ตอนที่แล้ว บทที่ 57 ปืนดัดแปลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 59 ภารกิจมือสังหารครั้งแรก

บทที่ 58 เผิงอี้สิง


บทที่ 58 เผิงอี้สิง

“คุณผู้หญิง สวัสดีครับ! ต้องการคนช่วยซ้อมยิงไหมครับ?” โค้ชยิงปืนหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเดินเข้ามาทักทายไป่อันหนีด้วยท่าทางสุภาพ

หลี่เอ้อร์: "ไสหัวไปซะ!"

ไป่อันหนีโบกมืออย่างร่าเริง "ไม่ต้องค่ะ!"

“อาจารย์ งั้นสอนฉันสิ!” ไป่อันหนีหยิบปืนสำหรับผู้หญิงที่เหมาะกับขนาดมือของเธอขึ้นมาแล้วมองหลี่เอ้อร์ด้วยรอยยิ้ม

“พูดมากน่า แน่นอนฉันจะสอนเธอ!” หลี่เอ้อร์พูดด้วยความไม่พอใจ “ไม่งั้นจะให้คนอื่นมาฉวยโอกาสหรือไง!”

โค้ชยิงปืนมองหลี่เอ้อร์อย่างเคือง ๆ ก่อนจะเดินออกไป

“อย่าเพิ่งรีบใส่กระสุนยิงนะ ลองทำความคุ้นเคยกับปืนก่อน ปืนของฉันไกค่อนข้างหนัก ลองทดสอบปืนของเธอดูก่อน” หลี่เอ้อร์พูดขณะที่กำลังดูปืนดัดแปลงในมืออย่างพอใจ

หลี่เอ้อร์รู้สึกพอใจกับปืนดัดแปลงในมือมาก มันจับถนัดมือ ไกปืนหนักแต่มั่นคง ที่สำคัญที่สุดคือแม้จะเป็นปืนขนาดใหญ่ แต่แรงถีบกลับน้อยกว่าที่คาดไว้ หลี่เอ้อร์ควบคุมปืนได้ง่ายโดยไม่ต้องออกแรงมาก

และนี่เป็นเพียงปืนดัดแปลงมาตรฐานของสโมสรยิงปืน หากได้ปรับแต่งพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดัดแปลงปืน มันจะทรงพลังขนาดไหนกัน?

หลี่เอ้อร์เคยใช้ปืนน้อยมาก ปืนแรกที่เขาเคยใช้คือปืนลูกโม่สามแปดของตำรวจ ซึ่งแม้จะฝึกนานจนชิน แต่ข้อเสียของมันยังชัดเจนอยู่มาก ส่วนปืนที่สองที่เขาได้ใช้ในการฝึกกับหน่วยฟาย่าฮู้คือปืน Glock 17 ซึ่งเหนือกว่าสามแปดในทุกด้าน แต่ยังคงมีขนาดเล็กเกินไป แม้จะพกพาสะดวก แต่การเล็งปืนกลับทำได้ไม่สะดวกเท่าไรนัก

ส่วนปืนกระบอกที่สามก็คือปืนดัดแปลงในมือเขาตอนนี้ ซึ่งให้ความรู้สึกที่น่าทึ่งมาก หลี่เอ้อร์รู้สึกสบายเกินไปจนไม่คุ้นชิน

“อาจารย์ ตรงนั้นก็มีคนซ้อมยิงด้วย!” ไป่อันหนีชี้ไปที่ช่องยิงปืนอีกช่องหนึ่ง

หลี่เอ้อร์มองไปแวบหนึ่ง

“ไม่ต้องไปสนใจคนอื่น” เขาพูดแล้วสวมที่ปิดหู เดินกลับไปที่ช่องยิงปืนอีกครั้ง หลังจากปรับลมหายใจและเตรียมตัว เขายกปืนขึ้นเล็ง

ปืนที่ดีก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยิงได้จริง ๆ หลี่เอ้อร์จับปืนดัดแปลงสองมือและเล็งไปที่เป้าหมายอย่างรวดเร็ว ปรับเล็กน้อย ตรวจสอบ และเหนี่ยวไก

“ปัง!”

เข้าเก้าวง!

“อาจารย์ คุณสุดยอดมาก!” ไป่อันหนีปรบมือด้วยความดีใจ

หลี่เอ้อร์ยังคงเล็งเป้า

ปรับเล็กน้อย ตรวจสอบ ยืนยัน

“ปัง!”

อีกเก้าวง

หลังจากวางปืนลง หลี่เอ้อร์ก็หลับตาและหายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้ง ก่อนจะยกปืนขึ้นอีกครั้ง เล็งไปที่เป้าหมาย

เล็ง ปรับ ตรวจสอบ ยืนยัน

ยิง!

“ปัง!”

กระสุนหมุนออกจากลำกล้อง สร้างเส้นโค้งที่สวยงาม

สิบวง!

“เยส! อาจารย์ คุณเก่งมาก สอนฉันสิ!” ไป่อันหนีกำหมัดด้วยความตื่นเต้น พร้อมหัวเราะด้วยความดีใจ อาจารย์ของเธอไม่ทำให้ผิดหวัง การยิงครั้งแรกอาจพลาดไป แต่ความสามารถของเขายังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม

“อาอี้ นายดูสิ เจ้านั่นยิงปืนเก่งมากเลย!” กัวลี่อี  หันไปมองหลี่เอ้อร์ที่กำลังยิงปืนและหัวเราะ

ชายที่ยืนข้าง ๆ เธอซึ่งก็คือเผิงอี้สิง   เงยหน้าขึ้นและมองหลี่เอ้อร์อย่างละเอียด

“ปัง!”

หลี่เอ้อร์ยิงอีกนัด และยังคงเข้าวงสิบเหมือนเดิม

“ว้าว! อาอี้ ดูเหมือนฉันจะประเมินเขาผิดไปนะ เขาเป็นนักแม่นปืนที่เก่งจริง ๆ!” กัวลี่อีแลบลิ้นด้วยความประหลาดใจและหัวเราะอย่างเขินอาย

เผิงอี้สิงเห็นคะแนนของหลี่เอ้อร์และเริ่มสนใจมากขึ้น เขาจับตามองหลี่เอ้อร์อย่างละเอียดอีกครั้ง

หลี่เอ้อร์ยังคงเล็ง ปรับ ตรวจสอบ ยืนยัน

“ปัง!”

กระสุนนัดนี้ก็เข้าวงสิบอีกเช่นกัน

เผิงอี้สิงหัวเราะ “เขาไม่ใช่ยอดฝีมือหรอก แต่เขาเป็นอัจฉริยะ!” เขาพูดด้วยสีหน้าแปลก ๆ

“หา??” กัวลี่อีส่ายหัวไม่เข้าใจ ทำไมคนคนหนึ่งถึงไม่ใช่ยอดฝีมือ แต่กลับเป็นอัจฉริยะได้?

เผิงอี้สิงหัวเราะ “ดูที่ขาของเขาสิ!” เขาชี้ไปที่ขาของหลี่เอ้อร์ “กล้ามเนื้อขาของเขาตึงแน่น ไม่งั้นเขาจะยืนตัวตรงแบบนั้นไม่ได้แน่ ๆ หมอนี่ต้องฝึกยิงเองแบบไม่มีคนสอน”

กัวลี่อีมองตามที่เผิงอี้สิงชี้ แล้วพบว่าหลี่เอ้อร์ดูตึงเครียดอย่างที่เผิงอี้สิงพูดจริง ๆ

เผิงอี้สิงยิ้ม “เขารวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่มือของเขา ดูสิ! ดูสิ! ตอนที่เขาลั่นไก เขาหลับตาด้วยล่ะ”

“ปัง!” หลี่เอ้อร์ยิงอีกนัด

กัวลี่อีหัวเราะออกมา “ฮ่าๆ! เขาหลับตาตอนยิงจริง ๆ ด้วย ใครจะเป็นแบบนี้ได้อีก!”

เผิงอี้สิงไม่ได้แปลกใจที่หลี่เอ้อร์หลับตาตอนยิง เพราะจริง ๆ แล้วนักยิงปืนมือใหม่หลายคนจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้โดยไม่รู้ตัวในช่วงเวลาที่ลั่นไก เพียงแต่มันแปลกที่แม้ว่าหลี่เอ้อร์จะทำผิดพลาดระดับต้นแบบนี้ แต่เขากลับยิงโดนเป้าอย่างแม่นยำได้ทุกครั้ง

“ไป เราไปทักเขาดีกว่า หมอนี่น่าสนใจจริง ๆ!” เผิงอี้สิงพูดพลางหัวเราะ

กัวลี่อีจ้องเผิงอี้สิงด้วยความตกใจ เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยเห็นเผิงอี้สิงสนใจอะไรที่ไม่ใช่ปืนมาก่อน

“สวัสดีครับ ผมชื่อเผิงอี้สิง ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” เผิงอี้สิงเดินมาหาหลี่เอ้อร์ และยื่นมือให้ทักทายด้วยความเขินอาย

เผิงอี้สิงเป็นคนขี้อาย เขาแทบไม่มีเพื่อนเลย และไม่รู้วิธีเริ่มการสนทนากับคนแปลกหน้า

หลี่เอ้อร์หันมา

'เผิงอี้สิง?' หลี่เอ้อร์นึกย้อนถึงหนังที่เขาเคยดู แม้เขาจะเคยดูหนังฮ่องกงมามากมายในชีวิตที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ดูทุกเรื่อง

“ราชาปืน?” หลี่เอ้อร์อึ้งไป

“อ๊ะ?” เผิงอี้สิงยิ้มและเกาหัวด้วยความเขิน “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”

หลี่เอ้อร์: “...”

หลี่เอ้อร์เหลือบมองเผิงอี้สิง 'นายช่างหลงตัวเองเสียจริง ฉันต่างหากที่จะเป็นราชาปืน!'

“สวัสดีครับ ผมชื่อหลี่เอ้อร์” หลี่เอ้อร์ยิ้มและจับมือกับเผิงอี้สิง

เผิงอี้สิงรู้สึกได้ถึงความหยาบกร้านของมือหลี่เอ้อร์ จึงก้มลงมองดู

“พี่หลี่ คุณคงฝึกยิงปืนบ่อยนะ!” เผิงอี้สิงชี้ไปที่รอยด้านบนฝ่ามือของหลี่เอ้อร์

“ธรรมดาครับ ธรรมดา แค่ฝึกบ้างเป็นครั้งคราว” หลี่เอ้อร์ตอบอย่างถ่อมตัว

“เป็นไปไม่ได้!” เผิงอี้สิงรีบเถียง “ถ้าคุณไม่ได้ฝึกยิงปืนเป็นประจำ รอยด้านนี้คงไม่ขึ้นแน่ ๆ แถมปืนที่คุณใช้นี่ไม่เหมาะกับมือคุณเลย รอยด้านที่เอียงไปทางซ้ายเกิดจากการกดทับของมัน”

หลี่เอ้อร์เบิกตากว้างมองเผิงอี้สิง ในใจคิดด่า 'ไอ้หมอนี่จะเป็นนักวิเคราะห์ขั้นเทพแบบเกาเยี่ยนป๋ออีกคนหรือเปล่าเนี่ย!'

"จริง ๆ แล้วนายไม่ได้ชอบการยิงปืนใช่ไหม?" เผิงอี้สิงพูดอย่างจริงจัง

เผิงอี้สิงเป็นคนที่ไม่เหมือนใคร เขาเพิ่งจะรู้จักหลี่เอ้อร์แต่ก็บังอาจพูดแทงใจแบบนี้ ซึ่งอาจทำให้คนอื่นไม่พอใจได้ โชคดีที่ไม่ค่อยมีคนที่ทำให้เผิงอี้สิงสนใจมากนัก ปกติเขาไม่ค่อยพูดกับใครหากไม่จำเป็น

"เป็นไปไม่ได้!" หลี่เอ้อร์รีบเถียงกลับทันที

"ไม่หรอก ถ้านายชอบการยิงปืนจริง ๆ นายคงไม่กลัวแสงและเสียงจากกระสุนหรอก ตอนกระสุนลั่น นายมักจะหลับตานิดหนึ่ง" เผิงอี้สิงยืนยัน

หลี่เอ้อร์อึ้ง เขาไม่แน่ใจว่าเผิงอี้สิงพูดจริงหรือไม่ เขารู้สึกว่าตัวเองไม่น่าจะหลับตา แต่เผิงอี้สิงพูดอย่างจริงจัง

และเผิงอี้สิงก็ไม่ใช่คนที่จะโกหก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด