ตอนที่ 240 หกด่านติด! (ฟรี)
ตอนที่ 240 หกด่านติด!
ในด่านที่ 25 ไป๋จื่ออันที่ใช้ราชันย์วาฬกับอีกาสุริยะได้แสดงพลังอันน่าทึ่งออกมา
ราชันย์วาฬใช้เวลาไม่นานก็สามารถสังหารสัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตู ผ่านด่านนี้ไปได้
แต่ไป๋จื่ออันกลับมีสีหน้าเรียบเฉย เขาพาราชันย์วาฬกับอีกาสุริยะไปยังด่านต่อไป
เพราะผลลัพธ์แบบนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับราชันย์วาฬ
พูดได้เลยว่าตอนนี้ไป๋จื่ออันที่ใช้พลังทั้งหมดที่มีนั้นแข็งแกร่งมาก
ด้วยเหตุนี้เอง ในด่านต่อๆ ไป ไป๋จื่ออันจึงผ่านด่านได้อย่างง่ายดาย
ด่านที่ 26 สัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูระดับเงินขั้นสูงสุดสามตัว!
สังหารในพริบตา!
ด่านที่ 27 สัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูระดับเงินขั้นสูงสุดสี่ตัว!
สังหารในพริบตา!
ด่านที่ 28 สัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูระดับเงินขั้นสูงสุดห้าตัว!
สังหารในพริบตา!
ด่านที่ 29 สัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูระดับเงินขั้นสูงสุดหกตัว!
สังหารในพริบตา!
ด่านที่ 30 สัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูระดับเงินขั้นสูงสุดเจ็ดตัว!
สังหารในพริบตา!
ไป๋จื่ออันใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีก็สามารถผ่านด่านหกด่านติดต่อกัน จากด่านที่ 25 ไปยังด่านที่ 30
ไม่นาน ไป๋จื่ออันก็มาถึงด่านที่ 31
ด่านที่ 31 พลังของสัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูเกิดการเปลี่ยนแปลง
สิ่งที่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าไป๋จื่ออันไม่ใช่สัตว์วิญญาณระดับเงิน แต่มันคือหมีเพลิงยักษ์ระดับทองคำขั้นต้น
แต่มันไม่ได้มีผลอะไรกับไป๋จื่ออัน
เพราะสำหรับไป๋จื่ออันแล้ว สัตว์วิญญาณระดับทองคำไม่ใช่คู่มือของเขา
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงสั่งให้ราชันย์วาฬกับอีกาสุริยะลงมือ พวกเขาก็ผ่านด่านไปเรื่อยๆ ด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง
ในเวลาเดียวกัน ตอนที่ไป๋จื่ออันกำลังผ่านด่าน โลกภายนอกก็ตกตะลึงกับเรื่องนี้
ย้อนเวลากลับไปสามนาที
ณ โลกต้นกำเนิด เมืองหลวงจักรพรรดิ
ในหอคอยแห่งการเรียนรู้ อธิการบดีที่เคยคาดหวังไป๋จื่ออันก็เริ่มหมดหวัง
ตอนนี้เหลือแค่อธิการบดีหนึ่งหรือสองคนเท่านั้นที่ยังคงสนใจไป๋จื่ออัน
แต่ตอนที่พวกเขากำลังจะล้มเลิกความตั้งใจ ไปตามหาอัจฉริยะคนอื่นๆ
ในตอนนั้นเองชื่อของไป๋จื่ออันก็กะพริบหายไปจากด่านที่ 24
วินาทีต่อมา ตอนที่ชื่อของไป๋จื่ออันปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง มันก็ไปอยู่ที่ด่านที่ 25 แล้ว
“ผ่านด่านแล้วงั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เลวนะ”
“สัตว์วิญญาณที่เฝ้าประตูในด่านที่ 24 น่าจะเป็นระดับเงินขั้นสูงสุด”
“การที่เขาสามารถผ่านด่านได้ ก็แสดงว่าเขามีพลังต่อสู้ระดับเงินขั้นสูงสุด”
“ไม่เลว พอรอให้การสอบจบลง ให้ฝ่ายรับสมัครของเราค่อยติดต่อไป ดูว่าเขาสนใจที่จะมาเรียนที่มหาวิทยาลัยของเรารึเปล่า”
อธิการบดีพยักหน้าเล็กน้อย
พวกเขาดีใจที่ไป๋จื่ออันสามารถผ่านด่านที่ 24 ได้
อธิการบดีบางคนยังจดชื่อของไป๋จื่ออันเอาไว้ พวกเขาเตรียมที่จะให้ฝ่ายรับสมัครติดต่อไปหลังจากที่การสอบจบลง
ดูว่าไป๋จื่ออันสนใจที่จะมาเรียนที่มหาวิทยาลัยของพวกเขารึเปล่า
แน่นอนว่าทรัพยากรและผลประโยชน์ที่พวกเขามอบให้กับไป๋จื่ออันคงไม่ได้มีมากมายอะไร
ยังไงซะ ในสายตาของพวกเขา การที่ไป๋จื่ออันสามารถผ่านด่านที่ 24 ได้ ก็แสดงว่าเขามีพลังต่อสู้ระดับเงินขั้นสูงสุด
เขายังห่างไกลจากอัจฉริยะตัวจริง
พวกเขาสนใจอัจฉริยะระดับทองคำมากกว่า
พวกเขาคืออัจฉริยะตัวจริง เป็นเป้าหมายที่พวกเขาแย่งชิงกัน
การที่ไป๋จื่ออันที่เกิดในมิติลับสามารถทำแบบนี้ได้
ในสายตาของพวกเขา มันถือว่าไม่เลว
นี่คือสาเหตุที่ทำให้พวกเขาคิดแบบนั้น
แต่พวกเขายังไม่ทันจะได้ทำอะไร
ชื่อของไป๋จื่ออันก็หายไปจากด่านที่ 25
อธิการบดีรู้สึกประหลาดใจ
พวกเขายังคิดว่าไป๋จื่ออันถึงขีดจำกัดแล้ว เขาออกจากหอคอยจำลองการต่อสู้
ยังไงซะ ไป๋จื่ออันใช้เวลาอยู่ในด่านที่ 24 นานมาก เขาคงจะเหนื่อยมาก ทนไม่ไหว
ในเมื่อเป็นแบบนี้ การที่ไป๋จื่ออันจะออกจากหอคอยจำลองการต่อสู้ก็เป็นเรื่องปกติ
แต่พวกเขายังไม่ทันจะได้ถอนหายใจ
ชื่อของไป๋จื่ออันก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ ชื่อของไป๋จื่ออันไม่ได้อยู่ที่ด่านที่ 25 แต่มันไปอยู่ที่ช่องของด่านที่ 26
“ตาของข้าฟาดไปรึเปล่า? ทำไมถึงเห็นชื่อของไป๋จื่ออันอยู่ในด่านที่ 26?”
“ไม่ แกไม่ได้ตาฝาดไปหรอก ข้าเองก็เห็น!”
“ตาของข้ายังดีอยู่ ไม่มีทางผิดพลาดไปได้!”
“แต่นี่มันเป็นไปได้ยังไง? ทำไมชื่อของเขาถึงได้ไปอยู่ที่ด่านที่ 26? เมื่อกี้เขายังอยู่ที่ด่านที่ 25 อยู่เลย?”
“ความเร็วในการผ่านด่านแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่อัจฉริยะทั่วไปจะทำได้!”
“แม้แต่หลินชิงถังที่ตอนนี้อยู่ที่ด่านที่ 29 ก็ยังผ่านด่านเร็วไม่ได้แบบนั้น!”
“แปลกมาก! เรื่องนี้มันแปลก!”
อธิการบดีผมขาวคนหนึ่งขมวดคิ้ว เขารู้สึกสับสนมาก
จริงๆ แล้วอธิการบดีที่กำลังสนใจไป๋จื่ออันต่างก็รู้สึกสับสน
จะทำยังไงได้? เมื่อกี้ไป๋จื่ออันทำตัวแปลกมาก
ตอนที่อยู่ที่ด่านที่ 24 ไป๋จื่ออันใช้เวลานานมาก
แต่พอมาถึงด่านที่ 25 ไป๋จื่ออันกลับผ่านด่านได้ภายในพริบตา
ไม่ว่าจะมองยังไง มันก็ดูแปลกๆ
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้คิดหาคำตอบ ชื่อของไป๋จื่ออันก็เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ชื่อของไป๋จื่ออันหายไปจากด่านที่ 26
วินาทีต่อมา ชื่อของไป๋จื่ออันก็ไปอยู่ที่ด่านที่ 27
ตอนนี้อธิการบดีตกตะลึงมาก
เขาผ่านอีกด่านแล้ว? แถมยังใช้เวลาไม่นาน? เหมือนกับด่านก่อนหน้านี้?
นักเรียนมัธยมปลายทำแบบนี้ได้จริงๆ น่ะเหรอ?
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ตั้งสติ ชื่อของไป๋จื่ออันก็เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ชื่อของไป๋จื่ออันหายไปจากด่านที่ 27
วินาทีต่อมา ชื่อของไป๋จื่ออันก็ปรากฏขึ้นที่ด่านที่ 28
ช่วงเวลาต่อจากนี้ ชื่อของไป๋จื่ออันก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ด่านที่ 28!
ด่านที่ 29!
ด่านที่ 30!
ด่านที่ 31!
ไป๋จื่ออันใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีก็สามารถผ่านด่านหกด่านติดต่อกัน จากด่านที่ 25 ไปยังด่านที่ 31
ตอนนี้หอคอยแห่งการเรียนรู้ก็สั่นสะเทือน
อธิการบดีทุกคนในหอคอยแห่งการเรียนรู้มองชื่อของไป๋จื่ออันบนหน้าจอด้วยความตกตะลึง
ไป๋จื่ออันใช้เวลาไม่นานก็สามารถผ่านด่านหกด่านติดต่อกัน เขาผ่านด่านที่ 31 ได้สำเร็จ
เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ดังนั้น แม้แต่อธิการบดีที่ไม่ได้สนใจไป๋จื่ออันก็หันมามองชื่อของไป๋จื่ออัน
ความเร็วในการผ่านด่านของไป๋จื่ออันน่าทึ่งมาก
“แปลกมาก! ความเร็วในการผ่านด่านของเขาเหนือกว่าขีดจำกัดของผู้เข้าสอบ!”
“ยิ่งไปกว่านั้นการแสดงออกของเขาก่อนหน้านี้กับตอนนี้กลับแตกต่างกันมาก!”
“ข้าสงสัยจริงๆ ว่าผู้เข้าสอบที่ชื่อไป๋จื่ออันคนนี้กำลังโกง!”
“ข้าขอเสนอให้ใช้เนตรสวรรค์ตรวจสอบผู้เข้าสอบคนนี้!”
“ข้าเห็นด้วย! ขอให้ตรวจสอบบันทึกการสอบของเขาตั้งแต่ด่านที่ 24 ขึ้นไป!”
“เห็นด้วย!”
“เห็นด้วย!”
อธิการบดีหลายคนในหอคอยแห่งการเรียนรู้เสนอให้ใช้เนตรสวรรค์
นี่คือความสามารถของหอคอยจำลองการต่อสู้ มันสามารถตรวจสอบพื้นที่ใดก็ได้ภายในหอคอยจำลองการต่อสู้
ตามปกติแล้ว หอคอยแห่งการเรียนรู้จะไม่ใช้ความสามารถนี้
แต่ถ้าหากสงสัยว่ามีการโกง พวกเขาก็สามารถใช้ความสามารถนี้ตรวจสอบผู้เข้าสอบได้
พูดง่ายๆ ก็คือ อธิการบดีพวกนี้สงสัยว่าไป๋จื่ออันโกง
นี่เป็นความเป็นไปได้เดียว
ไม่งั้นพวกเขาก็คงไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมไป๋จื่ออันถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้