บทที่ 42 หนีออกจากถ้ำสวรรค์
บทที่ 42 หนีออกจากถ้ำสวรรค์
"แค่...ต้องการแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น"
มหาอสุรกายทลายประตูจ้องตรงไปที่อู๋เซี่ยนอย่างไม่ละสายตา ก้าวเดินอย่างช้าๆ เข้ามาใกล้
อู๋เซี่ยนโยนหอกหยาหยาวทิ้ง แม้ว่ามหาอสุรกายทลายประตูจะอ่อนแอมากแล้ว เขาก็ยังไม่อยากเข้าประชิดตัวกับสิ่งนี้ เพราะถ้าพลาดเพียงครั้งเดียว เขาเองจะกลายเป็นอู๋เซี่ยนเจียง (เปรียบเหมือนคำว่า’เละเป็นโจ๊ก’ ) ทันที
เขางอปลายนิ้วมือขึ้น เปลวไฟร้อนแรงสายหนึ่งลอยขึ้นมาตรงหน้ามือของเขา พอมหาอสุรกายใหญ่ยกฝ่ามือขึ้น อู๋เซี่ยนก็สะบัดนิ้วปล่อยไฟออกไป
บึ้ม!
ลูกไฟสีแดงร้อนแรงกระแทกเข้าหน้ามหาอสุรกายทันที ในพริบตาเดียวใบหน้าที่เคยวิปริตอยู่แล้วก็ถูกเผาจนดูสยองขวัญยิ่งกว่าเดิม
มหาอสุรกายทลายประตูเผชิญกับเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ
มันเงยหน้าคำรามลั่นกลางฟ้า รวบรวมพลังชั่วร้าย แล้วกลับมาโจมตีอู๋เซี่ยนและพวกอย่างดุดัน พลังชีวิตของมันช่างน่ากลัวจนไม่อาจเชื่อได้
นี่คือการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของมหาอสุรกาย
แต่เพียงการดิ้นรนเช่นนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ธรรมดาจะต้านทานได้
พลั่ก!
ถุงน้ำบางอย่างถูกขว้างใส่ใบหน้าของมหาอสุรกาย น้ำในถุงแทรกซึมไปทั่วร่างของมัน แต่ไม่สามารถดับไฟได้ มหาอสุรกายหยุดนิ่ง ร่างกายของมันปล่อยควันขาวออกมาอย่างเจ็บปวด และเริ่มเการ่างกายของมันอย่างไม่หยุดหย่อน
น้ำในถุงนี้กลับทำความเสียหายมากกว่าการโจมตีด้วยไฟของอู๋เซี่ยนซะอีก!
สือจี๋เอามือจับแขนที่ถูกตัดไป ท่าทางของเขาดูภูมิใจยิ่งนัก
เขามีร่างวิญญาณบริสุทธิ์โดยกำเนิด ปัสสาวะของเด็กที่มีพลังที่บริสุทธิ์ผสมกับเลือดหมาดำจึงมีพลังที่เหนือกว่าเด็กทั่วไป
อู๋เซี่ยนงอนิ้วเป็นครั้งสุดท้าย สีทองของขนนกที่อยู่บนตัวเขาเริ่มจางหายไป เขาใช้พลังทั้งหมดของขนนกสองก้าน หนึ่งก้านเป็นสมบัติล้ำค่า อีกก้านธรรมดาทุกสิ่งถูกบรรจุลงในการโจมตีครั้งสุดท้ายนี้
"ทุกอย่าง...อยู่ในครั้งนี้!"
ฟู่ ฟู่...
กระแสลมที่มองไม่เห็นพัดเข้ามาภายในห้อง เปลวไฟสว่างเจิดจ้าเริ่มรวมตัวอยู่ที่ปลายนิ้วของอู๋เซี่ยน พลังของขนนกเปลี่ยนรูปแบบของคาถาเพลิงให้กลายเป็นนกเพลิงสามขา
นกตัวนี้มีปีกที่ดูร่วงโรย แต่ละข้างของปีกมีขนนกเพียงข้างละหนึ่งก้าน ข้างหนึ่งยาว อีกข้างสั้น มองดูคล้ายกับตัวตลกเล็กน้อย
แต่พลังของนกตัวนี้กลับยิ่งใหญ่เกินกว่าการโจมตีครั้งก่อนใด ๆ แค่ความร้อนที่มันปล่อยออกมาก็ทำให้อู๋เซี่ยนรู้สึกถึงกลิ่นผมที่ไหม้
"ไปซะเถอะ"
นกเพลิงน้อยโบกปีกอย่างน่ารัก พุ่งตรงไปยังมหาอสุรกายทลายประตู
"อ๊าก!"
ฟึ่บ!
แสงเจิดจ้าพุ่งขึ้นมาอย่างฉับพลัน ทุกคนในห้องเหมือนถูกโยนเข้าไปในห้องซาวน่าที่ร้อนที่สุด
หากจะบอกว่าคาถาเพลิงก่อนหน้านี้เป็นแค่ลำธารเล็กๆ คาถาเพลิงครั้งนี้ก็คือสายน้ำเชี่ยวกราก!
ร่างของมหาอสุรกายทลายประตูที่ยังคงดิ้นรนถูกแสงสว่างกลืนหายไปครึ่งท่อนบน ส่วนผนังด้านหลังและเพดานก็ถูกเผาเป็นรูใหญ่ มีพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวลอยเด่นอยู่กลางช่องโหว่
เปลวไฟที่เหลือกลายเป็นขนนกเพลิงที่ลอยกระจายออกไปทั่วทุกทิศ ก่อนค่อยๆ สลายหายไปในอากาศ
ส่วนล่างของมหาอสุรกายทลายประตูที่เหลือแค่เอวและขาสองข้าง ยังคงสั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะล้มลงไปกับพื้น
มหาอสุรกายทลายประตูตายแล้ว!
พลังของการโจมตีครั้งนี้ทำให้สือจี๋และพวกตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ถ้าอู๋เซี่ยนใช้ท่านี้แต่แรก พวกเขาคงไม่ต้องเปิดไพ่ตายทั้งหมดและเกือบตายกันแบบนี้
แต่อู๋เซี่ยนเองก็ไม่ได้คาดคิดว่า พลังของขนนกสองก้านรวมกับคาถาเพลิงจะทำให้เกิดพลังที่มหัศจรรย์เช่นนี้
แต่ถึงแม้อู๋เซี่ยนจะรู้ เขาก็จะไม่เริ่มด้วยท่าใหญ่เช่นนี้ เพราะการโจมตีครั้งนี้ฆ่าได้แค่มหาอสุรกายทลายประตูที่ใกล้ตาย ใครจะไปรู้ว่าตอนที่มันยังแข็งแกร่งเต็มที่ พลังนี้จะเพียงพอหรือไม่
หลังจากความตกตะลึงผ่านไป ทุกคนก็เริ่มยิ้มแย้ม
ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดในถ้ำสวรรค์นี้ได้หายไปแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป พวกเขาก็ปลอดภัยแล้ว
คำว่า "ปลอดภัย" นั้น ช่างเป็นคำที่ฟังดูหรูหราอะไรเช่นนี้
ฉึด ฉึดฉึด...
แกร๊ก!
มีเสียงผิดปกติเกิดขึ้นด้านหลังของพวกเขา
อู๋เซี่ยนหันกลับไปมอง
แล้วก็พบว่ามีประตูไม้ธรรมดาบานหนึ่งปรากฏขึ้น ประตูเปิดออกแล้ว ด้านหลังประตูมีแสงแดดอันอบอุ่นและทุ่งร้างที่ไร้ขอบเขต
ซูฮุ่ยจิ่นและสือจี๋ดีใจจนปิดไม่มิด
นี่คือประตูทางออกจากถ้ำสวรรค์ หากเดินผ่านประตูบานนี้ออกไป ก็จะกลับไปสู่โลกแห่งความจริงที่ปลอดภัยและอบอุ่น
แต่ทว่าในขณะนั้นเอง
มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ครึ่งตัวที่เหลือของมหาอสุรกายใหญ่บิดเบี้ยวทันที ร่างเล็กๆ ตัวหนึ่งคลานออกมาจากในนั้น
ร่างกายนี้ดูประหลาดยิ่งนัก ลำตัวเหมือนเด็กทารก แต่หัวกลับเป็นของผู้ใหญ่ อู๋เซี่ยนนึกถึงภาพถ่ายที่เขาเคยเห็น แล้วตระหนักได้ว่า ใบหน้านี้เป็นของหวังจื้ออู่!
"ไง เจอกันอีกแล้ว!"
อู๋เซี่ยนและพวกของเขาชนะแล้วจริง ๆ
ไม่เช่นนั้นประตูทางออกจากถ้ำสวรรค์คงไม่ปรากฏขึ้น
แต่ร่างที่เหลือของมหาอสุรกายทลายประตูกลับสร้างปีศาจชั่วร้ายตนใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง
ปีศาจตนนี้มีเจตจำนงของหวังจื้ออู่เป็นพื้นฐาน แม้มันจะเป็นเพียงปีศาจชั้นต่ำเท่านั้น แต่หากไม่มียันต์หรืออาวุธพิเศษ การเผชิญหน้ากับปีศาจตนนี้ก็อันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน!
หวังจื้ออู่ยืนขวางอยู่หน้าหอกหยาหยาว
เขาเผยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความชั่วร้าย เขารู้ว่ามนุษย์เหล่านี้ได้ใช้ทุกวิธีการจนหมดสิ้นแล้ว ตราบใดที่เขาไม่ปล่อยให้พวกเขาเข้าใกล้หอกยาวนี้ เขาก็จะกลายเป็นผู้ไร้เทียมทาน
"พวกแกคิดว่าตัวเองชนะแล้วเหรอ?"
"ฉัน..."
บึ้ม!
เสียงดังสนั่นทำให้ทุกคนรวมทั้งอู๋เซี่ยนสะดุ้งขึ้นทันที
หน้าอกของหวังจื้ออู่ปรากฏเป็นรูใหญ่ เขาก้มมองดูด้วยความตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
เหวินเฉาเดินเข้ามาพร้อมถือเครื่องมือแปลกๆ ที่ทำขึ้นเอง เขาเหยียบลงไปบนร่างของหวังจื้ออู่แล้วจ่อเครื่องมือไปที่ศีรษะของเขา
บึ้ม!
เสียงดังพร้อมกับควันขาวปรากฏอีกครั้ง หัวของหวังจื้ออู่ระเบิดเหมือนมะเขือเทศ เลือดและสมองกระจัดกระจายลงพื้น ร่างของเขาบิดเบี้ยวไปไม่กี่ครั้งก่อนจะนิ่งไป
อู๋เซี่ยนอดยิ้มขึ้นมาที่มุมปากไม่ได้
สิ่งที่เหวินเฉาถืออยู่นั้นคือปืนลูกซองสองลำกล้องที่ทำขึ้นจากท่อเหล็ก แผ่นไม้ และอุปกรณ์จุดไฟที่ผูกด้วยเทปกาว!
อู๋เซี่ยนเดาไว้ตั้งแต่แรกว่าเหวินเฉาต้องทำแบบนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะทำสำเร็จจริงๆ
"อืม ใช้งานได้ดีทีเดียว"
สำหรับเหวินเฉา การทำปืนขึ้นมานั้นไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ในสภาพแวดล้อมของถ้ำสวรรค์นี้ที่ขาดแคลนทรัพยากร เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าจะทำสำเร็จได้ในครั้งเดียว โชคดีที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
เพียงแค่ปืนธรรมดาไม่สามารถทำอะไรอสุรกายได้
แต่ในตอนบ่ายเหวินเฉาได้ช่วยสือจี๋ทำระเบิดเวลา สือจี๋จึงตอบแทนด้วยการเสกสิ่งสกปรกใส่กระสุนปืน ทำให้เหวินเฉาสามารถฆ่าหวังจื้ออู่ได้
...
หวังจื้ออู่ตายแล้ว
ไม่มีอะไรในถ้ำสวรรค์นี้ที่ควรค่าแก่การอยู่ต่ออีกแล้ว
เหวินเฉาเป็นคนแรกที่ก้าวผ่านประตูออกไป
เขายังมีหลายอย่างที่ต้องทำ อีกทั้งเขาไม่อยากเห็นร่างไร้วิญญาณของภรรยาต้องทรมานอีกต่อไป
"พี่เซี่ยน!"
สือจี๋จับมืออู๋เซี่ยนไว้แน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ และได้มอบข้อมูลการติดต่อให้กับเขา
"พอเรากลับไปสู่โลกแห่งความจริงแล้ว คุณต้องติดต่อผมนะ ผมจะตอบแทนคุณอย่างดี ทำอาหารมื้อใหญ่ให้ได้เห็นฝีมือของผม"
อู๋เซี่ยนคิดถึงฝีมือทำอาหารของเขาแล้วก็ตัดสินใจว่าจะไม่ติดต่อแน่นอน
สือจี๋หยิบรีโมทขึ้นมากด
บึ้ม!
เสียงระเบิดดังขึ้นในถ้ำสวรรค์อีกครั้ง อู๋เซี่ยนอดยิ้มไม่ได้ "นี่เสียงอะไรอีกละเนี่ย?"
สือจี๋ยิ้ม แต่ไม่พูดอะไร
เขาเพียงแค่ทำสิ่งที่เขาอยากทำมานานเท่านั้น
หลังจากทำสิ่งนี้เสร็จแล้ว สือจี๋ก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก ก่อนจะเดินกะโผลกกะเผลกออกจากถ้ำสวรรค์ไป
อู๋เซี่ยนเก็บของเสร็จ หิ้วกระเป๋าที่เตรียมไว้นานแล้ว เดินไปยังประตูของถ้ำสวรรค์ ก่อนจะหันไปถามซูฮุ่ยจิ่น
"คุณยังไม่ไปหรือ?"
ซูฮุ่ยจิ่นหันข้างให้ เห็นเพียงใบหน้าครึ่งหนึ่งของเธอที่ยิ้มอ่อนโยน
"ไม่ละ ฉันยังอยากอยู่กับพี่สาวอีกสักหน่อย"
"อืม แล้วแต่คุณเถอะ"
อู๋เซี่ยนเดินออกจากประตูอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนจะรีบร้อนเล็กน้อย