บทที่ 18 มันหนักเกินกว่าที่จะรักได้อีก (2)
เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากชั้นบน มู่หยู่เฉินก็เงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์ที่เขากำลังอ่านอยู่ และเขาก็เห็นซีเซี่ยเย่เดินลงมาจากชั้นบน
ชุดที่ป้าหวังเตรียมเอาไว้ให้เธอเป็นชุดเดรสสีม่วงทั้งชุดและมันก็เข้ากับเธอได้ดี ผมของเธอที่ยาวลงไปถึงเอวก็ถูกมัดเอาไว้นั่นจึงเผยให้เห็นใบหน้าเรียวเล็กที่สดใสและสวยงามของเธอได้อย่างชัดเจน เธอดูเป็นคนมีความสามารถและดูเป็นคนสุขภาพดีมากจริงๆ
มู่หยู่เฉินถอนสายตาออกจากเธอ จากนั้นเขาก็หันกลับมาจ้องมองที่โต๊ะอาหารที่อยู่ด้านหน้า “กินอาหารเช้าก่อนสิ ป้าหวังรีบมาทำโจ๊กเอาไว้ให้คุณตั้งแต่ช้าเลยนะ”
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปทำงานสาย...”
ซีเซี่ยเย่พูดปฏิเสธออกไป เพราะเมื่อเธอหันไปมองเวลา เธอก็เห็นว่าตอนนี้เธอกำลังจะไปทำงานสายแล้ว
หลังจากที่ซีเซี่ยเย่พูดจบ จู่ๆ ก็มีเสียงที่อ่อนโยนและอัธยาศัยดีร้องอุทานออกมาว่า “คุณซี ตื่นแล้วเหรอคะ!”
น้ำเสียงที่ถูกเปล่งออกมาอย่างกะทันหันนั้น ซีเซี่ยเย่ก็รู้สึกตกใจขึ้นมาทันที เธอกวาดสายมองไปรอบๆ และเธอก็หันไปเจอกับหญิงวัยกลางคนที่ดูอ่อนโยนและกำลังถือถาดอาหารออกมาจากในครัว
"สวัสดีค่ะ!"
ซีเซี่ยเย่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็กล่าวทักทายผู้มาใหม่ออกไป
“เรียกดิฉันว่าป้าหวังก็ได้ค่ะ คุณรู้สึกยังไงบ้างคะ คุณซี? หลังจากที่เจ้านายพาคุณกลับบ้านได้ไม่นานคุณก็มีไข้ ร่างกายของคุณอ่อนแอ ถ้าจะให้ดีอย่าดื่มเยอะจะดีกว่านะคะ และยิ่งไปกว่านั้น การที่คุณตากฝนมันก็ทำให้คุณเป็นไข้เหมือนอย่างเมื่อวานนี้ได้”
ป้าหวังเดินมาเสิร์ฟโจ๊กตรงหน้าเธอ จากนั้นหล่อนก็หันไปคลี่ยิ้มให้มู่หยู่เฉิน“เจ้านาย มารับประทานอาหารเช้าเถอะค่ะ”
มู่หยู่เฉินเก็บหนังสือพิมพ์ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น และเดินตรงมาที่โต๊ะอาหาร เขามองไปที่ซีเซี่ยเย่และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกว่า "ผมทำเรื่องลางานกับหัวหน้าของคุณแล้วครับ"
“ใช่แล้วค่ะ คุณซี ไข้ของคุณเพิ่งจะลด ทางที่ดีคุณควรจะพักผ่อนอย่างน้อย 1 – 2 วันก่อนกลับไปทำงานนะคะ โจ๊กที่ฉันเพิ่งจะทำเสร็จใหม่ๆ มันน่าจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นมาได้ แล้วฉันก็ใส่ขิงลงไปด้วย กินมันสักชามสองชามนะคะ เพราะมันดีต่อร่างกายของคุณ” ป้าหวังพูดออกมาด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
และในตอนนี้มู่หยู่เฉินเดินมานั่งตรงข้ามกับเธอเรียบร้อยแล้ว เมื่อเธอได้ฟังน้ำเสียงที่อ่อนโยนของป้าหวัง ซีเซี่ยเย่ก็พยักหน้าตอบรับ เธอพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งเล็กน้อย พร้อมกับจ้องมองไปที่หล่อนด้วยแววตาซึ้งใจ “ขอบคุณสำหรับเมื่อคืนนะคะ… ที่คุณป้าดูแลหนูตลอดทั้งคืน”
เธอจำเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เพียงลาง ๆ เธอพลิกตัวกลับไปกลับมาตลอดทั้งคืน อีกทั้งยังอาเจียน และยังตัวสั่นเพราะพิษไข้อีกด้วย และท่ามกลางความมึนงงและไม่มีสติของเธอ ก็มีป้าหวังที่คอยดูแลเธออย่างอ่อนโยนตลอดทั้งคืน
ป้าหวังคลี่ยิ้มออกมา “ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ เจ้านายเป็นคนพาคุณกลับมาที่นี่ เพราะอย่างนั้นคนที่คุณควรขอบคุณก็น่าจะเป็นเจ้านายมากกว่านะคะ ดิฉันจะไปรดน้ำดอกไม้ในสวนก่อน ทานอาหารเช้าเถอะค่ะ ไม่อย่างนั้นร่างกายก็อาจจะหนาวเอาได้”
หลังจากนั้นหล่อนก็ถอดผ้ากันเปื้อนออก แล้วเดินออกไปด้านนอกทันที
ซีเซี่ยเย่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เธอดึงเก้าอี้ออกช้าๆ จากนั้นก็วางกระเป๋าของตัวเองลงข้างๆ แล้วนั่งลง
มู่หยู่เฉินที่นั่งตรงข้ามเธอก็กำลังก้มหน้ารับประทานอาหารเช้าอย่างเงียบๆ การเคลื่อนไหวของเขามันดูสง่างาม ราวกับขุนนางชั้นสูงอย่างไรอย่างนั้น เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงสายตาของเซี่ยเย่ที่จ้องมองมา มู่หยู่เฉินก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมองเธอ เมื่อเขาเห็นว่าเธอยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมขยับเขยื้อน เขาก็ถามเธอออกไปว่า “มือของคุณเป็นอะไรเหรอครับ?”
หลังจากนั้นไม่นาน ซีเซี่ยเย่ก็นึกขึ้นมาได้ว่ามือของเธอยังมีผ้าพันแผลพันอยู่ แต่นั่นมันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการกินของเธอเลยแม้แต่น้อย เพราะอย่างนั้นเธอจึงส่ายหน้าปฏิเสธเขากลับไป “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี เพราะคุณมาเห็นตอนที่ฉัน...”
มู่หยู่เฉินเข้าใจความหมายของเธอที่ต้องการจะสื่อขึ้นมาได้ทันที เขาจ้องมองลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ ด้วยแววตาที่เหมือนจะมองทะลุทุกสิ่งทุกอย่างได้ “คุณให้ผมเห็นตอนที่คุณถูกทำร้ายตลอดน่ะเหรอครับ และคุณก็รู้สึกว่าซ่อนมันเอาไว้ไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?”
ซีเซี่ยเย่รู้สึกตกใจขึ้นมาในทันที จากนั้นจู่ๆ เธอก็หัวเราะออกมาอย่างขมขื่น และหลุบตาลงอย่างเงียบๆ...
มู่หยู่เฉินผลักชามโจ๊กไปตรงหน้าของเธอเบา ๆ จากนั้นเขาก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “ยาไม่สามารถรักษาโรคทางใจได้หรอกนะครับ และเหล้าก็ไม่สามารถขจัดความเศร้าโศกออกไปจากใจได้ด้วย หลังจากที่คุณชินกับมันแล้ว คุณจะพบว่าไม่ได้ทุกข์ทรมานขนาดนั้น”
“ฉันรู้ค่ะ… แต่บางครั้ง คุณก็ต้องใช้เวลานานมากว่าที่คนเราจะชินกับมันได้ หลังจากนั้นเราก็จะชินกับมันจนเป็นนิสัยไม่ใช่เหรอคะ?”
ซีเซี่ยเย่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเธอก็คลี่ยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกสงบ
“คุณคิดว่าคุณต้องการเวลาที่จะปรับตัวกับมัน แต่หัวใจของคุณมันกลับไม่มีความหวังที่จะละทิ้งมันไปได้....และคุณยังเอาแต่คร่ำครวญถึงอดีตที่ผ่านมาแล้วอย่างนั้นเหรอครับ?” มู่หยู่เฉินมองตรงมาที่เธอด้วยสายตาที่ชาญฉลาด และรอยยิ้มของเขาที่ส่งมามันก็ทำให้รู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมา
“ไม่ว่าคุณจะคร่ำครวญมากเท่าไหร่ คุณก็ไม่สามารถย้อนกลับไปในอดีตได้อยู่ดี และบางครั้งคุณก็จะรู้สึกสงสัยว่า ทำไมฉันถึงได้ล้มเหลวได้อย่างน่าเศร้าแบบนั้น”
ซีเซี่ยเย่หัวเราะออกมาอย่างขมขื่น จากนั้นเธอก็ยื่นมือออกไปที่ชามโจ๊กอย่างช้าๆ และเริ่มกินมันอย่างเงียบๆ และทันทีที่เธอกลืนมันลงไปได้เพียงแค่คำเดียว จู่ๆ เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่ารถของเธอยังอยู่ที่สถานบันเทิง ดังนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้นไปมองเขา และถามออกไปว่า “ใช่ รถของฉัน…”
จากนั้นเธอก้มหน้าลงไปหากุญแจรถในกระเป๋าของตัวเองทันที
“มันจอดอยู่ด้านนอกครับ ผมบอกให้ผู้ช่วยของผมไปเอามันมาแล้ว กุญแจรถของคุณวางอยู่บนโต๊ะกาแฟในห้องนั่งเล่น” มู่หยู่เฉินพูดออกไปพร้อมกับชี้นิ้วไปทางห้องนั่งเล่น
มือที่กำลังจับช้อนหยุดค้างอยู่กลางอากาศทันที เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตัดสินใจพูดออกไปว่า “ขอบคุณมากนะคะ! คุณช่วยฉันมาสองสามครั้งแล้ว ฉันจะเลี้ยงอาหารเพื่อเป็นการตอบแทนคุณเอง ถ้าคุณยังต้องการมันอยู่”
ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและจริงใจ อีกทั้งใบหน้าที่ซีดเซียวของเธอก็เริ่มอุ่นขึ้นด้วยเช่นกัน
ด้วยความที่เธออยู่ในสายงานธุรกิจมานานสองสามปี เธอจึงเข้าใจดีว่าควรจะขอบคุณคนที่ช่วยเธออย่างไร
“นี่เป็นคำเชิญที่มาจากใจของคุณ ถ้าผมปฏิเสธที่จะรับมันเอาไว้ มันก็อาจจะดูหยาบคายไปหน่อย”
ครั้งนี้มู่หยู่เฉินไม่ได้เอ่ยปฏิเสธออกมาแต่อย่างใด และวันนี้ก็ยังเป็นวันพักผ่อนของเขาอีกด้วย เพราะพรุ่งนี้เขาต้องเริ่มเข้าไปทำงานที่ Glory World แล้ว และเขายังต้องเข้าไปทำงานในฐานะประธานคนใหม่ของ Glory World Corporation อีกต่างหาก ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ เขาก็ได้แอบเข้าไปดูการดำเนินงานของ Glory World Corporation ทั้งหมดอย่างลับๆ มาเรียบร้อยแล้ว และเขาก็ได้ยินมาว่าผู้หญิงที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้เป็นคนที่น่าจับตามองมากจริงๆ
และเขาก็เพ่งความสนใจไปที่เธอโดยที่ไม่รู้ตัว
เมื่อเธอได้ยินคำตอบของเขา ริมฝีปากของซีเซี่ยเย่ก็ค่อยๆ โค้งเป็นรอยยิ้มจางๆ จากนั้นเธอก็พูดออกไปด้วยน้ำเสียงสุภาพว่า “ขอบคุณที่ตอบตกลงนะคะ แล้วคุณเองคิดไว้บ้างรึยังว่าอยากจะไปที่ไหน?”
“เมือง Z เปลี่ยนไปเยอะมาก ผมไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรพวกนี้สักเท่าไหร่ คุณตัดสินใจเถอะครับว่าจะไปที่ไหนดี” มู่หยู่เฉินตอบกลับไปอย่างตรงไปตรงมา
“ให้ฉันตัดสินใจเหรอคะ? คุณแน่ใจเหรอคะว่า คุณจะชอบอาหารที่ฉันสั่ง?” ซีเซี่ยเย่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ตราบใดที่มันไม่ได้กินยากจนเกินไป คุณลองคิดร้านมาได้เลยครับ ผมคิดว่าคุณน่าจะเลือกร้านได้ดี”
“อืม... ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวฉันจะพาคุณไปร้านที่ฉันเคยไป ฉันคิดว่าคุณน่าจะชอบมันนะคะ”
จู่ๆ ซีเซี่ยเย่ก็นึกถึงร้าน ๆ หนึ่งขึ้นมาได้ มันเป็นร้านที่หาทานได้ยาก และเธอก็จำมันได้เป็นอย่างดี
“ดีเลยครับ ผมไม่ได้กลับมาที่นี่นานแล้ว การที่ได้ขับรถไปรอบ ๆ เมืองก็ดีเหมือนกัน งั้นวันนั้นก็ขับรถพาผมไปดูรอบ ๆ เมือง Z หน่อยนะครับ” มู่หยู่เฉินมองมาที่เธอด้วยสายตาสงบนิ่ง
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพยักหน้าเป็นการตอบรับกลับไป “อืม.... มันเป็นสิทธิพิเศษสำหรับฉันเลยนะคะ”
“หลังจากที่เรารับประทานอาหารเช้าเสร็จ เราก็ออกไปข้างนอกกันเถอะครับ”
หลังจากที่มู่หยู่เฉินพูดจบ พวกเขาทั้งสองก็ก้มหน้ากินทานอาหารกันอย่างเงียบๆ…