ตอนที่ 1470 ดินแดนแห่งหุบเหวอันยิ่งใหญ่ (2) (ฟรี)
ตอนที่ 1470 ดินแดนแห่งหุบเหวอันยิ่งใหญ่ (2)
หยิงจ้าวส่งเสียงร้อง มันพยักหน้า
“หยิงจ้าวเห็นด้วยกับท่านผู้อาวุโสต้วนมู่” หอยสังข์กล่าว
“สัตว์ร้ายที่ฉลาดจริงๆ! ไม่เลว ไม่เลวเลยจริงๆ” ต้วนมู่เตียนมองดูหยิงจ้าว
“เจ้าเคยมาที่นี่มาก่อนงั้นเหรอ?” ลู่โจวถาม
“ตอนที่ข้าได้รับภารกิจให้เฝ้าเสาหลักแห่งหายนะในตุนจั้ง ข้าเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง แต่ข้าไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ส่วนกลาง เอาล่ะ ข้าคงจะไปกับพวกเจ้าได้แค่ที่นี่เท่านั้น ก่อนที่ข้าจะจากไป ข้าอยากจะเตือนพวกเจ้าอีกครั้ง อย่าได้ดื้อดึงเชียว” ต้วนมู่เตียนตอบ เขายื่นหยกเครื่องรางสามชิ้นให้กับลู่โจว “หยกเครื่องรางสามชิ้นนี้จะพาพวกเจ้ากลับไปยังเสาหลักแห่งหายนะในตุนจั้ง”
“ข้ารู้ว่าข้าควรจะทำอะไร” ลู่โจวกล่าวหลังจากที่รับหยกเครื่องราง
“เจ้าหนู หากเจ้ากลัว ก็มาพร้อมกับข้า อยู่ที่ตุนจั้งซะ ข้าจะปกป้องเจ้าเอง” ต้วนมู่เตียนเดินไปหาต้วนมู่เฉิง
“คนของตระกูลต้วนมู่ไม่เคยยอมแพ้ การกลัวความตายไม่ใช่นิสัยของคนในตระกูลต้วนมู่” ต้วนมู่เฉิงกล่าว
“...” ต้วนมู่เตียนตกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมาดังๆ เขตบไหล่ของต้วนมู่เฉิง “สมกับเป็นอัจฉริยะแห่งตระกูลต้วนมู่!”
“...” ต้วนมู่เฉิงเงียบ
“เจ้าไม่กลัวจริงๆ งั้นเหรอ?” ต้วนมู่เตียนตบไหล่ของต้วนมู่เฉิง
“นับตั้งแต่ที่ข้าเข้าร่วมกับศาลาปีศาจลอยฟ้า ข้าก็ไม่เคยกลัวอะไรอีกเลย” ต้วนมู่เฉิงตอบ
“ดี ดีมาก” ต้วนมู่เตียนกล่าว เขานึกถึงอะไรบางอย่าง “ความจริงแล้วข้าไม่ได้จากไปเพราะข้ากลัว หากข้ามีทางเลือก ข้าอยากจะอยู่ต่อ”
“...” ต้วนมู่เฉิงเงยหน้าขึ้นมอง
ต้วนมู่เตียนคิดว่าต้วนมู่เฉิงจะหัวเราะเยาะเขา แต่ต้วนมู่เฉิงกลับครุ่นคิดก่อนจะพูดว่า “ข้าเข้าใจ ภาพรวมนั้นสำคัญกว่า”
ต้วนมู่เฉิงคิดว่าการที่ต้วนมู่เตียนจะเป็นหนอนบ่อนไส้ในดินแดนแห่งความว่างเปล่านั้นเป็นเรื่องดี คนเราจะดื้อรั้นตลอดไปไม่ได้ ต้วนมู่เตียนรู้สึกตื้นตันใจ “ดูแลตัวเองด้วย”
“ดูแลตัวเองด้วย ท่านผู้อาวุโส” ทุกคนโค้งคำนับ
ในเวลาเดียวกัน...
“ติ้ง! ต้วนมู่เฉิง ศิษย์ของท่าน ได้ทำตามข้อกำหนดในการสำเร็จวิชาครบถ้วนแล้ว ท่านจะอนุญาตให้เขาสำเร็จวิชาหรือไม่?”
“ติ้ง! หลังจากที่ศิษย์สำเร็จวิชา พวกเขาจะมอบรางวัลให้กับอาจารย์ของพวกเขามากขึ้น”
“???!”
ในบรรดาศิษย์ทั้งสิบคนของลู่โจวแล้ว มีเพียงแค่หยวนเอ๋อกับหอยสังข์เท่านั้นแหละที่ยังไม่สำเร็จวิชา ก่อนหน้านี้เขาไม่อนุญาตให้พวกนางสำเร็จวิชา ตอนนี้เวลาผ่านไปนานกว่าหนึ่งปีแล้ว เขาสามารถอนุญาตให้พวกนางสำเร็จวิชาได้ทุกเมื่อ หลังจากเวลาผ่านไป 100 ปี แล้ว ศิษย์ของเขาก็ไม่ได้ดูอ่อนเยาว์อีกต่อไป บางทีอาจจะถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องให้พวกเขาทั้งหมดสำเร็จวิชา เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง “สำเร็จวิชา”
“ติ้ง! ต้วนมู่เฉิง ศิษย์ของท่าน ได้สำเร็จวิชาแล้ว”
“ติ้ง! ท่านได้รับรางวัล: การ์ดสุ่ม เมื่อใช้การ์ดใบนี้ ท่านจะได้รับของวิเศษแบบสุ่ม”
“ติ้ง! หลังจากที่ต้วนมู่เฉิงสำเร็จวิชา เขาสามารถก่อตั้งสำนักและรับศิษย์ได้ จำนวนศิษย์สูงสุด: สามคน”
“ติ้ง! ท่านจะไม่ได้รับแต้มจากการสอนต้วนมู่เฉิงอีกต่อไป”
“ไปกันเถอะ” ลู่โจวไม่ได้มองดูการ์ดสุ่ม
สภาพแวดล้อมที่นี่ไม่ค่อยดี การอยู่ต่อนานๆ คงจะไม่ใช่เรื่องดี
คนของศาลาปีศาจลอยฟ้าบินเลียบป่าไปยังดินแดนแห่งหุบเหวอันยิ่งใหญ่
ต้วนมู่เตียนที่กลับไปยังตุนจั้งผ่านเส้นทางอักษรโบราณใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที
เขามีอารมณ์ดี เขาบินอย่างสบายใจ เมื่อกลับมาถึงลานบ้าน เขาก็เห็นคนคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกในลานบ้านของเขา
“ท่านเจ้าวิหาร?!” ต้วนมู่เตียนตกใจ
เงาที่ดูเหมือนกับน้ำกำลังโยกเก้าอี้ไปมาอย่างมีความสุข เขาหลับตาลง สีหน้าของเขาดูเหมือนกับว่าเขากำลังมีความสุข
ต้วนมู่เตียนเดินไปยังหน้าเขา “ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านเจ้าวิหารจะมา ขออภัยด้วยที่ไม่ได้ต้อนรับ” เขาล้มลงคุกเข่า
เงาที่ดูเหมือนกับน้ำกลายเป็นชายที่สวมชุดคลุมสีเหลืองและสวมมงกุฎ แสงศักดิ์สิทธิ์ส่องสว่าง “ดูเหมือนว่าเจ้าจะออกไปนานเลยนะ” เขาพูดอย่างช้าๆ
“ข้าน้อยทำสัตว์ขี่หายไปนานแล้ว เพิ่งจะได้พบกับมัน ข้าน้อยดีใจมากจึงได้ไปที่ภูเขาทางใต้เพื่อที่จะล่าสัตว์ แต่น่าเสียดาย ข้าน้อยกลับมาตัวเปล่า” ต้วนมู่เตียนกล่าว
“ดี” เจ้าวิหารลืมตาขึ้น เขาลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้โยกอย่างช้าๆ “ลุกขึ้นเถอะ”
“เสาหลักแห่งหายนะที่นี่สงบสุขดี ท่านเจ้าวิหารมีอะไรจะสั่งการรึเปล่า?” ต้วนมู่เตียนลุกขึ้นยืน
“เจ้าอยู่กับดินแดนแห่งความว่างเปล่ามานานแค่ไหนแล้ว?” เจ้าวิหารที่เดินไปยังข้างๆ อาคารเล็กๆ เอามือไขว้หลัง เขามองดูเสาหลักแห่งหายนะในระยะไกล
“ประมาณ 20,000 ปีได้” ต้วนมู่เตียนตอบ
“เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ...” เจ้าวิหารถอนหายใจ “ตอนนี้เจ้ามีพลังผังก่อเกิดกี่ผัง?”
“28 ผัง” ต้วนมู่เตียนตอบอย่างตรงไปตรงมา
“อายุขัยเกือบ 170,000 ปี...เจ้ายังเด็กมาก” เจ้าวิหารกล่าว
“ขอบคุณสำหรับคำชม ท่านเจ้าวิหาร” ต้วนมู่เตียนกล่าว
“ช่วงนี้มีผู้ฝึกยุทธคนไหนเข้าใกล้เสาหลักแห่งหายนะบ้างรึเปล่า?” เจ้าวิหารมองไปรอบๆ
“มีครับ” ต้วนมู่เตียนตอบ “ข้าไล่ผู้ฝึกยุทธที่ไม่รูจักประมาณตนไปแล้ว พวกมันกล้าดียังไงถึงได้มาคิดร้ายกับเสาหลักแห่งหายนะ! ตราบใดที่ข้ายังคงอยู่ที่นี่ จะไม่มีใครสามารถเข้าใกล้เสาหลักแห่งหายนะในตุนจั้งได้!”
“...” เจ้าวิหารมองดูต้วนมู่เตียน เขาพยักหน้าเล็กน้อย เขามองดูนอกลานบ้าน “ดี”
ร่างกายของเจ้าวิหารโปร่งแสงขึ้น มันดูเหมือนกับน้ำ แสงศักดิ์สิทธิ์หายไป เขารีบบินไปยังขอบฟ้า
ต้วนมู่เตียนโล่งอก เขามองดูเก้าอี้โยก เขาก้มลงสัมผัสเบาะ “อุ่น! เขามาที่นี่ด้วยร่างจริง!”
ณ พื้นที่ส่วนกลางของดินแดนที่ไม่รู้จัก
คนของศาลาปีศาจลอยฟ้าบินมาห้าวันแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงไม่เห็นเสาหลักแห่งหายนะ สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ต้องร่อนลงสู่พื้นดินเพื่อพักผ่อนและฝึกฝนตัวเอง
“พลังฝึกฝนของพวกเจ้าพัฒนาขึ้นมากในเขตแดนพลังโบราณ ตอนนี้พวกเราอยู่ในดินแดนแห่งหุบเหวอันยิ่งใหญ่แล้ว ข้าต้องรู้ระดับพลังฝึกฝนของพวกเจ้า ยู่เฉิงไห่ เจ้าเริ่มก่อน” ลู่โจวมองดูทุกคน
“ท่านอาจารย์ ข้าค่อนข้างจะช้า ข้าเพิ่งจะเปิดใช้งานพลังผังก่อเกิดผังที่ 19 ได้” ยู่เฉิงไห่โค้งคำนับ
“13 กลีบ” ยู่ฉางตงกล่าว
“หลังจากที่กลีบดอกบัวกลีบที่สิบแล้ว กลีบดอกบัวแต่ละกลีบที่เจ้าเปิดใช้งานจะเท่ากับหกพลังผังก่อเกิด” ลู่โจวพยักหน้า เส้นทางแห่งการฝึกฝนหลังจากที่ตัดดอกบัวทิ้งนั้นไม่อาจวัดได้ด้วยสามัญสำนึก
“ข้ามี 12 กลีบ” ต้วนมู่เฉิงกล่าว
“การที่เจ้ามีพลังงานกัดกร่อนอยู่ในครอบครอง ทำให้พลังของเจ้าเทียบเท่ากับปรมาจารย์ผู้ทรงเกียรติ การที่เจ้าได้รับการยอมรับจากเสาหลักแห่งหายนะยิ่งทำให้เจ้าพัฒนาได้เร็วขึ้น” ลู่โจวกล่าว
“ขอบคุณสำหรับคำชม ท่านอาจารย์!” ต้วนมู่เฉิงดีใจ
“ท่านอาจารย์ ข้ามีพลังผังก่อเกิด 18 ผัง” หมิงซี่หยินกล่าวอย่างจริงจัง
“...” ลู่โจวจ้องมองไปที่หมิงซี่หยิน นี่ไม่ใช่นิสัยของหมิงซี่หยิน “เจ้ามีพลังผังก่อเกิดแค่ 18 ผังจริงๆ งั้นเหรอ?”
“ศิษย์พี่สี่ ท่านอาจารย์มีกระจกทองคำไท่ซูอยู่ มันสามารถเปิดโปงปีศาจเจ้าเล่ห์ได้! ท่านควรจะตอบอย่างตรงไปตรงมานะ!” หยวนเอ๋อกล่าว
“ข้าพูดความจริง” หมิงซี่หยินพยักหน้า “เอ๋? เจ้าหมายถึงอะไร? ‘เปิดโปงปีศาจเจ้าเล่ห์’ งั้นเหรอ? ศิษย์น้อง เจ้ากำลังเรียกข้าว่าปีศาจเจ้าเล่ห์อยู่เหรอ?”
หยวนเอ๋อหัวเราะ
“เอาจริงเอาจังหน่อย” ลู่โจวกล่าว
“ท่านอาจารย์ เช่นเดียวกับศิษย์พี่ใหญ่ ข้ามีพลังผังก่อเกิด 19 ผัง” หมิงซี่หยินกระแอม
ลู่โจวพยักหน้า
เดิมทีพรสวรรค์ของหมิงซี่หยินก็ไม่ได้ด้อยแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้นผลของเมล็ดพันธุ์แห่งความว่างเปล่ายังคงส่งผลต่อเขาดีกว่าศิษย์คนแรกและคนที่สอง นอกจากนั้นเขายังคงเป็นคนแรกที่ได้รับการยอมรับจากเสาหลักแห่งหายนะ หลังจากที่อยู่ในเขตแดนพลังโบราณแล้ว การที่เขาจะพัฒนาไปมากถือเป็นเรื่องปกติ
“ข้าไม่มีพรสวรรค์ ข้ามีแค่ 12 กลีบ” จ้าวยู่โค้งคำนับ
“ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้ฝึกฝนตัวเอง การที่เจ้าจะตามคนอื่นๆ ทันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อย่าได้ดูถูกตัวเองไป” ลู่โจวกล่าว
“ขอบคุณท่านอาจารย์” จ้าวยู่ดีใจ
“ข้าเพิ่งจะเปิดใช้งานพลังผังก่อเกิดผังที่ 16 ได้” ยี่เทียนซินกล่าว
“เจ้ามีเฉิงกวางช่วยเหลือ และแก่นแท้ของดอกไม้ผีเสื้อโลหิต ไม่มีใครที่อ่อนแอกว่าปรมาจารย์ผู้ทรงเกียรติสามารถเอาชนะเจ้าได้” ลู่โจวกล่าว
“ขอบคุณสำหรับคำชม ท่านอาจารย์” ยี่เทียนซินกล่าว
“ข้ามี 12 กลีบ แต่ข้าใกล้จะเปิดใช้งานกลีบที่ 13 แล้ว!” ซู่ฮ่องกงก้าวไปข้างหน้า เขากล่าวอย่างภาคภูมิใจ เขากำลังรอคอยคำชมจากท่านอาจารย์
“ทำได้ดีมาก” แต่ลู่โจวกลับกล่าว
“หยวนเอ๋อ แล้วเจ้าล่ะ?” ลู่โจวหันไปมองหยวนเอ๋อ
ก่อนที่จะเข้าไปในเขตแดนพลังโบราณ หยวนเอ๋อเปิดใช้งานพลังผังก่อเกิดไปแล้วสิบผัง ความสามารถของนางในการเปิดใช้งานพลังผังก่อเกิดนั้นน่าอิจฉา