดวงดาวพลังจิตได้มากกว่ายี่สิบดวงและสามารถเลื่อนเป็นระดับ 8 ได้ตลอดเวลา แต่เธอกำลังขัดเกลาพื้นฐานของเธอ

"นายเรียกฉันว่าอะไร?”

เสียงเรียบๆ ของมู่ฉิวดังมาจากข้างหลัง

"ฉิวเอ๋อร์"

หลี่หยวนพลิกตัว หันหน้าไปหามู่ฉิว

มู่ฉิวหันมามองเขา

เธอหรี่ตาลง ดวงตาของเธออันตราย

หลี่หยวนรีบยกมือยอมแพ้

พลังจิตที่พันรอบคอเขาถูกถอนออก

"จริงๆ แล้ว ฉันฝึกฝนตลอดเวลา"

มู่ฉิวหยุดไปครู่หนึ่ง "มันเกี่ยวกับโอกาสที่ฉันเคยได้รับ แต่... ไม่สามารถสอนคนอื่นได้”

"อย่างที่คิด"

หลี่หยวนยิ้ม

เขาเคยคิดจะสอนเคล็ดวิชาดูดาวให้มู่ฉิว

แต่พอคิดดูอีกที

ด้วยความเร็วในการบ่มเพาะพลังจิตของมู่ฉิว

เธอคงมีเคล็ดวิชาที่คล้ายๆ กัน

เคล็ดวิชาดูดาวทรงพลังมาก แต่ในฐานะรางวัลของระบบ มันอาจจะไม่เหมาะกับทุกคน

รวมถึงหมัดจำลองดาวพลูโตและกระบี่สิบสุริยะ วิทยายุทธ์ดั้งเดิมเหล่านี้ต้องใช้สุดยอดปรมาจารย์จึงจะเข้าใจได้

หลี่หยวนใช้มันได้ แต่ไม่สามารถเข้าใจแก่นแท้ของจักรวาลและควบคุมมันได้

แต่มันก็หมายความว่า พอหลี่หยวนเป็นสุดยอดปรมาจารย์

ตราบใดที่ระดับของวิทยายุทธ์ดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง พลังที่ปลดปล่อยออกมาก็จะยิ่งน่ากลัว

...

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

บทสนทนาระหว่างทั้งสองเงียบลง

หลี่หยวนนอนราบกับเตียง

ฟังเสียงหายใจของมู่ฉิว

ใจของเขาเริ่มร้อนรุ่ม

เขาอดไม่ได้ที่จะพลิกตัว หันหน้าไปหามู่ฉิว ชุดนอนหลวมๆ ไม่สามารถปกปิดส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอได้

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด