ตอนที่แล้วบทที่ 5 นายเป็นคนดีนะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 7 สิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดสามอย่างในชีวิต

บทที่ 6 ข้าวหน้าปลาไหลสองที่


บทที่ 6 ข้าวหน้าปลาไหลสองที่

"อ๊ะ?  โทรผิดหรือเปล่าคะ?"

เฉินหยวนเผลอเรียกอีกฝ่ายว่า "คุณย้า" ทำเอาปลายสายถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ เกือบจะวางสายลงเสียแล้ว

"เปล่าครับ สวัสดีครับ ผมเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเซี่ยซินหยู่ครับ"

"เป็นเพื่อนร่วมชั้น แล้วทำไมถึงเรียกน้าล่ะ?"

เสียงจากปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงวัยกลางคน ฟังดูก็รู้ว่าเป็นอาจารย์อาวุโสที่เคร่งขรึม แม้จะเป็นคำถามธรรมดา แต่เฉินหยวนกลับสัมผัสได้ถึงความน่าเกรงขามราวกับว่า "ถ้าตอบไม่ได้ก็เตรียมตัวตายได้เลย"

แต่ไม่นานนัก อีกฝ่ายก็เปลี่ยนเรื่อง "เพื่อนร่วมชั้นเหรอ?  ทำไมถึงเป็นเธอโทรมาหาฉัน?  ซินหยู่เป็นอะไรรึเปล่า?  เธอสบายดีไหม?"

น้ำเสียงของผู้หญิงคนนั้นเต็มไปด้วยความกังวลและร้อนใจ

แสดงว่าเรื่องที่เซี่ยซินหยู่เพิ่งประสบนั้นหนักหนาสาหัสถึงขั้นทำให้เธอคิดฆ่าตัวตายได้เลยทีเดียว

"เธอสบายดีครับ แค่ไม่ได้ไปโรงเรียนหลายวัน ผมพักอยู่ใกล้ ๆ  เธอ เลยลอง...ลองถามครูที่โรงเรียนหาเบอร์โทรศัพท์ของคุณน้า อยากจะถามถึงเรื่องของเธอหน่อยน่ะครับ"

ในเมื่อพ่อแม่ของเธออยู่ต่างเมือง แล้วเธอเรียนอยู่ที่เซี่ยไห่ งั้นเวลาเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทางโรงเรียนก็น่าจะติดต่อไปหาน้าของเธอ การโกหกแบบนี้ก็น่าจะไม่มีพิรุธอะไร

"ฝูซิ่วเหมยให้เบอร์โทรศัพท์เธอมาเหรอ?  แล้วเธอมีเรื่องอะไรทำไมไม่ถามฉันโดยตรงล่ะ?"

แย่ล่ะ ลืมไปว่าเธอเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนนั่น!

"อาจารย์ฝูบอกว่า..."

"เรื่องแบบนี้มันค่อนข้างอ่อนไหว เธอก็คงกลัวว่าจะถามมากเกินไป"

ปลายสายหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองเสร็จสรรพ ไม่ได้สงสัยว่าเขาโกหกเลย

"อืม...วันนี้ผมเจอเซี่ยซินหยู่ เธอดูแย่มาก เหมือนคนไร้วิญญาณเลยครับ"

"เจอเธอเหรอ?  งั้นช่วยบอกเธอให้มาหาน้าที่บ้านหน่อยได้ไหม?  น้าเป็นห่วงเธอนะ เด็กคนนี้เป็นคนเก็บตัวมาตั้งแต่เด็ก"

"ขอถามหน่อยได้ไหมครับ...?" เฉินหยวนเหมือนจะเดาอะไรบางอย่างออก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถาม "ที่บ้านเกิดของเธอที่จิงหนาน เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ?"

ครู่หนึ่ง ปลายสายจึงตอบกลับมา "อาทิตย์ที่แล้ว พ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุจากดินถล่มตอนลงจากเขา"

"..."

เฉินหยวนรู้สึกจุกในอก หลับตาลง

เขา...ไม่กล้าฟังต่อแล้ว

"ซินหยู่เป็นลูกคนเดียว ทางบ้านเกิดต้องจัดงานศพ เธอต้องกลับไป แต่พอเด็กคนนี้รู้ข่าวก็วางสายไปเลย ฉันไปหาเธอเมื่อหลายวันก่อน คิดจะพาเธอกลับมาอยู่ด้วย แล้วค่อยพาเธอกลับไปจิงหนาน แต่เธอก็ไม่ยอม ไม่ไปไหนเลย น้าก็เลยจนปัญญา ทำได้แค่ลาหยุดให้เธอที่โรงเรียน ถ้าเจอเธออีกครั้ง ช่วยบอกเธอด้วยนะว่าน้าเป็นห่วงเธอมาก" น้ำเสียงปลายสายร้อนรนจนเสียงสั่น ไม่เหมือนอาจารย์อาวุโสที่สุขุมเยือกเย็นเลย

"ครับคุณน้า ผมจะบอกเธอให้เองครับ"

วางสายไปแล้ว สีหน้าของเฉินหยวนก็เคร่งขรึมลง

เรื่องราวน่าสิ้นหวังกว่าที่คิดไว้เสียอีก

เป็นอุบัติเหตุดินถล่ม พ่อแม่เสียชีวิตทั้งคู่

คงจะนึกภาพออกว่าเซี่ยซินหยู่ที่ได้ยินข่าวนี้จะรู้สึกสิ้นหวังขนาดไหน คงอยากจะให้มันเป็นแค่ฝันร้าย แต่หมอนที่เปียกชื้นทุกคืน กับห้องที่มืดมิดว่างเปล่าเมื่อตื่นขึ้นมา คงจะย้ำเตือนเธอว่านี่คือความจริง

ความเจ็บปวดถาโถมเข้าใส่ราวกับคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำ เธอไม่อาจเข้มแข็งพอที่จะกลับบ้านเกิด จัดการงานศพของพ่อแม่ รินเหล้าคารวะญาติผู้ใหญ่ แสดงความมุ่งมั่นที่จะใช้ชีวิตต่อไปเพียงลำพังได้

มีทางเดียวที่จะดับทุกข์ได้ นั่นคือ การปลิดชีพตัวเอง

หากเป็นฉัน ฉันก็คงเลือกตายเช่นกัน

...

ลืมตาขึ้นมา เซี่ยซินหยู่ก็พบว่ามีหยดน้ำตาเกาะพราวอยู่บนขนตาของตัวเอง

ทันใดนั้น ริมฝีปากก็เม้มเข้าหากัน ความรู้สึกเจ็บปวดแล่นขึ้นจมูกจนต้องซุกหน้าลงกับผ้านวมสะอื้นไห้ขึ้นมาอีกครั้ง

เมื่อคืน ฝันเห็นพ่อกับแม่อยู่ในโรงพยาบาล คุณหมอบอกว่าทั้งสองคนต้องนอนโรงพยาบาลอีกนาน ตอนได้ยินในตอนนั้น รู้สึกดีใจมาก

เพราะอย่างน้อยท่านทั้งสองก็ยังไม่ตาย ยังมีโอกาสอยู่

แต่เพราะความคิดนี้ในความฝัน ทำให้หวนนึกขึ้นมาได้ว่า พ่อกับแม่เสียชีวิตเพราะดินถล่ม ไม่มีโอกาสได้เข้ารับการรักษาใด ๆ  เลย

ความฝัน...เป็นเรื่องโกหก

แม้แต่ในฝัน ยังแยกแยะความจริงกับความเท็จได้

ดังนั้น จึงค้นพบกฎบางอย่างในความฝัน

จุดจบของความฝัน คือการตื่นขึ้น

กลัวการตื่นขึ้นเหลือเกิน แต่สติที่ค่อย ๆ  กลับคืนมา แสงที่ลอดผ่านผ้าม่าน ยังคงทำให้ตื่นขึ้น

ลืมตาขึ้น...เพื่อมองดูความจริงอันโหดร้าย

หลังจากร้องไห้จนตาแดงก่ำ เซี่ยซินหยู่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เห็นว่าคุณอาโทรมาหลายสาย แอป QQ ก็มีข้อความที่ยังไม่ได้อ่านจากเพื่อนร่วมชั้นมากมาย

ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนผู้หญิงที่สนิท มีผู้ชายแค่คนเดียว

【เหวินป๋อเหิง: ไม่มาเรียนเหรอ?  ไม่สบายหรือเปล่า?  】

【เหวินป๋อเหิง: จดเลคเชอร์ไว้ให้แล้ว อยู่ที่ไหน จะเอาไปให้】

เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งในห้อง เรียนอยู่ข้างหลัง ถึงแม้เซี่ยซินหยู่จะไม่เคยมีความรัก แต่ก็รู้ว่าเขาชอบเธอ

จริง ๆ  แล้ว เรื่องแบบนี้ผู้หญิงดูออกกันทั้งนั้น

ถึงจะไม่ได้สนิทกัน แต่เขากลับทักมาใน QQ บ่อย ๆ  ความแปลกประหลาดแบบนี้ คงเป็นความชอบของผู้ชายล่ะมั้ง

แต่เฉินหยวนชอบเธอ เซี่ยซินหยู่กลับมองไม่ออกเลย จนกระทั่งวินาทีก่อนที่เขาจะสารภาพ เธอก็ไม่เคยรู้สึกถึงมันเลยสักนิด

ก็อย่างว่า ครั้งก่อน ๆ  ที่เจอกัน นอกจากสบตาตามปกติแล้ว เขาก็ไม่เคยมองเธอเกินกว่านั้นเลย

ถ้าชอบจริง คงไม่เป็นแบบนี้หรอกมั้ง?

ลองคิดดูแล้ว คำพูดนั้นของเขา คงเป็นแค่แผนชั่วคราว เขาคงรู้ว่าเธอพยายามฆ่าตัวตาย เลยอยากถ่วงเวลา รอให้เธอผ่านช่วงเวลานี้ไปก่อน ค่อยอธิบายเหตุผลให้ฟัง

เมื่อวานเธอปฏิเสธเขาอย่างจริงจังแบบนั้น ก็เป็นเพียงการคิดเข้าข้างตัวเอง...ช่างน่าสมเพชสิ้นดี

คิดได้ดังนั้น เซี่ยซินหยู่ก็รู้สึกอับอายจนต้องตบหน้าตัวเองแรง ๆ "ต่อไปนี้ ห้ามดื่มเหล้าอีกเด็ดขาด"

ไม่สิ จะไม่มีครั้งต่อไปแล้ว

หลังจากทำอาหารมื้อนั้นให้เฉินหยวนเสร็จ... ก็ขอตายอีกครั้งแล้วกัน

นอกจากอาการคลื่นไส้ เวียนหัวตอนตื่นขึ้นมาแล้ว วิธีนี้ก็ไม่ได้ทำให้เจ็บปวดอะไรมากมาย

หลังจากลุกจากเตียง เซี่ยซินหยู่ก็เห็นอ่างเหล็กใบนั้น

ถ่านข้างในถูกดับด้วยน้ำแล้ว

เมื่อวานน่าจะเป็นแบบนี้ เฉินหยวนได้กลิ่นเหม็น เลยมาเคาะประตู เธอไม่ตอบ เขาเลยพังประตูเข้ามา เปิดหน้าต่างให้ ตอนเข้ามาเขาจะยกอ่างเหล็กออกไป มือก็เลยโดนลวกตอนนั้น สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือก เลยอุ้มเธอลงจากเตียง

ตอนนี้คิดดูแล้ว เมื่อวานเขาคงตกใจมาก

รู้สึกผิดต่อเขาจริง ๆ

"ถ้าคนตายแล้วมีวิญญาณ ก่อนที่ยมทูตจะมารับในเจ็ดวันแรก ฉันจะช่วยดูแลบ้านให้เขาก็แล้วกัน"

เซี่ยซินหยู่คิดถึงสิ่งเดียวที่เธอพอจะทำได้เพื่อตอบแทนเฉินหยวน

ว่าแต่ตอนนี้เฉินหยวนน่าจะไปโรงเรียนแล้ว

ตอนนี้เจ็ดโมงครึ่งแล้ว เป็นเวลาที่เธอไปโรงเรียนตามปกติ

ถึงเฉินหยวนจะเป็นคนดีแค่ไหน ก็คงไม่ลาเพื่อเฝ้าไม่ให้เธอฆ่าตัวตายหรอกมั้ง... ฉันกำลังคิดอะไรอยู่นะ

ถึงแม้จะคิดแบบนั้นในใจ แต่เธอก็ยังเดินไปที่ประตู ผลักประตูที่ทรุดโทรมออกไป

แล้วเธอก็เห็นกล่องข้าววางอยู่บนพื้น

นี่มัน! นี่มันข้าวหน้าเนื้อวัวกับปลาไหลไม่ใช่เหรอ? !

เซี่ยซินหยู่จำได้ทันทีว่านี่คือสินค้าขายดีที่วางขายอยู่หน้าเคาน์เตอร์ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ ๆ

แน่นอน เธอไม่รู้ว่ามันอร่อยหรือเปล่า เพราะราคา 78 หยวนทำให้เธอที่เป็นเพียงนักเรียนได้แต่มองตาปริบ ๆ

แต่ในเมื่อมีคนซื้อเยอะขนาดนี้ มันต้องอร่อยแน่ ๆ

"นี่... นี่มันมาอยู่หน้าบ้านฉันได้ยังไง?"

เซี่ยซินหยู่ย่อตัวลง มองข้าวกล่องตรงหน้าตาเป็นประกาย ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจหยิบมันขึ้นมา

แล้วก็เห็นกระดาษโน้ตแผ่นเล็ก ๆ  แปะอยู่ข้างใต้

หยิบกระดาษโน้ตขึ้นมา ข้างใต้ยังมีกุญแจอีกดอกหนึ่ง

'เมื่อวานมันขายไม่หมด เลยเอามาลดราคาครึ่งหนึ่งตอนเช้า ฉันเอากุญแจวางไว้หน้าบ้านแล้ว กินครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งเก็บใส่ตู้เย็นไว้ แล้วก็ ก่อนเปลี่ยนกุญแจ กลางวันไปอยู่บ้านฉันได้นะ —— เฉิน.ห'

เขียนมาตั้งเยอะตั้งแยะ พอถึงชื่อตัวเองทำไมถึงย่อเหลือแค่ ห...

มองข้าวหน้าเนื้อสองแบบในกล่อง สีสันสดใส เนื้อบางกรอบ เนื้อวัวก็เยอะมาก พูดตรง ๆ  เลยนะ เซี่ยซินหยู่น้ำลายแทบไหล

ไม่ได้สิ นี่เขาจะกินเองนะ เราจะกินไปครึ่งหนึ่งได้ยังไง...

แต่... เขาก็บอกให้เก็บไว้ให้ครึ่งหนึ่งนี่นา

งั้นมันก็กลายเป็นข้าวเหลือสิ...

เก็บไว้กินพร้อมกันตอนเย็นดีกว่า

แต่ว่า...

อยากกินจังเลย...

มันก็คงอยากให้เรากินเหมือนกันแหละ...

หลังจากลังเลอยู่นาน เซี่ยซินหยู่ก็อุ้มข้าวหน้าเนื้อสัตว์สองแบบเข้าบ้าน แล้วเปิดตู้เย็นเล็ก ๆ  ของเจ้าของบ้านดู "ไส้กรอก ไข่ แตงกวา บ๊วยแผ่นแปดหยวน...เอาข้าวกล่องไปส่งที่โรงเรียนก่อนเข้าเรียนคาบบ่ายดีกว่า"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด