บทที่ 12 ความโดดเดี่ยวอันหอมหวาน (1)
Emperor Entertainment City เปิดกิจการมาหลายปีแล้ว ย้อนกลับไปก่อนที่มู่หยู่เฉินจะไปจากเมือง Z เขาก็เป็นลูกค้าประจำของที่นี่ด้วยเหมือนกัน
ถึงแม้ว่าตอนนี้สิ่งต่างๆ ที่นี่จะเปลี่ยนไป แต่สถานที่แห่งนี้ยังคงเหมือนเดิมและไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก จะมีก็แต่ผู้คนเท่านั้น
“ที่นี่เป็นสถานที่ที่ดี ซูหนานมักจะชอบมาที่นี่บ่อยๆ ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมาที่นี่ด้วยเหมือนกัน ไม่งั้นฉันก็คงจะชวนคุณมาเลี้ยงอาหารเย็นที่นี่แล้ว”
ซีเซี่ยเย่คลี่ยิ้มออกมา จากนั้นเธอก็หันไปเปิดม่านสีทองออก เพื่อมองออกไปชมทิวทัศน์สีสันสดใสด้านนอกหน้าต่าง และสายลมที่พัดเข้ามาก็ทำให้ม่านแกว่งไปมาเล็กน้อย
มู่หยูเฉินมองตามทิวทัศน์ที่เธอกำลังมอง แล้วพูดออกไปว่า “ผมไม่รังเกียจหรอกครับ ถ้าครั้งหน้าคุณจะเชิญผม”
ซีเซี่ยเย่รู้สึกตกตะลึงขึ้นมาทันที จากนั้นเธอก็หันไปจ้องมองที่เขา แต่สีหน้าของเขาก็ยังดูเฉยเมยและไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาเลยแม้แต่น้อย เธอจึงตอบกลับเขาไปด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ถ้าอย่างนั้นเรามานัดวันกันเถอะค่ะ ฉันยังไม่ได้จ่ายเงินค่าอาหารให้คุณเลย ดังนั้นให้ฉันเลี้ยงอาหารคุณสักมื้อเพื่อเป็นการ 'ขอบคุณ' นะคะ”
“ยาของคุณยังอยู่ในรถของผมนะครับ”
เมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของเธอ มู่หยู่เฉินก็คลี่ยิ้มออกมา จากนั้นเขาชี้ไปที่มือของเธอข้างที่มีผ้าพันแผลพันอยู่ “หมอบอกว่า ระวังอย่าให้มือของคุณโดนน้ำ หลังจากที่คุณกลับไปถึงบ้านคุณควรจะเปลี่ยนผ้าพันแผลนะครับ เดี๋ยวผมจะให้อาโม่ไปเอาถุงยามาให้”
จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดโทรไปบอกอาโม่ทันที และกดวางสายอย่างรวดเร็ว
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มันก็แค่แผลโดนลวกนิดหน่อย ไม่กี่วันก็คงจะดีขึ้นแล้ว”
ซีเซี่ยเย่รู้สึกขอบคุณสำหรับความเมตตาและความห่วงใยของเขามาก
ความจริงแล้ว ซีเซี่ยเย่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่มีคนมาเป็นห่วงเธอแบบนี้ เธอเคยชินกับการที่ไม่มีใครมาสนใจเธอ เนื่องจากตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้เธอขาดความสนใจจากคนอื่นมาโดยตลอด เพราะอย่างนั้นการแสดงน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ของเขามันจึงสัมผัสหัวใจของเธอได้ไม่ยาก
“อย่าฝืนตัวเองมากเกินไป คนเราต้องรู้จักรักตัวเองด้วยนะครับ”
มู่หยูเฉินคลี่ยิ้ม และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความใจดี แต่ถึงอย่างนั้น ซีเซี่ยเย่ก็ยังมองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆ
อาโม่รีบนำถุงยามาให้พวกเขาอย่างรวดเร็ว และเขาก็ต้องรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นซีเซี่ยเย่ยืนอยู่ข้างๆ มู่หยู่เฉิน เพราะอย่างนั้นเขาจึงกล่าวทักทายเธอออกไปด้วยน้ำเสียงสุภาพว่า “คุณซี! นึกไม่ถึงเลยนะครับว่าคุณจะอยู่ที่นี่ด้วย ผมก็กำลังนึกอยู่เลยว่าจะเอาถุงยาไปให้คุณยังไงดี!”
เป็นเรื่องที่ดีที่เขาได้มาเจอกับเธอที่นี่ เพราะเขาจะได้ไม่ต้องไปตามตัวเธอ หรือไม่ก็ต้องส่งไปรษณีย์ไปให้เธอที่บ้าน
"สวัสดีค่ะ!" ซีเซี่ยเย่กล่าวทักทายกลับไปด้วยน้ำเสียงสุภาพเช่นกัน
"คุณซี นี่ยาของคุณครับ” อาโม่ยื่นถุงยาส่งมาให้เธอ
ซีเซี่ยเย่ยื่นมือออกไปรับถุงยาจากเขา จากนั้นเธอก็กล่าวขอบคุณออกไป เธอหันไปมองที่มู่หยูเฉิน และรู้สึกลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “คุณรอฉันอยู่ตรงนี้แปปหนึ่งได้ไหมคะ? เดี๋ยวฉันจะกลับไปเอากระเป๋าเงินก่อน… ฉันลืมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้คุณเลย…”
มู่หยู่เฉินเดินเข้าไปขวางทางเธอด้วยร่างกายที่สูงใหญ่ของเขา จากนั้นเขาก็พูดออกไปด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ว่า “เอาเป็นว่าคุณเลี้ยงอาหารผมสักมื้อแล้วกัน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
เขาทิ้งคำพูดไว้เพียงเท่านั้นแล้วก็เดินจากไปทันที ซีเซี่ยเย่มองตามแผ่นหลังของเขาที่กำลังเดินจากไป
"คุณซี เจ้านายไม่ชอบให้คนพูดแบบนี้สักเท่าไหร่ คุณดูแลแผลของตัวเองด้วยนะครับ และก็ลาก่อนครับ!” อาโม่คลี่ยิ้มออกมา แล้วเขาก็รีบเดินตามมู่หยูเฉินไปทันที
ยังไม่ทันที่ซีเซี่ยเย่จะผลักประตูเปิดเข้าไป เธอก็ได้ยินคนด้านในเปิดประตูอกมาเสียก่อน และก็เป็นซูหนานที่เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
“เซี่ยเย่ เธอเป็นยังไงบ้าง?”
ซูหนานเดินตรงเข้ามาหาเธอ จากนั้นหล่อนก็จับไหล่ของซีเซียเย่เอาไว้และมองสำรวจไปทั่วร่างกายของเธอ
ซีเซี่ยเย่ส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธ "ฉันไม่เป็นไร นี่มันก็ดึกมากแล้ว เธอน่าจะเหนื่อย เรากลับกันเถอะ ฉันจะไปส่งเธอเอง”
“เซี่ยเย่…”
ซูหนานมองเลยไปที่ด้านหลังของซีเซี่ยเย่ และตอนที่หล่อนมองออกไป หล่อนก็เริ่มกังวลขึ้นมา จากนั้นหล่อนก็พูดออกไปว่า “เซี่ยเย่ เมื่อกี้เหมือนฉันจะเห็นพ่อของเธอ…”
หลังจากที่ซูหนานพูดจบ ร่างที่บอบบางของซีเซี่ยเย่ก็แข็งกระด้างขึ้นมาทันที
“พวกเขาอาจจะมาเลี้ยงต้อนรับที่สองคนนั้นกลับมาก็ได้ แล้วอีกอย่าง เลขาของพ่อเธอก็โทรมาบอกฉันว่า สัปดาห์หน้าเป็นวันเกิดของคุณปู่ของเธอ พวกเขาก็เลยอยากจะให้เธอกลับบ้าน เขารู้ว่าเธอคงจะไม่รับสาย นั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไม…”
ซูหนานเดินเข้าไปหาเธอ เมื่อเห็นว่าซีเซียเย่หยุดเดิน “ฉันกังวลมากจริงๆ ที่เห็นเธอเป็นแบบนี้”
“กังวลเรื่องอะไร?”
