บทที่ 6 สิ่งล่อใจของระดับ S
บทที่ 6 สิ่งล่อใจของระดับ S
หวังดาชุนฟังคำพูดของเย่เหริน
อารมณ์ที่หดหู่ของเขากลับมาสดใสอีกครั้ง
เขาแทบไม่อยากจะเชื่อ หวังดาชุนพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย
“ครูเย่ ครู...ครูมีวิธีจริงๆ เหรอ?”
เย่เหรินมองหวังดาชุน “ดาชุน นายเชื่อใจฉันรึเปล่าล่ะ?”
ในเมื่อครูเย่สามารถปรับเปลี่ยนการฝึกฝนจากปรมาจารย์ทั้งหลายได้ บางทีเขาอาจจะจัดการกับพลังพิเศษได้ด้วย...
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หวังดาชุนก็ดูตื่นเต้นเล็กน้อย
เขาไม่ต้องการพลาดโอกาสอันมีค่าเช่นนี้
หวังดาชุนพยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง “ครูเย่ ผมเชื่อครู! ตอนนี้ผมจะทำทุกอย่างที่ครูบอก!!”
เย่เหรินมองไปที่สีหน้าตื่นเต้นของหวังดาชุนแล้วพูดว่า
“ดาชุน ฉันรู้ว่าก่อนหน้านี้มีหลายคนศึกษาพลังของนายไป พวกเขาเสนอต่างๆ นานา สรุปแล้ว พวกเขาทั้งหมดคิดว่าพลังของนายมีข้อบกพร่อง พวกเขาแนะนำให้นายเพิ่มการดูดซับพลังงานงั้นสินะ?”
“ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น” หวังดาชุนนึกย้อนไปถึงประสบการณ์ในอดีต
“นี่น่ะผิดพลาดครั้งใหญ่!” เย่เหรินขัดจังหวะความทรงจำของหวังดาชุนเอาไว้ “พวกเขาน่ะคิดผิดตั้งแต่แรก!”
เย่เหรินปฏิเสธความคิดของทุกคนในอดีตอย่างเด็ดขาด
เย่เหรินพูดต่อด้วยความมั่นใจ
“ดาชุน พลังพิเศษของนายไม่ได้มีข้อบกพร่อง!!”
เย่เหรินตบไหล่ของหวังดาชุน
“เหตุผลที่นายไม่สามารถแสดงพลังพิเศษของนายได้ เป็นเพราะหมูจอมเขมือบที่ตื่นขึ้นมา มันมีสายเลือดระดับสูงอยู่ มันถูกกดขี่โดยสายเลือดนั่น ทำให้นายใช้พลังพิเศษได้ยาก”
“พูดอีกอย่างก็คือ พลังพิเศษของนายไม่เพียงแต่ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร แต่กลับดีเกินไปต่างหาก!”
หวังดาชุนฟังคำพูดของเย่เหริน เขารู้สึกมึนงงไปหมด
“ครูเย่ ครูแน่ใจนะว่าไม่ได้ล้อเล่น?”
นี่มันเหมือนกับคนที่นอนติดเตียงในโรงพยาบาล แต่ทันใดนั้นก็มีหมอมาบอกว่า เขาไม่ได้ป่วย แถมร่างกายยังแข็งแรงดี จะแข่งขันกีฬาโอลิมปิกก็ยังได้
คนปกติที่ได้ยินคำพูดแบบนี้
สิ่งแรกที่น่าจะสงสัยก็คือ หมอคนนี้เป็นหมอจริงหรือเปล่า?
เห็นหวังดาชุนยังไม่อยากจะเชื่อ เย่เหรินจึงเดินเข้าไปตบไหล่หวังดาชุน
“ดาชุน เชื่อในการตัดสินของฉันเถอะ นายน่ะคือไข่มุกที่ถูกฝุ่นคลุม ผู้ที่มีพลังวิเศษเหนือใคร! นายคือหนึ่งในล้านคน ผู้ปลุกพลังระดับ S!!!”
“ระดับ S…” หวังดาชุนหายใจเร็วขึ้นเมื่อได้ฟังคำพูดที่กล้าหาญของเย่เหริน
ถึงแม้ว่าผู้ปลุกพลังระดับ A จะฝึกฝนได้เร็วและแข็งแกร่ง
แต่มันก็ยังอยู่ในขอบเขตของมนุษย์ และแทบจะเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะสูงสุดของมนุษย์
แต่ถ้าหากมีพรสวรรค์ระดับ S
ทุกคนจะสาปแช่งและเรียกพวกเขาว่าปีศาจ จากนั้นพวกเขาก็จะถูกหลีกเลี่ยงให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะกลัวว่าปีศาจเหล่านี้จะทำลายความภาคภูมิใจในการฝึกฝนของทุกคน
เพราะไม่ว่าจะเป็นในด้านความเร็วในการฝึกฝนหรือความแข็งแกร่ง ปีศาจเหล่านี้คือสิ่งมีชีวิตที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าใจได้
10 อันดับวีรบุรุษรุ่นใหม่ของราชอาณาจักรมังกรในปัจจุบัน
เก้าคนในนั้นเป็นผู้สืบทอดจากตระกูลใหญ่ เป็นผู้มีพลังวิเศษ ส่วนอีกหนึ่งคนคือผู้ปลุกพลังระดับ S
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ปลุกพลังระดับ S คนนี้ยังติดอันดับหนึ่งมาแล้วหลายเดือน
การสืบทอดมากว่าพันปีอาจจะพ่ายแพ้ให้กับพลังที่ตื่นขึ้นได้
นึกภาพออกเลยว่าพรสวรรค์ระดับ S นั้นน่ากลัวแค่ไหน
ดวงตาของหวังดาชุนเริ่มแดงก่ำ เขาหายใจแรงขึ้นเล็กน้อย
ถ้ามีคนบอกว่าโอกาสในการเป็นเทพเจ้าอยู่ตรงหน้า ใครบ้างจะไม่ตื่นเต้น
“ถ้าอย่างนั้น ครูเย่ ผมควรทำยังไงดีครับ?”
เย่เหรินโบกมือ
“เรื่องนั้นง่ายนิดเดียว ปลุกพลังครั้งที่สองยังไงล่ะ!”
คำพูดของเย่เหรินราวกับฟ้าผ่าลงกลางใจ ปลุกหวังดาชุนที่ยังคงอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ
เขามองไปที่เย่เหรินด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
การปลุกพลังครั้งที่สอง...ง่ายมากงั้นเหรอ?
ถึงแม้ว่าหวังดาชุนจะคิดอยู่นาน แต่เขาก็ยังไม่สามารถเชื่อมโยงคำสองคำนี้เข้าด้วยกันได้...
เพราะการตื่นครั้งที่สองนั้นยากมาก
คนที่ใกล้เคียงที่สุดคือการปลุกพลังครั้งที่สองที่นำโดยพันธมิตรพลังพิเศษ
นั่นคือ ราชาแห่งพันธมิตรพลังพิเศษในปัจจุบัน หนึ่งในผู้มีพลังพิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคปัจจุบัน
แอนดรูว์
ว่ากันว่า เพื่อช่วยให้แอนดรูว์ปลุกพลังเป็นครั้งที่สอง
พันธมิตรพลังพิเศษบุกโจมตีดินแดนของปีศาจ
พวกเขาสังหารแจ็คหัวใจ แจ็คโพดำ และราชินีเพชร ผู้คุ้มกันระดับเพชรทั้งสาม
แต่โชคดีที่พวกเขาทำสำเร็จ พวกเขาแลกทุกอย่างไปกับชายที่แข็งแกร่ง ผู้ที่สามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก
ในแง่หนึ่ง พันธมิตรพลังพิเศษประสบความสำเร็จ แต่มันก็เป็นชัยชนะที่น่าเศร้า
“ครูเย่ ถ้าไม่ได้ผล ผมก็จะฝึกฝนต่อไป ไม่ต้องห่วง ผมก็แค่ต้องทำงานให้หนักขึ้น หนักกว่าปกติสักสองสามเท่า ยังไงผมก็ยังก้าวไปต่อได้!”
“ดาชุน นี่นายไม่เชื่อใจฉันงั้นเหรอ?”
“เปล่าครับ ครูเย่ เพียงแต่ว่าการปลุกพลังครั้งที่สองนั้นยากเกินไป จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้อง...”
เผชิญหน้ากับการตื่นครั้งที่สอง
อย่างพันธมิตรพลังพิเศษต้องทุ่มเทกำลังทั้งหมดและเสี่ยงชีวิตเพื่อให้คนคนเดียวพบกับความสำเร็จอันน่าเศร้ามาแล้ว
แต่ตอนนี้พวกเขาก็เป็นได้แค่กุ้งระดับเงินตัวเล็กๆ สองตัว พวกเขากลับต้องการปลุกพลังเป็นครั้งที่สอง...
หวังดาชุนรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้
เย่เหรินไม่สนใจความกังวลของหวังดาชุน เขาโบกมือ
“ดาชุน ความเข้าใจของนายเกี่ยวกับการปลุกครั้งที่สองนั้นผิวเผินเกินไป”
ผิวเผิน?...
ในประวัติศาสตร์ การปลุกครั้งที่สองสามารถสำเร็จได้เพียงไม่กี่ครั้ง และทุกครั้งก็จบลงด้วยความเศร้า...
ทำไมถึงผิดล่ะ?
หวังดาชุนรู้สึกสับสนเล็กน้อย
ไม่กี่ชั่วโมงในการพูดคุยกับครูเย่ในวันนี้ มุมมองและความรู้ของเขาก็ถูกทำลายไปแล้วซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“วิธีการปลุกพลังครั้งที่สองแตกต่างกันไปในแต่ละคน และหลายวิธีก็เต็มไปด้วยอุปสรรค นายจะต้องเข้าไปในเกมด้วยตัวเอง ผ่านอุปสรรคต่างๆ นาๆ มา แต่ดาชุน นายไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น” เย่เหรินพูดอย่างฉะฉาน
“ผม...ผมไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเหรอ?” หวังดาชุนพึมพำกับตัวเอง
“ใช่ นายไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น”
เย่เหรินย้ำข้อสรุปของเขาอีกครั้ง เสียงของเขาฟังดูราวกับมีมนต์สะกด มันได้สร้างความรู้ของหวังดาชุนขึ้นมาใหม่
“แล้วครูเย่ ผมควรทำอย่างไรต่อไปครับ?”
ความรู้ของหวังดาชุนถูกชะล้างออกไปเรื่อยๆ เขาก็ค่อยๆ พัฒนาความไว้วางใจอย่างไม่มีเงื่อนไขให้กับเย่เหริน
เย่เหรินพึมพำ
“ถึงแม้ว่าการปลุกพลังครั้งที่สองของนายจะไม่ต้องการการเสียสละมากมายขนาดนั้น แต่จากนี้ไป นายต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของฉันสามข้อ
หากนายฝ่าฝืนข้อกำหนดแม้แต่ครั้งเดียว โอกาสในการปลุกพลังครั้งที่สองของเจ้าก็จะถูกทำลาย
ไม่เพียงเท่านั้น แต่นายก็จะไม่มีโอกาสตื่นครั้งที่สองอีกเลย นายเข้าใจรึเปล่า?”
น้ำเสียงของเย่เหรินจริงจัง
เมื่อเห็นเย่เหรินจริงจังขนาดนี้ หวังดาชุนก็ยืดตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“ครูเย่วางใจผมเถอะ สิ่งที่ผมจะทำทั้งหมดในอนาคตจะเป็นไปตามคำแนะนำของครูเย่ หากมีอะไรที่ไม่เหมาะสมจริง ผมจะปรับเปลี่ยนมันทันที”
เย่เหรินยื่นนิ้วไปทางหวังดาชุน
“ข้อแรก ครูต้องขอให้นายหยุดการดูดซับหินพลังงานทั้งหมดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายทำได้รึเปล่าล่ะ?”
หวังดาชุนฟังคำพูดของเย่เหริน เขาสับสนเล็กน้อย ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าทำไม แต่เขาก็พยักหน้าตอบกลับอย่างจริงจัง
“เข้าใจแล้วครับครูเย่ ผมทำได้”
เย่เหรินมองไปที่การตอบสนองของหวังดาชุน เขายื่นนิ้วที่สองออกมา
“ข้อที่สอง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ครูจะขอให้นายเจ้ากินเนื้อ 30 จินทุกวัน นายทำได้รึเปล่า?”
หวังดาชุนรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย ความหนาแน่นของพลังงานจากหินพลังงานนั้นสูงกว่าเนื้อหลายเท่า นี่มันไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตายเลยหรกอเหรอ?
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าครูเย่กำลังคิดอะไรอยู่ แต่หวังดาชุนก็ยังพยักหน้าอย่างจริงจัง
“ครูเย่ ไม่มีปัญหา ผมจะทำให้ได้”
เนื้อ 30 จิน อาจจะมากสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับผู้มีพลังพิเศษ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก
เมื่อเห็นสีหน้าผ่อนคลายของหวังดาชุน เย่เหรินก็ยื่นนิ้วที่สามออกมา
“ต่อไป นี่คือข้อกำหนดสุดท้าย หากนายทำได้ การปลุกพลังครั้งที่สองจะไม่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน”
คำพูดของเย่เหรินปลุกจิตวิญญาณนักสู้ของหวังดาชุน
“ไม่มีปัญหา ครูเย่ บอกผมมาเลย ผมทำได้แน่นอน”
สองข้อแรกถือเป็นเรื่องง่าย แล้วข้อสุดท้ายของครูเย่จะยากแค่ไหนกัน?
เย่เหรินมองหวังดาชุนอย่างจริงจัง เขาพูดช้าๆ
“ครูขอให้เนื้อ 30 จินของนาย ต้องเป็นเนื้อดิบที่มีเลือด และเนื้อพวกนั้นต้องมาจากสัตว์อสูร นายทำได้รึเปล่าล่ะ?”
ทันทีที่เย่เหรินพูดจบ ความมั่นใจบนใบหน้าของหวังดาชุนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ดวงตาที่เบิกกว้างเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามมากมาย
30 จินต่อวัน??
เนื้อดิบ...ที่มีเลือด?
และมันต้องมาจากสัตว์อสูร??
ครูเย่ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นวิธีเลี้ยงสัตว์ก็เถอะ แต่ก็คงไม่มีอะไรทนได้แน่...