ตอนที่แล้วบทที่ 57 ชี้แนะคนรุ่นเยาว์ของตระกูล - บทที่ 58 คนรุ่นก่อนก็มาขอคำแนะนำ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 59 ดูสิว่ามันจะทำอะไรได้ - บทที่ 60 หน้าไหม้เกรียม!

เหมือนตอนนที่ 51 - 52 จะมีปัญหานะครับ ใครดูไม่ได้ให้มาดูตรงนี้


บางคนอ่านบทที่ 51 - 52 ได้ บางคนไม่ไม่ได้ ผู้แปลเลยขอปล่อยตอนฟรี ตรงนี้นะคะ

บทที่ 51  พวกตระกูลหลินล้วนเป็นขยะ!

“อะไรนะ?”

ได้ยินเสียงนี้  หลินจ้าน  และผู้อาวุโสตระกูลหลิน  ต่างก็ลุกขึ้นยืน

“ไป!”

หลินจ้านตบโต๊ะ  มีสีหน้าเย็นชา  พูดว่า “ข้าจะไปดูเมืองชิงหลาง  พวกมันต้องการทำอะไร!”

พูดจบ  หลินจ้านก็เดินออกไปก่อน  ส่วนผู้อาวุโสตระกูลหลิน  ต่างก็มีจิตสังหาร  เดินตามไป

ในพริบตา  หลินจ้านและคนอื่นๆ  ก็พาผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหลิน  มาถึงหน้าประตูเมืองหลิงสือ

หน้าประตูเมืองหลิงสือ  มีผู้ฝึกยุทธ์กลุ่มหนึ่งขี่หมาป่าสีเขียว  ร่างกายเต็มไปด้วยรอยสัก  แม้แต่บนใบหน้าก็ยังมีรอยสัก  ดูดุร้ายและน่ากลัวมาก  แค่กวาดตามอง  ก็มีหลายร้อยคน

ในบรรดาคนหลายร้อยคนนี้  คนที่อ่อนแอที่สุด  ก็มีขอบเขตเสียนเทียน  ส่วนคนที่แข็งแกร่งที่สุด  คือผู้นำ  เขามีขอบเขตหลุนไห่ขั้นต้น!

เมืองชิงหลาง  เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งมากในระยะหลายพันลี้  หลังจากข่าวที่ว่ามีหินศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถ "คาย"  หินวิญญาณขั้นต้นออกมา  เมืองชิงหลาง  ก็ได้เป็นกองกำลังที่กระโดดโลดเต้นมากที่สุด

“หลินจ้าน!”

ชายวัยกลางคนที่เป็นผู้นำ  คือหลางเถิง  ผู้นำของเมืองชิงหลาง  เขามองหลินจ้าน  มีรอยยิ้มที่น่ากลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่น่าเกลียด  พูดด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว  “สมบัติล้ำค่า  ย่อมเป็นของผู้แข็งแกร่ง  หินศักดิ์สิทธิ์  ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลหลินเล็กๆ อย่างเจ้าจะปกป้องได้!  ถ้าเจ้ารู้จักประมาณตน  ก็รีบส่งหินศักดิ์สิทธิ์มา  มิฉะนั้น  วันนี้  ข้าจะทำให้ตระกูลหลินของเจ้า  นองเลือด  ไม่เหลือแม้แต่ไก่หมา!”

“เรื่องตลก!”

หลินจ้านไม่กลัวการกดขี่ของหลางเถิง  หัวเราะอย่างเย็นชา  พูดว่า “ตระกูลหลินของข้า  ไม่ใช่คนที่ใครจะรังแกได้ง่ายๆ  ถ้าเมืองชิงหลางของพวกเจ้าอยากจะกัดตระกูลหลินของข้า  ระวังฟันจะหัก!”

“งั้นเหรอ?”

ด้านหลังหลางเถิง  ชายหนุ่มร่างสูงกำยำ  มีใบหน้าดุร้ายและน่าเกลียด  จู่ๆ ก็ขี่หมาป่าสีเขียวออกมา  หัวเราะเสียงดัง  “ข้า  หลางเปิ่น  อยากจะดู  ว่าตระกูลหลินของพวกเจ้ามีความสามารถอะไร?  ข้าว่าแบบนี้ดีกว่า  พวกเจ้าตระกูลหลิน  ถ้ามีใครสามารถเอาชนะข้าได้  คนของเมืองชิงหลาง  จะถอยทัพทันที!”

“เด็กน้อย  ช่างบังอาจ!”

ได้ยินคำพูดของหลางเปิ่น  ผู้อาวุโสตระกูลหลินก็โกรธ  ในบรรดาเหล่านี้  ผู้อาวุโสในชุดแดง  คำราม  พุ่งเข้าใส่ก่อน  ตะโกน  “ไอ้หนู  ข้าจะสังหารเจ้า!  ฝ่ามือเพลิง!”

ตูม!

พลังของผู้อาวุโสชุดแดง  มาถึงขอบเขตเจินหยวนขั้นปลาย  เมื่อเขาตบฝ่ามือออกไป  ปราณหยวนเพลิง  ก็รวมตัวกันบนฝ่ามือของเขา  พุ่งเข้าใส่หลางเปิ่นอย่างรวดเร็ว

“ตาแก่  เจ้าอ่อนแอเกินไป  ตายเสียเถอะ!”

เห็นฉากนี้  หลางเปิ่นก็หัวเราะอย่างเย็นชา  ต่อยออกไปอย่างไม่ใส่ใจ

ตูม!

หมัดนี้มีพลังที่น่ากลัวมาก  พุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว  ทำลายการโจมตีของผู้อาวุโสชุดแดงในพริบตา  จากนั้น  ก็โจมตีร่างกายของผู้อาวุโสชุดแดง!

“อ๊าก!”

ผู้อาวุโสชุดแดงร้องเสียงหลง  มีรูขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนท้องของเขา  จากนั้นก็กระเด็นออกไป  ถูกสังหารทันที!

“อะไร?”

เห็นฉากนี้  ผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหลิน  ต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป

ผู้อาวุโสชุดแดง  เขาอยู่ขอบเขตเจินหยวนขั้นปลาย  ถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งในตระกูลหลิน  แต่กลับรับมือกับหมัดของหลางเปิ่นไม่ได้  ถูกสังหารทันที!

“หลางเปิ่น!”

หลินจ้านทวนชื่อนี้  ราวกับนึกอะไรบางอย่างออก  สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป  พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ  “หรือว่าเจ้าจะเป็นหลางเปิ่น  คนที่เข้าเรียนในสถาบันเสวียนชิง?”(สถาบันครามทมิฬ)

แคว้นว่านหลิง มีกองกำลังมากมายนับไม่ถ้วน  แต่กองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุด  มีเพียงห้ากองกำลังเท่านั้น

กองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุด  แน่นอนว่าคือสำนักว่านหลิง  รองลงมา  คือหุบเขาเสวียนเจี้ยนที่หลินอวี่อยู่  ส่วนกองกำลังที่เหลืออีกสามกองกำลัง  มีพลังใกล้เคียงกัน  คือสถาบันเสวียนชิง  นิกายหลิงเป่า(สมบัติวิญญาณ)  ถ้ำสวรรค์สุ่ยเยว่(เงาสะท้อนจันทรา)

ได้ยินมาว่า  หลางเปิ่น  บุตรชายของผู้นำเมืองชิงหลาง  เข้าเรียนในสถาบันเสวียนชิงเมื่อสิบปีก่อน  แถมยังพัฒนาได้ดี  กลายเป็นศิษย์สายในของสถาบันเสวียนชิง  ดูเหมือนว่า  จะเป็นคนตรงหน้า!

“ถูกต้อง!”

หลางเปิ่นยิ้มอย่างภาคภูมิใจ  รอยสักบนใบหน้าของเขาขยับตามรอยยิ้ม  พูดว่า “ข้าได้ยินมาว่า  ตระกูลหลินของพวกเจ้าก็มีคนเข้าสำนักหุบเขาเสวียนเจี้ยน  แต่ผ่านไปนานแล้ว  กลับไม่มีข่าวคราวอะไร  ดูเหมือนว่าจะเป็นแค่ขยะ!  เหมือนกับตระกูลหลินของพวกเจ้า  ไม่ว่าจะเป็นใคร  ล้วนเป็นขยะ!”

“บังอาจ!”

“รนหาที่ตาย!”

ได้ยินแบบนี้  คนของตระกูลหลินก็โกรธจัด  ทันใดนั้น  ก็มีผู้อาวุโสในชุดดำ  และผู้อาวุโสในชุดขาว  พุ่งเข้าใส่พร้อมกัน  ต่อยใส่หลางเปิ่น!

ตูม!

ผู้อาวุโสชุดดำชุดขาว  ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเจินหยวนขั้นสูงสุด  เมื่อพวกเขาร่วมมือกัน  พลังย่อมแข็งแกร่งมาก  หมัดสองหมัด  มีพลังที่น่ากลัวมาก

“ขยะก็คือขยะ!  ต่อให้ร่วมมือกัน  ก็ยังคงเป็นขยะ!”

อย่างไรก็ตาม  บนใบหน้าของหลางเปิ่น  กลับมีรอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้น  เขานำถุงมือออกมา  สวมใส่บนหมัด  จากนั้นก็ต่อยออกไปอย่างแรง  “ไปตายซะ!”

ตูม!

ผู้อาวุโสชุดดำชุดขาวต่างก็กระอักเลือดออกมา  ร่างกายกระเด็นออกไป  แค่หมัดเดียว  ผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเจินหยวนขั้นสูงสุดสองคน  ก็ถูกสังหาร!

“เป็นไปไม่ได้!”

“มันเป็นไปไม่ได้!”

เห็นฉากนี้  ผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหลิน  ต่างก็บ้าคลั่ง  ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

ผู้อาวุโสชุดดำชุดขาว  เป็นผู้อาวุโสอันดับที่เจ็ดและแปดของตระกูลหลิน  เมื่อพวกเขาร่วมมือกัน  พลังของพวกเขาสามารถติดสามอันดับแรกในตระกูลหลิน  แต่ถึงอย่างนั้น  พวกเขาก็ยังรับมือกับกระบวนท่าของหลางเปิ่นไม่ได้!

ผู้ฝึกยุทธ์หนุ่มผู้นี้  ทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?

“ดีดีดี! หลางเปิ่น  สมแล้วที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์หนุ่มที่แข็งแกร่งจากสถาบันเสวียนชิง!”

หลินจ้านมีสีหน้าเคร่งขรึม  พูดคำว่า "ดี"  สามครั้ง  จากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้า  พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ  “ต่อไป  ข้า  หลินจ้าน  จะมาประลองกับเจ้า!”

“ดี!”

เห็นหลินจ้านออกมา  ดวงตาของหลางเปิ่นก็เต็มไปด้วยความดุร้าย  หัวเราะเสียงดัง  “หลินจ้าน  เจ้ากล้ากว่าที่ข้าคิด  และโง่กว่าที่ข้าคิด!  ดีมาก  ต่อไป  ข้าแค่สังหารเจ้า  ตระกูลหลินก็จะจบสิ้น  ไปตายซะ  หลินจ้าน!”

สิ้นเสียง  เขาก็ต่อยออกไปอย่างแรง!

หมัดนี้  ราวกับภูเขาถล่ม  แม้แต่อากาศก็ยังแข็งตัว  เผชิญหน้ากับหมัดนี้  แม้แต่หลินจ้าน  ก็ยังป้องกันได้อย่างยากลำบาก  เขาคราง  จากนั้นก็ถอยหลังไปเจ็ดแปดก้าว!

“หลินจ้าน  พลังของเจ้า  ก็แค่เท่านี้”

หลางเปิ่นหัวเราะเสียงดัง  “เจ้าเป็นถึงผู้นำตระกูลหลิน  กลับไร้ความสามารถ!  ข้าพูดถูกจริงๆ  พวกตระกูลหลิน  ล้วนเป็นขยะ!  ต่อไป  เจ้าก็ไปตายซะ!”

พูดจบ  เขาก็ต่อยออกไปอีกครั้ง  มุ่งตรงไปที่หัวของหลินจ้าน  ราวกับจะทุบหัวของหลินจ้านให้แหลก!

“งั้นเหรอ?”

ในเวลานี้  เสียงเย็นชาหนึ่งก็ดังขึ้น  จากนั้น  ปราณกระบี่ก็พุ่งผ่าน  ทำลายหมัดของหลางเปิ่นในพริบตา

จากนั้น  เด็กหนุ่มรูปหล่อ  ขี่ม้าโลหิตสีแดงเพลิง  ก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน!

-----------

บทที่ 52  ทุกคนตกตะลึง!

“อวี่เอ๋อร์?”

“นายน้อย?”

เห็นหลินอวี่ปรากฏตัว  ไม่ว่าจะเป็นหลินจ้าน  ผู้อาวุโสตระกูลหลิน  หรือผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลหลิน  ต่างก็ตกตะลึง

หลินอวี่ที่ออกจากเมืองหลิงสือ  และเข้าเรียนในหุบเขาเสวียนเจี้ยนเมื่อครึ่งปีก่อน  ทำไมถึงปรากฏตัวที่นี่ในเวลานี้?

“แย่แล้ว!”

หลังจากตกตะลึง  หลินจ้านก็ได้สติกลับมา  สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป  ตะโกน  “อวี่เอ๋อร์  หนีไปเร็ว!  หนีไปให้ไกลที่สุด!  เร็ว  รีบหนีไป!”

“ถูกต้อง!  นายน้อย  รีบหนีไป!”

ถูกหลินจ้านตะโกนแบบนี้  คนอื่นๆ ของตระกูลหลินก็ได้สติกลับมา  ทันใดนั้น  สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป  ตะโกนเสียงดัง

ดูจากสถานการณ์ตอนนี้  ภายใต้การกดขี่ของคนเมืองชิงหลาง  ตระกูลหลินคงจะไม่รอดแล้ว  ในเวลานี้  หลินอวี่  คือความหวังเดียวของตระกูลหลิน!

หลินอวี่สามารถเข้าหุบเขาเสวียนเจี้ยน  กองกำลังที่แข็งแกร่งเป็นอันดับสองในห้ากองกำลัง  พรสวรรค์ของเขาย่อมดีที่สุดในตระกูลหลิน  ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่  แม้ว่าตระกูลหลินจะถูกทำลาย  เมื่อเขาเติบโตขึ้น  เขาก็ยังสามารถสร้าง  และฟื้นฟูตระกูลหลินได้  แต่ตอนนี้  หลินอวี่กลับปรากฏตัวที่นี่!

ถ้าแม้แต่หลินอวี่ก็ยังตาย  ตระกูลหลิน  ก็จะจบสิ้นจริงๆ!

“ฮ่าๆๆๆ!  อยากหนี?  สายไปแล้ว!”

ในทางกลับกัน  หลางเปิ่นกลับหัวเราะเสียงดัง  “ตามหามานาน  ในที่สุดก็เจอ!  หลินอวี่  เจ้าออกมาหาที่ตายเอง  ดี  ดีมาก!”

ก่อนที่เมืองชิงหลางจะโจมตีเมืองหลิงสือ  พวกเขาย่อมสืบเรื่องของตระกูลหลินอย่างละเอียด  และรู้ว่าตระกูลหลินมีคนชื่อหลินอวี่  ที่อยู่หุบเขาเสวียนเจี้ยน

เดิมที  ถ้าหลินอวี่ไม่ปรากฏตัว  หลังจากทำลายตระกูลหลินแล้ว  พวกเขาก็ต้องหาวิธีกำจัดหลินอวี่  แต่ตอนนี้  ไม่ต้องเสียแรงแล้ว  ย่อมสามารถกำจัดตระกูลหลินได้โดยตรง!

“พวกขยะตระกูลหลิน  ในเมื่อพวกเจ้ามารวมตัวกันแล้ว  ข้าก็จะเป็นคนดี  ส่งพวกเจ้าไปรวมตัวกันในนรก!  ไปตายซะ  หมัดหมาป่า!”

หลางเปิ่นหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง  จากนั้นก็ต่อยออกไปอย่างแรง!

หมัดนี้  ราวกับมีหมาป่ายักษ์คำรามออกมา  ดุร้ายมาก  หัวหมาป่าขนาดใหญ่  มีขนาดใหญ่ถึงสามจั้ง  พุ่งเข้าใส่หลินอวี่!

“แย่แล้ว!”

หลินจ้านและคนอื่นๆ มีสีหน้าเปลี่ยนไป  รู้สึกสิ้นหวัง  แต่ในเวลานี้  เสียงแผ่วเบาหนึ่ง  ก็ดังขึ้น

“อ่อนแอ  อ่อนแอเกินไป”

เห็นหลินอวี่มีสีหน้าสงบนิ่ง  พูดเบาๆ สี่คำ  จากนั้น  ก็มีกระบี่ไม้ปรากฏขึ้นในมือของเขา  ข้อมือสะบัด  ปราณกระบี่  ก็พุ่งทะยานออกไป

ฟิ้ว!

ในพริบตา  หัวของหมาป่ายักษ์  ก็ถูกผ่าออกเป็นสองส่วน  หลังจากนั้น  ปราณกระบี่นี้ก็ยังไม่หยุด  ผ่าร่างของหลางเปิ่นออกเป็นสองส่วน!

ตุบ!

เส้นเลือดเล็กๆ  ปรากฏขึ้นบนหัวของหลางเปิ่น  จากนั้นก็แผ่ลงมาอย่างรวดเร็ว  ในพริบตา  ร่างกายของหลางเปิ่นก็แยกออกเป็นสองส่วน  ล้มลงกับพื้น!

กระบี่เดียว!

แค่กระบี่เดียว  หลางเปิ่น  คนที่หยิ่งยโสและโอหังก่อนหน้านี้  ก็ถูกหลินอวี่ผ่าออกเป็นสองส่วน!

“รับกระบี่เดียวของข้าไม่ได้  ยังกล้าพูดว่าคนของตระกูลหลินเป็นขยะ  ข้าว่า  เจ้าต่างหากที่เป็นขยะตัวจริง”

หลังจากสังหารหลางเปิ่นด้วยกระบี่เดียว  หลินอวี่ก็มีสีหน้าสงบนิ่ง  ราวกับทำเรื่องเล็กน้อย  พูดอย่างแผ่วเบา

“นี่…”

ในเวลานี้  รวมถึงหลินจ้าน  ทุกคนในตระกูลหลิน  ต่างก็ตกตะลึง

ผู้อาวุโสชุดแดง  ถูกหลางเปิ่นสังหารด้วยกระบวนท่าเดียว  ผู้อาวุโสชุดดำชุดขาวร่วมมือกัน  ก็ยังถูกหลางเปิ่นสังหารด้วยหมัดเดียว  แม้แต่หลินจ้าน  ผู้นำตระกูล  ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลางเปิ่น  คู่ต่อสู้ที่น่ากลัวจนทำให้ทุกคนในตระกูลหลินสิ้นหวัง  กลับรับมือกับกระบี่ที่หลินอวี่สะบัดออกไปไม่ได้  ถูกผ่าออกเป็นสองส่วน?

เกิดอะไรขึ้น?  พวกเขาตาฝาด  หรือว่าเห็นภาพหลอน?

แต่รอยเลือดตรงหน้า  บอกพวกเขาอย่างชัดเจนว่า  ทั้งหมดนี้  ไม่ใช่ภาพหลอน!

“อ๊าก!  เปิ่นเอ๋อร์!”

ในเวลานี้  เสียงคำรามที่น่ากลัวก็ดังขึ้น  หลางเถิง  ผู้นำเมืองชิงหลาง  คำราม  จากนั้นก็พุ่งไปข้างหน้า  คว้าศพของหลางเปิ่น

“ไม่!”

ในเวลานี้  หัวใจของหลางเถิง  ราวกับกำลังเลือดไหล!

หลางเปิ่นผู้นี้  คือบุตรชายที่เขาภาคภูมิใจที่สุด  อายุยังไม่ถึงสามสิบปี  ก็กลายเป็นศิษย์สายในของสถาบันเสวียนชิง  เขามาถึงขอบเขตเจินหยวนขั้นสูงสุด  ในอนาคต  หลางเปิ่นจะเหนือกว่าเขา  พาเมืองชิงหลางไปสู่จุดสูงสุด  มันเป็นเรื่องที่ใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว

แต่ตอนนี้  ทุกอย่างพังทลาย!

บุตรชายที่เขารัก  และภาคภูมิใจที่สุด  กลับถูกผ่าออกเป็นสองส่วนต่อหน้าต่อตาเขา!

“หลินอวี่!  ข้าจะสังหารเจ้า!  เจ้าต้องตาย!”

เขาคำราม  ปลดปล่อยจิตสังหารที่น่ากลัว  มองหลินอวี่  ความเย็นชาในดวงตา  แทบจะกลายเป็นรูปร่าง!

เขาต่อยออกไปอย่างแรง  หมัดนี้  ปลดปล่อยพลังขอบเขตหลุนไห่ขั้นต้นออกมา  แม้แต่อากาศก็ยังแข็งตัว  ในเวลานี้  เสียงทั้งหมดหายไป  เหลือเพียงเสียงหมัดที่น่ากลัว!

“แย่แล้ว!”

หลินจ้านและคนอื่นๆ ที่เพิ่งจะตื่นเต้น  ก็รู้สึกสิ้นหวังอีกครั้ง  ความหนาวเย็น  แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย  พวกเขารู้สึกหนาวสั่น

คราวนี้  จบสิ้นจริงๆ!

เจินหยวนขั้นสูงสุดกับหลุนไห่ขั้นต้น  ดูเหมือนจะต่างกันแค่ขอบเขตเดียว  แต่ในความเป็นจริง  มันแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน  แม้ว่าหลินอวี่จะสามารถสังหารหลางเปิ่นได้  แต่เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลางเถิง!

คราวนี้  หลินอวี่จบสิ้นแล้วจริงๆ  ตระกูลหลิน  จบสิ้นแล้วจริงๆ!

“ม่านพิรุณ!”

แต่ถึงอย่างนั้น  บนใบหน้าของหลินอวี่  ก็ยังไม่มีความตื่นตระหนกปรากฏขึ้น  เขาโบกมือ  กระบี่ไม้ก็หายไป  กระบี่ทองแดงก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา  จากนั้น  เขาก็สะบัดกระบี่ออกไป!

ตูม!

ปราณกระบี่ที่ละเอียดอ่อน  แผ่ซ่านออกมา  ในพริบตา  ก็กลายเป็นสายฝน  จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่หลางเถิง!

ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนดูสวยงาม  แต่กลับน่ากลัวมาก  ปราณแต่ละสาย  ล้วนมีกลิ่นอายที่รุนแรง  เมื่อรวมกัน  ยิ่งแผ่กลิ่นอายที่แข็งแกร่ง  ราวกับสามารถผ่าสวรรค์และปฐพีได้!

ปัง!

ในพริบตา  การโจมตีทั้งหมดของหลางเถิง  ก็ถูกปราณกระบี่ทำลาย  หลังจากนั้น  ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้าใส่เขา  ราวกับจะแทงเขาให้เป็นรังผึ้ง!

“บังอาจ!”

หลานเถิงมีสีหน้าเปลี่ยนไป  ตบฝ่ามือออกไปสามครั้ง  แต่ถึงอย่างนั้น  เขาก็ยังรู้สึกถึงพลังที่ไม่อาจต้านทานได้  พุ่งเข้าใส่ร่างกายของเขา  ในเวลานี้  ร่างกายของเขา  อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปเจ็ดก้าว!

“อะไร?”

เห็นฉากนี้  หลินจ้านและคนอื่นๆ ของตระกูลหลิน  ต่างก็ตกตะลึงอีกครั้ง!

พวกเขาเห็นอะไร?

เผชิญหน้ากับหลางเถิง  ผู้ที่มีพลังถึงขอบเขตหลุนไห่ขั้นต้น  หลินอวี่กลับสามารถป้องกันการโจมตีของอีกฝ่ายได้  ไม่เพียงเท่านั้น  เขายังทำให้หลางเถิงถอยหลังไปเจ็ดก้าว!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด