บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 320 เซียนกระอักเลือด

บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 320 เซียนกระอักเลือด

การปรากฏตัวของเซียนหงส์ครั้งนี้ ยิ่งใหญ่กว่าครั้งก่อนมากนัก

ครั้งก่อนที่หลี่ซูนำคนไป เซียนหงส์อยู่ในช่วงเวลาสำคัญของห้าวัฏ พลังลดลงอย่างมาก ไม่อยากต่อสู้กับใคร ปลดปล่อยไม้ตายเพียงเพื่อหลบหนี

แต่ครั้งนี้ นางที่แปลงร่างเป็นหงส์เพลิงสีดำ เปลวเพลิงมารกลับลุกโชน

อานุภาพนั้นน่ากลัวยิ่งนัก

หากปล่อยให้นางพุ่งเข้าไปในโลกเซียนสัญจร แม้จะถูกกฎแห่งฟ้าดินกดข่ม นางก็ยังคงสามารถทำลายมากกว่าหนึ่งอาณาเขตได้ในเวลาอันสั้น

มาหลายครั้ง โลกวิญญาณหนึ่งโลกก็ทนไม่ได้

สายตาของผู้บำเพ็ญแซ่เหอเคร่งขรึมอย่างมาก หากมิใช่รู้ว่ามีเซียนสามคนลงสู่โลกเบื้องล่างแล้ว ตอนนี้เขาคงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเซียนเทียมสี่วัฏ แต่เซียนหงส์บรรลุห้าวัฏแล้ว เขาเผชิญหน้ากับเซียนหงส์ ยังห่างไกลจากคำว่าคู่ต่อสู้

“ลงมือพร้อมกัน ต้านทานนางเอาไว้สุดกำลัง!”

ถึงแม้สีหน้าจะเคร่งขรึม แต่ผู้บำเพ็ญแซ่เหอก็ไม่กลัว

ระดับมหายาน เซียนเทียมมากมายต่างก็ลงมือ

หลี่ซูก็ลงมือเช่นกัน เขาไม่ได้ไปตรวจสอบตำแหน่งของเซียนสามคนนั้น

พลังของเซียนสามคนนี้ไม่เลว เซียนวิญญาณสองคนยังพอว่า แต่คนที่แซ่ข่งเป็นถึงเซียนสวรรค์

หลี่ซูยังคงมั่นใจว่าจะสามารถตรวจสอบตำแหน่งของพวกเขาได้ แต่หลี่ซูตรวจสอบตำแหน่งของพวกเขา ในขณะเดียวกัน อีกฝ่ายก็จะรู้ถึงการตรวจสอบของหลี่ซู

ดังนั้น หลี่ซูจึงไม่ตรวจสอบ พวกเขาต้องอยู่ในบริเวณนี้

ตอนนี้ พลังที่เขาแสดงออกมา ก็ยังคงปกติ เป็นเพียงระดับเซียนเทียมหนึ่งวัฏ

จุดประสงค์ที่แท้จริงของเซียนสามคนนี้ยังไม่ปรากฏออกมา หลี่ซูจึงต้องระวังตัว

หลี่ซูระวังตัว ระดับมหายาน เซียนเทียมมากมายต่างก็ร่วมมือกัน จึงสามารถต้านทานการโจมตีของเซียนหงส์เอาไว้ได้อย่างยากลำบาก

เซียนหงส์ใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ

เห็นได้ชัดว่า นางยังไม่พบตำแหน่งของค่ายกลเซียน

ดูท่าทาง นางยังไม่รู้ว่าเซียนได้ลงสู่โลกเบื้องล่างแล้ว

ท้ายที่สุด เวลาที่เซียนสามคนนี้ลงสู่โลกเบื้องล่างนั้นดีมาก ภายในโลกเซียนสัญจรตอนนั้นไม่มีผู้บำเพ็ญสายมาร

ถึงแม้ว่าจะมีผู้บำเพ็ญสายมาร ผู้บำเพ็ญสายมารคนนั้นจะแจ้งข่าวให้กับเซียนหงส์ เวลาก็อาจจะไม่พอ

เห็นเซียนหงส์แข็งแกร่งขนาดนี้ ผู้บำเพ็ญมากมายต่างก็ปลดปล่อยไม้ตาย แต่ก็ยังคงต้านทานได้อย่างยากลำบาก

ผู้บำเพ็ญบางคนที่พลังไม่แข็งแกร่ง ถูกโจมตีจนแทบจะกระอักเลือด

อีกฝั่งหนึ่ง เซียนหงส์ขยับปีก เปลวเพลิงมารที่น่ากลัวก็พุ่งเข้ามา

ถึงแม้ว่าการโจมตีของนางจะเป็นแบบรอบด้าน แต่หลี่ซูก็ยังคงสัมผัสได้ถึงสายตาที่เย็นชาของนาง

เป้าหมายของนาง… คือหลี่ซู!

หลี่ซูได้กลับใจร่างแยกของนางสองร่าง จากสถานการณ์ในตอนนี้ ร่างแยกสองร่างนี้นางใช้ในการซ่อนสายเลือดหงส์แท้ อาจจะยังมีประโยชน์อื่น ๆ

เรื่องนี้ ทำให้เซียนหงส์มีเจตนาฆ่าหลี่ซูอย่างมาก

พร้อมกับการที่นางใกล้เข้ามา เสียงร้องของหงส์ก็ดังกึกก้องไปทั่วฟ้าดิน แม้แต่ภายในโลกเซียนสัญจร ผู้บำเพ็ญนับไม่ถ้วนก็ยังคงได้ยินเสียงร้องของหงส์

พร้อมกับเสียงร้องของหงส์ เปลวเพลิงสีดำของหงส์ก็พุ่งเข้ามา

นางเพียงแค่ใช้การโจมตีครั้งนี้ ก็ทำให้ระดับมหายาน เซียนเทียมมากมายไม่สามารถต้านทานได้

พลังที่แข็งแกร่งของเซียนเทียมห้าวัฏ สามารถบดขยี้ทุกอย่างที่นี่ได้

หากไม่มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น

หากไม่มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น ก็จะมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น

เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

พร้อมกับการที่นางใกล้เข้ามา ทันใดนั้น บริเวณโดยรอบก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

บริเวณโดยรอบเส้นทางสู่โลกวิญญาณในรัศมีล้านลี้ ทันใดนั้นก็กลายเป็นสีขาวโพลน

“ค่ายกลเซียน!”

หลี่ซูพูดเบา ๆ

เซียนสามคนนั้น ลงมือแล้ว!

ค่ายกลเซียนปรากฏขึ้น ก็ได้นำบริเวณนี้เข้าไปทั้งหมด

หลี่ซูกับระดับมหายาน เซียนเทียมมากมาย รวมถึงเซียนหงส์ ต่างก็ถูกขังอยู่ข้างใน

“เกิดอะไรขึ้น”

“ทุกคนไม่ต้องกังวล น่าจะเป็นเซียนสามคนนั้นลงมือแล้ว”

“ใช่ พวกเรารอดูสถานการณ์ก็พอแล้ว”

เซียนเทียม ระดับมหายานมากมายต่างก็ไม่ตื่นตระหนก

ต่างก็เดาได้ว่า น่าจะเป็นเซียนสามคนนั้นลงมือแล้ว

“ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้จะมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น เซียนสามคนลงสู่โลกเบื้องล่าง ดูท่าทางพวกเขาน่าจะมุ่งเป้าไปที่เซียนหงส์ ตราบใดที่จัดการนางได้ ผู้บำเพ็ญสายมารคนอื่น ๆ ก็ไม่นับว่าเป็นภัยคุกคามแล้ว”

ระดับมหายานคนหนึ่งเผยรอยยิ้ม

หากไม่มีผู้บำเพ็ญสายมารเหล่านี้ การที่พวกเขาจะขึ้นสวรรค์ จะยากลำบากขนาดนี้หรือ

“ใช่แล้ว เซียนหงส์นำภัยคุกคามมากมายมาให้พวกเรา”

“…”

ระดับมหายาน เซียนเทียมคนอื่น ๆ ต่างก็พูดขึ้น

“เอ๊ะ ผู้อาวุโสหลี่เล่า”

เวลานี้ มีคนพบว่าหลี่ซูหายไป

.

หลี่ซูหายไปจริง ๆ

ค่ายกลเซียนนี้ลึกลับมาก แต่สำหรับหลี่ซูในตอนนี้ ถึงแม้จะไม่ได้รับสิทธิ์ในการควบคุม ก็ยังคงสามารถมองทะลุ เดินทางไปมาได้อย่างอิสระ

ในสถานที่ที่ระดับมหายาน เซียนเทียมไม่สามารถสังเกตเห็น เซียนหงส์ถูกขังอยู่ที่นั่น

รอบ ๆ ตัวนาง เซียนสามคนปรากฏตัวขึ้นทีละคน

เปลวเพลิงมารสีดำบนร่างกายของเซียนหงส์ ไม่เพียงแต่ไม่ได้ลุกโชนมากขึ้น กลับลดลงไม่น้อย

พลังของนาง ถูกกลิ่นอายของเซียนสามคนกดข่มเอาไว้

ภายในโลกวิญญาณ เซียนสามคนนี้ไม่ได้กดข่มพลังของตนเอง คนหนึ่งดูน่ากลัวยิ่งกว่าคนหนึ่ง

ถึงแม้ว่าหลี่ซูจะเคยพบเซียนในระดับเซียนชั้นสูงในโลกเซียน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเซียนวิญญาณ เซียนสวรรค์จะอ่อนแอ

เซียนหงส์ในตอนนี้ ในความรู้สึกของหลี่ซู พลังเทียบเท่ากับเซียนวิญญาณเท่านั้น

แล้วยังถูกขังอยู่ในค่ายกลนี้ ดูเหมือนนางจะไม่รอดแล้ว

แต่ว่า หลี่ซูรู้สึกว่า… เรื่องราวไม่ได้ง่ายขนาดนั้น!

“เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเข้าสู่วิถีมารแล้ว!”

“เข้าสู่วิถีมารก็ไม่เป็นไร ภารกิจของพวกเรา เพียงแค่พานางกลับไปเท่านั้น”

เซียนวิญญาณสองคนพูดขึ้นทีละคน

“ลงมือ!”

คนที่แซ่ข่งจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทองคำอินทนิลที่เคยพิทักษ์มรรคให้ กลับไม่พูดพร่ำทำเพลง

พอพูดจบ เขาก็ลงมือทันที

เห็นเพียงบนท้องฟ้า แสงดาวนับไม่ถ้วนตกลงมา

นั่นมิใช่แสงดาว แต่อาวุธเซียนของเขา!

ในขณะเดียวกัน เซียนวิญญาณอีกสองคนก็ลงมือ

เซียนสามคนลงมือ ก็ใช้พลังทั้งหมด

ถึงแม้ตอนนี้พวกเขาจะมั่นใจว่าจะชนะ ควบคุมสถานการณ์ได้ เผชิญหน้ากับเซียนเทียมเพียงคนเดียว แต่ละคนก็ไม่ได้ประมาท ใช้พลังทั้งหมด

สามารถบรรลุเป็นเซียนได้ จะโง่เขลาได้อย่างไร

เห็นเพียงเปลวเพลิงมารที่ลุกโชนบนร่างกายของเซียนหงส์ ลุกโชนมากขึ้นอีกครั้ง

เปลวเพลิงมารเหล่านั้นกลายเป็นหงส์เพลิงสีดำที่น่ากลัวแต่ละตัว หงส์แต่ละตัวดูเหมือนจะสามารถเผาผลาญท้องฟ้าได้

เห็นได้ชัดว่า นางก็ใช้พลังทั้งหมด

แต่ว่า เผชิญหน้ากับเซียนสามคน ยังมีเซียนที่เป็นถึงระดับเซียนสวรรค์ แม้ว่านางจะใช้พลังทั้งหมด ก็ไม่ไหวแล้ว

นางพยายามจะหนีออกจากที่นี่ ก็หนีไม่ได้

“ค่ายกลนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ ยอมแพ้เถอะ เจ้าหนีไม่พ้น!”

คนที่แซ่ข่งกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

บนท้องฟ้า เชือกสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น นั่นคือเชือกมัดเซียน

เป้าหมายของพวกเขา คือจับเซียนหงส์เป็น ๆ

เซียนหงส์สู้ไม่ได้ หนีก็หนีไม่พ้น

ดูเหมือนว่าจะไม่ไหวแล้ว

เวลานี้ ทันใดนั้น

บนร่างกายของนาง เงาที่น่ากลัวที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ก็ปรากฏขึ้นอย่างช้า ๆ

พร้อมกับการปรากฏตัวของเงา การโจมตีที่อยู่ใกล้เซียนหงส์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด ก็แตกสลายในทันที

“เงาเซียนมาร เบื้องหลังเจ้ามีเซียนมารอยู่จริง ๆ!”

คนที่แซ่ข่งดูเหมือนจะไม่แปลกใจ รีบหยิบสิ่งของหนึ่งออกมา

พร้อมกับการเคลื่อนไหวของเขา จิตสำนึกที่น่ากลัวก็กลายเป็นเงาร่างมนุษย์ในทันที เงาร่างมนุษย์นี้ถึงแม้จะเป็นจิตสำนึกที่แปลงร่างมา แต่ในชั่วขณะที่ปรากฏตัวขึ้น ก็ทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน

“จิตสำนึกราชันเซียน!”

หลี่ซูคิด

จิตตระหนักรู้ของเขาเคยพบราชันเซียนสองคน นี่เป็นจิตสำนึกราชันเซียนอย่างแน่นอน!

ราชันเซียนผู้นี้ น่าจะเป็นราชันเซียนเบื้องหลังดาวเลิศคิมหันต์

หลังจากจิตสำนึกราชันเซียนปรากฏตัวขึ้น ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ยื่นนิ้วออกไป ชี้ไปที่เงา ตวัดนิ้วหนึ่งครั้ง

ราชันเซียนตวัดนิ้ว!

ถึงแม้จะเป็นเพียงจิตสำนึกราชันเซียน การตวัดนิ้วหนึ่งครั้งนี้ เซียนสวรรค์หนึ่งคนก็อาจจะทนไม่ได้

การตวัดนิ้วหนึ่งครั้งนี้ หากตกลงมาในโลกวิญญาณ โลกวิญญาณหนึ่งโลกก็จะกลายเป็นเถ้าธุลีในทันที

ในขณะที่ตวัดนิ้ว ดวงตาของเงาบนบัลลังก์ก็เบิกกว้าง

ดวงตานั้น เป็นดวงตาหงส์ที่สมบูรณ์แบบ ภายในเต็มไปด้วยแสงสีเลือดที่ลุกโชน

พร้อมกับการเบิกกว้างของดวงตา เห็นเพียงเงาของราชันเซียนสั่นสะเทือน จากนั้นก็แตกสลายในทันที

“อั่ก!”

ต่อมา คนที่แซ่ข่งก็กระอักเลือดออกมา

เซียนอีกสองคนยิ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่เพียงแต่กระอักเลือด ดวงตาของแต่ละคนยังกลายเป็นสีขาวซีดในทันที

ค่ายกลเซียนโดยรอบ ก็แตกสลายในทันที

“นี่เป็นเซียนมารระดับใด!”

คนที่แซ่ข่งตกใจอย่างมาก เขาไม่คิดเลยว่า เบื้องหลังเซียนหงส์จะมีเซียนมารระดับนี้

ตวัดนิ้วหนึ่งครั้ง ไม่เพียงแต่ทำลายจิตสำนึกราชันเซียน แล้วยังทำให้เขากับเซียนวิญญาณอีกสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส พลังลดลงอย่างมาก

โชคดีที่เงาหลังจากโจมตีครั้งนี้ ก็สลายหายไป

ไม่ว่าจะเป็นจิตสำนึกราชันเซียน หรือเงา การโจมตีระดับนี้ ต้องมีข้อจำกัด

แต่ว่า…

พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว!

อีกฝั่งหนึ่ง เซียนหงส์ส่งเสียงร้องออกมาอีกครั้ง พุ่งเข้าหาพวกเขา