ตอนที่แล้วบทที่ 16 ความจริง (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 18 เกิดมาแตกต่าง (2)

บทที่ 17 เกิดมาแตกต่าง (1)


สิงอวี้เซิงไขว้มือข้างหนึ่งไปด้านหลัง วาดนิ้วชี้และนิ้วกลางเข้าหากัน พลิกอย่างเบามือ สร้างรูปแบบพลังวิญญาณเสียง แสงสีขาวไล้ไปตามปลายนิ้วมือ เขาพยายามติดต่อหาเสิ่นอี้อยู่ตลอด แต่เมื่อส่งพลังงานออกไป กลับไม่สามารถหาทิศทางที่ถูกต้องได้

เห็นได้ว่าปีศาจสาวไม่ได้กล่าวเท็จ เสิ่นอี้และคนอื่นๆ ตกอยู่ในแผนการปีติของนางแล้วในเวลานี้

มู่ฉางถิงยืนอยู่ด้านข้างสิงอวี้เซิง ย่อมสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณในกายของเขาที่ซ่อนเร้น จึงขยับไปด้านหน้าสองก้าว ยืนอยู่ด้านหน้าสิงอวี้เซิง ใช้ร่างตนเองบังไว้ไม่ให้ถูกค้นพบ

ปีศาจสาวเอ่ยอย่างประชดประชันด้วยรอยยิ้ม “มีคนประเภทหนึ่งเกิดขึ้นมาโดยชะตาที่โดดเดี่ยวบนโลกใบนี้ เขาเกิดในปีเดือนวันที่เมฆครึ้ม เป็นเด็กที่มีชะตาชีวิตข่มบิดามารดาข่มพี่ข่มน้อง ข้าเป็นเช่นนั้น” เมื่อพูดถึงตอนนี้ สายตาของนางจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มที่เงียบขรึมและเย็นชา รอยยิ้มฉายชัดขึ้นในดวงตาของนาง “ดูเหมือนว่า เขาเองก็เป็นเช่นนั้น”

แผ่นหลังของสิงอวี้เซิงแข็งทื่อ รูปแบบการส่งพลังวิญญาณเสียงก็พังทลายลง

มู่ฉางถิงตกตะลึงชั่วครู่ พยายามอย่างมากที่จะไม่หันกลับไปมองการเคลื่อนไหวของเขา หัวเราะเล็กน้อย “พี่สาวปีศาจจะแน่ใจได้อย่างไร?เรื่องเช่นนี้ก็สามารถมองออกงั้นหรือ?”

ปีศาจสาวตะคอกเสียงแข็ง “เจ้าเชื่อก็ดี เจ้าไม่เชื่อก็แล้วไป โชคชะตามักไม่เป็นธรรมกับคนเช่นพวกเรา” เงียบไปชั่วครู่ นางก็เอ่ยกระซิบเสียงเบา กระแสเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกคิดถึง “หากว่าชีวิตนี้เจ้าค้นพบคนที่ไม่รังเกียจเจ้า พร้อมจะเอาชนะความลำบากทั้งหมดเพื่ออยู่เคียงข้างเจ้า ก็จะเข้าใจว่าสำหรับคนอย่างข้าแล้ว ความสัมพันธ์เช่นนี้ยากเย็นเพียงใด ข้าโตมากับฟ่านหลางตั้งแต่ยังเด็ก เขาปฏิบัติเช่นนั้นต่อข้า”

“แม่สามีของข้าคัดค้านอย่างสุดกำลังในตอนที่ฟ่านหลางแต่งข้าเข้าจวน แต่นางทนเห็นความเป็นความตายของฟ่านหลางไม่ได้ ท้ายที่สุดก็ตกลง ในตอนนั้นข้ายังไร้เดียงสา ในใจนึกว่าความสุขที่ข้ารอคอยทั้งชีวิตกำลังเข้ามาหาข้าแล้ว แต่ในความเป็นจริง การแต่งเข้าสกุลฟ่านไม่ได้มีความสุขเช่นเดียวกับที่คนอื่นคิดไว้ แม่สามีไม่พอใจสะใภ้เช่นข้าอย่างมาก คิดว่าในไม่ช้าข้าจะต้องฆ่าทำลายสกุลฟ่านทั้งหมดทุกคน ไม่ว่าข้าจะเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บก็ดี เจ็บป่วยก็ดี ไม่มีสักวันที่จะยอมแพ้ แต่แม่สามีมักจะไม่พอใจข้าอยู่เสมอ มักจะทุบตีและด่าว่าข้าด้วยเรื่องเล็กน้อยเป็นประจำ แม้กระทั่งให้ข้าคุกเข่าต่อหน้าบรรพบุรุษที่โถงใหญ่ทั้งคืนพบสำนึกความผิด ไม่ให้ข้ากิน และไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าพบ”

“แต่งเข้าสกุลฟ่านมาสามปีแล้ว ข้าใช้ชีวิตแบบนี้ทุกวัน เดินบนน้ำแข็งผืนบาง ตัวสั่นระริก แต่ข้ากลับไม่เสียใจ ถึงแม้ฟ่านหลางจะขี้ขลาดและเชื่อฟัง แต่เขาปฏิบัติต่อข้าดียิ่งนัก เขาเคยกล่าวไว้ ทั้งชีวิตนี้จะแต่งงานกับข้าคนเดียว จะรักข้าคนเดียวเท่านั้น” เมื่อพูดถึงตรงนี้ ปีศาจสาวก็หลับตาลง เอ่ยด้วยความเจ็บปวด “เดิมคิดว่าจะอดทนไปในชีวิตนี้ แต่ไม่คาดคิดว่า เพราะข้าแต่งเข้าสกุลฟ่านได้สามปีถูกทรมานอยู่ทุกคืนวัน ร่างกายอ่อนซูบซีด ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถใช้การได้ นับวันแม่สามียิ่งไม่พอใจข้าเพิ่มมากขึ้น จึงบังคับให้ฟ่านหลางแต่งงานอีกครั้ง!”

“ในตอนแรกฟ่านหลางไม่ยินยอม แต่ทนเห็นแม่สามีร้องไห้ทั้งวันทั้งคืนไม่ได้ ภายหลังจึงได้ตกลงไป หัวใจข้าเจ็บยิ่งนัก โกรธแค้นที่เขาไม่รักษาสัญญา อีกใจก็เกลียดตนเองที่ไม่สามารถมีทายาทให้กับสกุลฟ่านได้” ปีศาจสาวเอ่ยด้วยความขมขื่น “สตรีนั้นหนา มีบางครั้งก็จะโง่เง่าเช่นนี้ เมื่อถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ก็ต้องถอยอีกก้าวต่อไปเรื่อยๆ ตั้งแต่หวังอี๋เหนียงเข้ามาในจวนสกุลฟ่าน ในแต่ละวันของข้าก็ยากลำบากยิ่งกว่าเดิม นางได้รับความรักจากแม่สามี และยังเป็นคนที่มีเล่ห์กล ต่อหน้าฟ่านเฉียนมักใส่ร้ายข้า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฟ่านหลางค่อยๆ มีระยะห่างกับข้า มาหาข้าที่ห้องน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด”

“ไม่นาน หวังอี๋เหนียงก็ตั้งครรภ์ บางทีอาจเป็นเพราะสวรรค์ไม่พอใจในความหยิ่งยโสของนาง เมื่อเดือนสิบนางให้กำเนิดบุตร นางป่วยเป็นโรคหนึ่ง เชิญหมอหลายคนมาก็ไร้ประโยชน์ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปแม้แต่ชีวิตของทั้งแม่และลูกก็จะไม่สามารถรักษาไว้ได้ ในตอนนี้ ไม่รู้ว่านางได้เชิญหมอนักพรตกำมะลอแซ่เจียงจากเจียงหูมาจากที่ใด หลังจากได้ที่พบนาง หมอแซ่เจียงผู้นี้ก็กล่าวว่าหวังอี๋เหนียงนั้นป่วยร้ายแรง เป็นเพราะในเรือนมีคนที่เกิดในปีเดือนวันที่เมฆครึ้ม นางถูกวิญญษณชั่วร้ายรังแก จึงทำให้นางเป็นเช่นนี้”

“แม่สามีของข้าเลื่อมใสในนักพรตผู้บำเพ็ญเพียรมาโดยตลอด รวมกับความไม่พอใจที่มีต่อข้า ดังนั้นจึงไม่สงสัยในคำพูดของเขาแม้แต่น้อย” ปีศาจสาวกัดฟันพูด สีหน้าแสดงออกถึงความเกลียดชัง “นักพรตแซ่เจียงเสนอวิธีการ ต้องการเพียงหัวใจของผู้ที่เกิดในวันเดือนปีที่เมฆครึ้มมอบให้แก่หวังอี๋เหนียง เพื่อปกป้องหวังอี๋เหนียงและบุตร แม่สามีกังวลเกี่ยวกับการเอาชีวิตคน ในตอนแรกจึงไม่ได้ตกลง แต่เป็นเพราะนักพรตแซ่เจียงผู้นั้นกล่าว เขาสามารถใช้ชีวิตของตนรับปาก ว่าเขามีวิธีพิเศษ รับปากไว้ว่าหลังจากที่ควักหัวใจของข้าออกมาแล้ว จะปลอดภัยและไม่เป็นอันตราย”

มู่ฉางถิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “ช่างเป็นวิธีรักษาที่เขย่าขวัญผู้ได้ฟัง แล้วก็น่าเหลือเชื่อยิ่งนัก”

ปีศาจสาวกล่าวพลางหัวเราะ “แต่กระนั้น เป็นเพราะทายาทสกุลฟ่าน แม่สามีข้าก็เชื่อ...แม้กระทั่งฟ่านหลาง! แม้กระทั่งฟ่านหลางก็ยังเชื่อ! ชีวิตของข้าเป็นวัชพืชในสายตาพวกเขา เทียบไม่ได้แม้แต่ทายาทที่ยังไม่ได้ลืมตา!” ปีศาจสาวหยุดนิ่ง เอ่ยเสียงเบา “ตั้งแต่ต้นจนจบ ข้าล้วนแต่ถูกกักขังในความมืดมิด ข้ายังจำได้ ในคืนนั้น แม่สามีสั่งให้เตรียมอาหารมากมาย เชิญข้ากินข้าวร่วมโต๊ะ เมื่อนับดูแล้ว นั่นเป็นครั้งแรกที่แม่สามียิ้มให้ข้า ฟ่านหลางเองก็นั่งกับข้าอีกครั้ง ข้ารู้สึกไม่สบายใจมาก แต่กลับมีความสุขมากกว่า คิดว่าฟ่านหลางเปลี่ยนใจแล้ว”

“ไม่รู้ว่าดื่มจนเมามายไปตอนไหน รู้สึกแต่เพียงว่าโลกทั้งใบกำลังหมุน เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็นอนอยู่บนพื้นในป่ารกร้าง ที่พื้นมีวงกลมที่วาดด้วยเลือด ข้าอยากจะลุกขึ้น แต่ทั้งร่างกายของข้าอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง ฟ่านหลางยืนอยู่ด้านนอกวงกลมนั้น ถือคบเพลิงมองข้าอยู่ไกลๆ” ปีศาจสาวกล่าวถึงตรงนี้น้ำตาก็ร่วงหล่นลง “ข้ายื่นมือออกไปหา ร้องไห้คร่ำครวญไม่หยุด ขอร้องให้เขาช่วยข้า ฟ่านหลางกลับหลับตา หันหนีไปทางอื่น ราวกับว่าหากมองมาที่ข้าเพียงครั้งเดียว ก็จะทำให้เขาไม่สบายใจ”

“นักพรตแซ่เจียงทำน้ำมนต์ให้ข้าดื่มหนึ่งถ้วย จากนั้นยืนอยู่หน้าแท่นบูชาเทพโดยถือกระบี่ไม้แล้วเริ่มบริกรรมคาถา ข้าได้ยินเพียงเสียงอื้ออึงในหู ปวดหัวราวกับกำลังจะระเบิด ในตอนนั้น ฟ้าก็ร้องลั่น ต่อมาก็มีฝนห่าใหญ่ตกหนักลงมา นักพรตแซ่เจียงยกกระบี่ขึ้นมาแล้วเดินตรงมาทางข้า ข้าไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร แต่ก็รู้สึกหวาดกลัวโดยสัญชาตญาณ ข้าตะโกนเรียกฟ่านหลางเสียงดัง หวังว่าเขาจะช่วยข้า แต่สุดท้าย แม้ว่าคมมีดจะแทงเข้าที่ทรวงอกของข้าในตอนที่ข้ากรีดร้องเรียกชื่อเขา เขาก็ไม่คิดจะเข้าใกล้ข้าแม้แต่ก้าวเดียว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด