ตอนที่แล้วบทที่ 12 โต้เถียง (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 14 ซับซ้อนไม่ชัดเจน (2)

บทที่ 13 ซับซ้อนไม่ชัดเจน (1)


วันรุ่งขึ้น เสิ่นอี้ออกคำสั่งให้พวกเขาทั้งหมดรีบออกไปเดินสืบหาข้อมูล หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย อนุชนกลุ่มหนึ่งเดินไปที่ประตูของจวนฟ่านอย่างครึกครื้น

ยังไม่ทันได้เข้าไปใกล้ เสียงทะเลาะวิวาทก็ดังขึ้นเรื่อยๆ

นายน้อยสกุลฟ่านกำลังถูลู่ถูกังลากดึงสาวงามผู้หนึ่งอยู่ที่หน้าประตู หญิงสาวผู้นั้นกรีดร้องอย่างไม่ยินยอม "ท่านเอามาให้ข้า! ท่านซ่อนมันไว้ที่ใดแล้ว! รีบไปเอามาให้ข้า!"

ความเจ็บปวดปรากฎขึ้นบนใบหน้านายน้อยสกุลฟ่าน ผลักนางออกไป กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเกลียดชัง “เจ้าทำเรื่องเช่นนี้แล้ว จะอยู่ไปทำไมกันเล่า ไม่สู้ตายไปเสีย!”

ผู้ดูแลจวนยื่นมือออกไปประคองร่างกายบอบบางของหญิงสาว เกลี้ยกล่อมเสียงเบา “หวังอี้เหนียง กลับเรือนกับข้าก่อนเถิด ในตอนนี้นายน้อยอยู่ในอารมณ์โกรธ”

มู่ฉางถิงตระหนักขึ้นมาได้ มองไปยังสีหน้าซีดเซียว สีหน้าเจ็บป่วยของนายน้อยสกุลฟ่าน อดไม่ได้ที่จะแสดงความเห็นอกเห็นใจ

ดูเอาเถิด คนผู้นั้นโกรธจนควันจะออกหูแล้ว นายน้อยสกุลฟ่านต้องไม่รู้ว่าชายชู้ผู้นั้นคือผู้ดูแลจวน มิเช่นนั้นเขาจะทนให้เขายืนอยู่ต่อหน้าของตนดีๆ ได้อย่างไร?

หวังอี๋เหนียงไม่สนใจผู้ดูแลจวน ถลาวิ่งเข้าไปดึงเสื้อคลุมของนายน้อยสกุลฟ่านไว้ น้ำตาไหลอาบแก้ม “ฟ่านหลาง ท่านช่วยข้าด้วย!ความผิดทั้งหมดร้อยพันอย่างถือเป็นความผิดของข้า!เรียกกันว่าสามีภรรยา เจ้าเอามันมาให้ข้า!”

นายน้อยสกุลฟ่านโกรธจัดจนดวงตาแดงก่ำ ดึงชุดคลุมตนเองกลับ ตะโกนเสียงดัง “ไสหัวไป!อย่ามาแตะต้องข้า ข้าคิดว่าเจ้าสกปรก!”

หวังอี๋เหนียงถอยหลังไปสองก้าว ราวกับว่าเรี่ยวแรงทั้งร่างกายของนางหายไป ล้มลงไปกองกับพื้น ร้องไห้ด้วยความขมขื่น “ข้าเองก็ไม่มีทางเลือก!ล้วนแต่เป็นความผิดของข้า เป็นความผิดของข้าทั้งหมด!”

ในเวลานี้ ฮูหยินนายน้อยสกุลฟ่านเดินออกมาช้าๆ โดยประคองหญิงชราสีผมเทาผู้หนึ่งออกมาอย่างช้าๆ ดวงตาของนางขุ่นมัว คิดแล้วว่าคงเป็นแม่สามีที่นางกล่าวถึงเป็นแน่ เพียงแต่ใบหน้าของนายหญิงนั้นดุร้าย ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่ดีอยู่เล็กน้อย

นายน้อยสกุลฟ่านยืนหลับตาข่มอารมณ์อยู่ตรงกลาง สีหน้าเศร้าหมอง มองเห็นนายหญิงใหญ่ก็ไม่ได้เข้าไปทำความเคารพ

แต่สีหน้าของหวังอี๋เหนียงกลับเปลี่ยนไป ล้มคลานไปสองก้าว ก่อนจะรีบยืดกายลุกขึ้นมาอย่างรีบเร่ง วิ่งเข้าไปหยุดที่ด้านหน้าของทั้งสอง กัดริมฝีปากแล้วทำความเคารพ น้ำเสียงสั่นเครือ “เคารพแม่เฒ่าและพี่หญิง ข้า ข้าเสียมารยาทแล้ว”

หญิงชราขมวดคิ้ว ฮูหยินฟ่านตบมือหวังอี๋เหนียงเบาๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ข้าเห็นว่าเจ้าสีหน้าไม่ดีนัก กลับไปพักผ่อนก่อนเถิด”

หวังอี๋เหนียงไม่กล้าแม้แต่จะมองหญิงชรา กล่าวอย่างละล่ำละลัก “เจ้าค่ะ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ ข้าจะไป...”

ว่าจบ ก็รีบถอยหลังแล้วเดินไปยังเรือนด้านหลังทันที

นายน้อยสกุลฟ่านถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ รีบเดินเข้ามาประคองหญิงชรา “ท่านแม่ ด้านนอกลมแรง พวกเรากลับเข้าไปกันเถิด”

หญิงชราพยักหน้าตอบรับอย่างเหนื่อยหน่าย ปล่อยให้นายน้อยสกุลฟ่านประคองเดินไป

ตั้งแต่ต้นจนจบเหตุการณ์ นายน้อยสกุลฟ่านไม่เหลือบมองฮูหยินฟ่านแม้แต่น้อย

ฮูหยินฟ่านก้าวเข้าไปหยุดตรงหน้าเสิ่นอี้ ก้มหน้าลงด้วยความลำบากใจ “ล้วนแต่เป็นข้าที่จัดการไม่ดี เรื่องหลังบ้านจึงวุ่นวายมาถึงที่นี่ ขายหน้าท่านนักพรตทุกท่านแล้ว”

เจียงหย่วนฉินพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน “ฮูหยินเกรงใจแล้ว ล้วนเป็นพวกเราที่รบกวนพวกท่านจึงจะถูก”

ฮูหยินฟ่านระบายยิ้มออกมา กล่าวเสียงนุ่ม “ท่านนักพรตจะไปข้างนอกหรือไม่?”

เจียงหย่วนฉินพยักหน้าตอบรับพลางเอ่ย “ถูกต้อง เหล่าศิษย์ไม่ได้ลงจากภูเขามาเป็นเวลานาน จะพาพวกไปเปิดหูเปิดตาในเมือง”

ฮูหยินฟ่านพูด “ถ้าอย่างนั้นข้าให้ผู้ดูแลจวนพาพวกท่านไปจะดีกว่า สถานที่เที่ยวเล่นทั้งหมดในเมืองนี้เขาล้วนรู้จักดี”

พวกเขาต้องการออกไปสืบหาข่าว ย่อมไม่สะดวกให้มีผู้ติดตามไป

เจียงหย่วนฉินปฏิเสธน้ำใจของฮูหยินฟ่านอย่างสุภาพ คนกลุ่มหนึ่งออกไป มีเด็กหนุ่มที่คาดว่าอายุน่าจะยังน้อย รูปร่างหน้าตาน่ารักก้าวไปด้านหน้าเจียงหย่วนฉิน กล่าวกับเจียงหย่วนฉิน “ท่านอาจารย์ ฮูหยินฟ่านนั้นดีมากจริงๆ!ท่านดูสิ นางยังให้คนเตรียมของว่างให้พวกเรากินระหว่างทางอีกด้วย”

เจียงหย่วนฉินยิ้มออกมา ยังไม่ทันได้กล่าวอะไร เสิ่นอี้แทรกขึ้นเบาๆ “อย่าได้ด่วนตัดสิน”

เด็กน้อยแลบลิ้นออกมา หยิบแป้งถั่วที่นุ่มและหวานเข้าปาก กินมันเข้าไปอย่างไร้หัวใจ

เจียงหย่วนฉินลูบศีรษะของเขาเบาๆ เอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้าตะกละ”

มู่ฉางถิงมองพวกเขาด้วยความอิจฉา หากว่าตอนที่เข้าร่วมสำนักชิงซินในครั้งนั้น ล้วนเป็นเจียงหย่วนฉินดูแลคงดีไม่น้อย

คิดได้เช่นนี้ ก็รู้สึกขยะแขยงกับพฤติกรรมทั้งหมดของหลินเจี้ยนขึ้นมาหลายส่วน

มู่ฉางถิงเดินเข้าไปอยู่ข้างๆ ฟู่ซีเฟิง เอื้อมมือไปแตะที่เสื้อคลุมของเขา ฟู่ซีเฟิงขมวดคิ้ว ปัดมือของเขาออกไป “ทำอะไร?”

มู่ฉางถิงแสร้งทำท่าทีเศร้าสร้อย “น่องไก่ของข้าเล่า?ผลไม้เชื่อมเล่า?”

ฟู่ซีเฟิงตอบ “ไม่มี” น้ำเสียงแข็งกระด้าง

มู่ฉางถิงเบิกตากว้างเล็กน้อย มองไปทางซ้าย ทางขวารอบตัวเขา

ผ่านไปสักครู่ เขาถามด้วยเสียงเบา ราวกับไม่แน่ใจในคำถาม “...โกรธหรือ?”

ฟู่ซีเฟิงแทบจะไม่หายใจ กล้าทำไปแล้วถึงมาถามว่าเขาโกรธงั้นหรือ?

เมื่อเห็นว่าสีหน้าของฟู่ซีเฟิงมืดครึ้ม มู่ฉางถิงรีบยิ้มแล้วกล่าวต่อ “โอ๋ พี่ฟู่เอ๋ยเจ้าคนชราขี้น้อยใจ น้องชายผู้นี้ทำสิ่งใดผิดไป ขอโทษเจ้าอย่างจริงใจดีหรือไม่?”เขาชูนิ้วสองนิ้ว “ซักเสื้อผ้าให้สองวัน?”

ฟู่ซีเฟิงเหลือบมองเขา เงียบไม่พูดอะไร

มู่ฉางถิงยกนิ้วขึ้นเพิ่ม กล่าวด้วยความเจ็บปวดใจ “สามวัน!ไม่สามารถมากไปกว่านี้ได้แล้ว!”

ฟู่ซีเฟิงสะบัดแขนเสื้อ หันศีรษะแล้วหมุนตัวจากไป

เจียงหย่วนฉินแบ่งพวกเขาออกเป็นกลุ่มสามคน มอบหมายให้เดินสำรวจไปรอบๆ เมืองเพื่อสอบถามข่าว มู่ฉางถิงย่อมไม่ปล่อยฟู่ซีเฟิง รีบเดินเข้าไปสองก้าว ตะโกนเรียกเขาสองคำ เกี่ยวนิ้วกับท่อนแขนยาว ลากดึงฟู่ซีเฟิงให้เข้ามาใกล้ตนเอง ยิ้มด้วยสีหน้าหนา “อย่าเพิ่งไป!จะเอาอย่างไรก็แล้วแต่เจ้า!วันนี้พวกเราสามคนกลุ่มเดียวกัน ดีหรือไม่?”

เขาชี้นิ้วหัวแม่มือไปด้านหลัง กล่าวถึงสิงอวี้เซิงที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ไกลๆ

ฟู่ซีเฟิงยังมีใบหน้าที่จริงจัง พูดเสียงเบา “จะเอาอย่างไรก็แล้วแต่ข้า?”

มู่ฉางถิงพยักหน้ารัวราวกับกระเทียมโดนทุบ แววตาเป็นประกาย

ฟู่ซีเฟิงกล่าว “ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะอยู่กลุ่มเดียวกับข้า หรือเจ้าจะอยู่กลุ่มเดียวกับเขา”

มู่ฉางถิงฟังเข้าใจแล้ว หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “ฟู่ซีเฟิงเจ้าอายุเท่าใดแล้ว?ไม่เล่นด้วยก็จะแยกหรือ?หากว่าเล่นกับเจ้าก็จะเล่นกับเขาไม่ได้หรือ?ตุ๊กตาตัวน้อยไม่สนใจเล่นชุดนี้แล้ว เหตุใดจึงต้องไม่ชอบเขาถึงเพียงนี้กัน เขาเองก็ไม่เคยสนใจเจ้า...”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด