ตอนที่แล้วบทที่ 6 ข้าวหน้าปลาไหลสองที่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 8 เฉินหยวน มีคนมาหา

บทที่ 7 สิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดสามอย่างในชีวิต


บทที่ 7 สิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดสามอย่างในชีวิต

ช่วงเวลาเจ็ดโมงครึ่งถึงแปดโมงเช้าเป็นเวลาอ่านหนังสือ ถึงแม้ห้อง 18 จะเป็นห้องบ๊วยของโรงเรียน แต่ก็ยังเป็นโรงเรียนมัธยมปลายอันดับหนึ่งประจำจังหวัด ในห้องก็ยังมีนักเรียนครึ่งห้องที่ท่องศัพท์ภาษาอังกฤษอยู่

ส่วนพวกที่เหลือถึงจะเยอะ แต่ก็ไม่ได้ไปรบกวนใคร

เรียกได้ว่ามาตรฐานของโรงเรียนมัธยมปลายหมายเลข 11 ก็ยังสูงกว่าโรงเรียนทั่วไปอยู่มาก

"หยวน ฉันมีเรื่องเด็ดจะเล่าให้ฟัง"

เพื่อนผู้ชายผมสั้นแหลมเหมือนเม่น ตัวเตี้ย ๆ  ที่นั่งอยู่ข้างหน้าหันกลับมา ใบหน้าระบายยิ้มเจ้าเล่ห์

ไม่รู้ว่ารอบตัวทุกคนมีคนแบบนี้บ้างไหม แค่เขาเอ่ยปาก หัวข้อสนทนาก็จะกลายเป็นเรื่องทะลึ่ง แม้คำพูดนั้นจะมีความหมายปกติ แต่พอออกมาจากปากคน ๆ  นี้ บรรยากาศก็จะดูหยาบโลน

โจวหยูก็เป็นคนแบบนี้แหละ

เห็นโจวหยูหันมา เพื่อนร่วมโต๊ะของเฉินหยวน เด็กผู้หญิงผมหางม้าหน้ากลม ๆ  มีกระเล็กน้อยก็ขยับเข้ามาใกล้ มือหนึ่งลอกโจทย์ผิด อีกมือก็แอบฟัง

โชคดีที่เพื่อนร่วมโต๊ะอย่างเหอซือเจียวรับเรื่องทะลึ่ง ๆ  ได้ แถมยังเป็นคนชอบเรื่องสนุก ๆ  อยู่แล้ว

"เด็ดยังไง?"

โจวหยูเอามือป้องปากกระซิบ "เช้านี้ตอนไปห้องพักครู เห็นนักเรียนหญิงคนนึงที่ไม่รู้จักกำลังรายงานตัวอยู่"

"มีคนย้ายมาเหรอ?  เส้นไม่ใหญ่พอคงเข้าห้อง 18 ไม่ได้หรอก"

"ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือเด็กผู้หญิงคนนั้น..." พูดถึงตรงนี้ โจวหยูก็เลิกคิ้ว "สุดยอดมาก"

"หน้าตาสุดยอดเหรอ?"

"ไม่ได้มองหน้า จำไม่ได้"

"ไม่ได้มองหน้าแล้วมองอะไรล่ะ?"

"แกนี่ แกล้งทำเป็นโง่" โจวหยูทำหน้ารังเกียจและดูถูก

ทันใดนั้น หลาวโม่ อาจารย์ประจำชั้นหน้าตาดุดัน หน้าเหลี่ยมเหมือนตัวละครในเกมไมน์คราฟต์ก็เดินเข้ามา

พร้อมกับเด็กผู้หญิงสะพายกระเป๋า ใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนมัธยมปลายอันดับ 11 ยืนอยู่ข้างหลัง

วินาทีที่เห็น นักเรียนชายในห้องแทบทุกคนก็หันไปมอง

"นักเรียนใหม่เหรอ?"

"อืม เห็นอยู่ที่ห้องพักครูตั้งแต่เช้าแล้ว"

"ถึงจำหน้าไม่ได้ แต่จำได้ว่าเป็นเธอ แปลกดี"

"เป็นไง?" โจวหยูทำหน้าแบบ 'รู้ ๆ  กันอยู่'

เฉินหยวนกลับรู้สึกแปลกใจ ทำไมพลังพิเศษของตัวเองถึงใช้ไม่ได้

อ้อ มีตัวนับถอยหลังอยู่บนหัวนี่เอง

สายตาเลื่อนขึ้นไป นักเรียนใหม่ที่ย้ายเข้ามามีใบหน้าที่จดจำได้ง่าย หน้ารูปไข่สวย แก้มมีเนื้อนิดหน่อย ผมสั้นประบ่า หน้าม้าปรก แต่ใส่แว่นหนา ๆ  ที่ดูขัดตา เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อ้วนเลยแต่ทำให้คนที่มองรู้สึกว่าเธออ้วนนิดหน่อยเสมอ...

อาจเป็นเพราะชุดนักเรียนตัวใหญ่ล่ะมั้ง  มันก็เลยปิดบังรูปร่างสุดยอดนั่นไว้ไม่อยู่

ชื่อภาษาอังกฤษของเธอน่าจะ Sona ใช่มั้ย

ตามทฤษฎีแล้ว ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิต มันก็ต้องมีตัวเลขอยู่บนหัว

ตัวเขาเองมองเห็นตัวนับถอยหลังอายุขัย แถมในห้องยังมีนักเรียนหญิงย้ายเข้ามาใหม่ งั้นตามทฤษฎีแล้วก็น่าจะเอาไปใช้กับเธอนะ

แต่ชีวิตจริงมันไม่ได้มีตรรกะอะไรขนาดนั้น ตัวเลขบนหัวของโซน่าคือ 【29183】 พูดได้แค่ว่า ถึงจะสวยเหมือนกัน แต่อายุขัยของเธอยาวกว่าเซี่ยซินหยู่ตั้งหมื่นเท่า

ความจริงแล้ว หลังจากสังเกตอายุขัยของเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ  เขาพบว่า นอกจากบางคนที่อายุ 50 กว่าก็ลาโลกไปแล้ว อายุขัยของคนอื่น ๆ  ก็ค่อนข้างยืนยาวทีเดียว ในนั้นโจวหยูนับว่าโดดเด่น เพราะอยู่ได้ถึง 85 ปี ถึงแก่กรรมตามอายุขัย

ส่วนสาวคนนี้ บวกกับอายุ 17 ปีตอนนี้ ก็ปาเข้าไป 97 ปีแล้ว

"ฉันชื่อโจวฟู่ ย้ายมาจากโรงเรียนที่ 23 หวังว่าจะเข้ากับทุกคนได้ดีนะคะ" เด็กสาวก้มหน้าแนะนำตัวเสียงเบา

"แซ่โจว เหมือนกันเลย!" โจวหยูตื่นเต้นดีใจ รีบแสดงสีหน้ายินดีออกมา

"งั้นเดี๋ยวแกก็ไปคุยกับเขาให้ดี ๆ  ล่ะ"

"ถ้านั่งใกล้ ๆ  พวกเรา ฉันต้องเข้าไปทักแน่ สาวคนนี้ถ้านะ...ฉันไม่กล้าคิดเลย"

"ไอ้ขี้ขลาด ฉันกล้าคิดโว้ย"

ถ้าไม่พูดถึงเรื่องอื่น อย่างน้อยอายุขนาดนี้คงมีขั้นเหลนโหลนเลยล่ะ

"เธอไปนั่ง..." หลาวโม่กวาดสายตามองไปรอบ ๆ  ห้องเรียน แล้วชี้นิ้วไปที่เฉินหยวน "พวกเธอสองคนชอบคุยกันตอนเรียน โจวฟู่ เธอนั่งที่ของถังเจียนนะ"

"ทำไมล่ะครับอาจารย์ ผมไม่ได้..."

"เร็ว ๆ  เปลี่ยนเดี๋ยวนี้เลย เธอไปนั่งที่ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามานั่น"

หลาวโม๋ไม่ใช่คนชอบล้อเล่นกับนักเรียน บอกให้เปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน ถังเจียนเลยต้องเก็บหนังสือในโต๊ะ แล้วขนย้ายไปที่นั่งแถวหลังสุดของห้องเรียน

"นึกว่าแกจะเป็นคนถูกย้ายไปซะอีก เวร" โจวหยูทำหน้าเสียดายที่พลาดโอกาส 'ใกล้เกลือกินด่าง'

"สมควร" เฉินหยวนพยักหน้า สีหน้าเรียบเฉย

"ทำไมอยู่ ๆ  มาสมน้ำหน้ากันงี้เล่า?”

"ไม่เคยเห็นหรือไง? ลูกชายไม่อยากอยู่กับพ่อก็ทำตัวกันแบบนี้แหละ"

"ไอ้... (เวร——) (เชี้ย——)"

ตอนที่โจวหยูกำลังด่ากราดอยู่นั้น ก็มีภูเขาสูงตระหง่านสองลูกเคลื่อนเข้ามาใกล้โดยไม่รู้ตัว เฉินหยวนที่รู้สึกถึงสายตาบางอย่างก็ชะงักไปครู่หนึ่ง พอหันไปมอง ก็เห็นโจวฟู่รีบหลบสายตาไป

เมื่อกี้... เธอมองฉันเหรอ?

มาแล้ว ๆ

ฉันโต้กลับได้ ฉันเหมือนอาจารย์ใหญ่ โจวหยูมันก็แค่คนธรรมดา

และแล้ว สิ่งที่เขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่สุดในสามสิ่งของชีวิตก็เกิดขึ้น – หล่อนกำลังมองเขาอยู่

"เอาล่ะ พวกเราเริ่มเรียนกันเถอะ"

หลาวโม๋รู้ดีว่าทำไมเด็กผู้ชายพวกนี้ถึงได้ส่งเสียงดังกันนัก เขาจึงจัดการดับไฟพวกนั้นด้วยวิชาคณิตศาสตร์สุดน่าเบื่อและกดดัน

แต่สำหรับเฉินหยวนแล้ว บทเรียนของหลาวโม๋กลับเป็นบทเรียนที่เขาชอบที่สุด

ถึงแม้ว่าหลาวโม๋จะเป็นคนค่อนข้างร้ายกาจ ดูเผิน ๆ  ก็ดูดุ แต่เขาก็สอนดี เพราะรู้ว่าเด็กเกเรพวกนี้ไม่ใช่เด็กเรียนหัวกะทิที่จะมุ่งมั่นทำโจทย์ยาก ๆ  ได้ ดังนั้นในห้องเรียน เขาจึงเน้นปูพื้นฐานให้แน่น แล้วค่อยไปสอนโจทย์เพิ่มเติมให้กับคนที่อยากพัฒนาตัวเองหลังเลิกเรียน ด้วยเหตุนี้ วิชาคณิตศาสตร์จึงเป็นหนึ่งในไม่กี่วิชาที่เฉินหยวนสามารถตามทัน

โดยทั่วไปแล้ว คะแนนคณิตศาสตร์ของเขาจะอยู่ที่ประมาณร้อยกว่า ๆ  ช่วงที่ทำได้ดีก็จะได้ร้อยสิบกว่า ๆ

วิชาภาษาจีนก็ไม่เลว คะแนนส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณร้อย โดยเฉพาะคะแนนเรียงความที่อยู่ที่ห้าสิบเสมอ

ด้วยคะแนนวิชาหลักระดับนี้ ตามหลักแล้วก็น่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยระดับต้น ๆ  ได้สบาย ๆ

แต่ทว่าคะแนนภาษาอังกฤษของเขากลับแย่มาก ได้แค่หกเจ็ดสิบคะแนนเท่านั้น ทั้ง ๆ  ที่ไม่ใช่วิชาที่จะฉุดคะแนนธรรมดา แต่กลับกลายเป็นว่าฉุดคะแนนเขาไปเยอะมาก

ถึงแม้ว่าสาเหตุหลักจะมาจากตัวเฉินหยวนเอง แต่สำเนียงท้องถิ่นอันแสนคุ้นเคยของครูสอนภาษาอังกฤษโรงเรียนมัธยมเหอเสียง และการออกเสียงอักษรที่ไม่ถูกต้องของหล่อน หล่อนก็คงต้องมีส่วนรับผิดชอบบ้างแหละน่า?

ส่วนอีกสามวิชา ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คะแนนก็ค่อนข้างสมดุลกัน ชีววิทยาค่อนข้างอ่อน ได้แค่คะแนนผ่านเกณฑ์ เคมีก็พอใช้ได้ คะแนนรวมสามวิชานี้อยู่ที่ประมาณสองร้อยถึงสองร้อยยี่สิบ

คะแนนรวมครั้งล่าสุดของเฉินหยวนคือห้าร้อยสี่ นักเรียนชั้นมัธยมปลายสายวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนสิบเอ็ดมีทั้งหมดประมาณหนึ่งพันคน สายศิลป์สี่ร้อยกว่าคน เขาอยู่ในอันดับที่เก้าร้อยของสายวิทย์

คะแนนต่ำสุดสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยระดับต้น ๆ  ของมณฑลไห่ตงครั้งที่แล้วอยู่ที่ห้าร้อยสามสิบสี่ ซึ่งหมายความว่าคะแนนของเขายังห่างจากเกณฑ์ถึงสามสิบคะแนนเต็ม ๆ

ถ้าหากสอบติดแค่มหาวิทยาลัยระดับกลาง ๆ  ธรรมดา การที่เขาจากบ้านเกิดมาไกลก็คงไม่มีความหมายอะไร

ถ้าถึงตอนนั้น คนในหมู่บ้านถามขึ้นมาว่า เรียนที่เซี่ยงไฮ้เป็นยังไงบ้าง?

หลังจากที่พยายามมาสามปี ฉันอยากจะเข้าวิทยาลัยศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์เซี่ยงไฮ้ตะวันออก

แน่นอนว่า ฉันไม่ได้หมายความจะดูถูกวิทยาลัยศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของมณฑลไหน ๆ  เพราะเอาเข้าจริง แค่คะแนนของฉันก็ยังห่างจากเกณฑ์เข้าวิทยาลัยศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ตั้งสามคะแนน

น่าเสียดายจริง ๆ  ที่พลังพิเศษของเขามันไร้ประโยชน์แบบนี้ ไม่งั้นเขาคงอยากใช้พลังโกง ๆ  นี่พลิกสถานการณ์ สอบเข้ามหาวิทยาลัยปักกิ่ง มหาวิทยาลัยชิงหวาให้ได้

เป้าหมายในตอนนี้ก็คือ ตั้งใจอ่านหนังสือ สอบให้ติดมหาวิทยาลัยระดับต้น ๆ  ให้ได้

ในขณะที่เฉินหยวนกำลังตั้งใจฟังอยู่นั้น เหอซือเจียวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ  ก็สะกิดแขนเขาด้วยปากกาลูกลื่น

"ว่าไง?" เฉินหยวนทำหน้างง

เหอซือเจียวทำท่าทางจุ๊ปาก แล้วค่อย ๆ  ดันกระจกพับเล็ก ๆ  ของเธอ ส่งสัญญาณให้เขาดู

เฉินหยวนหันไปมอง แล้วก็เห็นใบหน้าที่แดงก่ำ และดวงตาที่แอบมองมาทางนี้เป็นระยะ

เป็นไปไม่ได้หรอกน่า

โจวหยูที่เป็นผู้ชายมาชอบเขา มันยังมีความเป็นไปได้มากกว่าที่แม่สาวข้างโต๊ะคนนี้จะมามองเขาซะอีก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด