ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 1 นิมิตตระกูลกู้
ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 1 นิมิตตระกูลกู้
แดนเซียนกว้างใหญ่ไพศาล ไร้ขอบเขต แม้แต่ผู้บำเพ็ญตบะสูงส่งจนทะลวงสู่ระดับอมตะก็ยากที่จะหยั่งถึงจุดสิ้นสุด
ภายในแดนเซียนยังประกอบไปด้วยแดนมรรคาสามพันแห่ง แต่ละแดนมรรคามีระยะห่างนับสิบล้านลี้ ถูกแบ่งแยกด้วยกระแสมิติอันปั่นป่วน สัตว์อสูรห้วงมิติ และอื่น ๆ อีกมากมาย
แดนมรรคาหนานเซิ่ง เมืองกู้ซาง
เมืองกู้ซาง เป็นเมืองโบราณที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแดนมรรคาหนานเซิ่ง กล่าวขานว่ามีต้นหม่อนต้นหนึ่งบำเพ็ญตบะจนบรรลุธรรมในเวลากลางวันเมื่อหลายแสนปีก่อน
ภายในเมืองมีประชากรหลายสิบล้านคน ทั้งสายพันธุ์บรรพกาล สิ่งมีชีวิตสายเลือดบริสุทธิ์ และผู้บำเพ็ญจากเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย เดินทางไปมาอย่างไม่ขาดสาย คึกคักเป็นอย่างยิ่ง
ทว่าในเวลานี้ เหล่าผู้บำเพ็ญมากมายภายในเมือง ต่างก็พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวหนึ่งเรื่อง
ภายในโรงเตี๊ยม ชายชรากำลังพูดคุยกับผู้คนโดยรอบด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง
“พวกเจ้าเห็นหรือไม่? เช้าวันนี้ ดินแดนตระกูลอมตะ ตระกูลกู้ ปรากฏนิมิตอันน่าสะพรึงกลัว แม้จะเป็นเพียงแวบเดียว แต่ความยิ่งใหญ่ที่ปกคลุมทั่วทั้งฟ้าดินเช่นนั้น ข้าไม่เคยพบเห็นมาก่อน”
ตระกูลอมตะ ตระกูลกู้
นั่นคือขุมอำนาจอมตะที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคโบราณ ผ่านยุคสมัยมากมาย แต่ก็ยังคงยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง ภายในตระกูลเคยมีผู้บำเพ็ญตบะจนบรรลุอมตะ
พร้อมกันนั้น พวกเขายังเป็นหนึ่งในขุมอำนาจที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาสามพันแดนมรรคา รากฐานลึกซึ้ง ไม่อาจหยั่งถึง น่ากลัวยิ่งนัก
เมื่อกล่าวถึงตระกูลกู้ เหล่าผู้บำเพ็ญมากมายต่างก็มีสีหน้าเคร่งขรึม เต็มไปด้วยความเคารพ มิกล้าแสดงความไม่เคารพใด ๆ
ผู้บำเพ็ญที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินเช่นนั้น จึงพยักหน้าเห็นด้วย
“ใช่แล้ว ตอนแรก ดวงดาวและดวงจันทร์มืดมัวลง แสงเมฆาพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า จากนั้น บัวเขียวปฐมโกลาหลก็ปรากฏตัวขึ้น แผ่ขยายทั่วทั้งฟ้าดิน ทำให้ข้าเกิดความรู้สึกอยากจะตระหนักมรรค”
“ระดับตบะที่ข้าติดอยู่มานานหลายสิบปี จู่ ๆ ก็เกิดความรู้สึกแปลกประหลาด”
“น่าเสียดายที่นิมิตนั้นปรากฏขึ้นเพียงชั่วครู่ ก็หายไป ดูเหมือนว่าถูกยอดฝีมือตระกูลกู้ใช้พลังอิทธิฤทธิ์ปิดบังเอาไว้……”
“เสียงสวรรค์เช่นนั้น ภายในแฝงไว้ด้วยหลักธรรมแห่งฟ้าดิน พบเจอได้ยากยิ่งนัก แม้กระทั่งมีผู้บำเพ็ญหลายคนสามารถตระหนักมรรค ณ ที่แห่งนั้น เข้าใจมรรคลึกลับมากมาย”
“พวกเราคงไม่มีโอกาสได้พบเจอกับวาสนาเช่นนั้นอีกแล้ว”
“น่าเสียดายยิ่งนัก ทว่าดูเหมือนว่าตระกูลกู้คงจะให้กำเนิดอัจฉริยะฟ้าประทานที่น่ากลัวยิ่งนัก”
…………
เหล่าผู้คนต่างก็พูดคุยกัน มองไปยังทิศทางของตระกูลกู้ด้วยความอิจฉา
นิมิตที่ปรากฏขึ้นตอนที่เขาถือกำเนิด ทำให้ทั่วทั้งแดนมรรคาหนานเซิ่งต้องตกตะลึง ดวงดาวและดวงจันทร์มืดมัวลง สี่ทิศแปดทางสั่นสะเทือน
พรสวรรค์เช่นนั้น ใครบ้างจะจินตนาการได้?
กระทั่งตอนที่ราชันเซียนยังเยาว์วัย ก็คงมิได้มีนิมิตที่น่ากลัวยิ่งนักถึงเพียงนี้
ทว่าเมื่อคิดว่าเขาเกิดในตระกูลอมตะ พวกเขาก็เข้าใจได้
มีเพียงตระกูลอมตะเท่านั้น ที่สามารถให้กำเนิดอัจฉริยะฟ้าประทานที่น่ากลัวเช่นนี้ได้
“ยุคแห่งการต่อสู้ ดวงดาวมากมายเปล่งประกายเจิดจรัส ในอนาคต ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาคนรุ่นใหม่ คงต้องมีเขาคนนี้อยู่ด้วย…………”
…………
อย่างไรก็ตาม
ภายในขุมอำนาจเก่าแก่หลายแห่ง ณ สามพันแดนมรรคา พวกเขากลับคิดแตกต่างออกไป สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม
เพราะพวกเขาได้เห็นสิ่งที่คนธรรมดามองไม่เห็น
“วันนี้เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับตระกูลกู้”
“หลังจากเสียงร้องไห้ของทารก ปราณปฐมโกลาหลแผ่กระจายออกไป ปราณวิญญาณมากมายภายในอาณาเขตดวงดาว ถูกดูดกลืนจนหมดสิ้น ตกอยู่ในความมืดมิด มุ่งหน้าสู่จุดจบ แม้กระทั่งชายชราที่เคยมีชีวิตอยู่มานานนับไม่ถ้วนก็ยังถูกปลุกให้ตื่นขึ้น”
“เขาได้เปิดเส้นทางมิติ เดินทางไปยังท้องฟ้า เพื่อปกป้องทารกผู้นั้น”
“หรือว่า… กายาปฐมโกลาหลได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว? หรือว่ามีผู้ใดในตระกูลกู้ได้พิสูจน์มรรคแล้ว?”
“เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นการพิสูจน์มรรค แม้ว่าฟ้าดินจะรับรู้ได้ แต่ก็มิได้เกิดแรงกดดันแห่งมหามรรค”
พวกเขาตกตะลึงและสงสัย
ทว่าพวกเขากลัวรากฐานและพลังอำนาจของตระกูลกู้ จึงมิกล้าเข้าไปตรวจสอบ
ทำได้เพียงปลดปล่อยจิตเทวะอันยิ่งใหญ่ สำรวจอาณาเขตดวงดาวที่กลายเป็นดินแดนรกร้าง
สีหน้าของพวกเขาทั้งหมด เต็มไปด้วยความตกใจ
…………
ดินแดนตระกูลกู้
ภูเขาวิเศษเกาะเทพมากมายลอยอยู่บนท้องฟ้า แสงเมฆาพลิ้วไสว สมุนไพรวิญญาณเต็มไปทั่ว
สายพันธุ์บรรพกาลมากมายปล่อยปราณโลหิตปกคลุมทั่วทั้งฟ้าดิน เดินทางไปมา
ภายในโถงตำหนักที่ยิ่งใหญ่และสง่างาม สูงนับร้อยจั้ง
ชายชรามากมายล้อมรอบทารกที่อยู่ในผ้าห่อตัว พวกเขาทั้งหมดมีร่างกายสั่นสะท้าน ดวงตาเต็มไปด้วยความร้อนแรงและความกังวล
กลิ่นอายของพวกเขาแต่ละคนช่างน่ากลัวยิ่งนัก ทำให้ห้วงมิติสั่นสะเทือน แต่ในตอนนี้ พวกเขากำลังกดข่มเอาไว้ มิกล้าหายใจแรง ๆ
ถูกคนมากมายจ้องมอง ทารกในผ้าห่อตัวกลับมิได้หวาดกลัว เขาเบิกตากลมโต มองดูทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความสนใจ
ระหว่างจมูกและปากของทารก ปรากฏปราณปฐมโกลาหลแผ่วเบา ซึมซับเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างช้า ๆ
พลังกฎเกณฑ์อันสูงส่งมากมาย แปรเปลี่ยนเป็นแสงสว่างนับไม่ถ้วน หลอมรวมเข้าสู่ร่างกายของทารก ทำให้ทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นอายเซียน
กลิ่นอายมรรคและปราณวิญญาณมากมายจากสี่ทิศแปดทางพุ่งทะลักเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ถูกทารกดูดกลืนเข้าไปด้วยการหายใจเข้าออก
ภายในร่างกายของทารก กระดูกเซียนที่ส่องประกายเจิดจรัสกำลังเปล่งแสง บนพื้นผิวเต็มไปด้วยกฎเกณฑ์อันซับซ้อน แอบแฝงด้วยรูปลักษณ์มหามรรคฝังลึกอยู่ภายใน
“ช่างเหลือเชื่อยิ่งนัก ไม่อาจจินตนาการได้!”
“นี่… เพิ่งจะถือกำเนิด ยังไม่ทันได้บำเพ็ญ ก็มีพลังเวทมากมายเทียบเท่าอริยะ!”
“บรรพชน หรือว่า… เขาจะเป็นกายาปฐมโกลาหล?”
ชายชรามากมายกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน พวกเขามองไปยังชายชุดเทาที่กำลังอุ้มทารก