ตอนที่แล้วตอนที่ 113 ไม่อาจหวนกลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 115 หมู่บ้าน

ตอนที่ 114 ฝนตก สัญญาณแห่งความเปลี่ยนแปลง (ฟรี)


ตอนที่ 114 ฝนตก สัญญาณแห่งความเปลี่ยนแปลง

เมื่อฟางเฉิงหวู่รู้สึกว่าไม่สามารถถามอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้ เขาก็ได้แต่เดินกลับไปอย่างไม่เต็มใจนัก

ในขณะที่กำลังพัก ฉู่เจียงเยว่ได้ซื้อนมจากร้านค้าของระบบมาสามขวด สำหรับเด็กน้อยทั้งสอง และลูกเสือหนึ่งตัว

ดังนั้น เธอจึงได้รับความสนใจ และดึงดูดสายตาของคนมากมายทันทีที่ลงจากรถ

มีบางคนกล้าเดินมาหาฉู่เจียงเยว่ และถามคำถามต่างๆ ด้วย

“เด็กสองคนนี้เป็นลูกของคุณเหรอ?”

“อ๊า! ทำไมคุณถึงพาสัตว์เลี้ยงมาด้วยเมื่อออกมาข้างนอก? ไม่มีใครห้ามปรามเลยเหรอ?”

คนจากฐานผู้ลี้ภัยในเมือง L หลายคนไม่รู้ว่าฉู่เจียงเยว่เป็นเจ้าของโรงแรมเจียงหลินที่พวกเขาใฝ่ฝันจะไปถึง ดังนั้นคำถามของพวกเขาจึงดูล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวไปเสียหน่อย

ฉู่เจียงเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าคนเหล่านี้ยุ่งเรื่องคนอื่นมากเกินไป

“พวกหนูไม่ใช่ลูกของพี่สาว เธอแค่ช่วยรับพวกหนูมาดูแลก็เท่านั้น”

เมื่อซางกู่เยว่ได้ยิน เธอก็เอ่ยปากปฏิเสธ หากให้คนเข้าใจผิดในเรื่องนี้มันจะไม่ดีต่อตัวพี่สาวในอนาคต เธอจึงหักล้างคำพูดของพวกเขาตรงๆ

พี่สาวยังอายุน้อยอยู่ หากมีข่าวลือว่าเธอมีลูกแล้ว คงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะหาคนรักในอนาคต

หญิงวัยกลางคนที่เอ่ยปากถามมีสีหน้าเขินอายเล็กน้อย จากนั้นเธอก็จ้องมองไปที่ซางกู่เยว่

ให้ตายเถอะ เด็กคนนี้หยาบคายจริงๆ และไม่เคารพผู้สูงอายุเอาเสียงเลย!

"โฮกกก!"

ลูกเสือกระโดดลงจากอ้อมแขนของฉู่เจียงเยว่ และคำรามใส่หญิงวัยกลางคน

เมื่อได้ยินเสียงคำราม หญิงวัยกลางคนก็ตกใจกลัว ขาสั่นเทา กรีดร้อง และล้มลงกับพื้น "อ๊า! เจ้าสัตว์ร้ายกล้าดียังไงถึงมาทำแบบนี้กับฉัน แกต้องตาย!"

พูดจบเธอก็ลุกขึ้นจากพื้นแล้วรีบตรงดิ่งไปหาลูกเสือ

ปรากฏว่า เธอกำลังจับตามองลูกเสืออยู่นี่เอง จึงได้มาก่อเรื่องอยู่ที่นี่

เมื่อเห็น ฉู่เจียงเยว่ก็โบกมือ และเถาวัลย์ก็พุ่งออกมา จ่อปลายแหลมเข้าหาตัวของหญิงวัยกลางคนโดยตรง

“ถ้าป้ากล้าก้าวเข้ามาอีกก้าวเดียว ฉันรับรองได้เลยว่าป้าจะไม่ได้ตายดีแน่ คิดให้ดีก่อนที่จะทำอะไร”

ฉู่เจียงเยว่กวักมือเรียกลูกเสือ มันจึงวิ่งเข้ามาหา และกระโดดเข้ามาในอ้อมแขนของฉู่เจียงเยว่ อีกครั้ง จากนั้นก็หันไปส่งเสียงขู่ใส่หญิงวัยกลางคน

เมื่อหญิงวัยกลางคนเห็นปลายแหลมของเถาวัลย์อยู่ห่างจากตัวไม่กี่นิ้ว สีหน้าของเธอก็แข็งทื่อ

คิดไม่ถึงเลยว่าเด็กสาวที่ดูอ่อนโยนบอบบางจะน่ากลัวถึงขนาดนี้

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ปลุกพลัง เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องถอย

ลูกเสือตัวนั้นโชคดีจริงๆ ที่ได้พบเจ้าของที่แข็งแกร่ง

เธอเบือนหน้าหนี ก้าวถอยหลัง และหันกลับไปตรงที่ครอบครัวของเธอยืนอยู่

เมื่อเห็นหญิงวัยกลางคนเดินไปหาชายหนุ่มที่ผอมราวกับต้นไผ่ แล้วชายหนุ่มคนนั้นยิ้มพร้อมกับมองมาที่เธอ ฉู่เจียงเยว่ก็แทบจะอาเจียนอาหารที่กินเมื่อเช้าออกมา

“โอ้ย น่าอิจฉาชะมัด! โฮสต์ เสน่ห์ของคุณนี่แรงดีไม่มีตกจริงๆ”

จิ้งจอกน้อยยืนอยู่บนไหล่ของฉู่เจียงเยว่ โดยใช้อุ้งเท้าหน้าปิดตาของตัวเองเอาไว้

“หุบปาก!”

เมื่อได้ยินคำพูดหยอกล้อของจิ้งจอกน้อย ฉู่เจียงเยว่ก็รู้สึกอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา

“พี่สาว...”

ก่อนที่หญิงวัยกลางคนจะจากไป เธอก็เหลือบมองมาที่เขาอยู่พักหนึ่ง หลังจากที่พวกเขาจากไป ซางกู่เฉินจึงได้เดินมาหาฉู่เจียงเยว่ด้วยสีหน้าหวาดกลัว

ผู้หญิงคนนั้น... ดูเหมือนเธอจะอยากกินเขา!

“ไม่ต้องกลัว ตราบใดที่เธออยู่กับพี่ จะไม่มีใครทำอะไรเธอได้”

ตราบใดที่พวกเขากลับไปถึงโรงแรมเจียงหลิน ก็ไม่จำเป็นต้องระมัดระวังมากถึงขนาดนี้อีก

“ผมไม่ได้กลัว ผมอยากแข็งแกร่งขึ้น เมื่อถึงตอนนั้นผมจะได้ปกป้องพวกพี่ได้!”

หลังจากติดตามฉู่เจียงเยว่ พวกเขาก็ได้กินอาหารดีๆ มากมายในช่วงสองวันที่ผ่านมา ทำให้ทั้งสองดูมีสุภาพดี และน่ารักน่าชังเป็นอย่างมาก

แก้มนุ่มๆ เมื่อจิ้มดู ให้ความรู้สึกดีจริงๆ เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเด็กทั้งสอง ฉู่เจียงเยว่ก็รู้สึกอารมณ์ดีมากขึ้น

เนื่องจากใบปลิวมีเวลาจำกัด ทุกคนจึงออกเดินทางทันทีหลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว

ก่อนออกเดินทาง ฉู่เจียงเยว่เหลือบมองท้องฟ้าแล้วเม้มริมฝีปาก

"มีอะไรผิดปกติเหรอ?"

เสิ่นจื้อกุยมองไปที่ฉู่เจียงเยว่ จากท่าทีของเธอดูเหมือนจะกังวลอะไรบางอย่าง

“คุณไม่สังเกตเหรอว่าวันนี้ท้องฟ้า...มีเมฆมาก?”

แม้ว่าอุณหภูมิจะยังสูงเท่าเดิม แต่แสงแดดก็ไม่ร้อนแรงเท่าเมื่อวาน

หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่เจียงเยว่แล้ว เสิ่นจื้อกุยก็มองขึ้นไปแล้วถามต่อ "คุณคิดว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นเหรอ?"

หากไม่เป็นเช่นนั้น เสิ่นจื้อกุยก็รู้สึกว่าฉู่เจียงเยว่คงไม่แสดงท่าทางเช่นนี้ออกมา

“อาจจะ มารอดูกันว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้น”

ฉู่เจียงเยว่ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกในตอนนี้อย่างไร อาจจะเป็นเพราะ...ฝนกำลังจะตก

หลังฝนตก อุณหภูมิจะลดฮวบอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ด้วยชุดควบคุมอุณหภูมิ พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลกับผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวจัด

แต่ผู้คนในที่แห่งอื่นอาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่จะหนาวตาย

ซอมบี้ พืชและสัตว์กลายพันธุ์ และภัยพิบัติทางธรรมชาติที่น่ากลัว ของเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อกำจัดมนุษย์ให้หมดสิ้น

ฉู่เจียงเยว่ไม่ได้พูดอะไร เสิ่นจื้อกุยจึงไม่ได้ถามต่อ เขาแค่คอยอยู่ใกล้ๆ เธออย่างเงียบๆ ตราบใดที่เธอต้องการความช่วยเหลือ เขาก็สามารถยื่นมือช่วยได้ในทันที

“เถ้าแก่ คุณคิดว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นเหรอ?”

จู่ๆ ฉู่เจียงเยว่ก็ดูเศร้า ทำให้ซูจู้เฉิง และคนอื่นๆ รู้สึกไม่สบายใจตามไปด้วย

ถ้าเธอไม่บอก พวกเขาจะไม่รู้อะไรเลย หากเกิดอะไรขึ้น การบอกพวกเขาไว้ก่อนจะดีกว่าจะได้หาทางเตรียมการรับมือ

“เริ่มมีเมฆมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันคิดว่าฝนคงกำลังจะตก”

“ฝนตกเหรอ เถ้าแก่ คุณแน่ใจเหรอว่าไม่ได้ล้อเล่น”

ฝนไม่ตกมาเป็นเวลานานแล้วนับตั้งแต่วันสิ้นโลกมาถึง

“เห็นไหม แม้ว่าฉันจะพูดพวกคุณก็ไม่ค่อยเชื่อ ดังนั้นฉันเลยไม่ได้พูดอะไร”

“คุณแน่ใจเหรอว่าฝนจะตก? แล้วมันไม่ใช่สัญญาณที่ดีเหรอ?”

เสิ่นจื้อกุยวิเคราะห์อย่างรวดเร็วถึงสาเหตุที่ทำให้ฉู่เจียงเยว่ทำหน้าเศร้า

“บางทีฉันอาจจะแค่กังวลไปเองก็ได้ จึงไม่อาจตอบอะไรได้มาก”

ฉู่เจียงเยว่ไม่ต้องการพูดอะไรที่ยังไม่แน่ใจ เพราะหากไม่เป็นตามนั้นจริงๆ มันอาจนำปัญหามาสู่ตัวเธอได้

ในโลกนี้ สิ่งที่ยากที่สุดคือการเป็นคนดี ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องการเป็นคนดีถึงขนาดนั้น

“ผมเข้าใจ ผมจะส่งข้อความถึงซ่งเฉิงจุน ส่วนจะจัดการอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับเขา”

เสิ่นจื้อกุยไม่คิดว่าท่าทีที่ดูเหมือนจะปกปิดอะไรบางอย่างอยู่ของฉู่เจียงเยว่จะเป็นเรื่องแปลก ถ้าเป็นเขา เขาคงจะทำแบบเดียวกันกับเธอ

ท้ายที่สุดหากเธอคิดผิด แม้คนอื่นจะไม่กล้าพูดจาว่าร้ายต่อหน้า แต่ก็จะมีการนินทาลับหลังอยู่ดี

เมื่อเป็นแบบนี้ เป็นการดีกว่าที่จะไม่ทำอะไรเลยตั้งแต่แรก

ฉู่เจียงเยว่ไม่ได้หยุดเสิ่นจื้อกุย หากซ่งเฉิงจุนสามารถเตรียมพร้อมได้เพราะคำเตือนของเขา นั่นก็ถือเป็นเรื่องดี

“เราแค่ระวังตัวเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อยก็พอ ถ้าฝนไม่ตกก็จะไม่มีปัญหาอะไร”

เมื่อเตือนแล้ว เธอก็ไม่ทำอะไรอีก ที่เหลือซ่งเฉิงจุนจะเป็นคนจัดการแทน

“พี่สาว หากฝนตกแล้วจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเหรอ?”

เมื่อเห็นว่าฉู่เจียงเยว่ดูไม่ค่อยมีความสุข ซางกู่เฉินจึงถามอย่างไร้เดียงสา

จู่ๆ เสิ่นจื้อกุยก็มองมาที่เขา “ที่เธอพูดหมายความว่าไง?”

“อย่าทำให้เขากลัวสิ”

ฉู่เจียงเยว่ลูบหัวเล็กๆ ของซางกู่เฉิน เพื่อป้องกันไม่ให้เขาตกใจกลัว

เสิ่นจื้อกุยจึงมองไปที่ฉู่เจียงเยว่ “มันจะเกิดเรื่องไม่ดีอย่างที่เด็กคนนี้พูดเหรอ?”

ฉู่เจียงเยว่ถอนหายใจ “ฉันเดาว่าหากฝนตก...ซอมบี้จะน่ากลัวยิ่งขึ้น และหลังจากฝนหยุด...สภาพอากาศอาจเปลี่ยนเป็นหนาวจัดแทน”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด