ตอนที่แล้วบทที่ 8 เฉินหยวน มีคนมาหา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10 กล้าดียังไงมาแอบคบกัน? !

บทที่ 9 เพื่อนบ้านมาส่งข้าวให้แล้ว


บทที่ 9 เพื่อนบ้านมาส่งข้าวให้แล้ว

รู้ไหมว่ามีช่วงเวลาไหนบ้างที่ทำให้เด็กมัธยมปลาย โดยเฉพาะผู้ชายรู้สึกฟินสุด ๆ  ติดท็อปทรีเลยนะ

อย่างแรกเลย ต้องเป็นคำชมจากผู้ชายด้วยกัน "นายเจ๋งว่ะ" อันนี้ยืนหนึ่ง ไม่มีใครโค่นได้ เพราะมันมีคุณค่าทางใจสูงมาก

อย่างที่สอง "พ่อ!" อันนี้สืบทอดมาจากวัฒนธรรมกตัญญูอันยาวนานนับพันปี ก็ต้องติดโผด้วยอยู่แล้ว

นอกจากสองอย่างนี้แล้ว ก็คงจะมีแค่เสียง "โอ้วววว" ที่ดังขึ้นพร้อมกันจากเหล่าผู้ชายทั้งหลาย

"เฉินหยวน มีคนมาหานายแหน่ะ"

"ฉันมาส่งข้าวให้ รีบไปสิ เดี๋ยวข้าวเย็นหมดอร่อยนะ"

"เยี่ยมไปเลยเพื่อน!"

ผู้ชายเกือบทุกคนที่ยังอยู่ในห้องต่างก็ส่งเสียงแซวมาทางนี้

ส่วนผู้หญิงที่เหลือ แม้จะไม่ได้ส่งเสียงดัง แต่ก็จ้องมองหญิงสาวที่หน้าประตูไม่วางตา

สวยจัง

สวยราวกับเจ้าหญิงในแบบญี่ปุ่น ผิวพรรณละเอียดไร้ที่ติ ผมดำขลับเป็นเงางาม ใบหน้าเล็กเรียบร้อยอ่อนหวาน มองยังไงก็หาที่ติไม่ได้ ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือ...เธอไม่ได้เป็นของฉัน

โจวฟู่ก็นับว่าดูดี แต่ที่เธอได้คะแนนนำก็เพราะหน้าอกหน้าใจใหญ่โต ถ้าพูดถึงแค่หน้าตาอย่างเดียว ก็เทียบกันไม่ได้เลย แต่ก็นะ ผู้หญิงคนนี้ได้เปรียบตรงที่ใส่ชุดลำลอง ถ้าโจวฟู่แต่งตัวเซ็กซี่หน่อย ก็พอจะสู้ได้อยู่

"ขอโทษด้วยนะ พวกนายไปกินกันก่อนเถอะ เพื่อนบ้านฉันเอามาข้าวมาส่งให้..."

"บัดซบ! ทรยศ! แผลของการทรยศจากแกมันจะไม่มีวันหาย! จำไว้เลยไอ้สารเลว!" โจวหยูร้องไห้ เขาพบว่าเพื่อนที่เคยโสดสนิทด้วยกัน กลับมีแฟนแล้ว แถมยังรักกันหวานชื่นซะด้วย

ในฐานะเพื่อน ก็ไม่ได้จะแช่งให้มีชีวิตรักแย่นะ

แค่ขอให้อิ่มท้อง มีข้าวหยาบ ๆ  น้ำโคลน ๆ  กินไปวัน ๆ  เท่านั้นเอง

ใครใช้ให้นายกินหรูอยู่สบายกันล่ะ!

บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ ว่าที่จริงแล้วนายจ้างคนนี้มา เพื่อสร้างภาพลักษณ์ แถมยังใช้เงินครึ่งเดือนไปแล้วด้วย

นายมันคนตอแหล สมควรตายจริง ๆ  เฉินหยวน!

"ขอโทษนะ ไปล่ะ ๆ" เฉินหยวนยกมือไหว้ขอโทษโจวหยูและคนอื่น ๆ  ก่อนจะออกไปหาเซี่ยซินหยู่

ผู้หญิงคนนี้มาหาเฉินหยวน...

เมื่อเห็นเซี่ยซินหยู่ที่หน้าประตู สีหน้าของโจวฟู่ก็เปลี่ยนไป แสดงออกถึงความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด

เดี๋ยวก่อนนะ

ส่วนโจวหยูที่อยู่ข้าง ๆ  ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ ถ้าเฉินหยวนออกไปกินข้าวกับน้องสาวคนนั้น ก็เท่ากับว่าตัวเองจะได้อยู่กับ...

เขาหันกลับมามองโจวฟู่และเหอซือเจียวด้วยความดีใจ แต่แล้วใบหน้าของโจวหยูก็ค่อย ๆ  แสดงความรู้สึกอับอายขายหน้า อยากจะขุดหลุมฝังตัวเองเสียจริง...

ไม่นะ ฉันไม่สนิทกับทั้งสองคนเลย

เฉินหยวน กลับมาช่วยฉันด้วย!

"ไม่คิดเลยว่าเธอจะมาส่งข้าวให้ แล้วเธอหาห้องเรียนนี้เจอได้ยังไง?"

เนื่องจากในห้องเรียนไม่ค่อยสะดวกกินข้าว เฉินหยวนจึงพาเซี่ยซินหยู่มานั่งที่ม้านั่งหินอ่อนใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่รูปทรงโค้งครึ่งวงกลม บริเวณหน้าประตูโรงเรียน ทั้งสองวางกล่องข้าวไว้บนตัก แล้วเริ่มกินอาหารกลางวันด้วยกัน

"ฉันดูอันดับวิชาสายวิทย์ของโรงเรียนมา นักเรียนห้อง 18 ติดอันดับร้อยคนแรกแค่คนเดียว พอมาถามที่หน้าห้องก็เจอนายจริง ๆ  ด้วย"

"คำว่า 'จริง ๆ  ด้วย' ของเธอมันดูมีอะไรแอบแฝงรึเปล่า?"

"นาย...อยู่ห้องนี้จริง ๆ  เหรอเนี่ย?" เซี่ยซินหยู่เปลี่ยนคำพูดใหม่ ถามด้วยสีหน้าจริงจัง

"แบบนี้ยิ่งฟังดูน่าอายเข้าไปใหญ่" เฉินหยวนประสานมือทั้งสองข้างที่จับตะเกียบไว้ ราวกับกำลังอ้อนวอนขอร้องไม่ให้เธอพูดต่อ

"ข้าวหน้าปลาไหลอร่อยมาก...ทำให้นายต้องเสียเงินอีกแล้ว ขอโทษจริง ๆ  นะ" สิ่งที่ทำให้เซี่ยซินหยู่รู้สึกผิดมากที่สุดคือ เพื่อที่จะได้กินกุ้งล็อบสเตอร์ เธอถึงกับยอมเลื่อนการฆ่าตัวตายออกไป

คนตะกละที่น่าอาย

"เธอก็ห่อกับข้าวมาหลายอย่าง ถือว่าเป็นการเลี้ยงตอบแทนแล้วกัน" เฉินหยวนไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ก้มหน้าก้มตากินกับข้าวอย่างเอร็ดอร่อย

"ไม่ใช่นะ กับข้าวพวกนี้ฉันทำเอง"

"..." เมื่อได้ยินแบบนั้น เฉินหยวนก็มองไปที่กับข้าวหน้าตาน่ารับประทานในกล่องข้าว ทั้งแตงกวาดองผัดไส้กรอก ไข่ต้มน้ำแร่ พริกหยวกผัดหมูสับ เขาถึงกับอึ้งไป

เด็กอายุ 17 ทำอาหารอร่อยขนาดนี้ได้ด้วยเหรอ?

มิน่าล่ะ ถึงได้ชมเขาว่า 'ทำอาหารเป็น'

เหมือนกับตอนที่ซุนหงอคงชมหมาป่าเขี้ยวเงินว่า หมัดเขี้ยวหมาป่ารุนแรงดี คำชมที่ฝืนใจเกินไป ฟังดูก็รู้ว่าไม่จริงใจ

"ใช้กล่องข้าวของนาย เดี๋ยวกลับไปฉันล้างให้เองนะ" เซี่ยซินหยู่พูดออกมา

เด็กผู้หญิงคนนี้ ทำตัวเรียบร้อยน่ารักขนาดนี้ ในสถานการณ์ปกติเฉินหยวนคงต้องรู้สึกตื้นตันใจ หัวใจเต้นแรง แต่เมื่อเห็นตัวเลขบอกอายุขัยของเธอที่ไม่เปลี่ยนแปลง เขาก็รู้สึกว่าความรู้สึกทั้งหมดในตอนนี้มันช่างฟุ่มเฟือย

เธอไม่ได้ดีกับเขาแบบไม่มีเงื่อนไข เหมือนเป็นสาวใช้ส่วนตัว

เธอแค่อยากใช้หนี้บุญคุณคนก่อนตาย

คนที่เธออยากตอบแทน อาจจะเป็นกุ้งล็อบสเตอร์ตัวนั้น หรือจะเป็นข้าวหน้าปลาไหลกล่องนี้ก็ได้ แต่ไม่ใช่เขาเพียงคนเดียว

ในขณะที่เฉินหยวนกำลังใจลอย มือที่จับตะเกียบก็สั่นขึ้นมา ทำให้ปลาไหลชิ้นหนึ่งหล่นลงไปบนกระโปรงของเซี่ยซินหยู่ ตรงช่วงต้นขา

"ขอโทษที" เฉินหยวนรีบขอโทษทันที

"อ๊ะ อ๊ะ ไม่เป็นไร" เซี่ยซินหยู่ตกใจเล็กน้อย ก่อนจะคีบปลาไหลชิ้นนั้นขึ้นมาใส่ในชามของเฉินหยวนอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "ของ...ของนาย"

"..."

เมื่อเห็นปลาไหลชิ้นนั้นอยู่ในกล่องข้าวของตัวเอง ทั้งที่มันได้สัมผัสต้นขาของเซี่ยซินหยู่ก่อนเขา เฉินหยวนก็ถึงกับพูดไม่ออก

หลังจากทบทวนเหตุการณ์ในหัวแล้ว เขาก็อยากจะเอาตัวเองไปฝังดินแล้วปักป้ายหลุมศพไว้ตรงนั้นเลย

"ฉัน...ฉันผิดเองที่ทำให้กระโปรงเธอเปื้อน ไม่เป็นไรใช่มั้ย?" เฉินหยวนถาม

'ผิดเอง?'

"อ๊ะ!"

หลังจากตั้งสติได้ เซี่ยซินหยู่ก็มีความคิดแบบเดียวกับเฉินหยวน แต่ความคิดของเธอสุดโต่งกว่าและดูเหมือนจะลงมือทำจริงจังกว่าด้วย -- 'คืนนี้คงนอนไม่หลับแน่ ๆ  ถ้ายังคิดถึงเรื่องน่าอายแบบนี้ หรือว่ากลับไปฆ่าตัวตายเลยดีนะ?'

"เฉินหยวน ฉันกลับก่อนนะ"

ฉันนี่มันโง่เง่าสิ้นดี เขาเป็นคนใจกว้างขนาดนั้น จะมาหวงของกินได้ยังไงกัน ของที่มันหล่นมาอยู่บนขาฉันแบบนี้ เขาก็ต้องรังเกียจอยู่แล้ว

โง่จริง โง่จัง โง่ที่สุด…

กลับไปตายซะดีกว่า

เซี่ยซินหยู่คิดวนเวียนอยู่แบบนี้ จนใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ เฉินหยวนเห็นดังนั้น จึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ คีบปลาไหลเข้าปาก "ไม่เป็นไร ยังกินได้อยู่ กฎสามวินาที"

"หล่นแล้วก็..."

"ถ้าคิดราคาเดิม ชิ้นนี้ก็สามหยวนแล้วนะ"

พอแปลงเป็นราคาเท่านั้นแหละ สกิลแม่บ้านแม่เรือนของเซี่ยซินหยู่ก็ทำงานทันที แต่จะให้เฉินหยวนกินก็รู้สึกเขินอาย เธอจึงยื่นหน้าเข้าไปงับปลาไหลจากตะเกียบของเขา

จูบทางอ้อม... เอ่อ ไม่สิ จูบผ่านตะเกียบต่างหาก

เฉินหยวนไม่ได้คิดอะไรมาก ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ได้เป็นโรคกระเพาะ ปอดบวม มือเท้าปาก หรือตับอักเสบชนิดเอ ซึ่งติดต่อได้ทางน้ำลาย ยิ่งไปกว่านั้น เด็กสาวคนนี้ยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ  แสดงว่าเป็นคนที่รักสะอาดมาก

แต่เซี่ยซินหยู่ดูจะขัดเขินเล็กน้อย หลังจากกินเสร็จก็หันหน้าหนีไป เหลือเพียงแก้มแดง ๆ  ที่ขยับเคี้ยวอย่างช้า ๆ  ให้เขามอง

อยากจะบอกมานานแล้ว เด็กสาวคนนี้ผิวบอบบางเกินไปหรือเปล่า ทำไมถึงได้หน้าแดงง่ายแบบนี้

ไม่เหมือนกับเด็กสาวชาวจีนทั่วไปเลยสักนิด

"เฉินหยวน ทำอะไรน่ะ!"

ทันใดนั้น หลาวโม๋ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับถุงข้าวกล่องในมือ ราวกับไททันเกราะ ขวางอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน สีหน้าบึ้งตึงสุดขีด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด