ตอนที่ 235 การจำลองการต่อสู้จริงเริ่มต้นขึ้น! (ฟรี)
ตอนที่ 235 การจำลองการต่อสู้จริงเริ่มต้นขึ้น!
ตอนที่ผู้คุมสอบรู้ระดับของไป๋จื่ออัน พวกเขาก็ตกตะลึง
ยังไงซะ นี่ก็คือระดับเงิน
ถึงแม้ว่าคู่ต่อสู้ที่ไป๋จื่ออันเคยเจอจะเป็นคนที่แข็งแกร่ง
ไป๋จื่อห่าวกับไป๋จื่อหนิงเป็นถึงผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับทองคำ
แต่สำหรับนักเรียนทั่วไปแล้ว ระดับเงินเป็นระดับที่สูงส่งมาก
ในการสอบปีที่แล้วๆ มา แทบจะไม่มีผู้เข้าสอบระดับเงินปรากฏตัวขึ้นในการสอบของเมืองไป๋หลิน
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ไม่ใช่ระดับเงินธรรมดาๆ แต่มันคือระดับเงินขั้นสูง มันห่างจากระดับทองคำแค่ก้าวเดียวเท่านั้น
ดังนั้นผู้คุมสอบจึงตกตะลึง
พูดได้เลยว่าตอนนี้ไป๋จื่ออันเป็นหนึ่งในนักเรียนระดับท็อปของการสอบในมิติลับหมื่นรังไหม
ถ้าดูจากระดับแล้ว ไป๋จื่ออันอย่างน้อยๆ ก็ต้องติดอันดับท็อปสิบ
ไป๋จื่ออันยิ้ม เขาไม่ได้พูดอะไรมากมาย
เพราะเป้าหมายของไป๋จื่ออันนั้นยิ่งใหญ่มาก
เขาไม่ได้คิดที่จะเปรียบเทียบกับผู้เข้าสอบจากโลกต้นกำเนิด แต่เขาอยากจะแข่งขันกับผู้เข้าสอบจากสหพันธ์จิ่วโจว นี่คือเป้าหมายของไป๋จื่ออัน
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงไม่พูดอะไรมากมาย เขาก็ลงทะเบียนตามขั้นตอน
หลังจากที่ลงทะเบียนเสร็จ ไป๋จื่ออันก็ออกจากห้องประเมิน เขาก็เดินไปยังที่นั่งของตัวเอง
“การประเมินระดับเสร็จสิ้นแล้ว เหลือแค่การจำลองการต่อสู้จริง”
ไป๋จื่ออันพึมพำในใจ เขามองภาพฉายของหอคอยเทพสงครามที่ลอยอยู่กลางอากาศ
รู้มั้ยว่าภาพฉายของหอคอยเทพสงครามถูกฉายไปทั่วทั้งสหพันธ์จิ่วโจว
นั่นหมายความว่าการจำลองการต่อสู้ในครั้งนี้ ไป๋จื่ออันจะต้องแข่งขันกับผู้เข้าสอบจากทั่วทั้งสหพันธ์จิ่วโจว
ไป๋จื่ออันรู้สึกสนใจเรื่องนี้มาก
เขาอยากรู้ว่าตัวเองจะสามารถเทียบกับอัจฉริยะของสหพันธ์จิ่วโจวได้รึเปล่า
ผลลัพธ์ของการจำลองการต่อสู้จริงจะมอบคำตอบให้กับไป๋จื่ออัน
นี่คือความคิดของไป๋จื่ออัน
เมื่อคิดได้แบบนั้น ไป๋จื่ออันก็หลับตาลง เขารอคอยการเริ่มต้นของการจำลองการต่อสู้จริง
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
ไม่นานก็ถึงเวลาที่การจำลองการต่อสู้จริงจะเริ่มต้นขึ้น
เสียงฝีเท้าดังขึ้น
ชายชราผมขาวหนวดเคราขาวปรากฏตัวขึ้นเหนือหอปลุกพลัง
เขาคืออู๋ซิงหาน ผู้รับผิดชอบหอปลุกพลังของเมืองไป๋หลิน
ตอนนี้อู๋ซิงหานมีสีหน้าที่เคร่งเครียด
“เงียบ! ฉันคืออู๋ซิงหาน ผู้รับผิดชอบหอปลุกพลัง”
“เหลือเวลาอีกสิบนาทีก่อนที่หอคอยจำลองการต่อสู้จะเริ่มต้นขึ้น”
“ฉันจะอธิบายให้ฟัง”
“หอคอยจำลองการต่อสู้เป็นสมบัติของสหพันธ์จิ่วโจว มันมีความสามารถในการจำลองการต่อสู้”
“หลังจากที่หอคอยจำลองการต่อสู้เปิดออก พวกเธอต้องใช้พลังควบคุมสัตว์ เชื่อมต่อกับหอคอยจำลองการต่อสู้ เข้าไปข้างใน”
“ส่วนร่างกายของพวกเธอนั้น ไม่ต้องกังวล หอปลุกพลังจะรับผิดชอบความปลอดภัยให้”
“หอคอยจำลองการต่อสู้มีทั้งหมด 100 ชั้น แต่ละชั้นจะให้ 1 คะแนน รวมเป็น 100 คะแนน”
“ในหอคอยจำลองการต่อสู้ พวกเธอสามารถใช้ได้แค่พรสวรรค์ควบคุมสัตว์กับสัตว์วิญญาณที่ทำสัญญากับพวกเธอเท่านั้น”
“สิ่งของอื่นๆ จะไม่ปรากฏขึ้นในหอคอยจำลองการต่อสู้”
“อย่าคิดที่จะหาช่องโหว่ของหอคอยจำลองการต่อสู้ โกงในการสอบ”
“ฉันรับประกันได้ว่าพวกเธอไม่มีทางทำแบบนั้นได้ เว้นแต่ว่าพวกเธอจะมีพลังระดับราชันย์”
“แน่นอนว่าถ้าพวกเธอมีพลังระดับราชันย์ พวกเธอก็คงจะถูกมหาวิทยาลัยทั้งหลายเชิญตัวไปแล้ว พวกเธอคงจะไม่ปรากฏตัวที่นี่”
“ใช้พรสวรรค์และสัตว์วิญญาณของพวกเธอผ่านการทดสอบ ทำให้ได้คะแนนที่ดีที่สุด สอบเข้ามหาวิทยาลัยที่พวกเธอต้องการ นี่แหละคือสิ่งที่พวกเธอต้องทำ”
“เอาล่ะ ขอให้พวกเธอโชคดี”
คำอธิบายของอู๋ซิงหานทำให้ผู้เข้าสอบทุกคนเข้าใจการทดสอบไต่หอคอย
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ สิบนาทีผ่านไป
ตอนที่อู๋ซิงหานพูดจบ ภาพฉายของหอคอยเทพสงครามที่ลอยอยู่กลางอากาศก็เปล่งประกายเจิดจ้า
นี่คือสัญญาณที่ผู้แข็งแกร่งของสหพันธ์จิ่วโจวใช้ในการเปิดใช้งานหอคอยจำลองการต่อสู้
การสอบส่วนที่สาม การจำลองการต่อสู้จริง เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ผู้เข้าสอบทุกคนไม่กล้าชักช้า พวกเขารีบใช้พลังควบคุมสัตว์
ตอนนี้ผู้เข้าสอบทุกคนดูเหมือนจะมีความเกี่ยวข้องกับภาพฉายของหอคอยจำลองการต่อสู้
ระหว่างคิ้วของพวกเขาปรากฏกลุ่มแสงสีขาวขึ้น จากนั้นมันก็ลอยขึ้นไปบนฟ้า เข้าไปในภาพฉายของหอคอยจำลองการต่อสู้
ไป๋จื่ออันรู้สึกประหลาดใจกับภาพตรงหน้า
วิธีการแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปทำได้
แต่ไป๋จื่ออันก็ไม่ได้คิดจะปล่อยเวลาไปเฉยๆ
หลังจากที่เข้าใจการทำงานของหอคอยจำลองการต่อสู้แล้ว ไป๋จื่ออันก็เบาใจ เขาจึงเริ่มใช้พลังสัตว์วิญญาณ
ตอนนี้ไป๋จื่ออันรู้สึกได้ว่าพลังสัตว์วิญญาณของเขากำลังเชื่อมต่อกับภาพฉายของหอคอยจำลองการต่อสู้
วินาทีต่อมา แสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าไป๋จื่ออัน
พอรอให้การมองเห็นของไป๋จื่ออันกลับมาเป็นปกติ
ไป๋จื่ออันก็พบว่าตัวเองปรากฏตัวขึ้นบนที่ราบ
รอบๆ ตัวเขามีดอกไม้ต้นไม้ มันดูเหมือนจริงมาก
“นี่คือการจำลองงั้นเหรอ? มันดูเหมือนจริงมาก”
ไป๋จื่ออันรู้สึกประหลาดใจ เขามองสภาพแวดล้อมรอบๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ไป๋จื่ออันยังค้นพบอะไรบางอย่าง
บนพื้นดินตรงหน้าเขามีเส้นสีขาวอยู่
ฝั่งตรงข้ามของเส้นสีขาว มีสัตว์วิญญาณที่ดูเหมือนกับหมูป่าอยู่ตัวหนึ่ง
ดูจากออร่าแล้ว มันน่าจะเป็นสัตว์วิญญาณระดับเหล็กดำขั้นต้น
นี่น่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของชั้นแรก
ตราบใดที่เอาชนะสัตว์วิญญาณหมูป่าตัวนี้ได้ เขาก็จะสามารถผ่านด่านแรกได้
แต่ตอนนี้ไป๋จื่ออันยืนอยู่ตรงหน้ามัน สัตว์วิญญาณหมูป่ากลับไม่สนใจเขา มันไม่ได้โจมตีไป๋จื่ออัน
ไป๋จื่ออันมีสีหน้าเรียบเฉย เขารู้อยู่แล้วว่า
ไป๋จื่ออันเคยศึกษาเรื่องการสอบมาก่อน
ดังนั้นเขาจึงรู้ดี
ตราบใดที่เขาก้าวข้ามเส้นสีขาว เส้นสีขาวก็จะหายไป การประเมินก็จะเริ่มต้นขึ้น
ตอนนั้นสัตว์วิญญาณหมูป่าจะเข้ามาโจมตีเขา
พูดง่ายๆ ก็คือ ก่อนที่เขาจะก้าวข้ามเส้นสีขาว เขาจะอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
ไป๋จื่ออันไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขาพยายามเปิดมิติสัตว์วิญญาณ เพื่อที่จะดูว่าเขาสามารถเรียกสัตว์วิญญาณออกมาได้รึเปล่า
ฟิ้ว!
เสียงร้องดังขึ้น นกสีทองที่ดูเหมือนกับเปลวเพลิงก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ ไป๋จื่ออัน
มันคืออีกาสริุยะปีกเพลิงประกายทอง
“การเรียกสัตว์วิญญาณเป็นปกติดี แล้วพรสวรรค์ควบคุมสัตว์ล่ะ?”
ไป๋จื่ออันพึมพำ
พอเข้ามาในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย เขาก็ต้องตรวจสอบก่อนว่าพลังต่างๆ ของเขาใช้งานได้รึเปล่า
การที่ยืนยันเรื่องพวกนี้ จะทำให้เขามั่นใจในความปลอดภัยของตัวเอง
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงไม่ได้สนใจสถานการณ์ของหอคอยจำลองการต่อสู้ที่เขาศึกษา เขาพยายามใช้ความสามารถของตัวเอง
ไม่นาน ไป๋จื่ออันก็มั่นใจว่าพรสวรรค์ของเขาใช้งานได้
ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่พรสวรรค์สามอย่างที่ [โซ่ตรวนแห่งสวรรค์] แชร์มา เขาก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ
“การเรียกสัตว์วิญญาณกับการใช้พรสวรรค์ควบคุมสัตว์ไม่มีปัญหา”
“แบบนี้ฉันก็เบาใจได้”
ไป๋จื่ออันพึมพำ
หลังจากที่ยืนยันว่าพลังของเขาไม่มีปัญหา ไป๋จื่ออันก็เบาใจ
แบบนี้ไป๋จื่ออันก็สามารถแสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่แล้ว