ตอนที่ 245 ด่านสุดท้ายก่อนระดับอเมทิสต์! (ฟรี)
ตอนที่ 245 ด่านสุดท้ายก่อนระดับอเมทิสต์!
เพราะการลงมือครั้งแรกของอีกาสริุยะปีกเพลิงประกายทอง
มันเลยทำให้อธิการบดีในหอคอยแห่งการเรียนรู้ตกตะลึง
ไป๋จื่ออันไม่รู้เรื่องนี้
แต่ไป๋จื่ออันไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับผลลัพธ์ที่น่าทึ่งของอีกาสุริยะปีกเพลิงประกายทอง
ยังไงซะ อีกาสุริยะปีกเพลิงประกายทองก็คือสัตว์วิญญาณของเขา ไป๋จื่ออันรู้จักมันดี เขาจะไปแปลกใจกับการแสดงออกของมันได้ยังไง?
ดังนั้น หลังจากที่อีกาสุริยะจัดการกับสัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูในด่านที่ 44 ได้สำเร็จ
ไป๋จื่ออันก็มีสีหน้าเรียบเฉย เขาพาราชันย์วาฬกับอีกาสุริยะไปยังด่านที่ 45
สัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูในด่านที่ 45 คือสัตว์วิญญาณธาตุลมระดับเพชรขั้นสูงสุดสองตัว
ไป๋จื่ออันไม่ได้พูดอะไรมากมาย เขาสั่งให้อีกาสุริยะลงมือ
ครั้งนี้อีกาสุริยะไม่สามารถสังหารสัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูระดับเพชรขั้นสูงสุดสองตัวได้ในการโจมตีเดียว
ยังไงซะ ระหว่างธาตุลมกับธาตุไฟก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อกัน
ถ้าลมแรงเกินไป มันก็สามารถดับไฟได้
แต่ถ้าลมเบาเกินไป มันก็จะเป็นตัวช่วยให้ไฟลุกโชน
ด้วยเหตุนี้เอง ในการต่อสู้ครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจึงต้องพึ่งพาความสามารถของตัวเอง ใครแข็งแกร่งกว่ากัน คนนั้นก็จะชนะ
ส่วนผลลัพธ์นั้น ไม่ต้องพูดถึง อีกาสุริยะยังคงเป็นฝ่ายชนะ
ถึงแม้ว่าพลังต่อสู้ที่แท้จริงของอีกาสุริยะจะไม่ใช่ระดับอเมทิสต์ก็จริง
แต่การเอาชนะสัตว์วิญญาณระดับเพชรขั้นสูงสุดไม่ใช่เรื่องยากสำหรับอีกาสุริยะ
หลังจากที่ผ่านไปสักพัก อีกาสุริยะก็สามารถสังหารนกธาตุลมระดับเพชรขั้นสูงสุดสองตัวได้สำเร็จ
ตอนนี้ไป๋จื่ออันผ่านด่านที่ 45 ได้สำเร็จ เขาไปยังด่านต่อไป
สองด่านถัดไปคือด่านที่ 46 กับด่านที่ 47
สัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูในสองด่านนี้ไม่ได้แตกต่างอะไรจากด่านที่ 45
ถึงแม้ว่าจำนวนของสัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูจะเพิ่มขึ้นทีละตัว แต่มันก็ไม่ได้มีผลกระทบต่ออีกาสุริยะ
ด้วยพลังอันแข็งแกร่งที่อีกาสุริยะมี หลังจากที่ต่อสู้มาสักพัก อีกาสุริยะก็สามารถจัดการกับสัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูในสองด่านนี้ได้สำเร็จ
ประตูของด่านที่ 48 เปิดออกสำหรับไป๋จื่ออัน
“ผ่านด่านที่ 47 มาได้ก็จริงแต่ด่านหลังๆ คงไม่ง่ายแล้วล่ะ!”
“ลำพังพลังของอีกาสุริยะ มันคงจะรับมือได้ยาก”
“บางทีฉันควรจะลงมือแล้วล่ะ”
ไป๋จื่ออันพึมพำในใจ เขากำลังคิดถึงสถานการณ์ตรงหน้า
หลังจากที่ต่อสู้มาหลายครั้ง อีกาสุริยะก็เริ่มเหนื่อย
ยิ่งไปกว่านั้น ความยากของด่านหลังๆ จะยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
พอรอให้ถึงด่านที่ 48 สัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูก็จะกลายเป็นสัตว์วิญญาณระดับเพชรขั้นสูงสุดห้าตัว ความยากเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ไป๋จื่ออันจึงจริงจังมากขึ้น
แน่นอนว่าไป๋จื่ออันไม่ได้กังวลอะไรมาก
เพราะตั้งแต่เริ่มการจำลองการต่อสู้จริง ไป๋จื่ออันก็ยังไม่ได้ลงมือ
พรสวรรค์ควบคุมสัตว์ของไป๋จื่ออันก็คือไพ่ตายที่แข็งแกร่ง
ตราบใดที่ไป๋จื่ออันลงมือ เขาก็จะสามารถทำให้พลังของอีกาสุริยะแข็งแกร่งขึ้น
ระดับเพชรไม่ใช่ปัญหาสำหรับไป๋จื่ออัน
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงไม่กังวลอะไร
เมื่อคิดได้แบบนั้น ไป๋จื่ออันก็พาสัตว์วิญญาณของตัวเองไปยังด่านที่ 48
แต่พอไป๋จื่ออันเห็นสัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูในด่านที่ 48 เขาก็รู้สึกดีใจ
เพราะสัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูในด่านที่ 48 เป็นถึงสัตว์วิญญาณประเภทภูตผีระดับเพชรขั้นสูงสุดห้าตัว
สัตว์วิญญาณประเภทภูตผี? นี่คือเพื่อนเก่าของอีกาสุริยะ
เพื่อนเก่าที่มักจะมอบอาหารให้กับอีกาสุริยะ
เปลวเพลิงพิเศษของอีกาสุริยะคือเพชฌฆาตของสัตว์วิญญาณประเภทภูตผี
สัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูในด่านนี้กลับเป็นสัตว์วิญญาณประเภทภูตผี?
“ดูเหมือนว่าฉันไม่จำเป็นต้องใช้พรสวรรค์ควบคุมสัตว์แล้วล่ะ”
ไป๋จื่ออันพึมพำในใจ
จากนั้นไป๋จื่ออันก็สั่งอีกาสุริยะ
“จัดการพวกมันซะ! อีกาสุริยะ!”
พอได้ยินคำสั่งของไป๋จื่ออัน อีกาสุริยะก็หายตัวไปทันที มันพุ่งเข้าไปจัดการกับสัตว์วิญญาณประเภทภูตผี
ไม่ต้องพูดถึงผลลัพธ์
เมื่อตกอยู่ในภายใต้การโจมตีอันดุเดือดของอีกาสุริยะ สัตว์วิญญาณประเภทภูตผีก็ถูกสังหารในพริบตา
อีกาสุริยะไม่จำเป็นต้องใช้การโจมตีครั้งที่สอง
อีกาสุริยะจัดการกับสัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูทั้งหมดได้สำเร็จ มันผ่านด่านที่ 48 ไปได้
จากนั้นไป๋จื่ออันก็พาราชันย์วาฬกับอีกาสุริยะไปยังด่านที่ 49
แต่พอไป๋จื่ออันเห็นสัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูในด่านที่ 49 เขาก็มีสีหน้าที่แปลกประหลาด
เพราะสัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูในด่านที่ 49 ยังคงเป็นสัตว์วิญญาณประเภทภูตผี
“โชคของฉันนี่มันดีจริงๆ เจอสัตว์วิญญาณประเภทภูตผีอีกแล้ว?”
ไป๋จื่ออันพึมพำในใจ
นี่คือสาเหตุที่ทำให้เขามีสีหน้าแปลกประหลาด
ยังไงซะ สำหรับไป๋จื่ออันแล้ว สัตว์วิญญาณประเภทภูตผีไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา
แต่นี่น่าจะเป็นผลลัพธ์จากพรสวรรค์ [โชคลาภ] มันมอบโชคดีให้กับไป๋จื่ออัน ทำให้เขาได้เจอกับคู่ต่อสู้แบบนี้
ถ้าเทียบกับด่านก่อนหน้านี้แล้ว จำนวนของสัตว์วิญญาณประเภทภูตผีในด่านนี้เพิ่มขึ้นจากห้าตัวเป็นหกตัว
แต่การที่จำนวนเพิ่มขึ้น ไม่ได้มีผลอะไรกับอีกาสุริยะ
เรื่องนี้ได้รับการยืนยันตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่ในโลกแห่งเงามืดแล้ว
เปลวเพลิงอันน่าสะพรึงกลัวของอีกาสุริยะสามารถเอาชนะสัตว์วิญญาณประเภทภูตผีได้
ไม่ว่าจะมีสัตว์วิญญาณประเภทภูตผีกี่ตัว ตราบใดที่พลังของพวกมันไม่เหนือกว่าอีกาสุริยะ พวกมันก็เป็นได้แค่อาหาร
เมื่อคิดได้แบบนั้น ไป๋จื่ออันก็สั่งให้อีกาสุริยะลงมือ
ตูม!!
เปลวเพลิงที่ผสานเข้ากับพลังของดวงอาทิตย์ปะทุออกมาจากร่างกายของอีกาสริุยะปีกเพลิงประกายทอง มันโจมตีสัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูโดยตรง
ไม่นาน การต่อสู้ก็จบลง
ภายใต้การโจมตีของอีกาสริุยะปีกเพลิงประกายทอง สัตว์วิญญาณประเภทภูตผีก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น
ไป๋จื่ออันผ่านด่านที่ 49 ได้สำเร็จ
ถึงแม้ว่าไป๋จื่ออันจะผ่านด่านนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลาย
เพราะด่านต่อไปสำคัญมาก
ด่านที่ 50 ด่านสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่ระดับอเมทิสต์ มันคงไม่ง่าย
แต่ไป๋จื่ออันไม่กลัว
เมื่อคิดได้แบบนั้น ไป๋จื่ออันก็ตรงไปยังด่านที่ 50
สัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูในด่านที่ 50 คือสัตว์วิญญาณโลหะระดับเพชรขั้นสูงสุดเจ็ดตัว พวกมันคล้ายกับสิ่งมีชีวิตโลหะ
ครั้งนี้ไป๋จื่ออันเริ่มจริงจังมากขึ้น
ยังไงซะ สิ่งมีชีวิตโลหะระดับเพชรขั้นสูงสุดเจ็ดตัวก็สามารถสร้างปัญหาให้กับอีกาสุริยะได้
แต่ไป๋จื่ออันยังมีสีหน้าเรียบเฉย
“ในที่สุดก็เจอศัตรูที่แข็งแกร่งแล้ว ครั้งนี้ถึงตาฉันลงมือแล้วล่ะ”
ไป๋จื่ออันพึมพำในใจ เขาตัดสินใจได้
เพื่อที่จะจัดการกับศัตรูที่แข็งแกร่ง ไป๋จื่ออันจึงเตรียมที่จะลงมือด้วยตัวเอง เขาจะใช้พรสวรรค์ควบคุมสัตว์ของเขา