ตอนที่ 542 ข้ออ้าง
เขาอายุแค่นี้ แต่กลับเป็นผู้ถือหุ้นของ Prada Group แล้ว?
หาน หงหลิน ถอนหายใจด้วยความรู้สึกทึ่งในใจอย่างมาก
ดูเหมือนว่าเธอจะประเมิน เย่เฉิน คนนี้ต่ำไป เขาไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
อายุยังน้อยแต่ก็เป็นผู้ถือหุ้นของ Prada Group แล้ว นับว่าเก่งมาก
แน่นอนว่าด้วยสถานะของเธอ และตำแหน่งในมหานครเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ ผู้ถือหุ้นของ Prada Group แม้จะไม่ธรรมดา แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นทำให้เธอตกใจได้
หาน หงหลิน ที่มอง เย่เฉิน ตัดสินใจพักความคิดที่จะใช้เงินก้อนใหญ่ เพื่อซื้อคฤหาสน์จาก เย่เฉิน ออกไปชั่วคราว และตั้งใจจะเริ่มจากการทำความเข้าใจความสามารถของ เย่เฉิน ก่อน
“ท่านประธานคะ ในเมื่อท่านมีแขกอยู่ งั้นพวกเราคุยกันคราวหน้าเถอะค่ะ”
ไป๋ ฮันเยียน กล่าวขึ้นเอง
แต่เพียงแค่วางสายไป ไป๋ ฮันเยียน ก็คิดขึ้นได้ว่ามีเรื่องหนึ่งที่เธอตั้งใจจะบอกท่านประธาน แต่กลับลืมไปเสียได้
ช่างเถอะ ไว้ค่อยบอกวันหลังก็แล้วกัน
อีกฝั่ง หลังจากคุยกับ ไป๋ ฮันเยียน เสร็จ เย่เฉิน ก็กลับมานั่งลงบนโซฟา
ขณะที่ หาน หงหลิน กำลังคิดว่าจะเริ่มพูดอย่างไร เจ้าของคฤหาสน์ หมายเลข 13 ที่อยู่ข้างๆ เธอก็ลุกขึ้นยืน
หาน หงหลิน ที่กำลังงุนงงมองดูเจ้าของคฤหาสน์คนนั้นเดินไปที่ภาพวาดบนผนังในห้องนั่งเล่น
เมื่อมองดูภาพวาดตรงหน้า เจ้าของคฤหาสน์พลันเผยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อออกมา
“มัน...มัน...มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
เธอจ้องมองภาพวาดบนผนังนั้นแทบไม่กะพริบตา และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
เธอแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเองเลย..
ในฐานะจิตรกรที่มีประสบการณ์ ตั้งแต่เด็กเธอเรียนรู้การวาดภาพ และรู้จักผลงานระดับโลกทุกชิ้นเป็นอย่างดี
เมื่อครู่เธอบังเอิญสังเกตเห็นภาพวาด ‘Boy with a Pipe’ และตกตะลึงในทันที
“มีอะไรหรือ?”
หาน หงหลิน มองท่าทีแปลกๆ ของเจ้าของคฤหาสน์ อย่างไม่เข้าใจจึงถามอย่างสงสัย
“ขอถามหน่อยค่ะว่า ภาพวาด ‘Boy with a Pipe’ นี้เป็นของจริงหรือเปล่าคะ?”
เจ้าของคฤหาสน์ถาม เย่เฉิน อย่างคาดหวัง
“เป็นของจริงครับ”
เย่เฉิน พยักหน้า
“ของจริง จริงๆ ด้วย”
เจ้าของคฤหาสน์รู้สึกตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
หาน หงหลิน ที่มองสีหน้าเพื่อนที่ไม่อาจปกปิดความตื่นเต้นได้มิดก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปหา
“เป็นอะไรหรือ?”
หาน หงหลิน ถามเสียงเบาๆ
“คุณหาน ภาพนี้เป็นของจริง น่าเหลือเชื่อมาก”
เจ้าของคฤหาสน์ กลืนน้ำลายก่อนจะพูดขึ้นอย่างชื่นชม
“แล้วมันสำคัญยังไงล่ะ?”
“คุณหาน ภาพวาดชิ้นนี้เป็นผลงานของ ปิกัสโซ ซึ่งในงานประมูลระดับนานาชาติของ Sotheby’s ในปี 2004 ภาพนี้ถูกซื้อไปในราคากว่า 600 ล้าน โดยผู้ซื้อปริศนา และหลังจากนั้นมันก็หายไป”
“ไม่คิดเลยว่าหลายปีผ่านไป มันกลับมาโผล่ที่นี่”
เจ้าของคฤหาสน์ อธิบาย
“อะไรนะ? มันมีมูลค่ากว่า 600 ล้านตั้งแต่ปี 2004 เหรอ?”
หาน หงหลิน อาจไม่ค่อยมีความรู้เรื่องศิลปะมากนัก แต่ในฐานะมหาเศรษฐี เธอจึงอ่อนไหวต่อราคามากเป็นพิเศษ
ภาพวาดนี้มีมูลค่ากว่า 600 ล้านตั้งแต่สิบกว่าปีก่อนแล้ว..
ตอนนี้เวลาผ่านไปขนาดนี้ มันจะมีมูลค่าเท่าไหร่กัน?
เงินสดในมือของเธอทั้งหมด อาจไม่เพียงพอที่จะซื้อภาพวาดเพียงภาพเดียวที่อยู่ในคฤหาสน์ของคนอื่น ..ได้เลย
พอคิดถึงเรื่องนี้ หาน หงหลิน ก็รู้สึกว้าวุ่นใจ
“อ๊ะ คุณเย่ ภาพวาด ‘Vase with Twelve Sunflowers’ นี้จะเป็นของจริงด้วยหรือเปล่าคะ?”
สายตาของเจ้าของคฤหาสน์ หมายเลข 13 จับจ้องไปที่ภาพวาดอีกภาพหนึ่ง ก่อนจะแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม
เจ้าของคฤหาสน์มองดูภาพนั้นอย่างละเอียด แล้วในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น
ภาพวาด ‘Vase with Twelve Sunflowers’ นี้เป็นผลงานที่มีชื่อเสียงในระดับโลก มากกว่าภาพ ‘Boy with a Pipe’ เสียอีก
ซึ่งมันเป็นผลงานของศิลปินชื่อดังระดับโลกอย่าง วินเซ็นต์ ฟาน ก๊อก (Vincent Van Gogh) หรือวิเซนต์ แวนโก๊ะ!
‘Boy with a Pipe’ ถูกขายในการประมูล และอยู่ในมือของผู้ซื้อโดยส่วนตัว
และเธอจำได้ชัดเจนว่าภาพวาด ‘Vase with Twelve Sunflowers’ นี้เคยอยู่ในพิพิธภัณฑ์ชื่อดังแห่งหนึ่งในต่างประเทศ
แล้วทำไมตอนนี้มันถึงมาอยู่ในบ้านของ คุณเย่ คนนี้ล่ะ?
หาน หงหลิน รู้สึกไม่เข้าใจอย่างมาก
“ภาพนี้เหรอ? มันไม่ใช่ของจริงหรอกครับ มันเป็นภาพที่ผมวาดเลียนแบบเล่นๆ ตอนเบื่อน่ะ”
เย่เฉิน ส่ายหน้า
“อะไรนะ? ภาพวาด ‘Vase with Twelve Sunflowers’ นี้ คุณเย่ วาดเองเหรอคะ?”
น้ำเสียงของเจ้าของคฤหาสน์ดังขึ้นหลายระดับ
คำตอบของ เย่เฉิน นี้ทำให้เธอตกใจยิ่งกว่าการบอกว่ามันเป็นของจริงเสียอีก
ในฐานะจิตรกรที่มีประสบการณ์ ฝีมือการประเมินผลงานของเธอนั้นสูงมาก เธอได้ตรวจสอบภาพนี้อย่างละเอียดแล้วก่อนหน้านี้ เธอรู้สึกว่ามันมีคุณภาพสูงมากจนแทบจะแยกไม่ออกจากของจริง
ปัจจุบันมีคนที่สามารถวาดได้ในระดับนี้อยู่เพียงไม่กี่คนในโลก
ดังนั้นเธอจึงถาม เย่เฉิน ว่าภาพนี้เป็นของจริงหรือไม่
แต่คำตอบของ เย่เฉิน คือ.. มันเป็นเพียงแค่ภาพที่เขาวาดเล่นๆ เท่านั้น
โอ้โห ระดับฝีมือการวาดภาพของ คุณเย่ สูงขนาดนี้เลยเหรอ?
เจ้าของคฤหาสน์เบิกตากว้างอีกครั้ง มองภาพ ‘Vase with Twelve Sunflowers’ อีกรอบ และสุดท้ายเธอก็เชื่อว่านี่เป็นภาพวาดเลียนแบบจริงๆ
แม้ว่าฝีมือการวาด ‘Vase with Twelve Sunflowers’ นี้จะสูงมาก แต่มันก็ขาดความเก่าแก่ และความเสื่อมสภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของภาพวาดต้นฉบับ ซึ่งสิ่งนี้ไม่เกี่ยวกับระดับฝีมือวาดแล้ว
“ฝีมือของ คุณเย่ น่าประทับใจจริงๆ คะ”
เจ้าของคฤหาสน์กล่าวชื่นชม เย่เฉิน อย่างลึกซึ้ง
ด้านข้าง หาน หงหลิน ก็เลิกคิดที่จะใช้เงินฟาด เย่เฉิน ไปโดยสิ้นเชิง
ด้วยเงินที่เธอมี อาจไม่พอแม้แต่จะซื้อภาพวาดหนึ่งภาพของเขา แล้วจะซื้อคฤหาสน์ของเขาได้อย่างไร?
นี่มันไม่ใช่ว่าฝันกลางวันหรือไร?
ดูเหมือนว่า เย่เฉิน คนนี้ที่ได้คฤหาสน์ หมายเลข 6 มา ไม่ใช่แค่เพราะโชคช่วยอย่างเดียวแน่ๆ
เธอคงไม่หาเรื่องทำให้ตัวเองต้องอับอายอีกแล้ว
หาน หงหลิน ส่งสายตาให้เจ้าของคฤหาสน์ โดยบอกเป็นนัยๆ ว่าได้เวลาไปแล้ว
ปิ๊งปิ๊งปิ๊ง~ ป่อง~
ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้นอีกครั้ง
เย่เฉิน เดินออกไปก็พบว่ามีเด็กผู้หญิงตัวน้อยยืนอยู่ที่หน้าประตู
เด็กผู้หญิงตัวน้อยคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น ซินซิน หลานสาวของ คุณปู่โจว บ้านข้างๆ ผู้ซึ่งเคยเข้าใจผิดว่า เย่เฉิน เป็นขโมยตอนที่เขามาที่คฤหาสน์หลังนี้เป็นครั้งแรก
“ซินซิน มีอะไรเหรอ?”
“พี่ชาย คุณปู่ของหนูให้มาชวนพี่ไปดื่มชาที่บ้านค่ะ”
“ได้”
เย่เฉิน ยิ้มพยักหน้าตอบรับ
“ถ้าอย่างนั้น ซินซิน กลับไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ตามไป”
เมื่อเห็นว่า เย่เฉิน ตอบตกลงแล้ว เด็กผู้หญิงตัวน้อยก็รีบวิ่งกลับไปอย่างร่าเริง
“คุณเย่ มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”
หาน หงหลิน ที่เตรียมจะกลับพอดีลุกขึ้นพลางเอ่ยถามเขา
“ไม่มีอะไรครับ แค่ คุณปู่โจว ข้างบ้านชวนผมไปดื่มน้ำชา”
เย่เฉิน อธิบาย
“งั้นเราคงไม่รบกวนคุณแล้วค่ะ”
หาน หงหลิน ไม่ได้สังเกตอะไรผิดปกติ แต่เจ้าของคฤหาสน์ หมายเลข 13 ที่อยู่ข้างๆ กลับมีสีหน้าเปลี่ยนไป
อย่างไรก็ตาม ในบ้านของ เย่เฉิน เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ลุกขึ้นยืน และออกจากคฤหาสน์ของ เย่เฉิน ไปพร้อมกับ หาน หงหลิน
หลังจากที่มองทั้งสองคนออกไป เย่เฉิน ก็ปิดประตูคฤหาสน์ และมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์ หมายเลข 5 ที่อยู่ข้างๆ
ระหว่างทางกลับบ้าน เจ้าของคฤหาสน์ หมายเลข 13 หันไปพูดกับ หาน หงหลิน ด้วยน้ำเสียงเป็นนัยๆ ว่า :
“คุณหาน คุณรู้ไหมว่าคนที่อาศัยอยู่ข้างคฤหาสน์ หมายเลข 6 เป็นใคร?”
“ใครล่ะ?”
หาน หงหลิน ถามกลับอย่างไม่ใส่ใจ
“คุณหาน ลองนึกถึงคำพูดของ คุณเย่ เมื่อครู่นี้ดีๆ สิค่ะ”
“คำพูดเมื่อกี้เหรอ?”
“คุณปู่โจว ข้างบ้าน...เดี๋ยวนะ คุณปู่โจว?!”
หาน หงหลิน พึมพำเบาๆ และตกใจจนตัวสั่น
“คุณกำลังหมายถึงว่าคนที่อยู่ข้างบ้านคือ...ท่านผู้เฒ่าโจว คนนั้น?!!!”
หาน หงหลิน ตัวสั่นด้วยความตกใจจนเสียงสั่นเทาไปหมด เธอพลันถามย้ำอีกครั้ง
ท่านผู้เฒ่าโจวคนนั้นถือเป็นบุคคลสำคัญอย่างแท้จริง!
ก่อนหน้านี้เธอได้ยินแค่ข่าวว่า ท่านผู้เฒ่าโจว ก็อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ ถานกง เหมือนกัน แต่เธอไม่รู้ว่าท่านอยู่ที่คฤหาสน์หลังไหนโดยเฉพาะ
“ใช่ค่ะ”
เจ้าของคฤหาสน์พยักหน้า
“เป็นท่านผู้เฒ่าโจวจริงๆ เหรอ?”
“ท่านผู้เฒ่าโจวเชิญ คุณเย่ ไปดื่มชา?”
หาน หงหลิน ตกใจจนแข้งขาแข็งไปหมดแล้ว
บุคคลสำคัญอย่าง ท่านผู้เฒ่าโจว ต่อให้เธอถือของขวัญล้ำค่าไปเยี่ยมเยียน บุคคลระดับนั้นอาจไม่ยอมออกมาพบเธอด้วยซ้ำ
แต่ คุณเย่ กลับถูก ท่านผู้เฒ่าโจว เชิญไปดื่มชาด้วยตนเอง!
ช่องว่างระหว่างพวกเขาไม่ใช่เล็กๆ เลย…
คุณเย่ คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ และเหนือกว่าที่เธอคาดการณ์ไว้มาก!
ในขณะนี้ เธอรู้สึกโล่งใจอย่างมากที่เมื่อครู่ไม่ได้ใช้เงินฟาดเขาไป ไม่อย่างนั้น.. เธอคงจะกลายเป็นตัวตลกของทั้งเมืองเซี่ยงไฮ้ไปแล้ว!
อีกด้านหนึ่ง วันนี้ที่ คุณปู่โจว เชิญ เย่เฉิน มาดื่มชา มันก็แค่ข้ออ้างเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วเขามีเรื่องสำคัญที่จะพูดคุยกับ เย่เฉิน…