ตอนที่แล้วบทที่ 8 อสุรกาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10 มดปลวกใต้ฝ่าเท้าปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำ

บทที่ 9 อธิการบดีมาถึงแล้ว


บทที่ 9 อธิการบดีมาถึงแล้ว

ทุกอย่างเป็นไปตามที่เลอวั่นอี้คาดไว้

ครูในแผนกวัสดุไม่รู้เลยว่ารูปนี้มีความหมายว่าอย่างไร

ในวันธรรมดาก็อนุญาตให้สังเกตการณ์ห้องฝึกซ้อมได้ตามใจชอบ

ไม่นานนัก ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหุ่นยนต์ทดสอบโลหะผสมลายเวทย์มนตร์ในห้องฝึกซ้อมนักศึกษาใหม่ ก็กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในฟอรัมของโรงเรียน

“เรื่องจริงเหรอเนี่ย! มีอสูรกายอีกตัวในชั้นปีหนึ่ง!!”

“พี่ชาย วันนี้ฉันได้เห็นกับตาตัวเอง ฉันพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทดสอบ แต่คะแนนที่ฉันทำได้มัน...”

“ไม่ต้องแสร้งทำเป็นเก่งหรอก เปิดเผยตัวจริงออกมาซะ ฉันเองก็ต่อยโลหะผสมลายเวทย์มนตร์แตกด้วยหมัดเดียว”

“มีข่าวลือว่าเจ้าคนที่ทำได้นั่นเขาไปขอความช่วยเหลือจากแผนกวัสดุ!!”

“แผนกวัสดุนั่นสมควรโดนประณามแล้ว พวกเขากำลังลดต้นทุน เจ้าพวกนั้นกำลังยักยอกเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง!!”

........

แต่ละหัวข้อการสนทนาดูเกินจริง แต่สิ่งที่อยู่ในข่าวลือนั้นมีส่วนหนึ่งคือเรื่องจริง

เหตุการณ์นี้กลายเป็นประเด็นร้อนในฟอรัมของโรงเรียน แม้แต่ห้องฝึกซ้อมในตอนนี้ก็กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนต้องไปเช็คอิน

ในตอนแรก มันก็เป็นเพียงการพูดคุยกันในหมู่นักเรียน

แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินต่อไป

ปรมาจารย์ระดับสูงก็เริ่มให้ความสนใจ

ในลานบ้านปรมาจารย์ของสถาบันเกาอู่แห่งมหานครเวทมนตร์

ฮั่วเหวินซุน ผู้นำพรรคไฟ บุตรชายแห่งระดับเพชร กำลังดุหวงตงตง ศิษย์รักของเขา

“อาจารย์บอกให้แกฝึกฝนให้หนัก แต่แกกลับแอบเล่นโทรศัพท์!”

“อาจารย์ ผมไม่ได้เล่นโทรศัพท์! ผมกำลังจับตาดูคู่แข่งอยู่!”

“ยังจะกล้าเถียงอีกเหรอ?! ในกลุ่มของพวกแก ใครมันจะมีเวลามาโพสต์อะไรแบบนี้ลงบนเน็ตกัน?!”

“จริงนะครับ อาจารย์!!”

“ฉันนี่แหละที่จะตีแกให้ตาย!!”

ฮั่วเหวินซุนเป็นคนที่ใจร้อน

เขาโบกมือข้างหนึ่ง

เปลวไฟก็ลุกท่วมก้นของหวงตงตง

หวงตงตงเจ็บปวด เขานั่งลงบนพื้นเพื่อดับไฟ

“หึ ฝึกฝนก็ไม่ฝึกฝน ยังมีเวลามานั่งเล่นอยู่ได้!!” ฮั่วเหวินซุนดุด่าศิษย์ของเขา “วันนี้ฉันจะสาธิตวิชาไฟสามสิบหกกระบวนท่าให้แกดูเอง!!”

หวงตงตงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาด้วยความคับข้องใจ “ไม่ใช่นะครับ อาจารย์ ดูสิครับ!!”

“เรื่องอะไรกัน ฉันเดินทางไปทั่วโลกมานานหลายปี ไม่มีอะไรเป็นเรื่องแปลกอีกต่อไป เมื่อไหร่แกจะเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ให้ได้อย่างฉันกัน??!”

เมื่อเห็นว่าหวงตงตงยืนกรานที่จะให้เขาดู ฮั่วเหวินซุนจึงหยิบโทรศัพท์มือถือของหวงตงตงมาด้วยความโกรธ

แต่เมื่อเขาเห็นภาพหุ่นยนต์ทดสอบในฟอรัม

ฮั่วเหวินซุนก็หยุดพูด

เขามีคิ้วหนา ดวงไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ตอนนี้ดวงตาของเขากำลังเบิกกว้าง

ดวงตาของเขาค่อยๆ เปลี่ยนจากสงบนิ่งเป็นตกตะลึง

มันค่อยๆ เปลี่ยนจากตกตะลึงเป็นไม่อยากจะเชื่อ และสุดท้ายมันก็กลายเป็นความกระตือรือร้น!!

ฮั่วเหวินซุนดูตื่นเต้นจนรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นหนุ่มอีกครั้ง

คนนอกมองดูความสนุก คนในมองดูประตู

เลอวั่นอี้สามารถมองเห็นความน่าทึ่งของผู้ทดสอบคนนี้ได้อย่างรวดเร็ว แล้วฮั่วเหวินซุน ผู้ซึ่งอยู่ที่จุดสูงสุดของระดับเพชรจะมองไม่เห็นได้ยังไงกัน?

ในตอนนั้นเอง หัวใจของฮั่วเหวินซุนมีเพียงความคิดเดียว

ต้องรับเขาเป็นศิษย์ให้ได้!

นี่คือศิษย์เอกของฉัน นี่คือสิ่งที่ฉันจะเอาไปโอ้อวดตลอดชีวิต นี่คือคนที่จะแบกโลงศพของฉันในอนาคต!!

ไม่เกินจริงเลยที่จะบอกว่า เมื่อเขาเห็นภาพนี้ ฮั่วเหวินซุนก็ถึงกับคิดชื่อให้ศิษย์ของเขาแล้ว

น้ำเสียงของฮั่วเหวินซุนสั่นเทา “บอกข้ามาเร็วๆ ว่านี่มันที่ไหน??!!”

“อาจารย์ครับ นี่คือห้องฝึกซ้อมของนักศึกษาใหม่...”

พูดจบฮั่วเหวินซุนก็กลายร่างเป็นลมเพลิงก่อนจะบินออกจากลานบ้านไป

“อาจารย์ ท่านจะไปไหน?!” หวงตงตงดูงุนงง ก่อนที่เขาจะทันได้ตั้งตัว ฮั่วเหวินซุนก็บินหนีไปแล้ว เหลือเพียงแค่ประโยคเดียวทิ้งเอาไว้ในสายลมอันเดียวดาย

“ใจเย็นๆ ไว้ ฉันจะไปรับศิษย์น้องให้แกเอง!!”

เมื่อฮั่วเหวินซุนบินไปถึงลานบ้านของอาคารนักศึกษาใหม่

สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้เขาตกตะลึง

ตอนนี้ที่แห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยชายชรา

พวกเขาทุกคนมีพลังอย่างน้อยก็ระดับแพลทินัมสูงสุด และหลายคนก็เป็นปรมาจารย์ระดับเพชร

พวกเขาทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นคนที่สามารถก่อตั้งพรรคได้

“ท่านฮั่ว เจ้ามาสายแล้วนะ เดี๋ยวก็โดนแซงคิวหรอก!!”

“ท่านผู้อาวุโสหู ยังมีเวลามาที่นี่อีกเหรอเนี่ย?”

“ทำไมกันล่ะ? นี่ข้าจะมาที่นี่ไม่ได้งั้นเหรอ?”

“เฮ้ เจ้าหม่า เจ้าแอบไปเรียนรู้วิชาเวทย์มนตร์จากพระสันตะปาปาแห่งศาสนจักรไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

“อย่ามาพูดอะไรบ้าๆ! ข้าไปแลกเปลี่ยนเท่านั้น! แลกเปลี่ยนต่างหาก!”

“เหอะๆ ผู้นำพรรคจิง ดูเหมือนที่นี่จะไม่ใช่พรรคของเจ้านะ??”

“ฮ่าๆ ฉันเรียนจบจากสถาบันเกาอู่แห่งมหานครเวทมนตร์เมื่อยี่สิบปีก่อน ตอนนี้มาเยี่ยมชมโรงเรียนเก่า มันไม่ได้เหรอไงกัน?”

เหล่าชายชรากำลังพูดคุยกัน

ทุกคนรู้ดีว่าทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่ และพวกเขาก็ต่างก็ไม่พอใจกันอย่างเห็นได้ชัด

ชายชราก็เป็นผู้ฝึกฝนเช่นกัน

ถ้าจะพูดถึงเรื่องการแข่งขัน พวกเขาต่างปลดปล่อยออร่าออกมาโดยไม่ลังเล

ที่นี่เต็มไปด้วยออร่าของชายผู้แข็งแกร่ง

นักเรียนที่อยู่ในรัศมีสิบไมล์ต่างก็รู้สึกกดดัน

แม้แต่สุนัขที่กำลังเดินผ่านไปมา มันก็ยังต้องคลานหนีไปอย่างเหนื่อยหอบ

ส่วนแผนกจัดหา

หัวหน้าแผนกเหยาโหย่วเฉียนด่าซูโหย่วไฉ่ ผู้รับผิดชอบแผนกวัสดุของนักศึกษาใหม่กำลังโกรธ

“นี่นายแน่ใจนะว่าอุปกรณ์ตรวจสอบเสียหาย และบันทึกการเข้าออกหายไปจริงๆ น่ะ??!!”

“นายคิดว่าถ้าพูดแบบนี้จะมีใครเชื่อนายงั้นเหรอ? หืม? บอกมาสิ ใครจะเชื่อนายกัน?!”

“มองดูข้างนอกให้ดีๆ! บรรดายอดฝีมือมากันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ มันเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายตอนที่พวกเรารบกับแคว้นนินจา!!”

“คิดให้ดีก่อนจะพูด!! ถ้าเกิดอะไรขึ้น พวกเราอาจจะไม่ได้ออกไปจากตึกนี้!”

ตอนนี้ แผนกวัสดุถูกล้อมรอบไปด้วยปรมาจารย์จากทุกทิศทุกทาง

แต่ละคนต่างรอให้พวกเขาเปิดประตูและให้คำตอบ

แต่คำตอบที่ลูกน้องมอบให้เขามีเพียงแค่ว่า ไม่มีคำตอบ

ไม่เพียงแต่ไม่มีคำตอบ มันยังไม่มีข้อมูลอะไรให้เขาอีกด้วย

แบบนี้...ใครจะเชื่อล่ะ?

ถ้าออกไปบอกแบบนั้นกับเหล่าปรมาจารย์ พวกเขาไม่มีทางเชื่อแน่

เหยาโหย่วเฉียนรู้สึกว่าเขาอาจจะไม่ได้ออกไปจากแผนกจัดหาอย่างปลอดภัยได้อีก...

ตอนนี้ใบหน้าของซูโหย่วไฉ่เต็มไปด้วยเหงื่อ เขากำลังเช็ดเหงื่ออย่างต่อเนื่อง

หัวใจของเขากำลังเต็มไปด้วยความเศร้าโศก

นี่มันเรื่องอะไรกัน??!!

เกิดบ้าอะไรขึ้น? นักเรียนที่ทำการทดสอบคนนั้นสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?

ปรมาจารย์มากมายจากมหานครเวทมนตร์มารวมตัวกันที่นี่ ใครจะทนได้...

ซูโหย่วไฉ่พูดไม่ออก สุดท้ายแล้วเขาก็ทำผิดกฎก่อน เขารู้สึกผิด

“พวกเราไปขอร้องอธิการบดีดีมั้ย? ถ้าท่านอธิการบดีอยู่ที่นี่ ปรมาจารย์ข้างนอกคงจะสงบลงได้...”

“อธิการบดีเหรอ? นายกล้าไปขอร้องท่านจริงๆเหรอ? นี่คิดว่าท่านอธิการบดีจะให้เกียรตินายมากกว่าฉันงั้นเหรอ? ซูโหย่วไฉ่ ปกตินายเป็นคนฉลาด ทำไมตอนนี้นายถึงได้โง่แบบนี้?”

ในขณะที่เหยาโหย่วเฉียนกำลังจะด่า ชายชราที่มีหนวดเคราสีขาวก็ปรากฏตัวขึ้นราวกับอากาศธาตุ

ทั้งสองคนตกใจ เมื่อเห็นชายชราคนนั้น พวกเขาก็รีบลุกขึ้นยืนด้วยความเคารพ “สวัสดีครับ ท่านอธิการบดี”

คนที่เพิ่งมาถึงคืออธิการบดีของสถาบันเกาอู่แห่งมหานครเวทมนตร์

เป็นปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำ

ท่านโวลต์ ไบซู หนึ่งในเสาหลักทั้งสามที่คอยปกป้องมหานครเวทมนตร์

ไบซูโบกมือ เขาบอกให้ทั้งสองคนนั่งลง

“ฉันรู้ทุกอย่างแล้ว ฉันจะจัดการเอง” ไบซูตัดสินใจขั้นสุดท้าย

ดูเหมือนว่าบุคคลทั้งสองได้รับการนิรโทษกรรม เส้นใยที่ตึงเครียดก็คลายลง

โดยเฉพาะซูโหย่วไฉ่

เขาทรุดตัวลงบนโซฟาอย่างหมดแรง แต่ปากของเขากลับยังไม่หยุด เขาเปลี่ยนไปเลียแข้งเลียขาไบซูทันที “ท่านอธิการบดี ในที่สุดผมก็ได้เจอกับพระผู้เป็นเจ้าแล้ว! ท่านคือแสงสว่าง ท่านคือแบบอย่างให้กับผม!”

ไบซูไม่สนใจคำเยินยอเหล่านั้น เขาพูดอย่างใจเย็น

“ฉันต้องการข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับนักเรียนคนนี้”

“และอย่าลืมทำลายข้อมูลสำรองทั้งหมด อย่าบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด