บทที่ 54 การทวีความรุนแรงขึ้น

“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าพวกเขาจะสามารถได้รับความสนใจตลอดไป” ฟางหางหยวนกระแทกบุหรี่ลงกับที่เขี่ยด้วยความหงุดหงิด เขาไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดว่าสองโลกการประมูลจะสามารถนำเสนอสินค้าที่ดีเทียบเท่าน้ำยาหวนคืนได้ และเขายังไม่เชื่ออีกด้วยว่าสองโลกการประมูลจะสามารถรักษาความสนใจจากผู้คนไว้ได้ เพราะในเว็บไซต์ได้ประกาศไว้นานแล้วว่าการประมูลครั้งที่สองจะเกิดขึ้นหกเดือนหลังจากการประมูลครั้งแรก ซึ่งขณะนี้ยังเหลือเวลาอีกห้าเดือนกว่า ความสนใจของผู้คนจะไม่ยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งตลอดเวลา แม้จะมีผลกระทบและพลังของน้ำยาหวนคืนก็ตาม แต่ระยะเวลาที่นานเกินไปจะทำให้ความสนใจจางหายไป

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ขณะนี้ข่าวที่แพร่กระจายในสังคมชั้นสูงยังเป็นเพียงการคาดเดาของพวกเขาเอง สองโลกการประมูลยังไม่เคยยืนยันหรือประกาศอะไรชัดเจน คาดว่าหากกระแสความสนใจนี้ลดลง ทุกอย่างก็จะกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

ฟางหางหยวนมั่นใจในเรื่องนี้

จะต้องยอมรับว่าเขามีความสามารถในการมองสถานการณ์อย่างแม่นยำ แต่ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสองโลกการประมูล เขากลับพลาดไป

สถานการณ์ไม่ได้เป็นไปตามที่ฟางหางหยวนคาดหวัง แต่กลับทวีความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ

ในช่วงแรก กระแสความสนใจลดลงจริงตามที่เขาคาดการณ์ไว้ ความสนใจจากกลุ่มคนร่ำรวยเริ่มเปลี่ยนไปหาสิ่งอื่น มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคงสนใจสองโลกการประมูล เช่น โจวหย่า ผู้ซึ่งสนใจการประมูลเป็นพิเศษ

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อมีการนำเสนอรายการสัมภาษณ์สดทางโทรทัศน์ของสถานีโทรทัศน์หมิงจู

เซี่ยหย่าซวี่ ซึ่งเพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยไปไม่นาน เป็นผู้บริหารหญิงที่สวยสง่า ประสบความสำเร็จ และยังเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในสิบผู้บริหารยอดเยี่ยมของหมิงจู ทั้งยังเป็นที่รู้จักในวงการการประมูล หลังจากที่การประมูลครั้งแรกประสบความสำเร็จ รายการนี้จึงเชิญเธอมาเป็นแขกรับเชิญพิเศษ

ในบ้านพักส่วนตัว

ฟางเสิ่นนั่งเอนตัวบนโซฟานุ่มๆ ดูรายการโทรทัศน์ ส่วนอีกด้านของโซฟา หลี่เหยียนนอนเล่นอย่างสบายๆ ไม่สนใจที่จะรักษาท่าทางสุภาพเรียบร้อยเหมือนเดิม

“พี่ฟาง ดื่มชาค่ะ” หลี่โย่วรั่วถือถ้วยชาชั้นดีมาให้ วางลงบนโต๊ะไม้โอ๊กหน้าโซฟาด้วยสีหน้าเขินอาย เธอไม่กล้ามองตาฟางเสิ่น จากนั้นจึงนั่งลงข้างๆ น้องสาวของเธอพร้อมหยอกล้อกันอย่างน่ารัก

ฟางเสิ่นดื่มชาคำหนึ่ง พลางมองดูการหยอกล้อของสองพี่น้อง เขารู้สึกอบอุ่นในหัวใจ ช่วงเวลานี้ทำให้เขารู้สึกถึงความสุขที่เหมือนอยู่บ้าน

เมื่อถึงเวลา ฟางเสิ่นเปลี่ยนช่องไปที่สถานีโทรทัศน์หมิงจู ซึ่งกำลังออกอากาศรายการสัมภาษณ์สด

ในจอทีวี เซี่ยหย่าซวี่นั่งอยู่กับพิธีกร รายการได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

“อ๊ะ! นั่นพี่เซี่ยหย่าซวี่นี่นา!” หลี่เหยียนตื่นเต้นขึ้นมาทันที เธอรู้จักและชื่นชมเซี่ยหย่าซวี่อย่างมาก เพราะทั้งสองคนเคยเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เธอชมเชยพี่สาวที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก

ในช่วงแรกของรายการ การสัมภาษณ์เป็นไปอย่างราบรื่น พูดถึงชีวิตการทำงานของเซี่ยหย่าซวี่และความสำเร็จจากการจัดการประมูลครั้งแรกของสองโลกการประมูล

“พี่เซี่ยหย่าซวี่สุดยอดจริงๆ เธอเป็นตำนานของมหาวิทยาลัยเรา” หลี่เหยียนพูดด้วยความชื่นชม

ขณะที่การสัมภาษณ์ดำเนินไป พิธีกรก็พูดถึงการเปลี่ยนแปลงในหน้าเว็บไซต์ของสองโลกการประมูล โดยเฉพาะภาพที่มีเครื่องหมายคำถามใหญ่สองภาพที่ถูกนำมาเป็นประเด็นพูดถึง

“ช่วงนี้ทุกคนพูดถึงภาพสองภาพนี้กันเยอะมาก คาดว่าเป็นสินค้าสำหรับการประมูลครั้งหน้าของสองโลกการประมูลใช่ไหม?” พิธีกรพูดติดตลก

“ใช่ค่ะ พวกเขาคาดการณ์ได้ถูกต้อง” เซี่ยหย่าซวี่ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา

คำตอบนี้สร้างความประหลาดใจให้กับพิธีกรอย่างมาก เพราะไม่คาดคิดว่าเธอจะยอมรับข้อมูลนี้ออกมาอย่างง่ายดาย

“เอ๊ะ!” พิธีกรชะงักไปเล็กน้อย เธอแทบไม่เชื่อว่าจะได้รับคำตอบแบบนี้

เซี่ยหย่าซวี่มองไปยังกล้องแล้วพูดต่อ “การประมูลครั้งที่สองจะจัดขึ้นหกเดือนหลังจากการประมูลครั้งแรก และเราจะมีสินค้าหลักสองอย่างในการประมูล ในฐานะตัวแทนของสองโลกการประมูล ฉันขอสัญญาว่าสินค้าทั้งสองนี้จะไม่ด้อยไปกว่าน้ำยาหวนคืน”

พิธีกรตื่นตะลึงจนทำไมค์ตกไปบนพื้น และฟางเสิ่นที่ดูรายการอยู่ก็ยิ้มเล็กน้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น

สิ่งที่สองโลกการประมูลพยายามปกปิดไว้ ถูกเปิดเผยออกมาโดยไม่คาดคิด และฉากนี้ก็จะกลายเป็นที่จดจำของผู้คน

จากนั้นพิธีกรรีบถามคำถามต่อ แต่คราวนี้เซี่ยหย่าซวี่ไม่ยอมตอบอะไรเพิ่มเติม นอกจากจะประกาศว่าภาพแรกจะถูกเปิดเผยในเดือนที่สาม และก็ไม่ตอบคำถามอื่นใดอีก

หลังจากนั้น ฟางเสิ่นก็เดินไปที่หน้าต่างและมองออกไปนอกบ้าน

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นสายจากหลี่เทียนเฉิงที่โทรเข้ามา

คำพูดของเซี่ยหย่าซวี่ในรายการเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดได้ แม้แต่หลี่เทียนเฉิงก็ไม่รู้ล่วงหน้า แต่หลังจากเหตุการณ์นี้ถูกพูดถึงในวงกว้าง เรื่องนี้ก็ส่งข่าวถึงเขาอย่างรวดเร็ว

“สองโลกการประมูล สร้างเซอร์ไพรส์ใหญ่จริงๆ” หลี่เทียนเฉิงกล่าวอย่างชื่นชม จากนั้นก็ถามอย่างจริงจัง “เธอจะมีสินค้าที่ดีเทียบเท่าน้ำยาหวนคืนได้จริงๆ หรือ?”

“ท่านประธานหลี่จะไม่รอดูอีกสักสามเดือนหรือครับ?” ฟางเสิ่นตอบกลับพร้อมหัวเราะเบาๆ “สองโลกการประมูลคงไม่เล่นกับอนาคตของตัวเองอย่างแน่นอน แต่ขอโทษด้วยครับ ผมยังไม่สามารถบอกข้อมูลได้มากกว่านี้”

คำพูดของเซี่ยหย่าซวี่ในรายการเป็นการประกาศอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชน นั่นหมายถึงความจริงที่สองโลกการประมูลต้องการสื่อออกไป หากสองโลกการประมูลไม่สามารถทำตามคำสัญญานี้ได้ มันจะเป็นหายนะสำหรับพวกเขา

หลี่เทียนเฉิงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจและพูดต่อว่า “ฉันได้ยินมาว่าโยวรั่วเรียกนายว่าพี่ฟาง งั้นนายก็ควรจะเรียกฉันว่าลุงหลี่แทนได้แล้วล่ะ อย่าเรียกว่าท่านประธานอีกเลย มันฟังดูห่างเหินเกินไป”

“ได้ครับ ลุงหลี่” ฟางเสิ่นตอบกลับโดยไม่ลังเล การที่หลี่เทียนเฉิงยอมให้เขาเรียกแบบนี้ถือเป็นการยอมรับในตัวเขา ซึ่งฟางเสิ่นก็ยินดีที่ได้รับการยอมรับนี้

หลังจากที่หลี่เทียนเฉิงวางสายลง เหตุการณ์ต่างๆ ก็เป็นไปตามที่ฟางเสิ่นคาดการณ์ไว้ การประกาศของเซี่ยหย่าซวี่ทำให้เกิดความตื่นตัวในวงสังคมชั้นสูง ความอยากรู้และความคาดหวังต่อสองโลกการประมูลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แต่ในเวลานั้น ฟางเสิ่นกลับไม่มีเวลามาใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้ เพราะเขารู้สึกได้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่รอคอยมานานกำลังจะมาถึง

จบบท