บทที่ 767 ซากศพขุดเหมือง
“พี่หู่ ข้าเคยได้ยินท่านเต่าเฒ่าเรื่องหนึ่ง” เฉินซือนั่งเฉยๆอยู่บนเก้าอี้สีหน้าดูมีชีวิตชีวาขึ้นเล็กน้อย
“เรื่องอะไรล่ะ?”
เฉินหู่หิวจนแทบทนไม่ไหว แต่เฉินโม่บอกว่าไม่ให้พวกเขาออกไปไหนแม้แต่หาอะไรกินก็ไม่กล้าออกไป
การอยู่ในห้องนานขนาดนี้ทำให้พวกเขาเบื่อมาก
“ท่านเต่าเฒ่าบอกว่าโลกมนุษย์มีนิสัยทิ้งสัตว์เลี้ยง… เมื่อไม่ชอบเลี้ยงแล้วพวกเขาจะพาแมวหรือน้องหมาไปที่ไกลๆแล้วบอกให้มันไปซื้อลูกส้ม…”
“อย่าพูดต่อเลย อย่าพูดต่อ”
ขณะที่ฟังอยู่เฉินหู่ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า
“นายท่านไม่มีทางทิ้งพวกเราหรอก” เขากัดฟันพูดอย่างหนักแน่น
บทสนทนานี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่พวกเขาก็ยังไม่กล้าขัดคำสั่งนายท่าน ทั้งคู่จึงอยู่ในห้องนี้นานถึงสิบวัน!
ทันทีที่เฉินโม่เปิดประตูเฉินหู่และเฉินซือสองชายร่างใหญ่ก็หันมามองด้วยสายตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเฉินซือถึงกับน้ำตาคลอ
วินาทีถัดมาชายร่างใหญ่สองคนพุ่งเข้าไปหาเขาพร้อมกัน
“นายท่าน นายท่าน!”
“พวกข้านึกว่าท่านจะทิ้งพวกเราแล้ว”
“ฮือ…”
เฉินโม่เตะพวกเขาคนละทีจนกระเด็นออกไป
เกือบโดนพวกเขาล้มทับเขาถึงกับสั่นไปทั้งตัว
“ตอนนี้เริ่มอยากจะทิ้งพวกเจ้าแล้วสิ” เขาพูดพลางยิ้มมุมปาก แต่ในใจก็รู้สึกโล่งใจ
สองคนนี้ดูเหมือนจะอยู่ที่นี่ตลอดไม่ได้ออกไปไหนและไม่ได้ก่อเรื่องอะไรขึ้น
หลังจากจ่ายผลึกวิญญาณ เขารับสัตว์อสูรที่แปลงร่างเป็นคนไปแล้วกลับไปยังค่ายกลส่งตัวอีกครั้ง
การเดินทางครั้งนี้ไม่เสียเวลามากนัก
จากไห่ผิวโจวไปเป่ยโจวแล้วกลับผิงตูโจวภายในวันเดียว
เมื่อเขากลับมาถึงยอดเขาหยินเยว่เวลาผ่านไปเพียง 15 วันนับตั้งแต่เขาจากไป
สิ่งแรกที่เฉินโม่ทำหลังกลับมาคือตรวจสอบพื้นที่ทั้ง 108 จุดว่าต้องถอนหญ้าที่ไหนหรือรดน้ำที่ไหน แล้วรีบจัดการ
ระหว่างทางเขาสังเกตเห็นว่าต้นผลพันหลงห้าต้นใกล้จะสุกแล้ว
อีกไม่เกินห้าวันก็เก็บเกี่ยวได้
นอกจากนี้ เขายังวางแผนที่จะเพาะเมล็ดพันธุ์ใหม่ในดินแดนลับอีกชุด ภายในเวลาไม่กี่ปีสำนักมั่วไถอาจได้กินผลพันหลงที่เพิ่งเก็บสดๆ
หลังจากจัดการงานที่ยอดเขาหยินเยว่เสร็จเขาก็ตรวจสอบพื้นที่ไร่วิญญาณที่เชิงเขาอีกครั้ง
หลังจากใช้คาถาเรียกลมเรียกฝนทุกคนบนสำนักมั่วไถต่างรู้ว่าเขากลับมาแล้ว!
ขณะเดียวกันร่างหนึ่งบินตรงมาหาเขา แต่หยุดอยู่ห่างๆกลางอากาศเหมือนเกรงว่าจะรบกวน
เมื่อฝนเริ่มซาลงท้องฟ้าเริ่มสดใสฉีเฉินจึงเข้ามาหาเขา
“ท่านแม่ทัพ!” ใบหน้าของเขาซีดขาวจากการฝึกคาถากานซือ แต่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ข้ากำลังจะไปหาพอดี” เฉินโม่พูดพลางหยิบแส้กำราบศพจากแหวนมิติออกมาแล้วโยนให้เขา
“ข้านำสมบัติมาให้ สิ่งนี้จะช่วยควบคุมซากศพได้ดีขึ้นและยังสามารถปลุกศพที่ตายแล้วให้กลายเป็นซากศพเพื่อใช้งานได้”
ฉีเฉินยังไม่ทันจะพูด แส้กระดูกชิ้นใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา
ทันทีที่สัมผัสแส้นี้เขารู้สึกเหมือนจิตใจของเขาหลอมรวมเข้ากับมันความรู้สึกนั้นเหมือนมันถูกสร้างมาเพื่อเขา
“นี่…สิ่งนี้…” ฉีเฉินตะกุกตะกักเล็กน้อย ทั้งตกใจและตื่นเต้น
“ของสิ่งนี้คงแพงมากใช่ไหมท่านแม่ทัพ?”
“ก็ไม่เท่าไหร่ แค่สิบกว่าก้อนผลึกวิญญาณระดับกลาง”
“อะไรนะ?!”
เมื่อได้ยินว่าราคาเกือบสิบกว่าก้อนผลึกวิญญาณระดับกลางฉีเฉินถึงกับสะดุ้ง
เหงื่อไหลออกมาจากมือที่ถือแส้
“ข้า…ข้า…”
“เก็บไว้เถอะ อีกไม่กี่วันเจ้าลองไปผาหลิงศพแปดร้อยดูสิ ว่ามันจะใช้ได้ผลจริงไหม ลองดูว่ามันควบคุมซากศพที่แข็งแกร่งได้หรือเปล่า”
“ได้…ได้ขอรับ…” ฉีเฉินพูดตะกุกตะกักดวงตาไม่ละไปจากแส้แม้แต่วินาทีเดียว
สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ท่านแม่ทัพให้มาง่ายๆทำให้เขารู้สึกว่าตนเองไม่คู่ควร
“ว่าแต่ เจ้ามาหาข้ามีธุระอะไร?” เฉินโม่ถาม
ในตอนนั้นใบหน้าของฉีเฉินกลับแดงขึ้นมา
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบผลึกวิญญาณระดับกลางยี่สิบก้อนออกมาจากกระเป๋าเดินเข้าไปสองก้าวแล้วยื่นให้เฉินโม่
“ท่านแม่ทัพ ข้ามอบให้ท่าน”
ดวงตาของเฉินโม่เป็นประกายขึ้นทันทีเขาดูมีความสุขมาก
“พวกเจ้าไปขุดมาใช่ไหม?”
ฉีเฉินพยักหน้า
“ช่วงนี้พวกเราทำตามที่ท่านบอก ไปหาสายแร่ที่แม่ทัพคนหนึ่งดูแล จากนั้นขุดจากระยะทางหลายสิบลี้ท่านแม่ทัพ ท่านไม่รู้หรอก พวกศพพวกนี้…”
เขาพูดพลางเรียกซากศพขนเขียวสองตัวออกมา
“พวกมันทำงานเร็วมากขุดอุโมงค์ลึกหลายร้อยเมตรในเวลาแค่ไม่กี่วัน แม้แต่หนูยังขุดสู้พวกมันไม่ได้”
“ฮ่าๆ”
เฉินโม่หัวเราะอย่างขบขัน
นี่มันซากศพขั้นปฐมภูมิระดับกลางเลยนะ!
ใช้พวกมันไปขุดดินไม่กี่วันก็คงขุดจนหมดแน่!
ยิ่งไปกว่านั้นซากศพเหล่านี้ไม่ต้องกินหรือดื่มน้ำด้วย
“แล้วผลึกวิญญาณเหล่านี้ เจ้าขุดจากสายแร่ที่ว่านั่นหรือ?”
“ใช่ข้ากับโจวอี้เซิงใช้วิชาการแปรเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่ท่านสอนเรา ปกปิดกลิ่นอายแล้วขุดอยู่สิบกว่าวันได้หินแร่เต็มแหวนมิติแค่ผลึกวิญญาณระดับกลางก็มากกว่ายี่สิบก้อนแล้ว!”
“แล้วแร่ที่สามารถหลอมอาวุธได้ล่ะ?”
ฉีเฉินหยิบแหวนมิติออกมายื่นให้
“ข้าไปถามผู้อาวุโสเหวินแล้วแร่เหล่านี้สามารถสร้างอาวุธสมบัติได้เป็นร้อยๆ ชิ้น”
“พวกเจ้าไม่ได้ขุดสายแร่จนหมดใช่ไหม?” เฉินโม่มองแร่ในแหวนแล้วถึงกับตะลึง
“ไม่หรอกพวกเรามีแค่ซากศพขนเขียวเจ็ดแปดตัวจะขุดหมดก็คงต้องใช้เวลาครึ่งปี”
ครึ่งปีเพื่อขุดสายแร่ระดับห้าจนหมด…
ในผิงตูโจวมีสายแร่ระดับห้าทั้งหมดกี่แห่งกัน?
ถ้าขุดแบบนี้ต่อไปไม่นานสายแร่ในเขตนี้คงหมด
และนี่เป็นแค่การควบคุมซากศพขนเขียวเจ็ดแปดตัวเท่านั้น
ต้องรู้ว่าบนผาหลิงศพแปดร้อย มีซากศพขนเขียวหลายร้อยตัว ถ้าขุดกันทุกตัวภายในหนึ่งถึงสองปี ผิงตูโจวคงจะถูกขุดจนกลวง
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ฉีเฉินมีแส้กำราบศพแล้ว
“พวกเจ้าก็ต้องระวัง อย่าขุดมากเกินไปในครั้งเดียวต้องเหลือไว้บ้างกันไม่ให้คนอื่นจับได้”
“ท่านแม่ทัพวางใจ ข้ากับโจวอี้เซิงรู้ดี” ฉีเฉินยิ้ม แม้พวกเขาจะไม่ได้ขุดอะไรที่มีค่ามากนักแต่แม่ทัพเฉินก็ดูเหมือนพอใจมาก
“ดีแล้ว”
“ท่านแม่ทัพ ข้าจะไปลองใช้สมบัติที่ท่านให้แล้ว! จะขุดแร่กลับมาให้สำนักอีกเยอะๆ!”
“ไปเถอะ” เฉินโม่พยักหน้า
“อย่าละเลยการฝึกตนด้วย อีกไม่นานข้าจะให้ของวิเศษบางอย่างเพื่อพัฒนารากวิญญาณและปลุกพรสวรรค์ของพวกเจ้า พวกเจ้ายังไม่มีพรสวรรค์ใช่ไหม?”
พรสวรรค์งั้นหรือ?!
ฉีเฉินตื่นเต้นมาก
“ยัง…ไม่มีขอรับ!”
“ข้ารู้แล้ว”
หลังจากสนทนากับแม่ทัพเฉินไม่กี่คำ ฉีเฉินก็รู้สึกมีแรงกระตุ้นและความหวังเต็มเปี่ยม!
(จบบท)