ซีเซี่ยเย่หันกลับไปมองหล่อนด้วยรอยยิ้ม ดวงตาของเธอไม่แยแสเลยสักนิดราวกับผิวน้ำที่สงบนิ่งอย่างไรอย่างนั้น “มีบางสิ่งบางอย่างที่คนเราจะต้องอดทนกับมัน และมันจะไม่เป็นไรหลังจากที่เราชาชินกับมันแล้ว”
"แต่…"
ซีเซี่ยเย่หมุนตัวกลับ และพูดออกไปว่า “ไปกันเถอะ นี่มันก็ดึกมากแล้ว”
และในขณะเดียวกัน ภายในห้อง Presidential Suite อันหรูหราของ Emperor 808
แสงสีเหลืองนวลผสมกับแสงสีฟ้าเย็นยะเยือกปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง อาหารและขนมขบเคี้ยวทุกชนิดถูกเสิร์ฟวางเอาไว้บนโต๊ะ ขวดไวน์ที่ว่างเปล่าถูกวางเกลื่อนกลาดเต็มพื้นไปหมด และมีหน้าจอขนาดใหญ่ตรงหน้าก็กำลังเล่นเพลงคาราโอเกะอยู่
ภายในห้องสูทแห่งนี้มีคนนั่งอยู่ทั้งหมดสี่คน ชาย 3 คน และผู้หญิงอีก 1 คน
ผู้หญิงคนนั้นสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกระโปรงสั้นสีดำอย่างเป็นทางการ หล่อนดูสวยและเรียบร้อยในขณะที่ป้ายที่ติดอยู่บริเวณหน้าอกของหล่อน ก็บอกได้เป็นอย่างดีเลยว่าหล่อนเป็นผู้จัดการของ Emperor Entertainment City
และตอนนี้หล่อนก็กำลังรับหน้าที่ดูแลชายที่เป็นบุคคลสำคัญทั้งสามคน
ที่โซฟาชายหนุ่นคนหนึ่งสวมชุดสูทสีเงินนั่งอยู่ เขาดูสุภาพและมีแสงเปล่งประกายออกมารอบตัวของเขา ทุกอย่างที่เขาทำดูเหมือนว่ามันประณีตและไร้ที่ติ ในเมือง Z แห่งนี้เขาเป็นหนึ่งในผู้ชายที่สาวๆ ต่างก็ใฝ่ฝันเอาไว้ว่าอยากจะได้มาเป็นคู่ครอง เขาเป็นผู้ครองด้านเทคโนโลยีอันดับต้น ๆ ในเมือง Z ชื่อของเขาก็คือโจวจือโม่ และผู้คนก็มักจะเรียกเขาว่าอาจารย์โจว
และคนที่นั่งตรงข้ามกับคุณโจว ก็เป็นผู้ชายที่หล่อเหลามากคนหนึ่ง เขาเป็นคนที่มีรูปร่างสูงโปร่ง และดูเข้าถึงง่าย แต่ดวงตาของเขากลับดูเฉียบคม เขาเป็นอาจารย์ซูที่ทุกคนในเมือง Z ต่างก็ให้ความเคารพ ซูเฉินเป็นรองหัวหน้าสำนักควบคุมการจราจร และเขาก็เป็นอัญมณีล้ำค่าของตระกูลซู และเขาจะอายุ 31 ปีในปีนี้ ซึ่งแก่กว่าอาจารย์โจวหนึ่งปี
ส่วนผู้ชายที่นั่งตรงกลาง คือชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งที่กำลังสวมสูททรงสลิมสีขาวพอดีตัว ดวงตาของเขาดูลึกลับราวกับมหาสมุทร อีกทั้งยังเปล่งประกายความเย็นชาออกมาท่ามกลางบรรยากาศที่มืดสลัว และด้วยริมฝีปากสีแดงเข้มและกิริยาท่าทางที่สง่างามของเขา มันจึงทำให้เขาดูเป็นคนถ่อมตน
เขาเป็นอาจารย์มู่ในตำนานของเมือง Z และก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นคนเยือกเย็น ร่ำรวย และมีเกียรติอย่างแท้จริง มีข่าวลือว่าเขาจบการศึกษาจากโรงเรียนธุรกิจการทหาร จากนั้นเขาก็เข้ารับราชการทหารอยู่หลายปี แต่หลังจากนั้นเขาก็กลับมารับช่วงต่อที่ Glory World Corporation เนื่องจากผู้อาวุโสของตระกูลมู่กำลังล้มป่วย และสุดท้ายเขาก็ได้ขยายบริษัทไปต่างประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
อาจารย์มู่เป็นคนเย็นชาและเป็นคนเก็บตัว นั่นจึงทำให้มีข่าวลือเกี่ยวกับเขาไม่มากนัก และก็ไม่ค่อยมีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาสักเท่าไหร่ ถ้าจะให้พูดตามตรง ข่าวที่เกี่ยวข้องกับตระกูลมู่นั้นหายากมากจริงๆ นอกจากเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนทั่วทั้งเมือง Z ตกตะลึงในตอนนั้นแล้ว ก็ไม่มีข่าวคราวใดๆ เกี่ยวกับตระกูลมู่อีกเลย