บทที่ 5 นายเป็นคนดีนะ
บทที่ 5 นายเป็นคนดีนะ
เซี่ยซินหยู่ได้ยินคำสารภาพรักที่ไม่ทันตั้งตัว เหมือนโดนปลุกให้ตื่นจากภวังค์ ตาเบิกกว้าง รีบโบกมือปฏิเสธ "แบบนั้นไม่เอานะ ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ฉันยังไม่มีแผนจะคบกับใคร ขอโทษด้วย!"
แล้วก่อนเข้ามหาวิทยาลัย เธอมีแผนจะฆ่าตัวตายงั้นเหรอ?
"..." เฉินหยวนแค่อยากใช้คำพูดพวกนี้ถ่วงเวลาไม่ให้เธอคิดสั้น ถ้าเธอตอบตกลงจริง ๆ รอให้เธออารมณ์ดีขึ้น ไม่คิดฆ่าตัวตายแล้ว ค่อยอธิบายทีหลังก็ได้
แต่ยัยบ้านี่กลับปฏิเสธอย่างจริงจังซะงั้น
ตลกตายล่ะ เธอแอ๊บเก่งจริง ๆ ที่จริงฉันก็ไม่ได้อยากคบกับเธอเท่าไหร่หรอก
"งั้นก็ได้"
ถึงจะโดนปฏิเสธ แถมปฏิเสธแบบไม่ใยดี ทำให้เสียหน้าอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่ได้เป็นพวกชอบตามตื๊อผู้หญิงอยู่แล้ว เฉินหยวนได้แต่รู้สึกปลง ๆ
มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาทำทุกอย่างที่อยากทำ และทำได้หมดแล้ว
ถึงเวลาเลิกเป็นพระเอกช่วยเหลือคนแล้ว
ถึงตอนที่อุ้มเธอลงจากเตียง เห็นเธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา เฉินหยวนจะรู้สึกเหมือนได้รับการเยียวยา แต่เขาก็ช่วยได้แค่นี้
"ถึงเมื่อก่อนจะไม่ค่อยได้คุยกัน...แต่ฉันรู้สึกว่านายเป็นคนดีนะ ไม่เคยเห็นนายทำเรื่องไม่ดีเลย" เซี่ยซินหยู่มองหน้าเขา พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "เฉินหยวน นายตัวสูง หน้าตาก็ดี ถึงปกติจะไม่ค่อยแสดงสีหน้า เหมือนไม่ชอบใคร แต่ก็ไม่เคยแย่งสเก็ตบอร์ดเด็ก ไม่แกล้งเด็กดื้อว่าแม่ไม่เอา..."
"เธอกินเหล้าเมาแล้วล่ะสิ?"
นี่ชมแค่สองประโยคสั้น ๆ เองเหรอ?
อีกอย่าง ไม่ทำเรื่องไม่ดี ก็ถือว่าเป็นคนดีแล้วเหรอ?
ถ้าชมไม่เป็น แนะนำให้ชมตั้งแต่หน้าตาดี ๆ นั่นไปเลย
"คบกับฉันคงซวยน่าดู อย่าเลยดีกว่า นายต้องหาผู้หญิงที่ดีกว่านี้ได้แน่" เซี่ยซินหยู่อวยพรจากใจจริง พร้อมกับฝืนยิ้มออกมา
"อืม"
เฉินหยวนพยักหน้ารับ ตัดบทสนทนา แล้วลุกขึ้นเก็บชาม
"ให้ฉันเก็บเองเถอะ กินข้าวบ้านคนอื่นฟรี ๆ ไม่ได้หรอก"
เซี่ยซินหยู่รีบช่วยเหลือ จัดการเก็บจานทั้งหมดมาซ้อนกัน อุ้มไปที่อ่างล้างจาน แล้วเปิดน้ำ "เอ๊ะ ทำไมน้ำไม่ออกล่ะ?"
"เปิดก๊อกขวา"
เฉินหยวนมองเซี่ยซินหยู่ควานหาไปในอากาศ พลาดแล้วพลาดอีก แล้วหันมาขอความช่วยเหลือด้วยสีหน้ามึนงง เขาจึงชี้นิ้วไปทางขวา
"ว้าว บ้านนายมีก๊อกน้ำสองอันเลยเหรอ"
เซี่ยซินหยู่เดินเตาะแตะไปทางขวา บิดก๊อกน้ำอันขวาที่เหมือนกันเป๊ะ พอเห็นน้ำไหลออกมาก็ทำหน้าตกใจ
"ใช่ แปลกตรงไหนล่ะ?"
เฉินหยวนคาดหวังว่าเธอจะเมาแล้วหลุดปาก พูดเรื่องที่ทำให้เสียใจออกมา แต่เขากลับได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเธอตอนเมาแทน
ถึงตาจะมองเห็นภาพซ้อน เซี่ยซินหยู่ก็ยังล้างจาน ชาม ตะเกียบทั้งหมดในบ้านเฉินหยวนจนสะอาด แล้ววางไว้ข้างเตา จากนั้นก็เช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนโดราเอมอน แล้วถอดผ้ากันเปื้อนไปแขวน
"แขวนตะขออันขวานะ"
"เอ๊ะ? ผ้ากันเปื้อนทำไมมีตะขอสองอันล่ะ?"
"เดี๋ยวแขวนเสร็จแล้วก็รู้เอง"
"อ๋อ ผ้ากันเปื้อนสองผืนนี่เอง ว้าว ที่บ้านนายอะไร ๆ ก็เป็นคู่หมดเลยนะ"
"งั้นฉันไม่รบกวนแล้วนะ ขอกลับไปพักผ่อนล่ะ ขอบคุณสำหรับการต้อนรับวันนี้นะ"
"แล้วเจอกันใหม่"
หลังจากเก็บโต๊ะอาหารให้เฉินหยวนเสร็จ เซี่ยซินหยู่ก็กล่าวลาอย่างสุภาพ แล้วเดินออกจากห้องไป
ผมหางม้าสูง ๆ แกว่งไกวเบา ๆ ไปตามจังหวะเท้าที่ก้าวอย่างลังเล โครม! ทั้งตัวเธอกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างจัง "โอ๊ย!" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น เซี่ยซินหยู่ยกมือขึ้นนวดหน้าผากเบา ๆ แล้วเดินเข้าห้องตัวเองทางประตูขวามือ
เพราะกลอนประตูพังจากการชนเมื่อครู่ เธอจึงได้แต่ปิดประตูไว้เฉย ๆ
แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะชั้นห้านี่ก็เป็นชั้นบนสุดแล้ว นอกจากเธอ เขา แล้วก็คนส่งอาหาร ก็คงไม่มีใครขึ้นมาที่นี่
จนกระทั่งถึงหน้าประตูห้อง ตัวเลขสีแดงบนหัวเธอก็ยังคงเป็นเลข 【3】
เฉินหยวนปิดประตูห้อง
ยืนอยู่หน้ากระจก ในกระจกไม่ได้มีตัวเลขปรากฏขึ้นบนตัวเขา
ใช่แล้ว เขาสามารถมองเห็นตัวเลขนับถอยหลังชีวิตของคนอื่นได้ ยกเว้นของตัวเอง
ตอนที่ได้ความสามารถนี้มา จริง ๆ แล้วเขาเคยคิดจะลองมองพ่อกับแม่ดูเหมือนกัน แต่ด้วยความกลัวบางอย่าง เขาจึงไม่กล้าทำ สุดท้ายก็ได้แต่โทรหาพวกท่าน ซึ่งนาน ๆ ทีเขาจะทำแบบนี้ บอกให้ท่านไปตรวจร่างกาย ตรวจแบบละเอียดถี่ถ้วนไปเลย
การกระทำที่ผิดปกติของเขา ทำให้พ่อที่ไม่ค่อยเอาไหนพูดด้วยความซาบซึ้งว่า "โตเป็นผู้ใหญ่แล้วสินะ"
ส่วนแม่ก็บอกว่า "โอเค แม่ฟังลูกเสมอ แม่จะไปตรวจเดี๋ยวนี้แหละ"
ว่าแต่ ตัวเขาเองจำเป็นต้องใช้ความสามารถนี้ด้วยเหรอ?
แค่คอยดูแลเอาใจใส่คนรอบข้างให้มากขึ้นก็พอแล้ว
เพราะต่อให้มีความสามารถนี้ เขาก็คงทำอะไรไม่ได้ เหมือนอย่างตอนนี้
"ทำไมเธอถึงคิดสั้นแบบนั้นนะ?"
เฉินหยวนนอนอยู่บนเตียง มือทั้งสองข้างไขว้รองหัว มองเพดานไปพลาง พูดออกมาแบบนั้น แต่ในใจกลับรู้สึกทรมาน
ทำไมไม่เตือนเธอวะ...?
มีพลังวิเศษแล้ว แต่ระบบไม่ยอมปล่อยภารกิจงั้นเหรอ?
แบบจำลองความรักก็ยังดีนะ
งั้น สิ่งที่ฉันต้องทำก็แค่ดูอายุขัยของคนอื่น แล้วไปตั้งแผงดูดวง?
แต่อาชีพดูดวงไม่ได้ต้องการแค่การทำนายที่แม่นยำ แต่เป็นวาทศิลป์ต่างหาก ไม่มีใครอยากได้ยินคำสาปแช่งว่าตัวเองอายุสั้นหรอก
รอไปก่อนเถอะ เผื่อสักพักจะมีเสียงติ๊ง แล้วระบบก็โผล่มาบอกให้ฉันทำนู่นทำนี่
เฉินหยวนเพิ่งอ่านนิยายจบไปเรื่องหนึ่ง ระบบดันมาโผล่มาตอนบทที่ 158 ทำเอาคนอ่านงงเป็นไก่ตาแตก นี่มันนิยายแนวระบบจริงดิ?
หลับตาลง ภาพของหญิงสาวที่เมาได้แค่ฟังเพลงก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป
ไม่มีทางเลือก เขาจึงทำได้แค่พาเธอเข้าสู่ห้วงนิทรา
...
เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินหยวนล้างหน้าแปรงฟัน แต่งตัวชุดนักเรียน สะพายกระเป๋าออกจากบ้าน
แม่กุญแจประตูห้องตรงข้ามยังคงพังอยู่ แต่เหมือนมีบางอย่างยัดไว้ข้างใน ประตูจึงยังปิดสนิท
เฉินหยวนหยุดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินลงบันไดไป
บังเอิญเจอลุงเสื้อกล้ามที่กำลัง "รำมวย" อยู่กับต้นไม้หน้าตึกพอดี
ขออภัย ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าการที่คนแก่อายุขนาดนั้นเอาพุงไปชนต้นไม้น่ะเรียกว่าท่าอะไร
แต่ถ้าหันหลังชนต้นไม้อันนั้นฉันรู้จัก "ท่าไถหลัง" ไง เจ๋ง!
【3542】
ลุงเจ้าของบ้านอายุเกือบเจ็ดสิบแล้ว ยังมีอายุอีกสิบปี การรำมวยกับต้นไม้นี่ก็ดูจะได้ผลดีเหมือนกันนะ
"ลุงครับ ลุงรู้จักผู้หญิงที่อยู่ห้องตรงข้ามผมไหมครับ?" เฉินหยวนถาม
"เสี่ยวเฉินเหรอ" ลุงหยุดรำมวย หันมาถามด้วยรอยยิ้ม "สนใจสาวเขาแล้วล่ะสิ?"
"...อื้อ"
"ไอ้หนุ่มนี่ ตาถึงนะ เด็กคนนั้นสวยจริง ๆ"
"ครับ สวย"
ทำไงได้ ถ้าอยากได้ข้อมูลจากลุง ก็ต้องยอมให้ลุงแซวหน่อย เฉินหยวนไม่ใช่พวกเด็กน้อยขี้อายที่ชอบทำเป็นปากแข็งแบบ "เปล่านะ ผมไม่ได้สนใจเธอสักหน่อย!"
คนแก่พูดสองสามคำจะเป็นไรไป
อีกอย่าง เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจะด้อยกว่าเซี่ยซินหยูตรงไหน
จะว่าไป ผู้หญิงคนนั้น ก็โอเคอยู่นะ
"เหมือนจะเป็นคนมณฑลจิงหนานนะ พ่อเขาพามาเอง สำเนียงแถวนั้นตลกดี พูดแบบนี้→ จริง ๆ นะ↑ ฮ่า ๆ ๆ ๆ" ลุงแกอดขำไม่ได้เมื่อนึกถึงเรื่องนี้
"พ่อแม่เธออยู่ที่อื่นเหรอครับ?"
"ใช่ เหมือนจะมีอาเป็นครูอยู่ที่นี่ ลูกของอาสอบติดโรงเรียนอื่น เลยมีที่ว่างเหลือ เธอเลยได้มาเรียนที่นี่"
"ลุงพอจะมีเบอร์ติดต่ออาของเธอไหมครับ?"
"ถึงขั้นนี้เลยเหรอเนี่ย?"
"ครับ อยากรู้ว่าค่าสินสอดทางจิงหนานเท่าไหร่ จะได้กลับไปบอกพ่อให้เก็บเงิน" เฉินหยวนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ ได้ งั้นเดี๋ยวลุงให้เบอร์โทรไป"
คุณลุงผู้ร่าเริง เมื่อได้ยินเรื่องสนุก ๆ แบบนี้ก็รีบคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาทันที สวมแว่นสายตายาวที่คล้องคอไว้ แล้วค่อย ๆ เลื่อนนิ้วไปบนรายชื่อผู้ติดต่อที่มีตัวอักษรใหญ่โตราวกับแมลงสาบ "ใช่แล้ว คนนี้แหละ เซี่ยฟาง"
"ขอบคุณมากครับคุณลุง ผมขอจดเบอร์ไว้หน่อยนะครับ"
"จะโทรหาเธอตอนนี้เลยไหมล่ะ? จะคุยอะไรกับเธอล่ะ..."
"ผมต้องไปโรงเรียนแล้วครับคุณลุง ไว้คุยกันใหม่นะครับ"
หลังจากได้เบอร์โทรศัพท์มาแล้ว เฉินหยวนก็รีบวิ่งไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
ในขณะเดียวกันก็อดใจไม่ไหวที่จะโทรออก
คุณน้า น้องสาวของพ่อของเซี่ยซินหยู่
ถ้าเป็นเธอ ต้องรู้เรื่องราวในครอบครัวอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น การได้ข้อมูลจากคุณน้า ก็คงไม่ทำให้เซี่ยซินหยู่ต้องเจ็บปวดใจอีก
บางที คุณน้าอาจจะช่วยเซี่ยซินหยู่ออกจากความทุกข์นี้ได้ เพราะยังไงก็เป็นญาติกัน คงมีผลมากกว่าที่เขาเข้าไปยุ่ง
ระหว่างที่คิด ปลายสายก็รับโทรศัพท์พอดี
"สวัสดีครับ คุณย้า"